+++โป๊ปชวนใช้โทษบาปมหาพรตด้วยการอดอาหารละทิ้งความเห็นแก่ตัว+++
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 04, 2009 3:25 am
โป๊ปชวนใช้โทษบาปมหาพรตด้วยการอดอาหารละทิ้งความเห็นแก่ตัว
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงระบุในสารมหาพรต ด้วยการเชิญชวนคริสตังพลีกรรมอดอาหาร เพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระและเอาชนะความเห็นแก่ตัว ชี้ชัด คริสตังต้องทำความเข้าใจกับการอดอาหารในเทศกาลมหาพรตให้ถูกต้อง เพราะนี่ไม่ใช่แฟชั่นทางโลกที่อดเพื่อให้ร่างกายดูผอมเพรียวหุ่นดีแต่อย่างใด
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขผู้รักความปรองดองแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงออกสารมหาพรต 2009 แล้ว โดยมีหัวข้อว่า "พระเยซูทรงอดอาหาร 40 วัน 40 คืน จากนั้น พระองค์ทรงหิว" (มธ. 4:2) เนื้อหาหลักของสารนี้ พระสันตะบิดาเจ้าทรงอธิบายความหมายที่ถูกต้องของการอดอาหารตามแบบฉบับผู้มีความเชื่อ นั่นคือ อดอาหารเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดา มิใช่การอดเพื่อให้รูปร่างสวยงามตามกระแสนิยม (คลิกที่นี่ เพื่อชมคลิปงานแถลงข่าวเปิดตัวสารมหาพรต 2009 http://uk.youtube.com/watch?v=IfXlbOSCb ... annel_page )
พระสันตะปาปา ทรงระบุในสารว่า "ในโลกยุคปัจจุบัน การอดอาหารดูคล้ายกับว่าได้สูญเสียบางอย่างซึ่งมีความหมายทางจิตใจไปแล้ว โลกยุคนี้ ทำให้การอดอาหารกลายเป็นวัฒนธรรมที่ถูกใช้เพื่อแสวงหารูปร่างงดงาม และยังเป็นค่านิยมที่ใช้ในการรักษาโรคเพื่อดูแลร่างกายอีกด้วย แน่นอนว่า การอดอาหารนำประโยชน์มากมายมาให้กับรูปร่างที่สวยงาม แต่สำหรับผู้มีความเชื่อ สิ่งสำคัญสุดของการอดอาหารก็คือการบำบัดรักษา เพื่อช่วยเหลือคนที่ไม่ยอมทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า"
"ฉะนั้น เทศกาลมหาพรตจึงเป็นโอกาสอันดีที่ความหมายแท้จริงของการอดอาหารจะได้รับการรื้อฟื้นอีกครั้ง การอดอาหารจะช่วยบำเพ็ญทุกรกิริยาต่อต้านความเห็นแก่ตัว และยังช่วยเปิดใจของเราให้รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ สิ่งนี้ (รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์) คือบัญญัติเอกและบัญญัติแรกตามที่พระเยซูทรงสอน (มธ. 22:33-40) ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกตนแบบผู้มีความเชื่อด้วยการอดอาหาร ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดความเป็นหนึ่งในตัวบุคคล ร่างกาย จิตวิญญาณ และยังช่วยให้หลีกหนีจากบาปและเพิ่มพูนความใกล้ชิดกับพระมากยิ่งขึ้น"
"ในพระคัมภีร์และประเพณีทางคริสตศาสนา สอนว่า การอดอาหารคือความช่วยเหลือชั้นยอดที่ทำให้หลีกหนีจากบาปและสิ่งต่างๆที่จะนำเราไปหามัน ด้วยเหตุนี้เอง ประวัติศาสตร์แห่งความรอดจึงเต็มไปด้วยโอกาสมากมายที่เชิญเราให้อดอาหาร ในหน้าแรกๆของพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงสั่งมนุษย์อย่ากินผลไม้ต้องห้ามเด็ดขาด ส่วนพันธสัญญาใหม่ พระเยซูทรงชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายเชิงลึกของการอดอาหาร พร้อมทั้งประณามทัศนคติของพวกฟาริสีที่ทำเป็นเคร่งครัดตามธรรมบัญญัติ แต่หัวใจของพวกเขาช่างห่างไกลจากพระเจ้าเหลือเกิน พระอาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์สอนเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การอดอาหารที่แท้จริงคือการทำตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าบนสวรรค์ นั่นเอง" พระสันตะปาปา ระบุในช่วงท้ายๆของสาร
