หน้า 1 จากทั้งหมด 2

+++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 5:49 pm
โดย Holy
The Blessed Virgin Mary has appeared, and given messages, to six Croatian youths in the village of Medjugorje, Bosnia-Herzegovina, since 1981. The Church acknowledges this village to be a sanctuary of prayer. At Medjugorje Catholics and non-believers have found their way to God, and many have experienced conversion and healing. Medjugorje has been described as “a place where it is very easy to turn to God and to start a new spiritual life.”

แม่พระได้ประจักษ์มาและมอบสารให้แก่เด็กชาวโครเอเชีย 6 คนที่หมู่บ้านเมดจูกอร์เร ประเทศบอสเนีย เฮอร์เซโกวีนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 พระศาสนจักรยอมรับว่าเมดจูกอร์เรเป็นสักการะสถานแห่งการภาวนา ผู้คนที่ไปที่นั้นมีทั้งคาทอลิกและคนต่างศาสนา ต่างได้พบหนทางในการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า หลายคนกลับใจและได้รับพระพรในการรักษา มีคนพูดถึงหมุ่บ้านเมดจูกอร์เรว่า “เป็นสถานที่ที่สามารถหันหน้าเข้าหาพระเจ้าได้โดยง่ายและเริ่มต้นชีวิตฝ่ายจิตใหม่ ”

รูปภาพ









A Spiritual Journey สนิทกับพระเยซู
with Mary to Jesus รู้ใจแม่พระ


Thursday 19th March 2009 พฤหัสบดี 19 มีนาคม 2009
6.15p.m.- Cenacle Prayers and Benediction 18.15 น.– สวดซีเนเกิ้ลและอวยพรศีลมหาสนิท
7p.m.- Talk 1: Take the Hand of Your Mother 19.00น. – จงวางใจให้แม่นำทาง
9p.m.- Closing prayer 21.00 น. – สวดปิด

Friday 20th March 2009 ศุกร์ 20 มีนาคม 2009
6.15p.m. - Cenacle Prayers and Benediction 18.15 น.– สวดซีเนเกิ้ลและอวยพรศีลมหาสนิท
7p.m.–Talk 2: Let Her Heal You from Emptiness 19.00น.– อย่ารู้สึกว่างเปล่าอีกเลย จงมาหาแม่เถิด....
9p.m.– Closing prayer 21.00 น. – สวดปิด

Saturday 21st March 2009 เสาร์ 21 มีนาคม 2009
Thai translation whole day Saturday. วันเสาร์มีแปลเป็นภาษาไทย

9a.m. – Welcome with Opening Prayer 9.00 น. - ต้อนรับด้วยการภาวนาเปิด
9.15a.m. - Talk 3: How to Protect Your Family 9.15 น. - วิธีคุ้มครองครอบครัวให้พ้นภัย
- Short break - พัก
11.15a.m.- Eucharistic Celebration 11.15 น. - พิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ
12noon - Lunch 12.00 น.- อาหารเที่ยง
1.30p.m .- Talk 4: Prayer Obtains Everything 13.30 น. - การภาวนาพิชิตทุกสิ่ง
3p.m. - Break with snacks 15.00 น. –พักทานอาหารว่าง
3.30p.m. - Talk 5 : Your Suffering is Also Mine 15.30 น. - ความทุกข์ของลูกคือความทุกข์ของแม่
4.30p.m. - Thank You with Closing Prayer 16.30 น. – ขอบคุณด้วยการภาวนาปิด


By Sr.Emmanuel
โดยซิสเตอร์เอ็มมานูแอล
From Medjugorje
จากเมืองเมดจูกอร์เร


At Holy Redeemer Church
Soi Ruamrudee, Ploenchit, Bangkok
ที่วัดพระมหาไถ่ ซ.ร่วมฤดี เพลินจิต กรุงเทพฯ



ALL ARE WELCOME. FREE ADMISSION.
ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ



Facilitated by the Marian Movement of Priests (MMP) and Servants of the Holy Redeemer (SHR)
Contact : Fr.Michael Picharn Jaiseri 081 8414823, Arnold Itao 086 0081187, Susan Santiago 089 0696445,
Maria Rufli 081 3823821, Emma Daengsvang 081 8302454, Church rectory 02 2566157


[hr]

Sr. Emmanuel Maillard was born in France in 1947 and graduated from Sorbonne University, Paris in 1970. God saved her from suicide and despair, and led her to religious vows in the Beatitudes Community and eventually to a call to Medjugorje in 1989. Her apostolate has broadened as her books have been translated into 22 languages, and she has traveled widely to make Medjugorje known. She evangelizes with Our Lady's messages of peace. She also facilitates conversations with the visionaries. Today, she says the greatest grace given to her is her connection through her apostolate “Children of Medjugorje,” to thousands of lay people around the world.

รูปภาพ


ซิสเตอร์เอ็มมานูแอล เมลลาร์ด เกิดที่ฝรั่งเศสเมื่อปี 1947 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Sorbonne นครปารีสในปี 1970 พระเจ้าได้ช่วยเหลือเธอให้พ้นจากการฆ่าตัวตายและความผิดหวัง นำเธอให้เข้าเป็นนักบวชในคณะ Beatitudes และเรียกเธอให้ไปตั้งอารามที่หมู่บ้านเมดจูกอร์เรตั้งแต่ปี 1989 งานแพร่ธรรมของเธอมีมากมายดังเช่นหนังสือศรัทธาที่เธอเขียนซึ่งถูกแปลถึง 22 ภาษา และเธอมีโอกาสเดินทางไปทั่วโลกเพื่อประกาศเรื่องเมดจูกอร์เรให้เป็นที่รู้จัก เธอแพร่ธรรมโดยใช้สารแห่งสันติภาพของแม่พระ เธอมีโอกาสสนทนากับผู้ที่ได้เห็นการประจักษ์เป็นประจำ ทุกวันนี้เธอกล่าวถึงพระพรพิเศษที่เธอได้รับคือการทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมโยง “เด็กๆ ที่เห็นการประจักษ์ ณ เมดจูกอร์เร” กับผู้คนนับพันนับหมื่นจากทั่วโลก

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 5:54 pm
โดย antoinetty*
ว้าว ๆ ,, ขอรายละเอียดเพิ่มหน่อยครับ ,,

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 10:12 pm
โดย Batholomew
น่าสนใจไปมาก ๆ ครับ ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 11:58 pm
โดย Viridian
สวดซีเนเกิ้ลคืออะไรหรอคะ :rolleyes:

