อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ ว่าทำไมผมถามคำถามนี้ "การำพึงคืออะไร" แต่ตอนนี้เชิญสงสัยได้เลย เพราะจริง ๆ แล้วตัวผมเองยังไม่ทราบว่าการรำพึงคืออะไร ทั้ง ๆ เคยอยู่บ้านเณรมาก่อน แต่ก็ไม่เคยมีใครสอนให้รำพึง ผมพยายามหาความหมายของการรำพึงว่าคืออะไร แต่ก็ไม่พบ เมื่อเช้านี้ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของนักบุญเทเเรซาแห่งอาวิลลา ท่านบอกไว้ในหนังสือว่า "การสวดภาวนาที่แท้จริงไม่ใช่การออกเสียง ไม่ใช่การใช้ความคิด สิ่งที่เราเรียกกันว่าการสวดภาวนาที่เรามักเรียกกันเวลาเราท่องบทสวดนั้น ยังไม่ใช่การภาวนา รวมทั้งการใช้ความคิดก็ยังไม่ใช่การภาวนาที่แท้จริง การภาวนาที่แท้จริงจะต้องมีการรำพึง" แต่ผมก็สงสัยว่า แล้วการรำพึงคืออะไร ในเมื่อขนาดการภาวนาด้วยความคิดซึ่งผมเข้าใจว่าคือการรำพึงก็ยังไม่ใช่การภาวนา ท่านกล่าวต่อไปว่า "ในขณะที่เราภาวนาเราต้องรู้ว่า ตัวเราเป็นใคร และเราภาวนาถึงใคร และอะไรคือสิ่งที่เรากำลังภาวนา การสวดภาวนาโดยไม่คำนึง 3 สิ่งนี้ ทำให้การสวดภาวนาไม่เป็นการภาวนาที่แท้จริงเช่นกัน"
พอจะมีใครบอกผมได้บ้างครับว่าการรำพึงคืออะไร ผมโง่มาก ๆ เลยที่ไม่เข้าใจว่าการรำพึงคืออะไร ตอนที่อยู่บ้านเณร เขาก็มีเวลาให้รำพึงส่วนตัว หลังจากที่ได้สวดภาวนาพร้อมกันไปแล้ว ผมก็ได้แต่คิดเรื่องต่าง ๆ จากพระคัมภีร์บ้าง แต่มันก็อยู่แค่ระดับความคิดเท่านั้น ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าถึงระดับการรำพึงหรือยัง
อยากทราบว่าการรำพึงคืออะไรครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เสริม จากที่พี่มิว มาลงหน่อยนะครับ
ถ้า จะพูดให้ เราคนไทยเข้าใจง่ายขึ้น
ก็รำพึง ก็คือ การทำสมาธินั่น
ทำใจให้สงบ ไม่ต้องฟุ้งซ่านอะไร
แต่ยังคงรับรู้
ซึ่งสิ่งที่ คริสตชนจะได้รับรู้ จากการรำพัง ก็คือ ความรักของพระเจ้า ซึ่งอยู่รอบๆตัวเราครับ
ถ้า จะพูดให้ เราคนไทยเข้าใจง่ายขึ้น
ก็รำพึง ก็คือ การทำสมาธินั่น
ทำใจให้สงบ ไม่ต้องฟุ้งซ่านอะไร
แต่ยังคงรับรู้
ซึ่งสิ่งที่ คริสตชนจะได้รับรู้ จากการรำพัง ก็คือ ความรักของพระเจ้า ซึ่งอยู่รอบๆตัวเราครับ

เรามาตอบเพชรแบบไม่รู้เหมือนกัน 
ก็คงเป็นอย่างที่เพชรว่ามานั่นแหละ เพียงแต่ว่าต้องมีสมาธิหน่อยนะ ไม่งั้นความคิดเตลิดเปิดเปิง คิดนั่นคิดนี่ ฟุ้งซ่านน่ะ
พอรำพึงแล้ว เราก็จะได้ฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า เกิดความคิดดีๆ แล้วนำไปปฏิบัติ
ก็คงเป็นอย่างที่เพชรว่ามานั่นแหละ เพียงแต่ว่าต้องมีสมาธิหน่อยนะ ไม่งั้นความคิดเตลิดเปิดเปิง คิดนั่นคิดนี่ ฟุ้งซ่านน่ะ
พอรำพึงแล้ว เราก็จะได้ฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า เกิดความคิดดีๆ แล้วนำไปปฏิบัติ
จากประสบการณ์คือการทำให้สมอง จิตใจ จิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกันในการภาวนา หลายครั้งเราเข้าใจด้วยสมอง แต่มันไม่ลงไปในจิตใจและจิตวิญญาณ การใช้เวลาในการรำพึงจะช่วยตรงจุดนี้ และทำให้การภาวนามีชีวิตชีวามากขึ้น บางครั้งเหมือนกับการที่เรามานั่งมองดอกไม้ที่คนรักเราให้มา มันจะมีอะไรที่หลั่งไหลเข้ามามากกว่าดอกไม้ (ผู้ชายเข้าใจอะไรแบบนี้มั้ยเนี่ย
)
แต่หลายครั้งมันเป็น interactive กับพระเหมือนกัน (คือพระช่วยเรารำพึงด้วย) และหลายครั้ง (ไม่แน่ใจว่า อันนี้เป็นผลจากการรำพึงภาวนาหรือคือการรำพึง) เมื่อสมองกับจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวแล้ว สิ่งที่เราภาวนาหรือพูดออกไป จะมาจากส่วนลึกของวิญญาณ และจะทำให้เรา นำจิตวิญญาณเีราใกล้พระมากขึ้น ถวายให้พระง่ายขึ้น เพื่อให้พระสามารถเปลี่ยนใจเราให้่เหมือนใจพระองค์ง่ายขึ้น... และการภาวนาจะเป็นชีวิตเีรามากขึ้นด้วย

