Belong to the Truth Jesus Christ

ประวัติพระศาสนาจักรจีน
by Sandro Magister 
 


พระสันตะปาปาเบเนดิกส์ที่ 16 ทรงเขียนจดหมายถึงคาทอลิกจีนเพื่อประทานคำแนะนำแก่พระศาสนาจักรในจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งยังคงมีปัญหาขัดแย้งกับรัฐบาลอยู่ พระศาสนาจักรนี้ประกอบด้วยพระสังฆราช,พระสงฆ์,นักบวชและฆราวาส

ในระยะ 50 ปี มานี้,รัฐบาลจีนมีปัญหาขัดแย้งกับทางโรมในเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราชของตนเองโดยไม่ฟังเสียงท้วงติงจากทางวาติกัน. แต่ปรากฏว่าพระสังฆราชเหล่านั้นเกือบทั้งหมดได้หันกลับมาเชื่อฟังพระสันตปาปา. ส่วนที่ยังแยกตัวจากโรมนั้นมีอยู่ "น้อยกว่าสิบองค์เท่านั้น" จากคำให้สัมภาษณ์ของพระคาร์ดินัล โยแซฟ เซน เซคจวน.(cardinal Joseph Zen Zekiun อัครสังฆราชแห่งฮ่องกง) "จำนวนบิชอฟทั้งหมดมาจากที่รัฐบาลแต่งตั้ง 66 องค์และที่อยู่ใต้ดินอีก 44 องค์, จากจำนวนนี้มี 17 องค์ที่กำลังถูกจำคุก."

เรื่องราวส่วนตัวของพระสังฆราชแต่ละองค์ของจีน, จะแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ใช้เวลายาวนานก่อนที่จะมีความเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในระหว่างพระศาสนจักรจีนด้วยกันเองและกับทางโรม.

เรื่องราวของสังฆราชบางท่านเป็นไปดังนี้ 

MICHAEL FU TIESHAN  ไมเคิล ฟุ ไทชาน

ท่านเป็นพระสังฆราชแห่งปักกิ่ง, ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลจีนในปี 1979 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมานี้เอง และท่านอาจเป็นสังฆราชจีนเพียงองค์เดียวในช่วงครึ่งศตวรรษหลังนี้ที่ไม่เคยใช้ชีวิตในคุกหรือถูกนำไปล้างสมองในค่ายกักกัน  ท่านไม่เคยประนีประนอมกับโรม  ตรงกันข้าม,ท่านแสดงให้เห็นเสมอว่าท่านแอนตี้พระสันตะปาปาอย่างแข็งกร้าว     วันที่ 1 ตุลาคม 2000, ท่านได้วิพากษ์วิจารณ์พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ว่า "บังอาจ" สถาปนามรณสักขีชาวจีนและชาวต่างชาติ 120 องค์, และ "นี่เป็นเครื่องมือของจักรวรรดินิยม"

ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับตำแหน่งสูงในวงการเมือง  ท่านได้เป็นประธานของสภาประชาชนแห่งชาติของรัฐสภาจีน , เป็นประธานและเลขาธิการทั่วไปของสภาสังฆราชจีน.  โดยที่ทางโรมไม่เห็นด้วย.    ยิ่งกว่านั้นท่านยังเป็นประธานของสมาคมจีนรักชาติซึ่งเป็นองค์กรที่คอยควบคุมพระศาสนจักร    มีเป้าหมายที่จะสร้างพระศาสนาจักรที่เป็นอิสระของจีน.

ก่อนที่จะเสียชีวิต, ประธานาธิบดี หู จิน เตา  ได้มาเยี่ยมท่าน    และในพิธีศพก็มีผู้นำทางการเมืองระดับสูงมาร่วมด้วย.    ในสุนทรพจน์ได้กล่าวยกย่องท่านว่า "เป็นผู้นำศาสนาที่มีความรักชาติ ,เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมและมิตรผู้ยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน"     ไม่มีผู้แทนจากทางวาติกันเข้าร่วมในงานศพเลย    แต่ในแถวหน้าของผู้ร่วมงานกลับมี เชน เหมาจู, สตรีซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของสังฆมณฑลในระหว่างที่ท่านเจ็บป่วย, เธอได้ซื้อและขายบ้านและที่ดินอันมีค่าซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของปักกิ่ง.

