☆ ศาสนศาสตร์เรื่องพระมารดามารีย์ ☆
2.พรหมจารีเสมอ
นับตั้งแต่สมัยนักบุญเอากุสติน (De Sacra Virginitate, 4,4) นักเทววิทยาเห็นพ้องต้องกันว่าพระนางมารีย์ได้ทำสินบนถือพรหมจรรย์ ทั้งนี้อ้างอิงจากข้อความในพระวรสารโดยนักบุญลูกา 1:34 ความเชื่อถือดั้งเดิมนี้ถูกนำมาวิจารณ์เมื่อไม่นานมานี้เองว่า ทำไมพระนางมารีย์จึงยอมหมั้นกับยอแซฟถ้าไม่ต้องการแต่งงาน เหตุนี้จึงมีนักเทววิทยาสมัยนี้หลายคนตีความว่า พระนางมารีย์ตั้งใจจะถือพรหมจรรย์หลังจากได้รับสาสน์จากทูตสวรรค์กาเบรียบนั้นแล้ว พระนางตั้งใจว่าจะอุทิศตนทั้งครบเพื่อรับใช้พระเจ้าในแผนแห่งความรอด
อนึ่งพึงสังเกตว่า พระนางทรงครรภ์ด้วยอำนาจของพระจิต จะเรียกพระจิตเป็นบิดาของพระเยซูไม่ได้ เพราะพระองค์ไม่ได้สัมพันธ์กับพระนางแบบมนุษย์ ดั้งเช่นเทพเจ้าในตำนานศาสนาอื่น ๆ ซึ่งเหล่าเทพเจ้าจากฟากฟ้าปลอมองค์ลงมาเป็นมนุษย์สมสู่กับสตรี มีบุตรและเป็นบิดาของเทพบุตรนั้นจริง ๆ
คำทำนายของอิสยาห์ (อสย 7:14) ที่ว่า พระแมสสิยาห์จะบังเกิดจาก
นับตั้งแต่สมัยนักบุญเอากุสติน (De Sacra Virginitate, 4,4) นักเทววิทยาเห็นพ้องต้องกันว่าพระนางมารีย์ได้ทำสินบนถือพรหมจรรย์ ทั้งนี้อ้างอิงจากข้อความในพระวรสารโดยนักบุญลูกา 1:34 ความเชื่อถือดั้งเดิมนี้ถูกนำมาวิจารณ์เมื่อไม่นานมานี้เองว่า ทำไมพระนางมารีย์จึงยอมหมั้นกับยอแซฟถ้าไม่ต้องการแต่งงาน เหตุนี้จึงมีนักเทววิทยาสมัยนี้หลายคนตีความว่า พระนางมารีย์ตั้งใจจะถือพรหมจรรย์หลังจากได้รับสาสน์จากทูตสวรรค์กาเบรียบนั้นแล้ว พระนางตั้งใจว่าจะอุทิศตนทั้งครบเพื่อรับใช้พระเจ้าในแผนแห่งความรอด
อนึ่งพึงสังเกตว่า พระนางทรงครรภ์ด้วยอำนาจของพระจิต จะเรียกพระจิตเป็นบิดาของพระเยซูไม่ได้ เพราะพระองค์ไม่ได้สัมพันธ์กับพระนางแบบมนุษย์ ดั้งเช่นเทพเจ้าในตำนานศาสนาอื่น ๆ ซึ่งเหล่าเทพเจ้าจากฟากฟ้าปลอมองค์ลงมาเป็นมนุษย์สมสู่กับสตรี มีบุตรและเป็นบิดาของเทพบุตรนั้นจริง ๆ
คำทำนายของอิสยาห์ (อสย 7:14) ที่ว่า พระแมสสิยาห์จะบังเกิดจาก
3.ปฏิสนธินิรมล
Pelagius และ Augustine เป็นผู้เริ่มสอนว่าพระนางมารีย์เป็นผู้ปราศจากบาปทั้งมวล คำสอนข้อนี้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง จนในสมัยต่อมาเชื่อกันว่าพระนางมารีย์เป็นผู้ปฏิสนธินิรมล ปราศจากบาปกำเนิด อย่างไรก็ตามนักเทววิทยาหลายท่าน (รวมทั้งแบร์นาร์ด โทมัส อาไควนัส) สงสัยในข้อนี้ เพราะไม่ทราบว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับความจริงที่ว่ามนุษย์ทุกคนต้องการความรอดได้อย่างไร
ราว ค.ศ. 1300 William of Ware และ Duns Scotus อธิบายว่า พระนางมารีย์เกิดมาปราศจากบาปกำเนิดด้วยอำนาจแห่งการไถ่ของพระเยซู ส่วนคนอื่น ๆ ถูกช่วยให้พ้นบาปกำเนิดด้วยอำนาจแห่งการไถ่นั้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง พระนางมารีย์อยู่ใต้กฎของบาปกำเนิดเหมือนคนอื่น ๆ แต่กฎนั้นไม่มีผลกระทบต่อพระนาง เพราะพระเจ้าทรงพระประสงค์เช่นนั้นพระนางมารีย์ถูกไถ่เช่นกัน แต่ด้วยวิธีการพิเศษสุด ในศตวรรษที่ 19 พระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ทรงเห็นว่าความเชื่อของคริสตชนในเรื่องนี้เป็นปึกแผ่นมั่นคงและเป็นสากล พระองค์จึงทรงประกาศเป็นข้อความเชื่อในปี 1854
