ทำไมพระเจ้าถึงต้องสร้างโลกด้วย

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Fah
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 05, 2007 12:01 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ พ.ค. 05, 2007 1:40 pm

คุณเคยคิดบ้างมั้ยว่าทำไมพระเจ้าต้องสร้างโลก ในเมื่พระองค์มีอำนาจมากมายและอยู่ตลอดนิรันดร ทำไมพระองค์ถึงต้องยอมเหนื่อยมาสร้างโลก ดูแลมนุษย์
ทำไมพระองค์ไม่ พักสบายๆอยู่เฉยๆ :huh: ลองคิดแค่เล่นๆนะค่ะอย่าจริงจัง ::010::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ พ.ค. 05, 2007 1:53 pm

เพราะรัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

เสาร์ พ.ค. 05, 2007 7:25 pm

พระองค์อาจจะพักมามากและ เลยออยากสร้างโลก หาไรทำมั้ง 555  :afro:
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

เสาร์ พ.ค. 05, 2007 9:19 pm

Fah เขียน: คุณเคยคิดบ้างมั้ยว่าทำไมพระเจ้าต้องสร้างโลก ในเมื่พระองค์มีอำนาจมากมายและอยู่ตลอดนิรันดร ทำไมพระองค์ถึงต้องยอมเหนื่อยมาสร้างโลก ดูแลมนุษย์
ทำไมพระองค์ไม่ พักสบายๆอยู่เฉยๆ :huh: ลองคิดแค่เล่นๆนะค่ะอย่าจริงจัง ::010::
ทำไมพระองค์ถึงต้องยอมเหนื่อยมาสร้างโลก
พระเจ้าไม่เหนื่อยเลยนะครับ แค่ตรัสเท่านั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นแล้ว

พระเจ้าตรัสว่า"จงเกิดความสว่าง"ความสว่างก็เกิดขึ้น (ปฐมกาล 1:3)

พระเจ้าตรัสว่า"จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำแยกน้ำออกจากกัน"(ปฐมกาล 1:6)

ฯลฯ

แต่เหนือสิ่งอื่นใดพระเจ้าสร้างโลกใบนี้ให้กับมนุษย์ ให้มนุษย์เป็นเจ้าของ เป็นผู้ปกครองดูแล

แล้วพระเจ้าตรัสว่า"ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเราให้ครอบครองฝูงปลาในทะเลฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไปและสัตว์ต่างๆที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน"(ปฐมกาล 1:26)
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 2:07 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 12:14 am

มีคนถามคำถามในค่ายรีทรีทสมาชิกคริสตจักรว่าว่า "ในเมื่อพระเจ้าทรงรู้ทุกอย่าง ก็จะต้องทรงทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่ามนุษย์นั้นจะทรยศพระองค์ แล้วพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาทำไม"
อาจารย์นิกร วิทยากรตอบแบบนี้ค่ะ (ขออนุญาตยืมมาตอบ คิดว่าใกล้เคียงกับคำตอบที่เรจะให้กับกระทู้นี้)

อาจารย์ตอบว่า อาจารย์เคยคุยกับผู้หญิงท้องคนหนึ่ง
ถามเธอว่า "คุณรู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะเกิดจากคุณ เมื่อโตขึ้นแล้วเขาจะเถียงคุณ"
           "ฉันรู้"
            "คุณรู้ไหมว่า ต่อไปเขาจะทำให้คุณเสียใจได้ ทำให้คุณหัวเราะก็ได้ ร้องไห้ก็ได้"   
           "ฉันรู้"
             "แล้วคุณรู้ไหมว่า เขาอาจจะทำให้คุณอับอาย หรือ ทำให้คุณเจ็บปวดด้วยซ้ำ"
           "ฉันรู้"
           "ในเมื่อรู้อย่างนั้น แล้วคุณจะอุ้มท้อง จะคลอดเขามาทำไมล่ะ" 
เธอตอบว่า "เพราะฉันรัก และไม่ว่าเขาจะทำให้ฉันเสียใจแค่ไหน ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัย"

ลองคิดถึงคนที่อยากมีลูก ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กที่เกิดมาอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจ เด็กคนนั้นอาจจะไม่ฉลาด ไม่สวย ไม่หล่อ ไม่เก่ง หรืออาจจะพิการด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ยังอยากมีลูก... ไม่ใช่แค่มีเพื่อประดับวงศ์ตระกูลเท่านั้น แต่อยากมีเพราะรัก และพร้อมที่จะให้อภัยในความบกพร่องไงล่ะ  : xemo026 :
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 12:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
HaKo_Rain
โพสต์: 150
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:09 am
ที่อยู่: Phatom Thani
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 12:48 am

Holy เขียน: เพราะรัก
-Rei- เขียน:

มีคนถามคำถามในค่ายรีทรีทสมาชิกคริสตจักรว่าว่า "ในเมื่อพระเจ้าทรงรู้ทุกอย่าง ก็จะต้องทรงทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่ามนุษย์นั้นจะทรยศพระองค์ แล้วพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาทำไม"
อาจารย์นิกร วิทยากรตอบแบบนี้ค่ะ (ขออนุญาตยืมมาตอบ คิดว่าใกล้เคียงกับคำตอบที่เรจะให้กับกระทู้นี้)