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 25, 2009 4:47 pm
โดย ignatius
น่าสนใจมากคะ แล้วเราควรจะเตรียมตัวอย่างไรก่อนบ้างคะ : emo027 :

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:24 am
โดย Buddy
Viridian เขียน: สวดซีเนเกิ้ลคืออะไรหรอคะ :rolleyes:
เป็นการภาวนาเพื่อพระสงฆ์ของกลุ่ม Marian Movement of Priests (MMP) น่ะค่ะ

http://avemaria.org/cenacle.html
ignatius เขียน: น่าสนใจมากคะ แล้วเราควรจะเตรียมตัวอย่างไรก่อนบ้างคะ : emo027 :
ไม่ต้องเตรียมอะไรไปค่ะ  ::001:: เปิดใจแล้วไปฟังค่ะ  แต่ถ้าอยากเตรียม  ก็เตรียมอ่านสารแม่พระที่เมดจูกอเรจ์นะคะ  อันนี้ล่าสุดของวันที่ 25 กพ 2009 ค่ะ

Message of February 25, 2009 

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 7:26 am
โดย ignatius
Buddy เขียน:
Viridian เขียน: สวดซีเนเกิ้ลคืออะไรหรอคะ :rolleyes:
เป็นการภาวนาเพื่อพระสงฆ์ของกลุ่ม Marian Movement of Priests (MMP) น่ะค่ะ

http://avemaria.org/cenacle.html
ignatius เขียน: น่าสนใจมากคะ แล้วเราควรจะเตรียมตัวอย่างไรก่อนบ้างคะ : emo027 :
ไม่ต้องเตรียมอะไรไปค่ะ  ::001:: เปิดใจแล้วไปฟังค่ะ  แต่ถ้าอยากเตรียม  ก็เตรียมอ่านสารแม่พระที่เมดจูกอเรจ์นะคะ  อันนี้ล่าสุดของวันที่ 25 กพ 2009 ค่ะ

Message of February 25, 2009 

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 1:39 pm
โดย Viridian
Buddy เขียน:
Viridian เขียน: สวดซีเนเกิ้ลคืออะไรหรอคะ :rolleyes:
เป็นการภาวนาเพื่อพระสงฆ์ของกลุ่ม Marian Movement of Priests (MMP) น่ะค่ะ

http://avemaria.org/cenacle.html
ขอบคุณพี่บัดดี้มากค่ะ ::011::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 10:07 pm
โดย Buddy
ถ้ามีโอกาสไปได้  ก็อยากให้ไปเยอะๆนะคะ  หัวข้อที่มาพูด  อาจไม่มีอะไร  ดูธรรมด๊า ธรรมดา  สารแม่พระก็เหมือนกัน  ไม่ได้มีอะไรใหม่เลย เป็นเรื่องที่เราเคยเรียน เคยรู้มาแล้วทั้งนั้น  แต่ถามว่า  ทำได้กันแค่ไหน  ::001::

และหลายคนก็อาจสงสัยเรื่องการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ว่า  ยังไม่ได้รับการรับรอง  แต่เชื่อเถอะค่ะว่า  คนที่เคยมีประสบการณ์สิ้นหวังอย่างที่สุดแล้วพระช่วยกลับมาได้เนี่ย  เค้าจะมีอะไรแบ่งปันให้เราเยอะมาก  ถึงไม่เชื่อเรื่องการประจักษ์  แต่คนมาพูดเอง (Sr. Emmanuel) น่าสนใจมากค่ะ  ::001::  ที่สำคัญ  ฟรีอีกต่างหาก  ::011::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 7:52 pm
โดย Like a Heaven
แจ่มครับ

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 13, 2009 7:57 am
โดย Buddy
อาทิตย์หน้าแล้วนะคะ  ดึงขึ้นมาเตือนความจำอีกรอบค่ะ  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 13, 2009 8:41 am
โดย ignatius
Buddy เขียน: อาทิตย์หน้าแล้วนะคะ  ดึงขึ้นมาเตือนความจำอีกรอบค่ะ   ::001::
ขอบคุณคะ น้องส้ม ที่มาเตือนความจำ
แต่พี่คงไปไม่ได้  : xemo023 : เพราะพี่ต้องไปอบรม "ผู้ประกาศข่าวดี" ในวันศุกร์ที่ 20-วันอาทิตย์ที่ 22 น่ะคะ  ::003::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 13, 2009 9:51 am
โดย Buddy
ignatius เขียน:
Buddy เขียน: อาทิตย์หน้าแล้วนะคะ  ดึงขึ้นมาเตือนความจำอีกรอบค่ะ   ::001::
ขอบคุณคะ น้องส้ม ที่มาเตือนความจำ
แต่พี่คงไปไม่ได้  : xemo023 : เพราะพี่ต้องไปอบรม "ผู้ประกาศข่าวดี" ในวันศุกร์ที่ 20-วันอาทิตย์ที่ 22 น่ะคะ   ::003::


เย็นพฤหัสไงคะ  ::001::

นานๆจะหาโอกาสว่างแบบ 5 weekends ติดกันได้แบบนั้น ก็ไปอบรมเถอะค่ะ...  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 13, 2009 10:22 am
โดย ignatius
Buddy เขียน:
ignatius เขียน:
Buddy เขียน: อาทิตย์หน้าแล้วนะคะ  ดึงขึ้นมาเตือนความจำอีกรอบค่ะ   ::001::
ขอบคุณคะ น้องส้ม ที่มาเตือนความจำ
แต่พี่คงไปไม่ได้  : xemo023 : เพราะพี่ต้องไปอบรม "ผู้ประกาศข่าวดี" ในวันศุกร์ที่ 20-วันอาทิตย์ที่ 22 น่ะคะ   ::003::


เย็นพฤหัสไงคะ   ::001::

นานๆจะหาโอกาสว่างแบบ 5 weekends ติดกันได้แบบนั้น ก็ไปอบรมเถอะค่ะ...   ::001::
งั้น..พี่คงต้องไปได้แต่เย็นวันพฤหัส น่ะคะ เพราะ อบรม"ผู้ประกาศ"มีศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตลอดเดือนมีนาคม ::010::
และ ช่วงวันที่ 17-19 เมษายน ด้วย..
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=9926.0

อืม..ยังไง ได้ไม่ทั้งหมดทุกวัน แต่ก็คงยังดีกว่า ไม่รู้อะไรเลย เน๊อะ  : emo010 :
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 13, 2009 10:24 pm
โดย Buddy
ignatius เขียน:
Buddy เขียน:
ignatius เขียน: ขอบคุณคะ น้องส้ม ที่มาเตือนความจำ
แต่พี่คงไปไม่ได้  : xemo023 : เพราะพี่ต้องไปอบรม "ผู้ประกาศข่าวดี" ในวันศุกร์ที่ 20-วันอาทิตย์ที่ 22 น่ะคะ   ::003::