แต่หลายครั้งมันเป็น interactive กับพระเหมือนกัน (คือพระช่วยเรารำพึงด้วย) และหลายครั้ง (ไม่แน่ใจว่า อันนี้เป็นผลจากการรำพึงภาวนาหรือคือการรำพึง) เมื่อสมองกับจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวแล้ว สิ่งที่เราภาวนาหรือพูดออกไป จะมาจากส่วนลึกของวิญญาณ และจะทำให้เรา นำจิตวิญญาณเีราใกล้พระมากขึ้น ถวายให้พระง่ายขึ้น เพื่อให้พระสามารถเปลี่ยนใจเราให้่เหมือนใจพระองค์ง่ายขึ้น... และการภาวนาจะเป็นชีวิตเีรามากขึ้นด้วย

แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ พุธ พ.ย. 08, 2006 11:27 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy เขียน: จากประสบการณ์คือการทำให้สมอง จิตใจ จิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกันในการภาวนา หลายครั้งเราเข้าใจด้วยสมอง แต่มันไม่ลงไปในจิตใจและจิตวิญญาณ การใช้เวลาในการรำพึงจะช่วยตรงจุดนี้ และทำให้การภาวนามีชีวิตชีวามากขึ้น บางครั้งเหมือนกับการที่เรามานั่งมองดอกไม้ที่คนรักเราให้มา มันจะมีอะไรที่หลั่งไหลเข้ามามากกว่าดอกไม้ (ผู้ชายเข้าใจอะไรแบบนี้มั้ยเนี่ย)
แต่หลายครั้งมันเป็น interactive กับพระเหมือนกัน (คือพระช่วยเรารำพึงด้วย) และหลายครั้ง (ไม่แน่ใจว่า อันนี้เป็นผลจากการรำพึงภาวนาหรือคือการรำพึง) เมื่อสมองกับจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวแล้ว สิ่งที่เราภาวนาหรือพูดออกไป จะมาจากส่วนลึกของวิญญาณ และจะทำให้เรา นำจิตวิญญาณเีราใกล้พระมากขึ้น ถวายให้พระง่ายขึ้น เพื่อให้พระสามารถเปลี่ยนใจเราให้่เหมือนใจพระองค์ง่ายขึ้น... และการภาวนาจะเป็นชีวิตเีรามากขึ้นด้วย






เข้าใจครับBuddy เขียน: จากประสบการณ์คือการทำให้สมอง จิตใจ จิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกันในการภาวนา หลายครั้งเราเข้าใจด้วยสมอง แต่มันไม่ลงไปในจิตใจและจิตวิญญาณ การใช้เวลาในการรำพึงจะช่วยตรงจุดนี้ และทำให้การภาวนามีชีวิตชีวามากขึ้น บางครั้งเหมือนกับการที่เรามานั่งมองดอกไม้ที่คนรักเราให้มา มันจะมีอะไรที่หลั่งไหลเข้ามามากกว่าดอกไม้ (ผู้ชายเข้าใจอะไรแบบนี้มั้ยเนี่ย)

ขอบคุณครับที่ช่วยทำให้ผมเข้าใจว่าการรำพึงคืออะไร ไม่อย่างงั้นผมก็จะงง สับสนอยู่ แยกไม่ค่อยออกว่าอะไรคืออะไรในการภาวนา
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขออนุญาตไปใคร่ครวญ แล้วจะมาแสดงความคิดเห็นขอรับ :afro:
ทางโปรแตสแตนท์มีการรำพึง(Meditation)และการพิศเพ่ง(Contemplation) แบบที่คาทอลิกใช้ หรือเปล่าครับ น้องเจี๊ยบ หรือว่ามีแต่เรียกต่างกันครับ