อาจารย์ตอบว่า อาจารย์เคยคุยกับผู้หญิงท้องคนหนึ่ง
ถามเธอว่า "คุณรู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะเกิดจากคุณ เมื่อโตขึ้นแล้วเขาจะเถียงคุณ"
           "ฉันรู้"
            "คุณรู้ไหมว่า ต่อไปเขาจะทำให้คุณเสียใจได้ ทำให้คุณหัวเราะก็ได้ ร้องไห้ก็ได้"   
           "ฉันรู้"
             "แล้วคุณรู้ไหมว่า เขาอาจจะทำให้คุณอับอาย หรือ ทำให้คุณเจ็บปวดด้วยซ้ำ"
           "ฉันรู้"
           "ในเมื่อรู้อย่างนั้น แล้วคุณจะอุ้มท้อง จะคลอดเขามาทำไมล่ะ" 
เธอตอบว่า "เพราะฉันรัก และไม่ว่าเขาจะทำให้ฉันเสียใจแค่ไหน ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัย"

ลองคิดถึงคนที่อยากมีลูก ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กที่เกิดมาอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจ เด็กคนนั้นอาจจะไม่ฉลาด ไม่สวย ไม่หล่อ ไม่เก่ง หรืออาจจะพิการด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ยังอยากมีลูก... ไม่ใช่แค่มีเพื่อประดับวงศ์ตระกูลเท่านั้น แต่อยากมีเพราะรัก และพร้อมที่จะให้อภัยในความบกพร่องไงล่ะ  : xemo026 :

ง่ายๆ สั้นๆ แต่ซึ้งกินใจ  : xemo031 :
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 11:12 pm

เพื่อสะท้อนพระสิริของพระองค์ คร้าบ : xemo026 :

คุณเจ้าของกระทู้ ก็ใช้แต่ความคิดเนื้อหนังของมนุษย์คิดเลยสงสัยพระเจ้าอยู่นั่นแหละ :grin:
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 11:23 pm

พรประสงค์จะเดินบนเส้นทางแห่งเรา
จึงเสด็จมาเฝ้าจุงมือเราทุกคน
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ค. 07, 2007 10:04 pm

ผมไม่รู้หรอกว่าทำไม พระเจ้าถึงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
สิ่งที่ผมรู้แน่ ๆ คือ มนุษย์มีความอัศจรรย์มากกว่าที่เรา
แต่ละคนและทุก ๆ คนคาดคิด มากมาย มากมาย มากมาย ยิ่งนัก

ในความว่างเปล่าและไร้ความหมาย เราแต่ละคนและทุก ๆ คน
ได้สร้างตัวตนของเราแต่ละคนและทุก ๆ คน
ด้วยคำพูดของเราแต่ละคนและทุก ๆ คน
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 08, 2007 10:45 am

-Rei- เขียน:

มีคนถามคำถามในค่ายรีทรีทสมาชิกคริสตจักรว่าว่า "ในเมื่อพระเจ้าทรงรู้ทุกอย่าง ก็จะต้องทรงทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่ามนุษย์นั้นจะทรยศพระองค์ แล้วพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาทำไม"
อาจารย์นิกร วิทยากรตอบแบบนี้ค่ะ (ขออนุญาตยืมมาตอบ คิดว่าใกล้เคียงกับคำตอบที่เรจะให้กับกระทู้นี้)

อาจารย์ตอบว่า อาจารย์เคยคุยกับผู้หญิงท้องคนหนึ่ง
ถามเธอว่า "คุณรู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะเกิดจากคุณ เมื่อโตขึ้นแล้วเขาจะเถียงคุณ"
           "ฉันรู้"
            "คุณรู้ไหมว่า ต่อไปเขาจะทำให้คุณเสียใจได้ ทำให้คุณหัวเราะก็ได้ ร้องไห้ก็ได้"   
           "ฉันรู้"
             "แล้วคุณรู้ไหมว่า เขาอาจจะทำให้คุณอับอาย หรือ ทำให้คุณเจ็บปวดด้วยซ้ำ"
           "ฉันรู้"
           "ในเมื่อรู้อย่างนั้น แล้วคุณจะอุ้มท้อง จะคลอดเขามาทำไมล่ะ" 
เธอตอบว่า "เพราะฉันรัก และไม่ว่าเขาจะทำให้ฉันเสียใจแค่ไหน ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัย"

ลองคิดถึงคนที่อยากมีลูก ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กที่เกิดมาอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจ เด็กคนนั้นอาจจะไม่ฉลาด ไม่สวย ไม่หล่อ ไม่เก่ง หรืออาจจะพิการด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ยังอยากมีลูก... ไม่ใช่แค่มีเพื่อประดับวงศ์ตระกูลเท่านั้น แต่อยากมีเพราะรัก และพร้อมที่จะให้อภัยในความบกพร่องไงล่ะ  : xemo026 :