เย็นพฤหัสไงคะ   ::001::

นานๆจะหาโอกาสว่างแบบ 5 weekends ติดกันได้แบบนั้น ก็ไปอบรมเถอะค่ะ...   ::001::
งั้น..พี่คงต้องไปได้แต่เย็นวันพฤหัส น่ะคะ เพราะ อบรม"ผู้ประกาศ"มีศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตลอดเดือนมีนาคม ::010::
และ ช่วงวันที่ 17-19 เมษายน ด้วย..
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=9926.0

อืม..ยังไง ได้ไม่ทั้งหมดทุกวัน แต่ก็คงยังดีกว่า ไม่รู้อะไรเลย เน๊อะ  : emo010 :
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  ::001::
หนักเลยนะคะ... หลายงาน  ::001::

คิดว่า ถ้าไปฟังซิสเตอร์พูด สิ่งที่จะได้เห็นก่อนไปอบรม ก็คงเป็นตัวอย่างของการเป็นผู้ประกาศน่ะค่ะ มันจะมีหลายอย่างในตัวเค้าที่เค้าไม่ได้พูดออกมา แต่เราจะเห็นและก็สะกิดใจเรา  ::001::

พระอวยพรนะคะ  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 15, 2009 8:15 am
โดย Buddy
มีคลิปวิดิโอมาให้ดูค่ะ  ::001::

http://www.youtube.com/watch?v=h2ggkm7kvEI

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 16, 2009 4:38 pm
โดย ignatius
Buddy เขียน: มีคลิปวิดิโอมาให้ดูค่ะ  ::001::

http://www.youtube.com/watch?v=h2ggkm7kvEI
ขอบคุณมากคะ  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 18, 2009 11:12 pm
โดย Batholomew
พรุ่งนี้แล้วนะครับ : emo027 :

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 19, 2009 3:08 am
โดย Buddy
--------------------------------
Annual Apparition To Mirjana - March 18, 2009 The visionary Mirjana Dragicevic-Soldo had daily apparitions from June 24th 1981 to December 25th 1982. During the last daily apparition, Our Lady gave her the 10th secret, and told her that she would appear to her once a year, on the 18th of March. It has been this way through the years. Several thousand pilgrims gathered in prayer of the Rosary at the 'Blue Cross'. The apparition lasted from 13:52 to 13:58.
--------------------------------

การประจักษ์ประจำปีของแม่พระที่มีต่อมารีอานา - 18 มิย 2009 แม่พระประจักษ์มาหามารีอานาทุกวัน ตั้งแต่ 24 มิย 1981 - 25 ธค 1982 ในการประจักษ์ครั้งสุดท้าย แม่พระได้ให้ความลับข้อที่ 10 แก่เธอ และบอกว่า ต่อไปจะมาหาทุกวันที่ 18 มิย ของทุกปี ซึ่งเป็นแบบนี้ต่อเนื่องมาหลายปี ในครั้งนี้ผู้แสวงบุญหลายพันคนมาร่วมกันสวดสายประคำที่กางเขนสีฟ้า การประจักษ์เริ่มเมื่อ 13.52 น. จนถึง 13.58 น.
-----------------------------------

Dear children! Today I call you to look into your hearts sincerely and for a long time. What will you see in them? Where is my Son in them and where is the desire to follow me to Him? My children, may this time of renunciation be a time when you will ask yourself: 'What does my God desire of me personally? What am I to do?' Pray, fast and have a heart full of mercy. Do not forget your shepherds. Pray that they may not get lost, that they may remain in my Son so as to be good shepherds to their flock.

Our Lady looked at all those present and added: Again I say to you, if you knew how much I love you, you would cry with happiness. Thank you.

ลูกที่รัก วันนี้แม่เรียกลูกๆทุกคนมาเพื่อที่จะให้ลูกๆได้มองเข้าไปในจิตใจของพวกลูกทุกคนอย่างซื่อๆและมองนานๆ พวกลูกเห็นอะไรในนั้นบ้าง มีพระบุตรอยู่ในนั้นบ้างมั้ย และมีความปรารถนาที่จะเดินตามพระองค์บ้างรึเปล่า ลูกที่รัก ขอให้ช่วงเวลาแห่งการอดนี้ เป็นช่วงเวลาที่ลูกจะได้ถามตนเองว่า พระเป็นเจ้าปรารถนาอะไรในตัวลูกเป็นพิเศษ และลูกจะต้องทำอะไร จงสวด จงอดอาหาร และมีหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา อย่าลืมนายชุมพาบาลของพวกลูก จงสวดให้ท่านเหล่านั้นอย่าได้หลงไป ให้ท่านได้ชิดสนิทกับพระบุตรของแม่ เพื่อที่ท่านเหล่านั้นจะได้เป็นนายชุมพาบาลที่ดีของฝูงแกะ 

จากนั้นแม่พระก็มองไปที่ลูกๆที่อยู่ที่นั่นแล้วพูดต่อว่า: แม่จะพูดอีกครั้งนึงว่า ถ้าลูกรู้ว่า แม่รักลูกแค่ไหน ลูกจะร้องออกมาด้วยความสุข ขอบคุณลูกทุกคน

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 19, 2009 8:00 pm
โดย Buddy
ถ้าใครได้ไป ช่วยรายงานด้วยนะคะว่า สวดซีนาเกิ้ลเป็นภาษาอะไร มีคนฝากถามค่ะ  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 19, 2009 11:13 pm
โดย Batholomew
Buddy เขียน: ถ้าใครได้ไป ช่วยรายงานด้วยนะคะว่า สวดซีนาเกิ้ลเป็นภาษาอะไร มีคนฝากถามค่ะ  ::001::
เป็นภาษาอังกฤษครับ แต่สวดสายประคำนะครับ ไม่ได้สวดซีนาเกิ้ล

สวดสายประคำแบบก่อเป็นอังกฤษ รับเป็นไทยอีกต่างหากนะครับ

แต่วันนี้ภาษาอังกฤษล้วนครับ ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 20, 2009 10:30 pm
โดย Viridian
Batholomew เขียน:
Buddy เขียน: ถ้าใครได้ไป ช่วยรายงานด้วยนะคะว่า สวดซีนาเกิ้ลเป็นภาษาอะไร มีคนฝากถามค่ะ  ::001::
เป็นภาษาอังกฤษครับ แต่สวดสายประคำนะครับ ไม่ได้สวดซีนาเกิ้ล

สวดสายประคำแบบก่อเป็นอังกฤษ รับเป็นไทยอีกต่างหากนะครับ

แต่วันนี้ภาษาอังกฤษล้วนครับ ::001::
ช่าย...ภาษาอังกฤษล้วนเลย...