การแต่งตั้งผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่อจากท่านจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ถึงอนาคตของพระศาสนจักรจีน.    ถ้าพระสังฆราชองค์ใหม่มาเข้าร่วมกับทางโรม, นั่นก็อาจเป็นจุดจบของสมาคมจีนรักชาติก็เป็นได้.

JOSEPH ZENG CHANGCHENG  โยแซฟ เชง ชางเชง

ท่านได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลจีนเช่นเดียวกันในปี 1991, ให้เป็นหัวหน้าสังฆมณฑลฟูเจา. แต่ในทันทีทันใด, โดยผ่านทางตัวกลางในฮ่องกง, ท่านก็แสวงหาทางที่จะติดต่อสัมพันธ์กับทางโรมเพื่อให้ตำแหน่งของท่านเป็นที่ยอมรับ.

พระสังฆราชอีกองค์หนึ่งคือท่าน จอห์น ยัง, เป็นพระสังฆราชอีกองค์หนึ่งที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ที่ฟูเจา นี้ด้วย, ท่านติดต่อกับทางโรมอย่างลับๆ.  ความสัมพันธ์ของสังฆราชทั้งสองนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก. ท่าน จอห์น ยัง กล่าวหา ท่าน เชง ว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อพระสันตปาปา. แต่ท่าน เชง เองก็เคยติดคุกถึง 30 ปีก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้เพราะท่านปฏิเสธไม่ยอมถอนตัวจากความเชื่อทางคริสตศาสนาและการเชื่อฟังอำนาจของเปโตร.

ระหว่างช่วงปลายอายุขัยของท่าน, พระสังฆราชเชงได้รับสัญญาณจากทางโรมว่ายอมรับในความนบนอบของท่าน.    โดยผ่านทางพระสังฆราชของฮ่องกง, ท่านได้รับแหวนตำแหน่งพระสังฆราช.    และผ่านทางพระคาร์ดินัล อิวาน ดิอัส, ท่านก็ได้รับคำอวยพรจากพระสันตะปาปาเบเนดิกส์ที่ 16. ท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2006 อายุ 94 ปี





JOSEPH WEI JINGYI  โยแซฟ เว่ย จิงยี่

ท่านเป็นสังฆราชใต้ดินของสังฆมณฑลคิขิฮา Qiqihar พระสังฆราชก่อนหน้าท่านคือ เปาโล เกา เว่นสี Paul Guo Wenzhi ซึ่งก็เป็นสังฆราชใต้ดินเช่นเดียวกัน, เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2006, อายุ 84 ปี. สังฆราชเว่ย ได้ท้าทายคำสั่งห้ามของเจ้าหน้าที่ทางรัฐบาลโดยจัดให้มีการประกอบพิธีศพของท่านเปาโล เกา เว่นสี และฝังศพในสถานที่ที่ไม่เปิดเผย.

ท่านเป็นหนึ่งในสี่ของพระสังฆราชที่ได้รับเชิญจากพระสันตะปาปาเบเนดิกส์ที่ 16 ให้เข้าร่วมการประชุมสังฆราชที่โรมเมื่อ ตุลาคม 2005. แต่สังฆราชทั้งสี่ไม่ได้รับอนุญาติจากรัฐบาลให้เดินทางออกนอกประเทศ

ท่านเว่ยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอนุญาตให้ท่านดำเนินงานได้โดยไม่ถือว่าผิดกฎหมาย. ท่านเว่ยมีอายุ 45 ปี และพระสงฆ์ของท่านก็มีอายุอ่อนกว่าท่านทั้งสิ้น. ในประเทศจีนมีปัญหาการขาดแคลนพระสงฆ์ที่มีอายุระหว่าง 45 - 70 ปี. การขาดแคลนนี้เกิดขึ้นในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ผลกระทบจากการขาดแคลนนี้ทำให้มีช่องว่างของอายุระหว่างพระสังฆราชซึ่งมีอายุมาก(ท่านเปาโล เกา) กับผู้สืบทอดตำแหน่ง(ท่านเว่ย). ซึ่งจะมีอายุประมาณ 40 ปี