ดีจังครับ พี่เรย์ ::008::
ภาพประจำตัวสมาชิก
*~glossolalia~*
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 30, 2007 7:14 pm

พุธ พ.ค. 09, 2007 1:31 am

โห ขนาดบอกไม่ให้คิดจริงจังคำถามยังยากเลย 555+
คือตามความคิดเรา :ไม่ว่าพระจะสร้างโลกขึ้นมาเพื่ออะไร
เราก็ดีใจที่ได้เกิดเป้นลูกของพระองค์....(ไม่รู้ตอบตรงคำถามรึเปล่านะ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 09, 2007 3:22 am

ชอบอะเรย์  ::017::  เยี่ยมกู๊ด
holy holy holy
โพสต์: 548
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm

พุธ พ.ค. 09, 2007 8:35 pm

ปํญหาที่เพื่อนถาม

คนที่1 ถ้าพระเจ้าสร้างโลกนี้ทำไมจึงมาไดโนเสาร์
คนที่2 โลกนี้เกิดจาก บิกแบงค์ o2
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พุธ พ.ค. 09, 2007 9:02 pm

holy holy holy เขียน: ปํญหาที่เพื่อนถาม

คนที่1 ถ้าพระเจ้าสร้างโลกนี้ทำไมจึงมาไดโนเสาร์
คนที่2 โลกนี้เกิดจาก บิกแบงค์ o2
คนที่1 :
ในพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุนิครับ ว่าพระเจ้าสร้างอะไร ในกรณีนี้อาจจะเป็นเรื่องของทฤษฎีวิวัฒนาการ

คนที่ 2 :
โดยส่วนตัว ผมไม่เชื่อบิ๊กแบงครับ เพราะว่าเป็นการกล่าวลอยๆ
ถ้าจะให้บอกว่าเป็นวิทยาศาสตร์ได้จริงๆ ก็ทดลองให้ผมเห็นหน่อยซิ

นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่ศึกษาวิทยาศาสตร์ เพื่อค้นหาพระเจ้า
และยังมีอีกหลายคนที่ศึกษาเพื่อล้มล้างพระเจ้า ผลก็คือเขาล้มเหลว
สุดท้ายก็คือว่าเราเลือกที่จะเชื่อแบบไหนครับ

จงมีความเชื่อ และไว้วางใจ
จงเป็นเหมือนดังโนห์อาที่ได้สร้างนาวา
และอับบราฮัมบิดาแห่งความเชื่อ... : xemo026 :


ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าเอาไปอ้างอิงนะครับ ไม่ดี๊ไม่ดี : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 09, 2007 9:32 pm

Holy เขียน: เพราะรัก
ชอบคำตอบนี้จัง
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พุธ พ.ค. 09, 2007 9:51 pm

พี่เคยได้ยินคนที่โดยผีเขานะครับ ผีมันบอกว่ามันอิจฉาพระเจ้า เพราะพรองค์ทรงสร้างสิ่งต่างๆ ได้อัศจรรย์ได้สวยงามมาก แต่มันทำไม่ได้ แล้วมันก็อิจฉามนุษย์ด้วยที่พระเจ้าทรงรักมนุษย์และให้สิทธิ์แก่มนุษย์ในการปกครองในสิ่งต่างๆ ที่พระองค์สร้าง ปีศาจโกรธแค้นมนุษย์มากนะครับ โดยเฉพาะมนุษย์ที่ได้รับการไถ่มันบอกว่า ไม่ยุติธรรมเลย แล้วมันบอก อิจฉาอาดัมและอีฟที่ได้รับความรอดด้วย

มาความคิดของพี่พระเจ้าสร้างในสิ่งที่ ปีศาจเองยังคิดไม่ถึง พระเจ้าสร้างโลก สร้างหลายสิ่งที่สวยงาม ไม่ว่าบนพื้นทะเล ใต้ทะเล บนบก ในป่า ภูเขา บนฟ้า ล้วนแต่เป็นสิ่งงดงามและอัศจรรย์ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ก่อนหน้านั้นถึงมนุษย์จะไมกำเนิดมาแค่งานสร้างก็อัศจรรย์พอแล้ว  ทั่งสวรรต์ชื่นชมในผลงานการสร้างของพระเจ้ารวมทั้งเจ้าปีศาจด้วย และไม่มีใครรู้ได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าสร้างมาทั้งหมดนั้นเพื่อเตรียบไว้ให้กับมนุษย์ และเมื่อมนุษย์บังเกิดมาพระองค์ก็ทรงยกสิ่งต่างๆ มาทั้งหมดให้กับมนุษย์ แม้แต่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาราก็ถูกนำมารับใช้นำทางมนุษย์ทั้งสิ้น จุดประสงค์ที่ประเจ้าสร้างขึ้นมาไม่ใช่ให้ใคร ให้เราเท่านั้น มนุษย์เท่านั้นแหละที่เป็นที่หนึ่ง เทวดาเองยังอดพูดไม่ได้ว่า "มนุษย์เป็นใครพระองค์ทรงเมตตามากเพียงนี้" เป็นแผ่นการที่พระเจ้าเตรียมไว้นานแล้วเพื่อเรา โดยที่ไม่มีใครที่จะขาดคิดได้มาก่อนแม่แต่ปีศาจ

