~** สิทธิพิเศษในการยกบาปที่สงวน **~

[:+: seraphim :+:]

*no ดูเหมือนว่า จะเคยมีคนสงสัยเรื่องสิทธิ์ในการอภัยบาปที่สงวน พี่ไปถามคุณพ่อ ไพบูลย์ อุดมเดช

C.Ss.R. (พ่อจั่ว) มาอีกแล้ว รายละเอียดมีดังต่อไปนี้ค่ะ.-


คำถามข้อแรกเรื่องสิทธิ์การอภัยบาปที่สงวนไว้นั้นมีดังนี้

1. ต้องเข้าใจว่าพระสันตะปาปาคือผู้มีอำนาจสูงสุดในเรื่องนี้เพราะพระองค์เป็นตัวแทนพระเยซูเจ้า ใน

ระบบการปกครองสัตบุรุษนั้นบางครั้งเกิดปัญหาทางจริยธรรม ( ซึ่งเกิดบ่อยๆ ) และพระสังฆบิดรไม่รู้จะกำ

หราบคนที่ทำผิดหรือทำบาปหนักเหล่านั้นได้อย่างไรก็เลยต้องบอกว่าใครก็ตามทำบาปหนักอย่างนี้อย่าง

นั้น เช่น ทำแท้ง ฆ่าพ่อแม่ ทำร้ายพระสังฆบิดร ฯลฯ เพื่อทำให้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมีร้ายแรงอย่าไปทำอีก ก็

เลยใช้วิธีสงวนบาปไว้ว่าบาปเหล่านี้ขออย่าให้คุณพ่อทั้งหลายโปรด ให้สงวนไว้ให้พระคุณเจ้าโปรดแต่ผู้

เดียว (เพื่อจะได้ยากและก่อให้เกิดการหลาบจำ) การสวงนบาปเช่นนี้เป็นเพียงเทคนิคเพราะในภาค

ปฏิบัติแล้วไม่ค่อยได้ผลนักนอกจากจะทำให้วิญญาณเสียไปเปล่าๆแล้วยังทำให้คนมองไปว่าท่านอัครบิดร

หวงอำนาจแม้กระทั่งกับวิญญาณที่กำลังเสียไป เนื่องจากสัตบุรุษมีมากมายและการเดินทางไปพบพระ

สังฆบิดรนั้นก็ง่ายเสียเมื่อไหร่ แถมถ้าหากมีคนทำบาปเช่นการทำแท้งที่มีมากเหลือเกินนั้นรวมตัวกันไป

หาพระคุณเจ้าในคราวเดียวกัน ท่านก็คงไม่มีเวลาทำงานอย่างอื่นๆแน่ สรุปแล้วยุธวิธีการกำหราบไม่ให้

คนทำบาปแบบนี้ไม่ได้ผลนัก แล้วมันไปเกี่ยวกับอำนาจสูงสุดของพระสันตะปาปาตรงไหน? ตรงที่เมื่อ

พระสังฆบิดรทั้งหลายได้อำนาจนี้มาแล้วหลายคนก็ถือไว้เช่นนั้นเฉยๆ ไม่โปรดและไม่ช่วย.. วิญญาณคน

บาปก็เดือดร้อน ไม่อยากไปหาพระสังฆบิดรด้วยและลำบากไม่สะดวกด้วย ก็มาถึงช่วงของการเทศน์มิส

ชั่น เพื่อนักเทศน์จะได้มีของดีไปฝากวิญญาณทั้งหลายพวกเขาก็ต้องได้รับสิทธิ์ในการโปรดบาปนี้ด้วยจะ

ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจะขอใครล่ะ ก็ต้องไปขอพระสันตะปาปาสิ.. กระบวนการเช่นนี้เองที่ทำให้คณะนักบวช

บางคณะได้รับสิทธิ์พิเศษในเรื่องการโปรดบาปที่สงวนไว้ คณะนักบวชที่เน้นการเทศน์ทั่วไปก็จะได้รับ

สิทธิ์นี้รวมทั้งคณะพระมหาไถ่ด้วย (เพราะพระสันตะปาปาถือว่าเมื่อส่งทหารออกไปทำศึกก็ต้องมีอาวุธและ