ANTHONY LI DUAN แอนโทนี่ ลี่ดวน

ท่านเป็นสังฆราชในซีอาน ตั้งแต่ปี 1987 จนเสียชีวิตในวันที่ 25 พฤษภาคม 2006. ในวัยหนุ่มท่านต้องใช้เวลา 20 ปีอยู่ในค่ายกักกัน และถึงแม้ว่าต่อมาท่านจะได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลให้เป็นผู้ปกครองสังฆมณฑล, ท่านก็ไม่เคยเข้าร่วมกับทางสมาคมจีนรักชาติ.

ตัวอย่างเช่น, ในเดือนมกราคม 2000, ท่านได้หลบซ่อนตัวเป็นเวลาหลายวันเพื่อที่จะไม่ไปเข้าร่วมพิธีแต่งตั้งพระสังฆราช 5 องค์ที่ทางรัฐบาลตั้งขึ้นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากทางโรม  ภายใต้การปกครองของท่าน, ซีอานได้กลายเป็นสังฆมณฑลที่รุ่งเรืองมากที่สุดแห่งหนึ่ง.    ในพิธีศพของท่าน,มีผู้มาร่วมพิธีมากมาย.  และหลุมศพของท่านก็กลายเป็นที่แสวงบุญแห่งหนึ่งเหมือนกับนักบุญ    เป็นไปได้ที่ท่านได้รับการแต่งตั้งจากพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ให้เป็นพระคาร์ดินัลอย่างไม่เปิดเผย.

ท่านลี่ดวน ได้รับการสดุดีว่าเป็นดังกระโจมไฟส่องสว่างให้เห็นถึง "ธรรมเนียมคริสตชน"     ปัญญาชนจีนเห็นว่าทั้งๆที่ผืนแผ่นดินแห่งนี้เป็นแหล่งวัฒนธรรมที่แตกต่างจากคริสตชน    แต่ท่านลี่ดวนก็ยังดำเนินงานของท่านก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจทางคริสตศาสนาขึ้นมาได้  พวกเขาจึงรู้สึกเคารพนับถือและยกย่องท่านมาก

 

(ชุดขาว)
  JOSEPH XING WENZHI    โยแซฟ ชิง เว่นสี

    ท่าน ได้รับการแต่งตั้งเป็นสังฆราชจากทางรัฐบาลจีนในวันที่ 28 มิถุนายน 2005 อายุ 42 ปี, เป็นสังฆราชผู้ช่วยปกครองสังฆมณฑลเซี่ยงไฮ้ แต่ท่านก็ได้รับความเห็นชอบอย่างเงียบๆจากทางโรมด้วย.

    พระสังฆราช ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนแล้วคือ พระสังฆราช โอลิซิส จิน ลู่เซียน Aloysius Jin Luxian, อายุ 92 ปี,ยังมีชีวิตอยู่ และท่าน ชิง มาสืบต่อจากท่าน. อย่างไรก็ตาม,ก็ยังมีสังฆราชใต้ดินประจำสังฆมณฑลนี้ด้วย คือ สังฆราช โยแซฟ ฟั่น ชองเหลียน Joseph Fan Zhongliang ซึ่งมีอายุมากแล้วและกำลังเจ็บป่วย. ในปี 1950 ,ท่าน ฟั่น และ ท่าน จิน เข้าคณะเยซูอิต และไปทำงานร่วมกับสังฆราชของเมือง, คือท่าน อิกนาตุส กอง ปินเม่ย Gong Pinmei ในระหว่างที่พวกนิยมเหมาก่อการปฏิวัติวัฒนธรรมขึ้น, พวกนั้นได้กวาดล้างทั้งสังฆมณฑลและพวกท่านทั้งหมดได้ถูกจำคุก ต่อมาก็ได้ถูกปล่อยตัว. แต่ละท่านได้เลือกทางเดินของตน, ท่าน ฟั่น เลือกที่จะเป็นสังฆราชใต้ดิน ท่านจินปรับตัวเข้ากับทางศาสนาจักรของรัฐบาลและได้รับการแต่งตั้งให้ปกครอง สังฆมณฑล ส่วนสังฆราชแต่ในนามคือท่าน กอง ปินเม่ย ได้รับอิสระแต่ต้องอยู่ในการตรวจสอบและในท้ายที่สุดได้ถูกเนรเทศไปอยู่สหรัฐ อเมริกาและเสียชีวิตที่นั่น. พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระคาร์ดินัลอย่างไม่เปิดเผยในปี 1979 และมอบตำแหน่งพระราชาคณะให้ท่านในปี 1988