แต่วันนี้ (วันศุกร์) ไม่ได้สวดสายประคำนะคะ...วันนี้เดินรูปค่ะ ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 21, 2009 7:26 am
โดย Buddy
Viridian เขียน:
Batholomew เขียน:
Buddy เขียน: ถ้าใครได้ไป ช่วยรายงานด้วยนะคะว่า สวดซีนาเกิ้ลเป็นภาษาอะไร มีคนฝากถามค่ะ  ::001::
เป็นภาษาอังกฤษครับ แต่สวดสายประคำนะครับ ไม่ได้สวดซีนาเกิ้ล

สวดสายประคำแบบก่อเป็นอังกฤษ รับเป็นไทยอีกต่างหากนะครับ

แต่วันนี้ภาษาอังกฤษล้วนครับ ::001::
ช่าย...ภาษาอังกฤษล้วนเลย...

แต่วันนี้ (วันศุกร์) ไม่ได้สวดสายประคำนะคะ...วันนี้เดินรูปค่ะ ::001::
ขอบคุณค่ะ  เห็นคนที่เค้าไปบอกว่า "ดี" นะคะ ได้อะไรเยอะเลย ขนาดฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนะ  ::001::  ที่ฟังรู้เรื่องก็ดีมากๆค่ะ จะเกี่ยวกับจิตวิญญาณมากกว่า เค้าไม่ได้มาพูดเรื่องการประจักษ์ ไม่ได้มาพูดว่า เมดจูกอจ์เรเป็นยังไง แต่พูดถึงประสบการณ์และผลทางวิญญาณที่ได้รับและมาแบ่งปันผู้อื่น เห็นเค้าว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซิสเตอร์เคยมาแล้วครั้งนึงนะคะ  ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 21, 2009 1:57 pm
โดย Yan Agape
When I read this article, at first, I did not want to post my story.  But, my conscience would not leave me alone.  I could not type in Thai.  But if there is a person willing to type and post for me, please contact me.  Do not translate this story.  It has to come straight from my mouth.

I post this story in honor of Our Lady of Medjugorje, Bosnia-Herzegovina  as a token of my forever gratitude and  as a witness to confirm her endless love and mercy for all of us, in one case,  sinful husband.

Back in 1995-1998 (13 years ago).  I was a US Army soldier belonged to 1st Squadron, 4th Cavalry, 1st Armored Division, Schweinfurt, Germany.  We were a part of NATO

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 21, 2009 8:10 pm
โดย Buddy
When I read this article, at first, I did not want to post my story. But, my conscience would not leave me alone. I could not type in Thai. But if there is a person willing to type and post for me, please contact me. Do not translate this story. It has to come straight from my mouth.

I post this story in honor of Our Lady of Medjugorje, Bosnia-Herzegovina as a token of my forever gratitude and as a witness to confirm her endless love and mercy for all of us, in one case, sinful husband.

Back in 1995-1998 (13 years ago). I was a US Army soldier belonged to 1st Squadron, 4th Cavalry, 1st Armored Division, Schweinfurt, Germany. We were a part of NATO’s Implementation Force (IFOR) ordered to go to Bosnia-Herzegovina for peace keeping mission in that war torn country from January 6-November 4, 1996.

Mother Mary appeared to me early morning of my first night in Bosnia-Herzegovina. I was sleeping in the back of my HUMVEE by myself. She sat in the air and did not open her mouth but I completely understood her. A question and a reprimand. “When are you going to be good?” I was stunned, so stupid and full of excuses. I pointed at Satan, with tail and was kneeling with his head bowed down below her feet, and told Mother Mary I was afraid of him. She did not even pause to think about it. She did not even look at him, like he was nothing, and told me do not worry about him, be good.

Since then I have been a faithful and loving husband to my wife and loving and caring father for my two children. :cheesy:

Thanks for sharing!! It was a really good testimony. Mother Mary, just like God, is always simple, humble and meek but powerful. When she touches one's heart, he'll not be the same person anymore.. ::001::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพ&#

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 4:51 pm
โดย Viridian
Yan Agape เขียน: When I read this article, at first, I did not want to post my story.  But, my conscience would not leave me alone.  I could not type in Thai.  But if there is a person willing to type and post for me, please contact me.  Do not translate this story.  It has to come straight from my mouth.

I post this story in honor of Our Lady of Medjugorje, Bosnia-Herzegovina  as a token of my forever gratitude and  as a witness to confirm her endless love and mercy for all of us, in one case,  sinful husband.

Back in 1995-1998 (13 years ago).  I was a US Army soldier belonged to 1st Squadron, 4th Cavalry, 1st Armored Division, Schweinfurt, Germany.  We were a part of NATO’s Implementation Force (IFOR) ordered to go to Bosnia-Herzegovina for peace keeping mission in that war torn country from January 6-November 4, 1996.

Mother Mary appeared to me early morning of my first night in Bosnia-Herzegovina.  I was sleeping in the back of my HUMVEE by myself.  She sat in the air and did not open her mouth but I completely understood her.  A question and a reprimand.  “When are you going to be good?”  I was stunned, so stupid and full of excuses.   I pointed at Satan, with tail and was kneeling with his head bowed down below her feet, and told Mother Mary I was afraid of him.  She did not even pause to think about it. She did not even look at him, like he was nothing, and told me do not worry about him, be good.

Since then I have been a faithful and loving husband to my wife and loving and caring father for my two children.   :cheesy:

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ : xemo026 :
Buddy เขียน:
Viridian เขียน:
Batholomew เขียน: เป็นภาษาอังกฤษครับ แต่สวดสายประคำนะครับ ไม่ได้สวดซีนาเกิ้ล

สวดสายประคำแบบก่อเป็นอังกฤษ รับเป็นไทยอีกต่างหากนะครับ

แต่วันนี้ภาษาอังกฤษล้วนครับ ::001::
ช่าย...ภาษาอังกฤษล้วนเลย...