Pelagius และ Augustine เป็นผู้เริ่มสอนว่าพระนางมารีย์เป็นผู้ปราศจากบาปทั้งมวล คำสอนข้อนี้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง จนในสมัยต่อมาเชื่อกันว่าพระนางมารีย์เป็นผู้ปฏิสนธินิรมล ปราศจากบาปกำเนิด อย่างไรก็ตามนักเทววิทยาหลายท่าน (รวมทั้งแบร์นาร์ด โทมัส อาไควนัส) สงสัยในข้อนี้ เพราะไม่ทราบว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับความจริงที่ว่ามนุษย์ทุกคนต้องการความรอดได้อย่างไร
ราว ค.ศ. 1300 William of Ware และ Duns Scotus อธิบายว่า พระนางมารีย์เกิดมาปราศจากบาปกำเนิดด้วยอำนาจแห่งการไถ่ของพระเยซู ส่วนคนอื่น ๆ ถูกช่วยให้พ้นบาปกำเนิดด้วยอำนาจแห่งการไถ่นั้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง พระนางมารีย์อยู่ใต้กฎของบาปกำเนิดเหมือนคนอื่น ๆ แต่กฎนั้นไม่มีผลกระทบต่อพระนาง เพราะพระเจ้าทรงพระประสงค์เช่นนั้นพระนางมารีย์ถูกไถ่เช่นกัน แต่ด้วยวิธีการพิเศษสุด ในศตวรรษที่ 19 พระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ทรงเห็นว่าความเชื่อของคริสตชนในเรื่องนี้เป็นปึกแผ่นมั่นคงและเป็นสากล พระองค์จึงทรงประกาศเป็นข้อความเชื่อในปี 1854
4.ผู้ร่วมงานไถ่ (Co-Redemptrix)
ใน Proto-Evangelium มีกล่าวถึงรูปแบบตรงข้ามระหว่าง เอวา กับ มารีย์ Justin และ Irenaeus นำรูปแบบดังกล่าวมาตีแผ่ให้เห็นบทบาทอันสำคัญของพระนางมารีย์ในแผนแห่งความรอด นอกจากนี้ Irenaeus, Hippolytus, และ Augustine ยังเปรียบเทียบบทบาทของพระนางมารีย์กับพระศาสนจักร พระศาสนจักรเป็นมารดานำความรอดมาสู่มนุษย์ด้วยพระวาจา และศีลล้างบาปฉันใด พระนางมารีย์ก็เป็นมารดานำความรอดสู่มนุษย์ด้วยการให้กำเนิดพระเยซูผู้เป็นศีรษะของพระศาสนจักรฉันนั้น
ในศตวรรษที่ 9 พระนางมารีย์ได้ชื่อว่าเป็น
ใน Proto-Evangelium มีกล่าวถึงรูปแบบตรงข้ามระหว่าง เอวา กับ มารีย์ Justin และ Irenaeus นำรูปแบบดังกล่าวมาตีแผ่ให้เห็นบทบาทอันสำคัญของพระนางมารีย์ในแผนแห่งความรอด นอกจากนี้ Irenaeus, Hippolytus, และ Augustine ยังเปรียบเทียบบทบาทของพระนางมารีย์กับพระศาสนจักร พระศาสนจักรเป็นมารดานำความรอดมาสู่มนุษย์ด้วยพระวาจา และศีลล้างบาปฉันใด พระนางมารีย์ก็เป็นมารดานำความรอดสู่มนุษย์ด้วยการให้กำเนิดพระเยซูผู้เป็นศีรษะของพระศาสนจักรฉันนั้น
ในศตวรรษที่ 9 พระนางมารีย์ได้ชื่อว่าเป็น
ค.พระนางมารีย์ในสังคายนาวาติกันที่ 2
ในเอกสาร Lumen gentium. Art 54 มีคำประกาศว่า สังคายนานี้ไม่มีเจตนาที่จะให้คำสอนอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับพระนางมารีย์ และไม่ตัดสินปัญหาที่ยังไม่แจ้งชัดในทางเทววิทยา ในคำปราศรัยสุดท้ายของพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1965 พระองค์ตรัสว่า