    สังฆราช จินได้รับความเห็นชอบจากทางรัฐบาลจีน ส่วนสังฆราช ฟั่นได้รับความเห็นชอบจากทางโรม,ไม่ใช่จากจากทางปักกิ่ง. ดังนั้นจึงต้องมีผู้สืบทอดตำแหน่งเพียงคนเดียวจากสังฆราชทั้งสอง และท่านชิงก็คือผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากทั้งพระสันตะปาปาและรัฐบาลจีน.




    LIU JINGSHAN    ลิ่ว จิงชาน

    ท่าน ถูกจำคุกนาน 19 ปี, และได้รับอนุญาตให้ทำงานอภิบาลในทางตอนใต้ของจังหวัดหนิงเซี่ย Ningxia, ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม. ทางรัฐบาลจีนได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นสังฆราชในปี 1993 ที่ หยินชวน, เมืองหลวงของจังหวัด. และท่านได้ขอร้องจากพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ให้ทรงยอมรับท่าน ขณะนี้ท่านอายุ 96ปีแล้ว และปรารถนาจะให้มีผู้สืบต่อตำแหน่งซึ่งจะ "ทำให้พระศาสนาจักรเป็นหนึ่งเดียวกันได้"ต่อไป. ผู้ที่มีสิทธิสืบทอดจากท่านคือ หลี่ จิง, อายุ 38ปี ซึ่งศึกษาเทววิทยามาจากเยอรมันนี. ปัจจุบันเป็นอธิการสามเณราลัยในปักกิ่ง. ท่านมีวัยวุฒิและได้รับการยอมรับจากทางโรม.

    แต่ หลี่ต้องได้รับการลงคะแนนเสียงจากสภาผู้แทนของสังฆมณฑลก่อนอันประกอบด้วย พระสงฆ์, นักบวชหญิง และ กลุ่มฆราวาส. แล้วจึงได้รับการอนุมัติจากทางรัฐบาลจีนที่ปักกิ่ง

    (หมาย เหตุ : ท่าน หลี่ จิง ได้รับการบวชเป็นสังฆราชจากทางศาสนจักรของรัฐบาลจีนเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือน ธันวาคม 2007 ที่ จังหวัดหยินชวน. ท่านเป็นสังฆราชที่ทางวาติกันรับรอง ปัจจุบันอายุ 40 ป)ี





    JOSEPH LIU XINHONG  โยแซฟ ลิ่ว ชิงฮอง

    ท่านเป็นสังฆราชหนุ่มคนหนึ่งที่ได้รับการบวชแต่งตั้งเป็นสังฆราชโดยไม่ได้รับความเห็นขอบจากทางโรมในปี 2006

    ท่านเป็น สังฆราชอย่างเป็นทางการของวูฮู, อยู่ทางตอนใต้ของอันฮุย, ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ปีที่แล้ว ท่านได้ขอร้องจากทางโรมให้ยอมรับท่านแต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ. ในหนังสือจากทางวาติกัน,ได้ระบุว่าการบวชแต่งตั้งเป็นสังฆราชของท่าน "ทำให้เกิดบาดแผลที่รุนแรงต่อความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระศาสนาจักร. และจะต้องมีการลงโทษตามวินัยด้วย"

