
"ด้วยว่าบุตรหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา คือพระเจ้าทรงประทาน
การปกครองจะตกบนบ่าของท่าน
เขาจะเรียกท่านว่า ที่ปรึกษามหัศจรรย์
พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช"
อิสยาห์9:6 (ราว700ปีก่อนคริสตกาล)
คำพยากรณ์นี้ ฯลฯได้มีมาแต่เนิ่นนานแล้ว
โลกได้รอรับสเด็จองค์พระมหาไถ่ผู้นี้ อยู่
ซึ่งมีกลุ่มคน ได้คำนวนคาดการณ์ ถึงการสเด็จมา คือ เหล่าโหราจารย์ (Magi)

ว่ากันว่า ทั้ง3องค์ ล้วนเป็นกษัตริย์ซึ่งเดินมาจากอาณาจักร ทางแดนตะวันออก
ซึ่งมาจาก3ทวีป คือ เอเชีย ยุโรป และ อัฟริกา
นามของท่านทั้ง3 ได้แก่ "กัสปาร์ เมลคีออร์ และบัลทาซาร์"
ซึ่งท่านได้แสดงความเชื่อต่อพระองค์ ด้วย บรรณาการ3ประการ
คือ
ทองคำ : ของขวัญที่คู่ควรสำหรับผู้ที่เป็นกษัตริย์
กำยาน : เครื่องหอมที่มหาสมณะใช้เผาเพื่อถวายบูชาแด่พระเจ้า
คือพระเยซูเจ้า เป็นผู้ ให้ สวรรค์ และแผ่นดินกลับคืนดีต่อกัน
มดยอบ : เครื่องหมายถึงความเป็นมนุษย์แท้
มดยอบเป็นสิ่งที่ใช้ ระงับ ความเจ็บปวด และเครื่องหอม ที่ใช้ชะโลมศพ
คือการที่ พระเยซู จะต้องรับความทรมานและ ตายเพื่อไถ่บาปของมนุษยชาติ
ตามคำพยากรณ์ที่ว่า
"แน่ทีเดียวท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลายและหอบความเจ็บปวดของเราไป
กระนั้นเราทั้งหลายก็ยังถือว่าท่านถูกตี คือพระเจ้าทรงโบยตีและข่มใจ
แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลายท่านฟกช้ำ เพราะความบาปผิดของเรา
การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้นตกแก่ท่าน ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี"
อิสยาห์53:4-5
เราเรียกท่านทั้ง3ว่า โหราจารย์ก็เพราะว่า ท่านแสวงหาพระบุตรโดย หลักดาราศาสตร์
ตาม ดาวเงิน ที่ทอแสงมายังพระบุตร

_______________
ในช่วงแรกนักโบราณคดีเชื่อว่า ที่ชาวโรมัน ฉลอง คริสตสมภพ ในวันที่ 25ธันวาคม
เพราะเป้น วันฉลอง สุริเทพ ของศาสนาเดิม
แต่ภายหลังกลับพบว่า คริสตจักรยุคแรก ได้สรรเสริญวันนี้มาก่อนแล้ว
ประกอบ ฉลอง วันเทวทูตแจ้งสาร(Angelus) คือ วันที่25 มีนาคม
9เดือนก่อน คือวันที่พระนางพรหมจารีย์มารีอา ได้รับการบอกจาก อัครเทวดากาเบรียลว่า
"เธอผู้ซึ่งพระเจ้าทรงโปรดปรานมากจงจำเริญเถิดพระเป็นเจ้าทรงสถิตอยู่กับเธอ"
ลูกา1:28

ซึ่งเมื่อนางไปเยี่ยมญาติ คือ นักบุญอลิซาเบธ ภรรยา ปุโรหิตเศคาริยาห์

นางอลิซาเบธเอง ซึ่งเป็นหมัน ก็ได้รับปฎิสนธิจากพระเจ้า
ซึ่งนางจะให้กำเนิด นักบุญ ยอห์นบัพติสต์ ผู้ปูทางการประกาศของพระเจ้านั่นเอง
เมื่อนางอลิซาเบธได้สัมผัสตัวนาง พระจิตเจ้า ที่สถิตในครรภ์ของนางก็ทำให้นางเปล่งเสียงอันดังว่า
"เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า"
ลูกา 1:42-43
ซึ่งทั้ง2คำกล่าว ก็ได้ถูกนำมารวมเป็น บทภาวนา Ave Maria/ วันทามารีอาของคริสตชนนั่นเอง
หากจะกลาวถึงแม่พระแล้ว
ก็คงควรจะต้องกล่าวถึง นักบุญ ยออาคิม/อันนา ผู้เป็นบิดามารดาของพระนาง
หรือกล่าวคือ คุณตา และคุณยายของพระเยซูนั่นเอง

ท่านทั้ง2เป็นผู้ชอบธรรม แต่กลับเป็นหมัน เมื่อชราก็ยังไม่มีทายาทสืบสกุล
ท่านจึงสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า และได้รับการปฎิสนธินิรมล
และถวาย แม่พระ (พระนางมารี) เป็นข้ารับใช้พระเจ้าในพระวิหาร

และด้วยเหตุดังกล่าวเอง ผู้ที่จะมาสมรมกับแม่พระได้ จะต้องเป็นผู้ชอบธรรม คือนักบุญโยแซฟ ผู้เป็นช่างไม้


นักบุญโยแซฟเป็นผู้ชอบธรรม (ดั่งดอกลิลลี่ที่ใช้สื่อความบริสุทธิ์ ของท่าน)
เมื่อท่านทราบว่า พระนางมารีย์ ตั้งครรภ์(แต่ไม่รู้ว่า เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า)
ก็คิดถอนหมั้นอย่างลับๆ เพราะว่า ในบัญญัติของยิว หญิงผู้ล่วงประเวณี จะต้องโดนประชาทัณฑ์ขว้างหินจนตาย
(แต่ทูตสวรรค์ก็ปรากฎแก่ท่าน ในนิมิต ในภายหลัง)
จึงอยู่รวมกันเป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

เมื่อพระเยซูเจ้าประสูติ ที่เบธเลเฮม ท่านก็ได้ รับนิมิต ให้นำครอบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์หนี จากการตามฆ่าของ กษัตริย์เฮโรด ไปยังอียิปต์
เฮโรดเป็น กษัตริย์ของ ที่ปกครอง อาณานิคมในขณะนั้น
เมื่อทราบข่าวการสเด็จมาบังเกิด จากโหราจารย์ซึ่งมาซักถาม
ก็กลัวว่า พระบุตรจะมาลบล้างอำนาจของตน จึงวางแผนให้โหราจารย์ มาบอกที่อยู่เมื่อพบพระบุตร
แต่โหราจารย์ได้รับนิมิตจากทูตสวรรค์ จึงไม่ได้กลับมาบอก
เฮโรดมาทราบในวันภายหลัง ก็ทรงกริ้ว และ สั่งฆ่า ทารกทั้งหมด ทั่วอาณาการปกครอง

ด้วยเหตุนี้ คริสตชนจึงมีวันระลึกถึงทารกผู้วิมลเหล่านี้ ในวันที่28ธันวาคมครับ