แต่วันนี้ (วันศุกร์) ไม่ได้สวดสายประคำนะคะ...วันนี้เดินรูปค่ะ ::001::
ขอบคุณค่ะ  เห็นคนที่เค้าไปบอกว่า "ดี" นะคะ ได้อะไรเยอะเลย ขนาดฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนะ  ::001::  ที่ฟังรู้เรื่องก็ดีมากๆค่ะ จะเกี่ยวกับจิตวิญญาณมากกว่า เค้าไม่ได้มาพูดเรื่องการประจักษ์ ไม่ได้มาพูดว่า เมดจูกอจ์เรเป็นยังไง แต่พูดถึงประสบการณ์และผลทางวิญญาณที่ได้รับและมาแบ่งปันผู้อื่น เห็นเค้าว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซิสเตอร์เคยมาแล้วครั้งนึงนะคะ  ::001::
ใช่ค่ะ อย่างเมื่อวันศุกร์ที่ไม่มีแปลเป็นภาษาไทย ตัวเองก็ฟังแทบไม่รู้เรื่องเหมือนกันค่ะ (รู้สึกตัวเลยว่าภาษาอังกฤษแย่มาก)
แต่ถึงจับความได้แค่ "เศษๆ" ก็ยังรู้สึกว่าดีมากค่ะ...เสียดายมาก...ถ้าฟังออกหมด ก็คงจะดีกว่านี้ไม่น้อย...

ต้องขอบคุณพระเจ้า สำหรับวันเสาร์ นี่มีคนแปลให้ เลยได้อะไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยหน่อย ::011::
ไปแล้ว...ไม่ผิดหวังค่ะ...เป็นประโยชน์ต่อชีวิตจิต...
ต้องขอบคุณพี่โฮลี่ที่นำข่าวมาประชาสัมพันธ์ค่ะ ::013::

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพ&#

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 8:48 pm
โดย Buddy
Viridian เขียน: ใช่ค่ะ อย่างเมื่อวันศุกร์ที่ไม่มีแปลเป็นภาษาไทย ตัวเองก็ฟังแทบไม่รู้เรื่องเหมือนกันค่ะ (รู้สึกตัวเลยว่าภาษาอังกฤษแย่มาก)
แต่ถึงจับความได้แค่ "เศษๆ" ก็ยังรู้สึกว่าดีมากค่ะ...เสียดายมาก...ถ้าฟังออกหมด ก็คงจะดีกว่านี้ไม่น้อย...

ต้องขอบคุณพระเจ้า สำหรับวันเสาร์ นี่มีคนแปลให้ เลยได้อะไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยหน่อย ::011::
ไปแล้ว...ไม่ผิดหวังค่ะ...เป็นประโยชน์ต่อชีวิตจิต...
ต้องขอบคุณพี่โฮลี่ที่นำข่าวมาประชาสัมพันธ์ค่ะ ::013::
อย่าว่าภาษาตัวเองไม่ดีเลยจ้ะ ซิสเตอร์เค้าพูดออกสำเนียงเค้าน่ะจ้ะ ไม่ใช่สำเนียงที่คุ้นเคย ก็อาจจะฟังยากนิดนึง แต่เท่าที่ดูในคลิป เค้าจะดีอย่างคือ ใช้คำง่ายๆเวลาพูด  ::001::

ดีใจที่เห็นคนได้รับประโยชน์ทางจิตวิญญาณนะคะ  : emo045 :

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 23, 2009 5:02 pm
โดย Zion
ไปมาแล้วรู้สึก ความปิติเต็มล้นเลยละครับ : xemo017 :
ก็เลยมาขอแบ่งปัน เรื่องราวที่ซิสเตอร์ได้แบ่งปันให้ฟังนะครับ ::020::
________________

อารัมภบท
ซิสเตอร์เล่าว่า ครั้งหนึ่งเคยมีคุณพ่อท่านหนึ่งมาพูดกับซิสเตอร์ว่า
"พ่อไม่เชื่อหรอกนะว่าการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจจริง จะเป็นไปได้ยังไง แม่พระมาประจักษ์ทุกเดือน"
ซิสเตอร์รู้สึกเดือดดาลมาก  : emo107 : แต่ก็ควบคุมสติและถามคุณพ่อกลับไปว่า

"คุณพ่อคะ สมัยคุณพ่อเป็นเด็ก มีเครื่องขายถุงยางอนามัยอัตโนมัติรึยังคะ"
"ไม่นะซิสเตอร์ สมัยพ่อยังเด็กพ่อยังไม่รู้จักถุงยางฯเลย : emo073 :"

"คุณพ่อคะ สมัยคุณพ่อยังเด็ก บ้านคุณพ่อมีคอมพิวเตอร์มีอินเตอร์เน็ตที่เด็กๆสามารถจะหาข้อมูลไสยศาสตร์มืดต่างๆ ตลอดจนสื่อลามกอนาจารได้รึเปล่าคะ"
"ไม่นะซิสเตอร์ สมัยนั้นทั้งบ้านพ่อมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงเครื่องเดียวคือโทรทัศน์ขาวดำเครื่องหนึ่ง"

"คุณพ่อคะ ในยุคนี้ มารซาตานได้พยายามใช้สื่อเทคโนโลยีทุกอย่าง เพื่อล่อลวงให้มนุษย์ตกนรก
แม่พระก็พยายามมากยิ่งขึ้นในการเรียกร้องให้ลูกๆที่แม่รักกลับใจมากเท่านั้นละค่ะคุณพ่อ
"

วิธีคุ้มครองครอบครัวให้พ้นภัย
ในพิธีศีลสมรสของชาวบอสเนียนั้น
คุณพ่อจะวางรูปกางเขนพระเยซูไว้บนฝ่ามือของคุณพ่อ
และเจ้าบ่าวก็จะวางมือบนกางเขนนั้นพร้อมกับเจ้าสาว และกล่าวคำสัญญา
เป็นการให้พระเยซูเป็นศูนย์กลางในชีวิตสมรส

เคยมีคนถามว่าซิสเตอร์ว่าคิดเห็นอย่างไรกับผู้ที่แต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก

ซิสเตอร์บอกว่าซิสเตอร์เสียใจมาก เพราะนั่นเป็นการปฎิเสธพระพรของพระเจ้า
พระพรแห่งการสร้าง
ทียิ่งใหญ่ ที่พระองค์ให้มนุษย์2คนได้มีส่วนร่วมกับพระองค์
การที่เจ้าสาวได้ถวายตัวในศีลสมรสนั้น เจ้าสาวได้ถวายหมดทั้งร่างกายรวมถึงมดลูกให้พระเจ้า
พระเจ้าปรารถนาให้เธอใช้มดลูกของเธอเป็นที่พำนักและให้กำเนิดนักบุญทั้งหลายในอนาคต


