หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 1:53 pm
โดย Holy Bible
คือว่าถ้าเกิดเราตายไปแล้วเนี่ย เราจะไปไหนต่อ(ตามความเชื่อของคาทอลิกนะคับ) ฆ่าสัตว์จะบาปมั้ย แล้วสัตว์มีวิญญาณไหมคับ

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 9:20 pm
โดย sasuke
1. ตายแล้วไปหาพระเจ้าครับ
2. ฆ่าสัตว์ไม่บาปครับ
3. ไม่รู้ครับ พระคัมภีร์ไม่ได้บอก

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 11:04 pm
โดย Holy
สดุดี104:24
ข้าแต่พระเจ้า  พระราชกิจของพระองค์มากมายจริงๆ 
พระองค์ทรงสร้างการงานนั้นทั้งสิ้นด้วยพระปัญญา 
แผ่นดินโลกมีสิ่งที่ทรงสร้างเต็มหมด 
ทะเลอยู่ข้างโน้น  ทั้งใหญ่และกว้าง 
ซึ่งในนั้นมีสิ่งเคลื่อนไหวนับไม่ถ้วน 
คือสัตว์ที่มีชีวิตทั้งเล็กและใหญ่ 
กำปั่นแล่นไปโน่นแน่ะ 
  และเลวีอาธาน(สัตว์ทะเล  ขนาดมหึมา) ที่พระองค์ สร้างไว้ให้เล่นในนั้น 
สิ่งเหล่านี้แหงนหาพระองค์ 
เพื่อให้พระองค์ประทานอาหารแก่มันตามเวลา 
  เมื่อพระองค์ประทานให้  มันก็เก็บไป 
เมื่อพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ออก  มันก็อิ่มหนำด้วยของดี 
เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์เสีย  มันทั้งหลายก็ลำบากใจ 
เมื่อพระองค์ทรงเอาลมหายใจมันไปเสีย  มันก็ตาย  และกลับเป็นผงคลี 
  เมื่อพระองค์ทรงส่งวิญญาณของพระองค์ออกไป  มัน ก็ถูกสร้างขึ้นมา 

และพระองค์ก็ทรงเปลี่ยนโฉมหน้าของพื้นดินเสียใหม่ 

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 11:06 pm
โดย Man of Macedonia
~Holy Bible~ เขียน: คือว่าถ้าเกิดเราตายไปแล้วเนี่ย เราจะไปไหนต่อ(ตามความเชื่อของคาทอลิกนะคับ) ฆ่าสัตว์จะบาปมั้ย แล้วสัตว์มีวิญญาณไหมคับ
1.เมื่อเราตาย "ในที่สุด" เราจะได้พบพระเจ้าแบบ Face to Face ครับ
(ผมไม่ได้บอกว่า ตายปุ๊บไปพบพระเจ้าปั๊บนะครับ)

2.ฆ่าสัตว์บาปหรือไม่
"1.ความเข้าใจ 2.ความเต็มใจ 3.ความหนักเบาของความผิด"
บาปเบา คือ การกระทำหนึ่งในสามข้อนี้ไม่ครบ ถ้าคุณเข้าใจ ตั้งใจ เต็มใจ จะฆ่าสัตว์ "บาป"

3.สัตว์มีวิญญาณหรือไม่
หนังสือคำสอนปัจจุบันไม่ได้บอก,พระคัมภีร์คาทอลิกภาษาไทยไม่ได้กล่าวไว้
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปิดตาย นักปรัชญาและเทววิทยาคาทอลิกทั่วโลกก็มีพูดเรื่องนี้ไว้ ลองศึกษาดูครับ

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 11:08 pm
โดย Holy
Man of Macedonia เขียน: 2.ฆ่าสัตว์บาปหรือไม่
"1.ความเข้าใจ 2.ความเต็มใจ 3.ความหนักเบาของความผิด"
บาปเบา คือ การกระทำหนึ่งในสามข้อนี้ไม่ครบ ถ้าคุณเข้าใจ ตั้งใจ เต็มใจ จะฆ่าสัตว์ "บาป"
ขอแย้งครับ เพราะไม่มีบทบัญญัติใดกล่าวถึงไว้

ในอดีตสมัยพระธรรมเดิม มีการฆ่าสัตว์ถวายบูชา ซึ่งรู้ตัวเต็มใจทั้งสิ้น แบบนั้นจะบาปกันทุกคนสิ

น.เปโตรเป็นชาวประมง จับปลามากินมาขายทุกวี่วัน ก็บาปสิ

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 11:13 pm
โดย Man of Macedonia
Holy เขียน:
Man of Macedonia เขียน: 2.ฆ่าสัตว์บาปหรือไม่
"1.ความเข้าใจ 2.ความเต็มใจ 3.ความหนักเบาของความผิด"
บาปเบา คือ การกระทำหนึ่งในสามข้อนี้ไม่ครบ ถ้าคุณเข้าใจ ตั้งใจ เต็มใจ จะฆ่าสัตว์ "บาป"
ขอแย้งครับ เพราะไม่มีบทบัญญัติใดกล่าวถึงไว้

