หน้า 1 จากทั้งหมด 1

วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 04, 2009 6:40 pm
โดย luk
: xemo028 :
เมื่อถึงวันสิ้นโลกมันจะเปงยังไงเหรอ
คนที่ไม่ได้นับถือพระเจ้าจะตกนรกปะ : xemo023 :

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 04, 2009 8:40 pm
โดย ดานุ้งพุงระเบิด
ไม่รู้ครับเพราะยังมาไม่ถึง

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 04, 2009 11:10 pm
โดย Jeab Agape
luk เขียน: : xemo028 :
เมื่อถึงวันสิ้นโลกมันจะเปงยังไงเหรอ
คนที่ไม่ได้นับถือพระเจ้าจะตกนรกปะ : xemo023 :
เมื่อมาถึงแล้วจะรู้เองครับ  เตรียมตัวดีๆก็แล้วกัน :grin:

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 05, 2009 3:21 pm
โดย siriya
ตามที่ได้เรียนมา  เขาบอกว่าพระเจ้าจะจัดเตรียมทางไว้สำหรับพวกที่ไม่รู้จักพระองค์

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 1:33 pm
โดย (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
สวดสายประคำรอค่ะ : emo045 :

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 3:28 pm
โดย Batholomew
ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นยังไง จงตื่นเฝ้าครับ ::004::

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 11:44 am
โดย yack
ไม่มีใครรู้หรอว่าวันนั้นจะมาเมื่อไหร่เเต่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ  ::011::
ไม่เเน่นะอาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้เพราะฉะนั้นรีบทำความดีซะ  ::015::
จะได้รอดพ้นจากการลงโทษ ::011::

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 11:57 pm
โดย ~@Little lamb@~
มธ 6:34

“เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว”

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 13, 2009 4:13 am
โดย 13PM.
เมื่อวันนั้นมาถึงพวกเราทุกคนจะถูกตัดสิน คนตายจะกลับคืนชี่บรับฟังคำพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย คนดีจะถูกแยกกับคนเลวเสมือนแกะขาวแกะดำ มีแต่คนที่เชื่อในพระเจ้าเท่านั้นที่จะได้เข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์ คนบาปจะต้องอย่ในเปลวไฟ

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 5:25 pm
โดย Cecilia_PEAR
........ ::008:: ...จากนี้จงเตรียมตัว...... เตรียมจายยยย ..........

ทำชีวิตให้มีค่า ....... ::008::  สวดภาวนารอพระองค์

ลูกๆ...รอพระองค์อยู่ .................. : emo027 :

Re: วันสิ้นโลกเป็นไง

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 11:33 pm
โดย Joseph
ข้อพระคัมภีร์