ในเอกสาร Lumen gentium. Art 54 มีคำประกาศว่า สังคายนานี้ไม่มีเจตนาที่จะให้คำสอนอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับพระนางมารีย์ และไม่ตัดสินปัญหาที่ยังไม่แจ้งชัดในทางเทววิทยา ในคำปราศรัยสุดท้ายของพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1965 พระองค์ตรัสว่า
ง.สรุป
แก่นคำสอนเกี่ยวกับพระนางมารีย์คือ การเป็นมารดาพระเจ้าของพระนาง ที่ว่าเป็นมารดานั้นต้องไม่เข้าใจในแง่ชีววิทยาให้กำเนิดบุตรเท่านั้น แต่รวมถึงการให้ความรักความนอบน้อมต่อน้ำพระทัยพระเจ้า ความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในแผนแห่งความรอดของพระเจ้าและงานของพระเยซู ลักษณะเหล่านี้คือคุณสมบัติพื้นฐานในจิตใจของพระนางมารีย์มารดาพระเจ้า
จากคุณสมบัติพื้นฐานดังกล่าว คุณสมบัติอื่น ๆ ย่อมตามมาคือ การปราศจากบาป การร่วมส่วนในการไถ่บาป การได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ฯลฯ การเข้าใจเรื่องการเป็นมารดาพระเจ้าของพระนางมารีย์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นแกนกลางยึดความหมายในการศึกษาและในการปฎิบัติกิจศรัทธาต่อพระนางมารีย์อย่างถูกต้อง
ที่มา-มนัส จวบสมัย. 50 บทความ เทววิทยาใหม่ หน้าที่ 28
แก่นคำสอนเกี่ยวกับพระนางมารีย์คือ การเป็นมารดาพระเจ้าของพระนาง ที่ว่าเป็นมารดานั้นต้องไม่เข้าใจในแง่ชีววิทยาให้กำเนิดบุตรเท่านั้น แต่รวมถึงการให้ความรักความนอบน้อมต่อน้ำพระทัยพระเจ้า ความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในแผนแห่งความรอดของพระเจ้าและงานของพระเยซู ลักษณะเหล่านี้คือคุณสมบัติพื้นฐานในจิตใจของพระนางมารีย์มารดาพระเจ้า
จากคุณสมบัติพื้นฐานดังกล่าว คุณสมบัติอื่น ๆ ย่อมตามมาคือ การปราศจากบาป การร่วมส่วนในการไถ่บาป การได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ฯลฯ การเข้าใจเรื่องการเป็นมารดาพระเจ้าของพระนางมารีย์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นแกนกลางยึดความหมายในการศึกษาและในการปฎิบัติกิจศรัทธาต่อพระนางมารีย์อย่างถูกต้อง
ที่มา-มนัส จวบสมัย. 50 บทความ เทววิทยาใหม่ หน้าที่ 28
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เป็นบทความที่ดีมาก ๆ ครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ชอบตรงนี้จัง ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะHoly เขียน: แก่นคำสอนเกี่ยวกับพระนางมารีย์คือ การเป็นมารดาพระเจ้าของพระนาง ที่ว่าเป็นมารดานั้นต้องไม่เข้าใจในแง่ชีววิทยาให้กำเนิดบุตรเท่านั้น แต่รวมถึงการให้ความรักความนอบน้อมต่อน้ำพระทัยพระเจ้า ความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในแผนแห่งความรอดของพระเจ้าและงานของพระเยซู ลักษณะเหล่านี้คือคุณสมบัติพื้นฐานในจิตใจของพระนางมารีย์มารดาพระเจ้า
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
โอ้วว ขอบคุณมากคะ
วันทามารีอา ผู้เปี่ยมด้วยหรรษทาน
วันทามารีอา ผู้เปี่ยมด้วยหรรษทาน