ปรัชญาอินเดียสมัยโบราณ ในสมัยสำนักปรัชญานั้น มีสำนักปรัชญาใหญ่ๆอยู่ 9 สำนัก โดย 6 สำนักที่เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์พระเวท เรียกว่า ฝ่ายอาสติกะ และ 3 สำนักที่ไม่เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์พระเวท เรียกว่า ฝ่ายนาสติกะ
และ 3 สำนักฝ่ายนาสติกะนั้น ได้แก่ เชน พุทธ และ จารวาก
สำนักจารวาก เป็นแนวคิดที่มีลักษณะเป็นสสารนิยมหรือวัตถุนิยม คือไม่เชื่อว่ามีจิตความเป็นจริงสูงสุดที่อยู่เบื้องหลังสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวของธาตุทั้ง 4 แล้วก็ดับสูญไปโดยการแยกตัวของธาตุทั้ง 4 นี้เท่านั้น ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์ มนุษย์เราเมื่อเสียชีวิตลง ก็คือดับสลายไป ไม่เหลืออะไร ไม่มีชีวิตโลกหน้า มีแต่โลกนี้เท่านั้น ดังนั้นมนุษย์จึงควรแสวงหาความสุขและเสพสุขให้สำราญบานใจ เพราะตายไปแล้วก็ดับสิ้น
ศาสตราจารย์กีรติ บุญเจือกล่าวถึงปรัชญาจารวากในหนังสือ"ปรัชญาสำหรับผู้เริ่มเรียน"ว่า " จารวาก เป็นลัทธิสสารนิยมอย่างสมบูรณ์ ดังคำบรรยายลัทธินี้ในหนังสือสรรพทรรศนสังคหะว่า ' ไม่มีสวรรค์ ไม่มีความหลุดพ้น ไม่มีวิญญาณใดๆอยู่ในโลกอื่น ไม่มีการกระทำหรือกรรมของใครในวรรณะทั้ง 4 ที่จะก่อให้เกิดผล การบูชาไฟ พระเวททั้งสาม การร่ายมนตร์ของพวกนักบวชและการทาตัวด้วยขี้เถ้า เป็นอุบายวิธีการเลี้ยงชีพของพวกคนโง่และไร้ยางอาย ถ้าหากว่าสัตว์ที่ถูกฆ่าในพิธีบูชายัญได้ไปเกิดในสวรรค์จริงแล้ว ไฉนผู้ประกอบพิธีบูชายัญไม่เอาบิดาของตนมาฆ่าบูชายัญเช่นนั้นบ้างเล่า ควรแสวงหาความสุขเสียตั้งแต่ในเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ กินดื่มให้สุขสำราญ แม้ว่าจะต้องเป็นหนี้สินเขาก็ตาม เพราะเมื่อร่างกายถึงความเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว มันจะกลับฟื้นคืนมาอีกได้ไฉน พิธีกรรมต่างๆนั้นเป็นอุบายวิธีหาเลี้ยงชีพของพวกพราหมณ์นั่นเอง ผู้แต่งคัมภีร์พระเวทคือคนโง่ คนลวงโลก ' ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากการรวมของธาตุ 4 และดับสูญไปโดยการแยกตัวของธาตุ 4 ความเป็นจริงที่แท้จึงมีแต่ธาตุ 4 เท่านั้น "
ครับ ที่ผมโพสต์มานี้ข้างต้นก็เพียงเพื่อให้ทุกท่านได้รู้จักแนวคิดอีกแนวหนึ่ง ไม่ได้มีเจตนาจะค่อนแคะเหน็บแนมใครนะครับ แล้วที่เน้นสีตัวอักษร ก็เพียงเพราะผมเห็นว่าเขากล่าวได้"สะใจ"ดี ก็นำมาบอกเล่าเก้าสิบกันน่ะครับ ;D
จริงๆ แนวคิดในทำนองวัตถุนิยมนี้ แม้จะปรากฏมีในชมพูทวีปมาแต่โบราณ ก็ไม่ได้หมายความว่าที่อื่นไม่มี และก็ไม่ได้หมายความว่าปัจจุบันนี้จะไม่พบไม่เจอ รอบตัวเรานี้ก็จารวากกันทั้งนั้นเลย ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษกันไปหมดแล้ว พวกเราสมาชิกนิวมานาทั้งหลายช่วยกันเป็นแสงสว่างส่องโลกกันเถิดนะครับ :D