1 พระเยซูตรัสแก่เขาเป็นคำอุปมาอีกว่า  2"อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนกษัตริย์องค์หนึ่ง ซึ่งได้จัดพิธีอภิเษกมเหสีสำหรับราชโอรสของท่าน 3แล้วใช้พวกผู้รับใช้ไปตามผู้ที่รับเชิญมาในการอภิเษกนั้น แต่เขาไม่ใคร่จะมา 4ท่านยังใช้พวกผู้รับใช้อื่นไปอีก รับสั่งว่า `ให้บอกผู้รับเชิญนั้นว่า ดูเถิด เราได้จัดการเลี้ยงไว้แล้ว วัวและสัตว์ขุนแล้วของเราก็ฆ่าไว้เสร็จ สิ่งสารพัดก็เตรียมไว้พร้อม จงมาในพิธีอภิเษกนี้เถิด' 5แต่เขาก็เพิกเฉยและไปเสีย คนหนึ่งไปไร่นาของตน อีกคนหนึ่งก็ไปทำการค้าขาย 6ฝ่ายพวกนอกนั้นก็จับพวกผู้รับใช้ของท่าน ทำการอัปยศต่างๆแล้วฆ่าเสีย 7แต่ครั้นกษัตริย์องค์นั้นได้ยินแล้ว ท่านก็ทรงพระพิโรธ จึงรับสั่งให้ยกกองทหารไป ปราบปรามผู้ฆ่าคนเหล่านั้น และให้เผาเมืองเขาเสีย 8แล้วท่านจึงรับสั่งแก่พวกผู้รับใช้ของท่านว่า `งานสมรสก็พร้อมอยู่ แต่ผู้รับเชิญนั้นไม่สมกับงาน 9 เหตุฉะนั้น จงออกไปตามทางหลวง พบใครๆก็ให้เชิญมาในงานนี้' 10พวกผู้รับใช้จึงออกไปเชิญคนทั้งปวงตามทางหลวงแล้วแต่จะพบ ให้มาทั้งดีและชั่วจนห้องโถงงานอภิเษกนั้นเต็มด้วยแขก 11แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จทอดพระเนตรแขก ก็เห็นผู้หนึ่งมิได้สวมเสื้อสำหรับงาน 12 ท่านจึงรับสั่งถามเขาว่า `สหายเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานสมรส' ผู้นั้นก็นิ่งอยู่พูดไม่ออก 13กษัตริย์จึงรับสั่งแก่พวกผู้รับใช้ว่า `จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปทิ้งเสียที่มืดภายนอก ที่นั่นจะมีการร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน' 14 ด้วยผู้รับเชิญก็มาก แต่ผู้ที่ทรงเลือกก็น้อย"
(มักธิว 22: 1-4)

เดิมชนชาติอิสราเอลผู้ที่พระเจ้าเชิญแล้วถูกเลือกแต่เขาไม่ยอมรับพระเยซู ดังนั้นพระเจ้าจึงไปเชิญคนทุกชนขาติทุกภาษาให้ได้รับความรอดโดยไม่แบงแยกว่าเป็นชาติใด แต่ก็มีคนต่างชาติหลายๆ คนเห็นคุณค่าของการไถ่จึงกลับใจติดตามพระองค์ แล้วก็มีอีกหลายๆ คนไม่เห็นคุณค่ากลับดูถูกเหยียบย่ำการหวังดีและการทรมานของพระองค์

ส่วนงานสมรสคืองานสมรสระหว่างพระคริสต์กับพระศาสนจักรของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นเจ้าบ่าวส่วนพระศาสนาจักรทรงเป็นเจ้าสาว แล้วพวกเราคือผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมงาน ในงานเลี้ยงดังนั้นจงยินดีที่เราทั้งหลายได้รับการเลือก

23เพราะสามีเป็นศีรษะของภรรยาเหมือนพระคริสตเจ้าทรงเป็นพระเศียรของพระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยพระศาสนจักรซึ่งเป็นพระกายให้รอดพ้น  (เอเฟซัส 5:23)

ส่วนพิธีสมรสคือการร่วมสองบุคลเข้าด้วยกันคือ การร่วมระหว่างพระคริสต์กับพระศาสนาจักรเข้าด้วยกัน

7ขอให้เราทั้งหลายร่าเริงยินดีและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะว่าถึงเวลามงคลสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และมเหสีของพระองค์ได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว 8และทรงโปรดให้เธอสวมผ้าป่านเนื้อละเอียด สะอาดและขาว เพราะผ้าป่านเนื้อละเอียดนั้นเป็นความชอบธรรมของพวกวิสุทธิชน" 9และทูตสวรรค์องค์นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า "จงเขียนไว้เถิดว่า ความสุขมีแก่คนทั้งหลายที่ได้รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก" และท่านบอกข้าพเจ้าว่า "ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระดำรัสแท้ของพระเจ้า" 10แล้วข้าพเจ้าได้ทรุดตัวลงแทบเท้าของท่านเพื่อจะนมัสการท่าน แต่ท่านได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า "อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เหมือนกับท่าน และพวกพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด เพราะว่าคำพยานของพระเยซูนั้นเป็นหัวใจของการพยากรณ์" (วิวรณ์ 19:7-10)