เรื่อง Spiritual Exercises หนูยังมองไม่เห็นนะคะ แต่ "การพบพระในทุกสิ่ง" อันนี้ชัดมากจริงๆ...Buddy เขียน: พี่ว่า ของพ่อ De Mello นี่ เค้าเยซูอิตแบบ derivative นะ คือถ้าจะให้เห็นถึง Spiritual Exercises แบบโต้งๆเนี่ย จะมองยากหน่อย (เอาง่ายๆว่า มองไม่เห็นชีวิตพระเยซูเจ้าแบบตรงๆเลย) เพราะเค้าไปได้กลิ่นอายและปรีชาญาณจากที่ต่างๆมาเยอะ แต่ถ้าเห็นถึง "การพบพระในทุกสิ่ง" อันนั้นชัดมากกกกก![]()
โดยเฉพาะแนวคิดของเยสุอิตที่ว่า "บรรลุถึงจุดมุ่งหมายหมายสูงสุดโดยไม่จำกัดวิธี"
"ปราชญ์ชี้ไปที่พระจันทร์ คนโง่กลับเห็นแต่นิ้วมือ" (หนึ่งนาทีไร้สาระ หน้า 138)
"พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์เพื่อให้ถวายการสรรเสริญ เคารพเทิดทูน และรับใช้พระองค์ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ด้วยการกระทำดังกล่าวนี้วิญญาณจะได้รับความรอด พระเป็นเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกไว้ให้มนุษย์ใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เขาถูกสร้างมา เพราะเหตุนี้ มนุษย์จึงควรใช้สรรพสิ่งต่างๆ เท่าที่จะช่วยให้ตนบรรลุเป้าหมาย และหากสิ่งเหล่านั้นได้กลายเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายสุดท้ายของมนุษย์ เขาก็ควรจะเลิกผูกพันกับมันเสีย ดังนั้น เราต้องวางตนให้มีอุกเบกขากับบรรดาสรรพสิ่งทั้งปวง ในสิ่งที่เราจะเลือกได้ตามใจชอบและซึ่งมิได้เป็นสิ่งต้องห้าม โดยนัยนี้ ฝ่ายเราแล้วไม่ควรเลือกสุขภาพสมบูรณ์มากไปกว่าเจ็บไข้ ร่ำรวยมากกว่ายากไร้ มีเกียรติมากกว่าไร้เกียรติ ชีวิตยืนยาวมากกว่าสั้น และสิ่งอื่นใดก็เช่นเดียวกันหมด แต่เราควรปรารถนาและเลือกเฉพาะสิ่งที่จะเอื้อต่อการบรรลุถึงเป้าหมายที่เราได้ถูกสร้างมาให้มากที่สุด"
(นักบุญอิกญาซิโอ)
และนี่เองก็คือ "การพบพระในทุกสิ่ง" ค่ะ

หมายเหตุ: บทที่นักบุญอิกญาซิโอเขียนนั้น (ข้างบน) เป็นบทที่อยู่หมวดของพระธรรมนูญของคณะเยสุอิตค่ะ
สามารถเอาไปเป็นบทรำพึงได้ดีมากๆ เลยค่ะ

(งานนี้ ต้องขอขอบคุณเพื่อนของเท็นที่ส่งบทรำพึงนี้มาให้ มา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณนะจ๊าาาา)
อือมมมม โชคดีที่หนูยังไม่ถึงขั้นงงว่า "พระเจ้าคือใคร" 555+Buddy เขียน: ถ้าอ่านงานพ่อ De Mello หรือหนังสือศรัทธาใดๆก็ตาม ก็ควรต้องอ่านพระคัมภีร์ไปด้วย เพราะพ่อเค้าไปไกลแล้ว ไม่รู้ไปถึงไหนแล้วเพราะหัวใจเราคือการตามพระ มีชีวิตแบบพระเยซูเจ้า ถ้าเรายังไม่รู้จักพระองค์เพียงพอ ตามไปแบบนั้น วันนึงจะงงว่า แท้จริงแล้ว พระเจ้าคือใคร
เพราะงานของพ่อเค้าเนี่ย พระเจ้าเป็นความหมายที่กว้าง อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ ใครจะมองว่า ยังยึดติดกับรูปแบบก็ตาม เพราะยังไงก็เชื่อว่า พระเยซูเจ้าให้เรารู้จักพระองค์แบบนี้นี่นา
![]()
แต่สิ่งที่พี่บัดดี้พูด มันก็ทำให้หนูระลึกได้ว่า งานของคุณพ่อยังไม่เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นจะเป็นคริสตชน เพราะจะจับจุดไม่ได้ แล้วจะกลายเป็นอย่างที่พี่บัดดี้ว่า
ถ้าคนที่เริ่มต้นเป็นคริสตชนใหม่ ชอบอะไรแนวๆ นี้ (ประเภทนิทานหรือเรื่องเล่าชวนให้คิด)
แนะนำให้อ่าน "ขุมทรพย์ในภาชนะดินเผา" ดีกว่าค่ะ (ตอนนี้ออกมา 3 เล่มแล้วค่ะ)
เพราะคุณพ่อที่เขียน (นามปากกา-ปลัดนุ) เขาจะยกเอาข้อความในพระคัมภีร์มาประกอบการอธิบายเรื่องราวด้วย
เคยเอางานจาก "ขุมทรัพย์ในภาชนะดินเผา" มาลงไว้เหมือนกัน ลองอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=9059.0
(โฆษณาหนังสืออีกแล้ว เหะๆ

แต่ถ้าใจร้อนนี่ ไม่ได้เลยนะคะBuddy เขียน: แต่ในแง่ของการฝึกจิตนั้น "ดี" ค่ะ น่ารำพึงตาม เพราะงานเขียนของพ่อเค้าจะ move ให้เราภาวนาได้ดี

คือบางทีอ่านผ่านๆ มันก็สนุก แต่ว่าเราจะ "พลาด" ความหมายหรือสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อออกมาจริงๆ...
บอกตามตรงค่ะ ว่า อ่านบางเรื่อง ถึงตอนนี้ ก็ยังงงๆ อยู่ 555+ สงสัยต้องรอรับศีลกำลังก่อน

อือม เท็นคิดว่า แม้เราจะรู้จักและเข้าใจพระองค์มากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีความศรัทธา มันก็เท่านั้นBuddy เขียน: พี่ว่า การรู้จักและเข้าใจพระเป็นเจ้า ไม่สำคัญเท่ากับการตามพระองค์นะ ว่ามั้ย![]()