ซิสเตอร์ได้ไปที่ต่างๆในโลก ที่เม็กซิโกครอบครัวหนึ่งๆมีลูกยังกับฝูงแมว
ที่นั่นอบอุ่นมาก^^
ในขณะที่ซานฟรานซิสโก ที่นี่มีตึกสวยๆสะอาดๆ
แต่ซิสเตอร์ไม่เห็นเด็กๆเลย แม้แต่ผู้หญิงท้องก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หายาก
ซิสเตอร์ได้กลิ่น"ความตาย"ที่นี่

ในยุควัตถุนิยมนี้ ผู้คนเสาะแสวงหาเงินทองและทรัพย์สินฝ่ายโลก
ทำไมนะ เขาไม่คิดว่าพลังชีวิตที่เขาเผาผลาญเพื่อให้ได้รถหรูๆสักคันหนึ่งที่ในบั้นปลายมันก็จะกลายเป็นเศษขยะที่ต้องทิ้งในโลกนี้
สามารถนำมาให้กำเนิดและดูแลเด็กหลายคนให้เป็นนักบุญ ทรัพย์สินอันสถาพรนิรันดรในแดนสวรรค์


มีคนมาบ่นให้ซิสเตอร์ฟังว่า ลูกๆในครอบครัวทิ้งวัด
ซิสเตอร์ก็ถามเขาว่า ได้มีเวลาพบปะลูกๆบ้างมั้ย
เขาก็บอกว่ามีเฉพาะเวลาได้ร่วมโต๊ะกินข้าว
ซิสเตอร์ก็ถามว่า แล้วได้คุยเรื่องพระเจ้ากันบ้างรึเปล่า
เขาก็บอกว่าไม่เลย เราจะคุยกันเรื่อง กีฬา การเมือง  สังคมต่างๆ

ซิสเตอร์บอกว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเห็นความสำคัญของพระเจ้า
ในเมื่อเราไมได้ให้พระเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมในครอบครัวของเรา


จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเห็นคุณค่าการภาวนา
ในเมื่อเราให้ความสำคัญเรื่องต่างๆ ไม่ว่า การงาน การกิน การพักผ่อน
แต่กลับนำการภาวนาไปไว้ลำดับท้ายสุด

เมื่อจะภาวนาร่วมกันก็บ่นว่าเหนื่อยจากงานแล้วขอพักผ่อนดีกว่า
จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่มีแบบอย่างที่ดี
+++++++++++++++++

มีคุณแม่อยู่คนหนึ่งอยากให้ลูกเป็นพระสงฆ์
เธอมิได้บังคับหรือแม้แต่บอกลูกชายว่าอยากให้เป็นพระสงฆ์
เธอเพียงแต่อดอาหารอธิษฐาน รับประทานเพียงขนมปังและน้ำตั้งแต่วันพุธถึงศุกร์ทุกสัปดาห์
ไม่มีใครรู้เป้าหมายของการอดอาหารของเธอ
จนกระทั่งลูกเธอได้มาบอกกับเธอว่า อยากบวชเป็นพระสงฆ์
เธอก็อนุญาตและเผยเป้าหมายการอดอาหารให้สามีฟัง

สามีก็บอกว่า เช่นนั้นเธอก็เลิกอดอาหารได้แล้วสิ
เธอบอกว่า ไม่ เพราะฉันไม่อยากให้ลูกของฉันเป็นเพียงพระสงฆ์ แต่ยังเป็นพระสงฆ์ที่ศักดิ์สิทธิ์
เธอจึงอดอาหารต่อไป

ลูกของเธอ เมื่อได้บวชเป็นพระสงฆ์ ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสังฆราช และพระคาร์ดินัลแห่งบอสเนีย
พระองค์ได้ยื่นหยัดต่อลัทธิคอมมิวนิสต์มิให้มากลืนกินพระศาสนจักรในบอสเนียไป
จนพระองค์ถูกรัฐบาลจับขังคุกจนตายเป็นมรณสักขี
การเสียสละของท่านทำให้ชุมชนคาทอลิกในบอสเนียไม่สูญสลายยังคงดำรงอยู่จนทุกวันนี้
ที่สุดแล้วพระสันตะปาปาจอห์นพอลที่2ได้แต่งตั้งพระคาร์ดินัลSTEPINACเป็นบุญราศี

ท่านเห็นหรือไม่ว่าการภาวนาร่วมกันในครอบครัวมีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด

การภาวนาพิชิตทุกสิ่ง
ขณะซิสเตอร์เรียนในมหาวิทยาลัยนั้น
มีผู้ชายคนหนึ่งที่เรียนด้วยกัน
เขาชอบหัวเราะเยาะที่ซิสเตอร์มาบวชเป็นซิสเตอร์
"ซิสเตอร์ไม่เบื่อเหรอ ชีวิตมีแต่การภาวนา น่าเบื่อออก"

ซิสเตอร์คิด จะน่าเบื่อได้อย่างไรในเมื่อซิสเตอร์มีสามีที่แสนดี
สามีที่ไม่เคยคิดจะนอกใจไปเถลไถลที่ไหนแถมยังคิดถึงซิสเตอร์ทุกวินาทีเลยด้วย
: xemo026 :


วันหนึ่ง ชายคนนั้นได้มาเคาะประตูที่อารามของซิสเตอร์พร้อมกับคร่ำครวญ
"ซิสเตอร์ ผมทะเลาะกับภรรยา เรากำลังจะหย่ากัน ผมเป็นห่วงลูกๆ"
ซิสเตอร์ลังเลที่จะหนุนใจเขาว่าจะภาวนาเผื่อให้เนื่องจากการที่เขาเคยแสดงความเห็นเห็นว่าการภาวนาเป็นเรื่องน่าเบื่อ

แต่ซิสเตอร์ก็พูดว่า
"ซิสเตอร์จะสวดให้นะ"

เขาตอบกลับมาว่า

"ซิสเตอร์ นั่นละคือเหตุผลที่ผมมาหาซิสเตอร์ การภาวนาเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะแก้ปัญหานี้ให้ผมได้"
++++++++
แม่พระได้มาประจักษ์ที่เมดจูกอเรจและขอให้เรา

ภาวนา ภาวนา และ ภาวนา

นั่นหมายถึงการภาวนา3ขั้นคือ

1.การภาวนาเพื่อวอนขอ นี่คือการภาวนาทั่วไป เช่นเมื่อเราป่วยก็ขอให้หายจากโรค

2.การภาวนาเพื่อความปิติยินดี
ดั่งที่ซิสเตอร์ได้บอก พระเจ้าทรงรักและคิดถึงเราทุกวินาที
แต่เราจะรับรู้ถึงความรักของพระองค์ได้อย่างซาบซึ้ง ก็ด้วยการภาวนาขั้นที่2นี้
เราจะรู้สึกอิ่มเอิ่บอย่างเหลือล้นเหมือนได้อาบน้ำได้จุ่มตัวลงในธารรักแห่งพระเมตตาของพระองค์