    การลง โทษนั้นก็คือการไม่สมาคมด้วย ซึ่งจะเป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อมีการบวชแต่งตั้งในลักษณะเดียวกันนี้. แต่ทางวาติกันยังคงระงับปฏิกิริยาเพระยังคาดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นโดยการถูก ขู่บังคับ แต่ถ้าหากเมื่อใดที่ทางสมาคมจีนรักชาติจะมีการจัดการบวชแต่งตั้งขึ้นอีกใน อนาคต (คาดว่าจะมีการแต่งตั้งสำหรับปักกิ่ง, ขณะนี้กำลังเตรียมการอยู่) ก็สามารถเดาได้ล่วงหน้าว่าทางโรมจะแสดงบทบาทที่แข็งกร้าวมากกว่าเดิม. ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่จะสั่งผู้ได้รับการแต่งตั้งนั้นมิให้ดำเนินกิจการงานใน หน้าที่ของตน



http://uk.geocities.com/devoutlife2006/china.html

Holy เขียน:

MICHAEL FU TIESHAN   ไมเคิล ฟุ ไทชาน

ท่านเป็นพระสังฆราชแห่งปักกิ่ง, ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลจีนในปี 1979 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมานี้เอง และท่านอาจเป็นสังฆราชจีนเพียงองค์เดียวในช่วงครึ่งศตวรรษหลังนี้ที่ไม่เคยใช้ชีวิตในคุกหรือถูกนำไปล้างสมองในค่ายกักกัน   ท่านไม่เคยประนีประนอมกับโรม   ตรงกันข้าม,ท่านแสดงให้เห็นเสมอว่าท่านแอนตี้พระสันตะปาปาอย่างแข็งกร้าว     วันที่ 1 ตุลาคม 2000, ท่านได้วิพากษ์วิจารณ์พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ว่า "บังอาจ" สถาปนามรณสักขีชาวจีนและชาวต่างชาติ 120 องค์, และ "นี่เป็นเครื่องมือของจักรวรรดินิยม"

ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับตำแหน่งสูงในวงการเมือง   ท่านได้เป็นประธานของสภาประชาชนแห่งชาติของรัฐสภาจีน , เป็นประธานและเลขาธิการทั่วไปของสภาสังฆราชจีน.   โดยที่ทางโรมไม่เห็นด้วย.    ยิ่งกว่านั้นท่านยังเป็นประธานของสมาคมจีนรักชาติซึ่งเป็นองค์กรที่คอยควบคุมพระศาสนจักร    มีเป้าหมายที่จะสร้างพระศาสนาจักรที่เป็นอิสระของจีน.

ก่อนที่จะเสียชีวิต, ประธานาธิบดี หู จิน เตา   ได้มาเยี่ยมท่าน    และในพิธีศพก็มีผู้นำทางการเมืองระดับสูงมาร่วมด้วย.    ในสุนทรพจน์ได้กล่าวยกย่องท่านว่า "เป็นผู้นำศาสนาที่มีความรักชาติ ,เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมและมิตรผู้ยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน"     ไม่มีผู้แทนจากทางวาติกันเข้าร่วมในงานศพเลย    แต่ในแถวหน้าของผู้ร่วมงานกลับมี เชน เหมาจู, สตรีซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของสังฆมณฑลในระหว่างที่ท่านเจ็บป่วย, เธอได้ซื้อและขายบ้านและที่ดินอันมีค่าซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของปักกิ่ง.

การแต่งตั้งผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่อจากท่านจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ถึงอนาคตของพระศาสนจักรจีน.    ถ้าพระสังฆราชองค์ใหม่มาเข้าร่วมกับทางโรม, นั่นก็อาจเป็นจุดจบของสมาคมจีนรักชาติก็เป็นได้.

มีผู้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ดังนี้ครับ



ขอเพิ่มเติมเรื่องประวัติศาสตร์พระศาสนจักรจีน

สตรีที่ดูแล ฟู่ เถี่ย ซ่าน ตอนเจ็บป่วยเป็นภรรยาของเขา (อันนี้ รู้จากพวกเพื่อนเยาวชนชาวจีน)