และเมื่อปีศาจผจัญให้อาดัมมนุษย์ตกในบาป ก็ไม่มีใครคาดคิดอีกเช่นกันว่าพระเจ้าจะลงมาเป็นมนุษย์เสียเอง และตายอย่างน่าเกียจ ตกต่ำสุด ตายแบบไม่มีใครมองทุกคนก็หันหน้าหนีหมด และการตายของพระองค์นั้นเองก็ทำให้มนุษย์กลับคืนดีกับพระองค์ เป็นอะไรที่ไม่มีใครรู้หรือไปคาดคิดล่วงหน้าได้ ไม่ว่าปีศาจหรือเทวดา ถ้าพระเจ้าไม่เปิดเผยให้รู้
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พุธ พ.ค. 09, 2007 10:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พุธ พ.ค. 09, 2007 10:13 pm

holy holy holy เขียน: ปํญหาที่เพื่อนถาม

คนที่1 ถ้าพระเจ้าสร้างโลกนี้ทำไมจึงมาไดโนเสาร์
คนที่2 โลกนี้เกิดจาก บิกแบงค์ o2
พระเจ้าสร้าง ไดโนเสาร์ขึ้นมาก็เพื่อผลประโยชน์ของมนุษย์อาจเป็นประโยชน์บางอย่างแก่พื่นดิน เช่นแร่ธาตุ  เมื่อมนุษย์เกิดมาแล้ว ไดโนเสาร์ก็ถูกทำลาย พระเจ้าทรงทำลายไดโนเสาร์เพื่อให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยอย่างสบาย สร้างสัตว์ขึ้นมาใหม่เช่น วัว ควาย แกะ แพะ เพื่อเป็นอาหารแก่มนุษย์ แล้วสัตว์ยุคจูลาสสิกเหล่านั้นก็ไม่มาแย้งอาหารมนุษย์ ทำร้ายสัตว์เลี้ยง หรือบุกรุกที่ทำกิน ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ หรือทำร้ายมนุษย์  ทุกอย่างพระเจ้าวางแผ่นและจัดเตรียมไว้ดีแล้ว สัตว์ป่าทุกวันนี้ถึงจะมีบางพันธุ์ที่ดุ แต่ก็ไม่ถึงคิดจะทำร้ายมนุษย์เท่าไรถ้ามันไม่ขาดแคลนอาหารจริงๆ แล้วก็ต่างคนต่างอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างสงบ มนุษย์เป็นเจ้าของโลกใบนี้ แต่มนุษย์เองกลับทำลายสิ่งที่พระเจ้าสร้างให้เรา ไปทำลายธรรมชาติที่พระองค์มอบให้เราดูแล ไปทำลายระบบนิเวศของมัน ทำให้มนูษย์มีปัญหา มนุษย์ต้องเจอภัยธรรมชาติต่างๆ มากมายเพราะน้ำมือมนุษย์เอง

เรื่องการระเบิดของบิกแบงค์ หรืออะไรก็ตาม พระเจ้าจะสร้างโลกผ่านอะไรก็ได้ แล้วก็ช่าง แต่ที่แน่ๆ มีมนุษย์มานั่งคิดอยู่ตรงนี้ นั่งสนทนากันอยู่ตรงนี้  มนุษย์มีความคิด มีสมอง มีการประดิษฐ์จนกระทั่งมาถึงยุคสมัยของคอมพิวเตอร์ สิ่งนี้ถือว่าอัศจรรย์มาก ที่ธรรมชาติไม่อาจสร้างตัวเองได้
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พุธ พ.ค. 09, 2007 10:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ค. 11, 2007 6:32 am

วิทยาศาสตร์พาพวกเราเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้นทุกขณะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
iBONT
โพสต์: 310
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 06, 2007 1:22 pm
ที่อยู่: ระย๊อง ระยอง
ติดต่อ:

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:43 am

อืม ขอพูดเรื่องไดโนเสาร์หรืออื่นๆนะครับ

ตามคติของผมที่เกิดมาในครอบครัวพุทธ บางครั้งการพูดประมาณ "พระเจ้า"
หลายๆครั้งมันดูงมงาย (อย่าโกรธผมนะคร๊าบบบ) แต่ผมก็รักพระองค์นะ อิอิ

แต่ผมกลับคิดว่า มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เราคิด
ดูเหมือนคริสต์จะย้ำนักย้ำหนา ศรัทธา ไว้วางใจ จะได้ถึงพระองค์

คริสต์ เน้นย้ำเรื่องเวลามามากเหลือเกิน ใครคิดแบบผมบ้าง
อดีต - ปัจจุบัน - อนาคต

เรื่องการบอกคนๆหนึ่งไว้ ว่าจะมีคนๆหนึ่งมาไถ่
หรือแม่แต่การพูดภึงอนาคตที่แสนยาวนาน "วันพิพากษาโลก"