ซิสเตอร์ขอถามท่านทั้งหลายบ้าง
ในพระวรสารตอนหนึ่งพระเยซูได้ร้องเพลงท่านทราบหรือไม่ว่าเป็นตอนไหน?
(มีคนตอบ)
ถูกแล้ว นั่นคือช่วงเวลาในพระกระยาหารมื้อสุดท้าย พระองค์ได้ร้องเพลงร่วมกับสาวก ก่อนจะไปสวดภาวนาและถูกจับกุมที่เกทเสมณี
เวลานั้นพระองค์มีความยินดีสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างไร เพราะพระองค์ตระหนักเสมอว่า
เมื่อผ่านความยากลำบากนี้ไป ในบั้นปลายนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดของที่สุด(best of best)ที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้

คุณจะมีความปิติยินดีแม้ยามที่ความทุกข์เข้ามาในชีวิต
เพราะคุณสามารถเปลี่ยนความทุกข์นั้นให้เป็นโอกาสที่จะถวายความทุกข์เหล่านั้นให้พระเจ้า

เช่นเดียวกับที่วิชก้า(หญิงผู้หนึ่งที่เห็นแม่พระประจักษ์)
เธอเป็นเนื้องอกที่กล่องเสียงและหมอได้บอกว่าหลังการผ่าตัดเธออาจจะไม่มีเสียงอีก
เธอก็ยังคงยิ้มแย้มและภาวนากับพระเจ้าว่า "เสียงของลูกเป็นของพระองค์ หากเสียงนี้จะมีต่อไปก็เพื่อพระองค์"
เมื่อผ่าตัดเสร็จ หมอได้ถามอาการของวิชก้า คำแรกที่เธอพูดคือ"ทุกสิ่งถวายเกียรติแด่พระเจ้า"

3.การภาวนาเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า

พระเยซูไม่เพียงต้องการให้เราเชื่อพระองค์เท่านั้น แต่ยังปรารถนาให้เราเป็นเหมือนพระองค์
ในการภาวนาขั้นที่3
ทุกสิ่งที่เราทำจะไม่ได้ตามใจเราเองอีกต่อไป แต่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าผู้อยู่เบื้องบน
บุคคลที่จะบรรลุถึงขั้นนี้ได้ก็คือนักบุญนั่นเอง

ดั่งที่นักบุญเทเรซาองค์น้อยได้กล่าวว่า

"พระเยซูไม่เคยปฎิเสธสิ่งใดที่ฉันวอนขอ เพราะฉันไม่เคยปฎิเสธสิ่งใดจากพระองค์"

ชีวิตของเราจะต้องเป็นของพระเจ้า "ทั้งหมด" ดั่งที่นักบุญเทเรซาได้เคยกล่าว

การภาวนาขั้นที่3นี้เราไม่สามารถกำหนดเองได้หากแต่เป็นไปตามพระประสงค์
อย่างไรก็ตาม เราสามารถเรียกร้องวอนขอจากพระองค์ได้
ซิสเตอร์เองก็ยังภาวนาไม่ถึงขั้นนี้ ก็วอนขอพี่น้องช่วยภาวนาเผื่อซิสเตอร์ด้วย


ความทุกข์ของลูกคือความทุกข์ของแม่
ในครั้งหนึ่งที่กลุ่มแสวงบุญชาวฝรั่งเศสมาเมดจูกอเรจ
ฉันได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า"อัลเบิร์ต"
ในตอนแรกนั้นเขาได้เข้ามาหาซิสเตอร์ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง และปรึกษากับซิสเตอร์ว่า
"ซิสเตอร์ กลุ่มทัวร์ที่มากับผมเขาเอาแต่สวดกัน
ผมรู้สึกเบื่อมากๆเลย ผมอยากมาเที่ยว"

ซิสเตอร์ก็แนะนำสั้นๆว่า
"คุณลองอยู่กับพวกเขาไปสักระยะก่อนนะ"

พอวันเวลาเริ่มผ่านไป อัลเบิร์ตเริ่มมีความปิติกับการภาวนา
ใบหน้าที่เคยบึ้งตึงก๋ค่อยปริยิ่มจนดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั้นฉีกมาถึงใบหู^^

แต่ในวันสุดท้ายที่อัลเบิร์ตจะต้องกลับ อัลเบิร์ตกลับมีใบหน้าที่เศร้าสร้อย

"อัลเบิร์ตเกิดอะไรขึ้น" ซิสเตอร์ถาม

"ซิสเตอร์ ผมรักที่นี่มากเลย แต่ผมมีหนี้สินมากมายกว่าจะกลับมาได้อีกอย่างน้อยก็คง3ปี
ผมรักการภาวนา แต่ผมไม่รู้จะหาชุมชนแห่งการภาวนาได้ที่ไหน
จะชวนภรรยาของผมร่วมสวดภาวนาก็คงจะเป้นไปไม่ได้ เพราะเราเคยทะเลาะกันบ่อยๆ จนเดี๋ยวนี้แทบไม่ได้คุยกันเลย "

"อัลเบิร์ต ถ้าอย่างนั้นเธอก็พยายามภาวนาแม้ตัวคนเดียวนะ
ให้เธอมอบความปรารถนา/ปัญหาต่างๆของเธอให้กับแม่พระ
และให้เธอรับ ความปราถนาของแม่พระ มาแทนที่ไว้ในจิตใจของเธอ


พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งให้" ซิสเตอร์ตอบ และเราก็ร่ำลากัน

3เดือนต่อมา ซิสเตอร์ก็ได้พบกับเขาอีกที่เมดจูกอเรจ^^''

"อัลเบิร์ต เกิดอะไรขึ้น ไหนเธอบอกว่าอีก3ปีไงละ" : emo036 :
"ซิสเตอร์ ผมถูกภรรยาบังคับให้พาเธอมาทีนี้"
"ภรรยาของเธอ?ไหนเล่าเรื่องให้ซิสเตอร์ฟังสิ"
"เมื่อผมกลับมาที่บ้าน ผมได้ห้องเงียบที่ไม่มีใครเข้าๆออกๆ
ผมสวดภาวนาที่นั่นทุกวันโดยไม่ได้บอกใคร จนกระทั่งวันหนึ่ง
ภรรยาของผมก็ได้เขามาในห้อง
"อับเบิร์ต เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ มานั่งเงียบได้เป็นวันๆทุกวัน เธอกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ"
"ฉันกำลังภาวนา"
"การภาวนา? มันคืออะไรเหรอ?"
"ฉันเองก็อธิบายไม่ถูก ฉันไม่ใช่บาทหลวงซะด้วยสิ
เอางี้ละกันนะ เธอมานั่งดูฉันภาวนาละกัน"