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!4957.entry
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงระบุในสารมหาพรต ด้วยการเชิญชวนคริสตังพลีกรรมอดอาหาร เพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระและเอาชนะความเห็นแก่ตัว ชี้ชัด คริสตังต้องทำความเข้าใจกับการอดอาหารในเทศกาลมหาพรตให้ถูกต้อง เพราะนี่ไม่ใช่แฟชั่นทางโลกที่อดเพื่อให้ร่างกายดูผอมเพรียวหุ่นดีแต่อย่างใด
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขผู้รักความปรองดองแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงออกสารมหาพรต 2009 แล้ว โดยมีหัวข้อว่า "พระเยซูทรงอดอาหาร 40 วัน 40 คืน จากนั้น พระองค์ทรงหิว" (มธ. 4:2) เนื้อหาหลักของสารนี้ พระสันตะบิดาเจ้าทรงอธิบายความหมายที่ถูกต้องของการอดอาหารตามแบบฉบับผู้มีความเชื่อ นั่นคือ อดอาหารเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดา มิใช่การอดเพื่อให้รูปร่างสวยงามตามกระแสนิยม (คลิกที่นี่ เพื่อชมคลิปงานแถลงข่าวเปิดตัวสารมหาพรต 2009 http://uk.youtube.com/watch?v=IfXlbOSCb ... annel_page )
พระสันตะปาปา ทรงระบุในสารว่า "ในโลกยุคปัจจุบัน การอดอาหารดูคล้ายกับว่าได้สูญเสียบางอย่างซึ่งมีความหมายทางจิตใจไปแล้ว โลกยุคนี้ ทำให้การอดอาหารกลายเป็นวัฒนธรรมที่ถูกใช้เพื่อแสวงหารูปร่างงดงาม และยังเป็นค่านิยมที่ใช้ในการรักษาโรคเพื่อดูแลร่างกายอีกด้วย แน่นอนว่า การอดอาหารนำประโยชน์มากมายมาให้กับรูปร่างที่สวยงาม แต่สำหรับผู้มีความเชื่อ สิ่งสำคัญสุดของการอดอาหารก็คือการบำบัดรักษา เพื่อช่วยเหลือคนที่ไม่ยอมทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า"
"ฉะนั้น เทศกาลมหาพรตจึงเป็นโอกาสอันดีที่ความหมายแท้จริงของการอดอาหารจะได้รับการรื้อฟื้นอีกครั้ง การอดอาหารจะช่วยบำเพ็ญทุกรกิริยาต่อต้านความเห็นแก่ตัว และยังช่วยเปิดใจของเราให้รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ สิ่งนี้ (รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์) คือบัญญัติเอกและบัญญัติแรกตามที่พระเยซูทรงสอน (มธ. 22:33-40) ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกตนแบบผู้มีความเชื่อด้วยการอดอาหาร ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดความเป็นหนึ่งในตัวบุคคล ร่างกาย จิตวิญญาณ และยังช่วยให้หลีกหนีจากบาปและเพิ่มพูนความใกล้ชิดกับพระมากยิ่งขึ้น"
"ในพระคัมภีร์และประเพณีทางคริสตศาสนา สอนว่า การอดอาหารคือความช่วยเหลือชั้นยอดที่ทำให้หลีกหนีจากบาปและสิ่งต่างๆที่จะนำเราไปหามัน ด้วยเหตุนี้เอง ประวัติศาสตร์แห่งความรอดจึงเต็มไปด้วยโอกาสมากมายที่เชิญเราให้อดอาหาร ในหน้าแรกๆของพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงสั่งมนุษย์อย่ากินผลไม้ต้องห้ามเด็ดขาด ส่วนพันธสัญญาใหม่ พระเยซูทรงชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายเชิงลึกของการอดอาหาร พร้อมทั้งประณามทัศนคติของพวกฟาริสีที่ทำเป็นเคร่งครัดตามธรรมบัญญัติ แต่หัวใจของพวกเขาช่างห่างไกลจากพระเจ้าเหลือเกิน พระอาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์สอนเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การอดอาหารที่แท้จริงคือการทำตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าบนสวรรค์ นั่นเอง" พระสันตะปาปา ระบุในช่วงท้ายๆของสาร
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!4957.entry