อืมมมมม

ผมขอบอกไว้เลยว่า ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าในพระคัมภีร์ ไม่ได้มีความหมายแค่ที่ออกมา
พระเจ้าสร้างโลกใน 7 วันหรอ

ผมคิดว่า มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
พระเจ้าท่านฉลาด แน่หล่ะ ก็เพราะท่านสร้างเราขึ้นมา ไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกจะฉลาดเท่าท่านได้

แต่ผมคิดว่า เหมือนท่านรู้ "อะไรบางอย่าง" หรือท่านทรง "มีแผนการณ์บางอย่าง" แล้วครับ
ถ้าให้อธิบายก็คือ เคยคิดอยากย้อนเวลามั้ยครับ

การย้อนเวลานี่ บางทีทำให้เป็นอัจฉริยะได้เลยนะครับ

จะเป็นอย่างไร หากเราย้อนไป 1 วัน
เราจะบอกเลย ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นได้

ใครจะบอกได้ว่าพระองค์ทรงรีเซ็ทเรามาแล้วหรอเปล่า
พระองค์ทรงปล่อยเราให้ใช้ชีวิตโดยไม่บอกการมีของ พระองค์ หรือเปล่า
จนถึงวันพิพากษาโลก อยู่ๆพระองค์การทรงมา

ชาวโลกผู้หยาบช้าและแสนสะอาดบริสุทธ์ที่เหลือน้อยในยุคนั้น
ต่างงุนงง ก็เพราะองค์ไม่เคยบอก ไม่มีศาสนาคริสต์ ไม่มีไบเบิ้ล ไม่มีอะไรเลย
แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสว่า "ลูกเอ๋ย เจ้าใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อมาตลอด เจ้าหลงทางผิด แล้วก็หลงแล้วหลงอีก พ่อจะย้อนพวกเจ้า กลับสู่สามัญ สู่ต้นกำเนิดโลกอีกครั้ง พ่อจะรอดูว่าใคร ที่จะมาหาพ่อ เพื่อรอให้โลกเวียนมาวันนี้อีกครั้ง วันที่เรียกว่า วันพิพากษาโลก"
แล้วพระองค์ก็ทรงย้อน ทุกอย่างหายไป พระองค์สร้างโลกอีกครั้ง

ประเด็นอยู่ที่ว่า คิดสิว่า อดีต มีอะไรที่เราไม่รู้แต่เดี๋ยวนี้รู้บ้าง แล้วที่เรารู้ อนาคตเราก็จะรู้ว่า อาจจะจริง หรือ ไม่จริง ก็เป็นได้นะครับ
เหมือนข้อความในไบเบิ้ล ผมคิดว่ามันคือ นามธรรม ทั้งนั้นครับ
พระองค์สร้างโลก ใน 7 วัน
ที่แท้คืออะไร 7 อะไร
เหมือนมันคือคำใบ้ของ อะไรบางอย่าง ที่ปัญญาอันน้อยนิดของผมคงไม่อาจทราบได้
ทุกอย่างหมุนรอบโลก ตอนนี้เรารู้แล้วว่าไม่ใช่ แต่เราไม่รู้ว่าที่เรารู้ถูกหรือเปล่า

จักรวาลหมุนรอบโลกหรอ
สำหรับผม ผมไม่คิดเลยว่า มันจะหมายถึง โลกอยู่ตรงกลางแล้วดาวทุกดวงหมุนรอบโลก "จริงๆ"
หรือท่านจะหมายถึง อนาคต โลกจะเป็นศูนย์กลาง
มั่นใจได้ไงว่า"โลก" เป็นแห่งเดียวที่พระองค์สร้าง ถ้าพระองค์ทรงสร้างมากกว่าหนึ่งหล่ะ
หากอนาคต บรรดามนุษย์จากโลกอื่น ต่างเดินทางมาโลกเรา

"ว้าว ลูกจ๋ามองออกไปนอดยานเราสิ เห็นดวงดาวสีฟ้านั่นไหม นั้นไงโลกอันศักดิ์สิทธิ์ ที่พระเจ้าทรงสร้างเป็นแห่งแรก ที่พระเยซูบุตรแห่งพระองค์ทรงมาเพื่อไถ่เขา และรวมถึงเราด้วย"
เมื่อนั้น โลกเราคือ "ศูนย์กลาง" ของจักรวาล ศูนย์กลางแห่งศาสนา โลกศักดิ์สิทธิ์
"หรือจะให้เข้าใจคือ โลกเราจะเปรียบดั่งศูนย์รวมศาสนจักร โลกเราคือ "วาติกัน" แห่งอนาคตนั่นเอง"

โลกเราจะเป็นเมืองเก่าแก่แห่งอารยธรรม จักรวาลพากันหมุนรอบโลกเรา แต่ไม่ได้หมายถึง "หมุน" จริงๆ แต่หมายถึงให้ความสำคัญกับโลกเราเป็นศูนย์กลาง
โทคโนโลยี และ ศาสนาจักร ต้องไปด้วยกัน (ผมอ่านจากไหนนี่แหล่ะครับ คำๆนี้)