ทุกวันๆผมก็จะภาวนาโดยที่ภรรยาผมสังเกต
จนวันหนึ่งเธอเริ่มภาวนาตาม และถามผมเรื่องราวที่เมดจูกอเรจ
เมื่อผมเล่าจบ เธอเกรี้ยวกราดใส่ผม
"ทำไมเธอไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้! ฉันจะได้ไปด้วย
เรามาไปเมดจูกอเรจด้วยกันเถอะ"
"แต่ที่รักเราไม่มีเงินนะ"ผมบอก
"เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องตั๋วเอง"เธอตอบ
และแล้ว เราก็ได้มาที่นี่กัน

จนบัดนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าเธอไปหาตั๋วมาจากไหน^^"


ปัจฉิมบท
ดิฉันก่อนที่จะมาเป็นซิสเตอร์
ก็เป็นคาทอลิกที่ไม่ค่อยศรัทธานัก
เมื่อฉันอายุ24 ฉันได้หางานทำที่อินเดีย
ซึ่งบริษัทที่ฉันสมัครงานได้ให้ข้อเสนอที่แปลกพอดู

"ขอให้คุณไปดูดวงชะตากับหมอดูท่านหนึ่ง หากดวงชะตาของคุณสมพงษ์กับงานนี้เราก็จะรับคุณเข้าทำงาน"

ฉันก็ไปโดยไม่ได้คิดอะไร

เมื่อฉันมาถึงบ้านโหร หมอดูก็พูดว่า"ผมรู้ว่าคุณจะต้องมา"
แล้วก็ไปค้นสิ่งที่เขาเรียกว่า "ม้วนหนังสือแห่งชีวิต"
สิ่งนี้เป็นกระดาษที่ถูกเขียนแต่ในโบราณกาล
เขาเชื่อว่าหนังสือเล่มนนี้บันทึกชะตาชีวิตของคนทุกคนไว้
เขาเริ่มอ่านหนังสือแห่งชีวิต และเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวฉัน
ตั้งแต่เกิดมาจนถึงบั้นปลายชีวิต
เรื่องราวในอดีตนั้น ค่อนข้างตรงอย่าน่าตกใจ
และหมอดูก็พูดว่า "พระเจ้าไม่มีจริงหรอก ทุกสิ่งเกิดและเป็นไปตามการโคจรของดวงดาว"

ความเชื่อของฉันสูญสิ้นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเป็นคนโง่งมงายงั้นหรือ
ฉันกลับไปที่บ้านและความไม่สบายใจของก็นำมาสู่โรคซึมเศร้า
เมื่อน้องสาวฉันมาพบ เธอพาฉันเข้าพักที่คอนแวนต์ของคณะซิสเตอร์อัสสัมชัญ

กระนั้นอาการของฉันก็ไม่ดีขึ้น และวันหนึ่งด้วยความหมดอาลัยตายอยาก ฉันจึงรำพึงว่า
"หากพระเจ้ามีจริง ก็แสดงอัศจรรย์ให้ฉันเถอะ ไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าตัวตายเวลา5โมงเย็น"(ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมฉันให้เวลาพระเจ้านานถึง5โมงเย็น)
วันนั้น มีกลุ่มคนจากนิกายเพนเตคอสเตียน มาอธิษฐานเผื่อให้ผู้ป่วย เขาพูดภาษาแปลกๆ และร้องเพลง
มีสมาชิกคนหนึ่งมาสาย แต่เมื่อเธอมาถึง เหมือนว่าเธอเข้าฌาณและเริ่มเผยพระวจนะ

"พี่น้อง ในที่นี้มีบุคคลหนึ่งกำลังก้าวสู่ความตาย" เธอได้พูดสิ่งต่างๆมากมายที่แม้แต่ฉันเท่านั้นที่รู้
เธอให้กลุ่มของเธออธิษฐานเผื่อฉัน และแล้วผู้คนก็กลับไปจนเหลือแต่ฉันกับเธอ
ฉันได้เข้าไปถามเธอว่า "คุณหมายถึงฉันใช่มั้ย"
เธอตอบรับ และฉันก็ได้เล่าเรื่องไปหาหมอดูให้เธอฟัง
เธอได้เปิดพระคัมภีร์ให้ฉันอ่าน เฉลยธรรมบัญญัติบทที่18ข้อที่10-12
"ท่านต้องไม่เผาบุตรชายหรือบุตรหญิงของตนเป็นบูชายัญ ต้องไม่เป็นหมอดู ทำนายอนาคต ถือโชคลาง ทำเวทมนตร์คาถา  ทำเสน่ห์ ใช้เครื่องรางของขลัง ทรงเจ้าเข้าผี 
เพราะผู้ที่กระทำเช่นนี้เป็นที่น่ารังเกียจแด่พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านกำลังจะทรงขับไล่ชนชาติเหล่านี้ออกไปต่อหน้าท่านก็เพราะการกระทำน่ารังเกียจเช่นนี้ "

ฉันจึงรู้ตัวว่าฉันได้ทำผิด เธอได้อธิษฐานเผื่อฉัน และฉันก็ได้สารภาพบาป ซึ่งตอนนั้นเองก็คือเวลา5โมงเย็น...
++++++++++++++++
ครั้งหนึ่ง ซาตานมันก็เคยเป็นทูตสวรรค์
มันรู้จักเรามากกว่าตัวเราเองเสียอีก
มันรู้อดีตของเรา
แต่มันไม่รู้อนาคตของเราหรอก มันโกหก!!!
แต่ที่เรามักจะเป็นไปตามคำทำนายของหมอดูหมอผี ก็เพราะเราเชื่อในคำหลอกลวงของมันที่พูดผ่านหมอดูและหมอผี

ขอให้ท่านอย่าหันเหไปจากทางของพระเจ้าเลย

ผู้ภาวนาจะไม่กลัวอนาคต
ผู้อดอาหารจะรอดพ้นจากการประจญล่อลวง

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 23, 2009 9:41 pm
โดย Batholomew
เยี่ยมมากครับ น้องยศ : emo038 :

Re: +++ร่วมเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณกับแม่พระ เพื่อไปหาพระเยซู+++

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 23, 2009 10:13 pm
โดย Buddy
ขอบคุณยศมากๆเลยค่ะ  : emo045 :