ในอดีตสมัยพระธรรมเดิม มีการฆ่าสัตว์ถวายบูชา ซึ่งรู้ตัวเต็มใจทั้งสิ้น แบบนั้นจะบาปกันทุกคนสิ

น.เปโตรเป็นชาวประมง จับปลามากินมาขายทุกวี่วัน ก็บาปสิ
ครับ ไม่มีในพระคัมภีร์
ให้ถือเอาตามที่ พระคัมภีร์และข้อคำสอน ปัจจุบันระบุไว้แล้วกันครับ
ปล.ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องคริสตจริยศาสตร์เท่าไหร่ ผลุนผลันยกมาขอโทษด้วยครับ

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 11:25 pm
โดย Buddy
ถ้าฆ่าแบบจิตอาฆาต ถึงแม้จะไม่ฆ่าสัตว์ แต่ไปฟันต้นไม้ ก็บาปนะคะ เพราะใจข้างในของเรามันบาป

ถึงแม้สัตว์ไม่มีวิญญาณแบบเรา แต่ก็เป็นสิ่งสร้างของพระองค์ ถ้าเราเอามาเป็นอาหาร ไม่บาป แต่ถ้าฆ่าเล่นเพื่อความสนุก ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่พระองค์ให้เรามาก ฆ่าแบบจิตอาฆาต ก็บาปค่ะ เพราะวิญญาณเราบาป เราฆ่าวิญญาณตัวเอง

อันนี้ที่พี่เข้าใจนะคะ  ::001::

Re: ขอถามหน่อยนะคับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 12:26 am
โดย Holy
ลองอ่านอันนี้ดูครับ



15 มีนาคม

"พ่อคันตาลาเมสซ่า " ย้ำคริสตชนต้องรักษ์โลกเพราะนี่คือสิ่งสร้างของพระเจ้า

บาทหลวงรานิเอโร่ คันตาลาเมสซ่า นักเทศน์ชื่อดังประจำวาติกัน เตือนสติ มนุษย์ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนี่คืออลังการงานสร้างจากพระจิตเจ้า ชี้ชัด การที่มนุษย์สร้างและประดิษฐ์สิ่งต่างๆในโลก ล้วนเป็นผลจากพระจิตผู้เป็นปฐมแห่งการสร้างสรรค์ทั้งมวล



ดูคลิปได้ที่นี่ครับ



เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา คุณพ่อรานิเอโร่ คันตาลาเมสซ่า นักเทศน์ประจำสันตะสำนัก ได้เริ่มต้นเทศน์เตรียมจิตใจในเทศกาลมหาพรตให้กับสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 คณะพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในโรมันคูเรียได้รับฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเทศน์วันนี้ มีขึ้นภายใต้หัวข้อ "กฏของพระจิตเจ้าในพระเยซูคริสต์" (โรม 8:2) ซึ่งคุณพ่อจากคณะภราดาน้อยคาปูชิน ให้ข้อคิดว่า พระจิตเจ้าคือบ่อเกิดทางความคิดของสรรพสิ่ง ดังนั้น ทุกสิ่งในโลกล้วนเกิดจากการสร้างของพระองค์ และมนุษย์ก็ต้องช่วยกันรักษาให้สิ่งเหล่านี้ ดำรงอยู่สืบไป

สันตะสำนักได้สรุปบทเทศน์ของคุณพ่อคันตาลาเมสซ่า และรายงานให้สื่อมวลชนทราบว่า "การเทศน์เตรียมจิตใจครั้งที่ 1 ในเทศกาลมหาพรต คุณพ่อคันตาลาเมวซ่า ได้เน้นย้ำกับทุกคนว่า การสร้างสรรค์สรรพสิ่งโดยพระจิตคือบ่อเกิดของความสมบูรณ์แบบในสิ่งสร้างทั้งมวล พระจิตคือพละกำลังที่มองไม่เห็น แต่สามารถเติมเต็มให้ทุกสิ่งเกิดความครบครัน"

"บทบาทของพระจิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่หลักเทวศาสตร์เท่านั้น แต่เราสามารถทำให้เป็นเทวศาสตร์เชิงประยุกต์ได้อีกด้วย กล่าวคือ ในทางเทวศาสตร์ พระจิตประทานความคิดในการสร้าง ส่วนทางชีวิตจิต เราก็ต้องตระหนักให้มากๆว่า ทุกสิ่งที่พระจิตได้สร้างไว้ เราทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลรักษาอย่างสุดความสามารถ"

"สรุปแล้ว คริสตชนทุกคนต้องตระหนักเสมอว่า ระบบนิเวศน์ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่นี่คือผลงานการสร้างจากพระจิต ดังนั้น ขอให้เราช่วยกันดูแลรักษาระบบนิเวศน์ โดยนึกอยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ปกป้องสิ่งสร้างของพระเจ้าให้ดำรงอยู่ตลอดไป" แถลงการณ์ระบุปิดท้าย


http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!5548.entry