เราต้องรอ รอจนถึงวันที่เรารู้ความจริงของพระเจ้าทีละนิด
มาถึง 7 วันที่ว่า
7 วันที่เราพูดนี่ เราคิดว่าคือ วัน ของเรา
แต่ความจริง พระเจ้าจะบอกอะไร

7 วันๆๆๆ คิดซิ
7 ยุคหรือเปล่า

สมมุตรนะ สมมุตร หากอนาคต
แบ่งโลกเราเป็นยุคๆ
ตามอะไรซักอย่าง ที่เราไม่ได้ควบคุมเองเล๊ย

เมื่อนั้น นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งก็โพล่งออกมาว่า

"โอ้พระเจ้า ขอบคุณที่ทำให้ลูกตาสว่าง นั่น ทุกคนๆ มาดูนี่สิ"
แล้วเราก็เห็นการแบ่งยุคต่างๆนั้น กลับกลายเป็นว่า ตรงตามพระคัมภีย์

ยุคนึง เกิดบิ้งแบง หรือ อื่นๆ ที่อนาคตทราบว่าเกิดจากอะไร(พระเจ้าตรัสว่า"จงเกิดความสว่าง"ความสว่างก็เกิดขึ้น (ปฐมกาล 1:3))
ยุคนึง เกิดปรากฏการที่ทำให้สิ่งมีชีวิตก่อกำเนิด โลกเมื่อแรกเกิด ร้อน มีเมฆปรกคุมตั้งแต่พื้นพิภพถึงสุดของฟ้า แยกไม่ออกส่วนไหนพื้นส่วนไหนฟ้า จนกระทั้งหยาดฝนหยดแรก เมื่อหยดมาก็ระเหยทันที เมฆเริ่มรวมกลุ่ม และแล้ว ก็ถึงเวลานี้
และแล้ว แผ่นดินแล้วฟ้า ก็แยกจากกัน โลกเต็มไปด้วยพื้นน้ำ
ยุคนึง หลังจากยุคที่น้ำเต็มไปหมด โลกเริ่มเข้าสู้สมดุลย์ แผ่นดินและน้ำ แยกออกจากกัน (พระเจ้าตรัสว่า"จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำแยกน้ำออกจากกัน"(ปฐมกาล 1:6))
ยุคนึง หลังจากนั้นหลายร้อยหลายพันปี หรืออาจเป้นล้านๆปี ก่อเกิดสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธ์ โดยสิ่งมีชีวิตที่เป็นใหญ่เหนือสายพันธ์อื่นๆคือ "นก"
ยุคนึง ยุคนึง และอีก ยุคนึง
ยุคสุดท้าย ยุคที่ 7 ก่อเกิดโฮโมโซเปียนๆ และมนุษย์เราก็ครองโลก

นักวิทยาศาสตรทั้งหลายต่างตกตะลึง
7 วันที่ว่า คือ 7 ยุคเองหรอกหรือ โอ้พระเจ้า

นี่คือเรื่องสมมุตรครับ ตามความคิดผมเห็นว่า เราเหมือนเด็กเล็กๆอยู่เลย เรายังเด็กหัดเดินนะ ตอนนี้หน่ะ เราชอบดื้อกับพระองค์ แต่สุดท้ายก็มาขอให้พระองค์ทรงกล่อม ก่อนนอน
เด็กดื้อเด็กซน ที่พระองค์สุดท้ายก็อภัยให้ เราคงต้องเรา รอจนถึงเราเริ่มโตขึ้น เมื่อนั้น เราจะเริ่มเข้าใจ สิ่งที่พระองค์ทรงใบ้เข้ามาเรื่อยๆ

เราอาจคิดว่า ต่อไปคนจะเริ่มเลวลงๆๆ แต่ผมว่า เมื่อใดที่ความจริงค่อยๆเปิดเผย เมื่อนั้น คนจะเข้าหาพระเจ้ามากขึ้น
คิดในแง่ดีสิ ใช่มั้ย
เราอาจจะเห็น เราอาจรับรู้ ว่าวันพิพากษาโลก โลกเราอาจจะมีแต่คนดี และสุดท้าย พระองค์ก็ทรงสร้างโลกเรานี่แหล่ะ คือพระอาณาจักรของพระองค์ ที่เราอยากรู้กันนักว่าอยู่ไหน
ที่แท้คือโลกเรา เพราะวันนั้น วันพิพากษาโลก วันนั้นแหล่ะ โลกเราจะมีแต่คนดี ไม่หลงเหลือคนร้าย
พระองค์ จะทำให้คนตาย ฟื้นคืนมา แล้วบอกว่า "ลูกเอ๋ย ที่นี่แหล่ะอาณาจักรของเรา เชิญอยู่กับเรานิรันดร"
พระองค์ทรงทำน้ำเสียให้กลับดี พระองค์ทรงทำให้สัตว์ดุร้ายเป็นผู้ช่วยของมนุษย์แทน
พระองค์ทรงทำอากศเสียเป็นดี