สิทธิ์พิเศษจากพระองค์) แต่ก็ต้องเข้าใจอีกเช่นกันว่าไม่ใช่จะใช้กันพร่ำเพรื่อไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะถ้า

หากพระสังฆบิดรท้องถิ่นรู้ว่านักเทศน์นักบวชจะมาใช้สิทธิ์นี้เพื่อถอนอำนาจของท่านและทำในเขตของ

ท่านด้วย ท่านคงห้ามเข้าไปเทศน์ในเขตมิสซังนั้นๆแน่ ประการต่อมาไม่ใช่คุณพ่อของคณะทุกคนจะมี

สิทธิ์โดยอัติโนมัติ เพราะเจ้าคณะจะต้องมีส่วนอนุญาติให้ใช้สิทธิ์นี้ด้วย สรุปแล้วคณะพระมหาไถ่มี

สิทธิ์แน่ แต่สิทธิ์นั้นจะใช้อย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ทางที่ดีเพื่อความชัวส์ให้เขาไปสารภาพกับเจ้าคณะดีที่สุดเพราะ

ท่านมีสิทธิ์โดยตำแหน่งแน่นอน


2. หลังวาติกันที่ 2

เมื่อพระศาสนจักรพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน และจุดเปลี่ยนคือวาติกันที่ 2 และกฏหมายใหม่ของพระ

ศาสนจักรได้ให้สิทธิ์พิเศษต่างๆกับพระสังฆบิดรท้องถิ่นมากขึ้น ก่อนนี้เมื่อมีปัญหาก็วิ่งแจ้นไปโรม แต่

ทุกวันนี้พระคุณเจ้าท้องถิ่นรับผิดชอบได้ เช่น เรื่องอนุญาติให้นักบวชพ้นจากข้อผูกมัดของการปฏิญาณ

ตลอดชีพที่มี (สำหรับคณะที่ขึ้นกับสังฆมณฑล) หรือเรื่องการอนุญาติให้แต่งงานกับคนต่างศาสนาต่างความ

เชื่อดังนี้เป็นต้น สรุปแล้ว พระสังฆบิดรแต่ละท้องถิ่นมีสิทธิ์เต็มที่ในเขตปกครองของตนมากขึ้น และ

เพราะกฏหมายใหม่ได้มีการถอนสิทธิพิเศษที่เคยเป็นของขวัญของพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆคืนจากคณะ

นักบวชและเอาไปให้พระสังฆบิดรแทนว่างั้นเหอะ


สรุปจากทั้งข้อ 1-2

คณะพระมหาไถ่(รวมทั้งคณะอื่นๆที่มีสิทธิ์นี้ด้วย) ยังมีสิทธิ์นั้นแต่เจ้าคณะต้องคอยดู

การใช้อย่างรอบคอบ แต่ที่สุดแห่งที่สุดเมื่อคนบาปคนนั้นจะตายมะรอมมะร่ออยู่แล้ว คุณพ่อคนไหนก็

โปรดบาปได้ทั้งหมด (แม้แต่คุณพ่อที่มีบาปประจำตัวเองด้วย เพราะเคยมีคำถามว่าคนบาปโปรดบาปด้วย

กันได้หรือ? คำตอบคือได้ เพราะการโปรดนั้นเป็นพระเจ้าที่โปรด เขาเป็นเพียงเครื่องมือของพระองค์

เท่านั้น มีดเปื้อนก็ตัดเชื่อกได้ฉันใด พระสงฆ์ที่ติดบาปก็ตัดบ่วงของบาปได้ฉันนั้น..นี่..คำคมครับคำคม..)




;) ปล.เป็นคำตอบของคุณพ่อทั้งหมดโดยมิได้ตัดต่อมานะค่ะ

[Junior Boy]

*thx

[Jeab Agape]

ลอก คนข้างบน ฮะ

[kyrie]

โอ้โห!!! เจ๊ฟิม นับถือจริงๆๆๆๆในเรื่องค้นคว้า
ขอบคุณคะ

[พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ]

แป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ;D


เป็นความรู้ที่แปลกใหม่จริงๆ

[King Zadin]

ขอบคุณมากครับ

[St.paul]

คล้ายกับคณะฟรังซิสกันนะครับ