พระองค์ทรงประทับบนบัลลังค์ พระแม่จะปรากฎ

แล้วคนชั่วหล่ะ

เมื่อนั้น เค้าจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง นั้นคือ การเกลียดตัวเอง ผมมักเชื่อว่าการทำโทษที่ดีที่สุดไม่ใช่การทำร้ายรางกายการทรมาณ ไฟชำระบาป มันคืออะไรหรอ
เคยไปเข้าค่าย คนที่โดนทำโทษ แอบพูดคุยขณะครูพูด ครูจะให้ออกมาข้างหน้า ครูบอกว่าการทำให้อับอายการทำให้สายตาอื่นๆมองมาการตบด้วยสายตา นี่แหล่ะคิอการทำโทษที่เจ็บปวดที่สุด

คนปากจะคิดกันว่า ทำไมถึงเลวเพียงนี้ ทำไมจึงออกห่างจากพระบิดาที่ทรงรักเราขนาดนี้ ทำไมไม่เชื่อฟังพระแม่ ไม่กระทำตนเยี่ยงพระแม่ที่พระองค์ทรงทำเป็นตัวอย่าง
ทำไมไม่เชื่อฟังเทวทูตรจำแลง หรือพระจิตต่างๆ (ประเด็นนี้จะอธิบายวันหลังนะครับ) แล้วคนเหล่านั้นจะทุกข์ทรมารอย่างมาก
แล้วเป็นไง ? แล้วคนเหล่านั้นจะกลับใจ พระเจ้าจะทรงอภัย แต่คนเหล่านั้นก็เจ็บปวดสาสม กับที่ทำมาแล้ว

คนเหล่านั้นจะกลายเป็นดี จะร่วมอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ที่แท้ โลกที่ตามหาคือโลกเรานี่เอง โลกที่พระองค์ทรงชำระ โลกที่เหลือแต่คนดีๆ อย่างนี้นี่เอง
และแล้วพระบิดา พระบุตร และ พระจิต รวมทั้งแม่พระ รวมทั้งลูกๆของพระองค์ก็อยู่ด้วยกันในพระอาณาจักรของพระองค์ อย่างมีความสุข สืบไป....

อวสาน




แต่ผมคิดว่า ก่อนวันพิพากษาโลกนั้น ผู้ถูกทำเครื่องหมายจะทราบครับ ทุกคนจนพากันเดินออกมา ณ ที่าแห่งหนึ่ง โดยกระแสเรียกจากพระองค์
ผ่านพระจิต พวกเราผู้ทำเครื่องหมายจะถึงก่อน ก่อนพวกคนอื่นๆทีหลัง แล้วคนตายจะฟื้นมา แล้วเราก็ฟังคำพิพากษา

เอ๋ แล้วผมพิมพ์ไปได้ไงเนี่ย O_o ผมไม่เคยพิมพ์อะไรยาวๆเช่นนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย
ยอมรับเรื่องนามธรรมหน่ะ เคยคิด แต่พอจะพิมพ์ อยู่ดีๆมันก็พรั่งพรูออกมา
แต่ที่แน่ๆเรื่องวันพิพากษาโลกไม่คิดจะพิมพ์เลยนะครับ ToT ผมเป็นอะไรไปเนี่ย
พอพิมพ์อยู่ดีๆก็คิดขึ้นได้ว่า หรือไปๆมาๆ คนทั้งโลกจะเข้าหาพระเจ้า แล้วพระอาณาจักรของพระองค์ก้อคือโลกเรานี่แหล่ะ
เอ๋ หรือผมเข้าใจผิดไปเอง ไม่ทราบในไบเบิ้ลเคยบอกมั้ยครับว่าพระอาณาจักรคือโลกเรานี่แหล่ะ ถ้าใช่ก็บังเอิญมากเพราะผมไม่เคยอ่านพระคัมภียร์เลยครับ
(พอดีพึ่งจะได้กระแสเรียกจากพระเจ้าครับ ผมดื้ออ่ะยอมรับ พระองค์ทรงเรียกตั้งแต่เด็กๆตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นรูปปั้นแล้วมั้ง ตั้งแต่นั้นมาก็ทรงมาเรื่อยๆ เดี๋ยวก็มาเป็นหนัง เดี๋ยวก็มาเป็นคน พอหลบมาเล่นเน็ท เข้าบอร์ดเล่นๆก็เจอบทสวดวันทามารีอาในลายเซ็นเพื่อน แล้วสุดท้ายมาเข้าบอร์ดเล่าเรื่องผี ดันมีคนพูดถึงวันอีสเตอร์เฉยเวย สุดท้ายก็เลยลองเสิร์ชหาแล้วก็มาเจอนิวมานานี่แหล่ะ ก็เลย เลยตามเลย ไม่หนีก็ได้ครับ ไม่หนีพระองค์อีกแล้ว)
เอ อยู่ๆก็พิมพ์ออกไป หรือนี่จะเป็นการทำงานของพระจิตเจ้า 555+



ว่าแต่ อ่านกันเหนื่อยมั้ยครับ อุตส่าห์พิมพ์ตั้งเยอะ อ่านกันหน่อยนะคร๊าบบบบบบบ

ปล. ลืมเรื่องสำคัญไปเลย เรื่องไดโนเสาร์หน่ะ ผมหมายถึงเรื่อง 7 วันคือ 7 ยุคนะครับ ไดโนเสาร์อาจอยู่ในยุคๆหนึ่งที่พระคัมภียร์ได้บอกอย่าง "ใบ้ๆ" ไว้แล้ว ก็แหม ลองพระองค์ทรงบอกตรงๆใครจะเชื่อหล่ะครับ
ก็คิดดูถ้าเราอ่านคัมภียร์ตอนนี้แล้วพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เราก็คงคิดว่า นี่มันอะไร แน่นอนครับ
แก้ไขล่าสุดโดย iBONT เมื่อ อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:55 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
iBONT
โพสต์: 310
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 06, 2007 1:22 pm
ที่อยู่: ระย๊อง ระยอง
ติดต่อ:

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:57 am

Joseph เขียน: พี่เคยได้ยินคนที่โดยผีเขานะครับ ผีมันบอกว่ามันอิจฉาพระเจ้า เพราะพรองค์ทรงสร้างสิ่งต่างๆ ได้อัศจรรย์ได้สวยงามมาก แต่มันทำไม่ได้ แล้วมันก็อิจฉามนุษย์ด้วยที่พระเจ้าทรงรักมนุษย์และให้สิทธิ์แก่มนุษย์ในการปกครองในสิ่งต่างๆ ที่พระองค์สร้าง ปีศาจโกรธแค้นมนุษย์มากนะครับ โดยเฉพาะมนุษย์ที่ได้รับการไถ่มันบอกว่า ไม่ยุติธรรมเลย แล้วมันบอก อิจฉาอาดัมและอีฟที่ได้รับความรอดด้วย

มาความคิดของพี่พระเจ้าสร้างในสิ่งที่ ปีศาจเองยังคิดไม่ถึง พระเจ้าสร้างโลก สร้างหลายสิ่งที่สวยงาม ไม่ว่าบนพื้นทะเล ใต้ทะเล บนบก ในป่า ภูเขา บนฟ้า ล้วนแต่เป็นสิ่งงดงามและอัศจรรย์ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ก่อนหน้านั้นถึงมนุษย์จะไมกำเนิดมาแค่งานสร้างก็อัศจรรย์พอแล้ว  ทั่งสวรรต์ชื่นชมในผลงานการสร้างของพระเจ้ารวมทั้งเจ้าปีศาจด้วย และไม่มีใครรู้ได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าสร้างมาทั้งหมดนั้นเพื่อเตรียบไว้ให้กับมนุษย์ และเมื่อมนุษย์บังเกิดมาพระองค์ก็ทรงยกสิ่งต่างๆ มาทั้งหมดให้กับมนุษย์ แม้แต่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาราก็ถูกนำมารับใช้นำทางมนุษย์ทั้งสิ้น จุดประสงค์ที่ประเจ้าสร้างขึ้นมาไม่ใช่ให้ใคร ให้เราเท่านั้น มนุษย์เท่านั้นแหละที่เป็นที่หนึ่ง เทวดาเองยังอดพูดไม่ได้ว่า "มนุษย์เป็นใครพระองค์ทรงเมตตามากเพียงนี้" เป็นแผ่นการที่พระเจ้าเตรียมไว้นานแล้วเพื่อเรา โดยที่ไม่มีใครที่จะขาดคิดได้มาก่อนแม่แต่ปีศาจ

และเมื่อปีศาจผจัญให้อาดัมมนุษย์ตกในบาป ก็ไม่มีใครคาดคิดอีกเช่นกันว่าพระเจ้าจะลงมาเป็นมนุษย์เสียเอง และตายอย่างน่าเกียจ ตกต่ำสุด ตายแบบไม่มีใครมองทุกคนก็หันหน้าหนีหมด และการตายของพระองค์นั้นเองก็ทำให้มนุษย์กลับคืนดีกับพระองค์ เป็นอะไรที่ไม่มีใครรู้หรือไปคาดคิดล่วงหน้าได้ ไม่ว่าปีศาจหรือเทวดา ถ้าพระเจ้าไม่เปิดเผยให้รู้
อืม เหมือนจะเคยดูในคอนสแตนติน แม้แต่เทวดายังรู้สึกว่า ทำไมพระองค์ทรงรักมนุษย์เช่นนี้
สำหรับผมคิดว่า เทวดาก็คงดีใจด้วยแหล่ะ ก็แหม พวกเขาเป็นผู้รับใช้พระเจ้านะ
แต่พวกลูกน้องซาตานและซาตานต่างหากที่อิจฉา ส่วนพวกเทวดากลับชื่นชม หุหุ

ดีใจจงพระองค์ทรงรัก
ตอบกลับโพส