Belong to the Truth Jesus Christ

ไม่ว่าจะในศาสนาคาทอลิก คริสต์นิกายอื่นๆรวมถึงอิสลาม ได้มีคำสอนและข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ค่อนข้างเข้มงวดรัดกุม และมักอธิบายว่าเรื่องการมี sex หรือเพศสัมพันธ์นั้น จะทำเพือ่การดำรงเผ่าพันธุ์เท่านั้น ตามเจตนารมณ์ของพระเจ้า และก็ได้ตึกรอบเอาไว้สำหรับคู่สมรส ที่ผ่านพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว

แต่ในความเป็นจริงหลักศาสนาคาทอลิกที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของความรัก (หมายถึงความรักแท้ที่ไม่มีเจตนาเห็นแก่ตัวแอบแฝง) ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ที่ไม่สามารถแต่งงานได้อย่างถูกต้องเพราะเป็นพวกรักร่วมเพศ การทำ masterbation หรือการคุมกำเนิดโดยวิธีการทางการแพทย์ ซึ่งไม่ได้กระทำไปโดยผิดหลักความรัก ก็ต้องถือเป็นบาป และทางศาสนจักรก็ยังไม่สามารถยอมรับการกระทำเหล่านี่ว่าถูกต้องได้ เหตุผลประการหนึ่งก็เพราะถ้าหากอนุญาตในเรื่องที่ว่ามาแล้ว ก็จะมีหลายคนกระทำการเหล่านี้โดยเจตนาผิดๆและไม่รู้สึกผิดนั่นเอง

ผมเคยอ่านเจอบทความหนึ่งเขาว่าการคุมกำเนิดโดยใช้เครื่องมือต่างๆอาจจะไม่ผิดต่อความรัก ทว่าผิดต่อชีวิตซึ่งเป็นสิ่งสร้างสูงสุดของพระเจ้า ทำให้ผมรู้สึกว่าการจะปฏิบัติตามพระบัญญัติในเรื่องเพศคือข้อที่ 6 และ 9 โดยเคร่งครัดให้ได้นั้น เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับชีวิตประจำวันอย่างมหาศาลในหลายครั้ง

เช่นตนเองทำงานเป็นแพทย์ แต่จะไม่สามารถให้ความรู้ในเรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกต้องแก่ผู้มารับคำปรึกษาได้ เพราะทางคาทอลิกบอกให้ใช้วิธี abstinence คืองดการมี sex ไปเลย หรือนับวันเอา ทั้งที่จริงแล้วการกระทำทั้ง 2 อย่างนี้ เจตนาคือไม่ต้องการมีบุตรอยู่ดี เพียงแต่เลี่ยงวิธีการเท่านั้นเอง

ต่ออีกนิดว่าด้วยเรื่องของพวกรักร่วมเพศ คนที่เป็นเกย์ หรือ จะทอม ดี้ อะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อเขาไม่ได้ถวายตัวเป็นข้ารับใช้ เช่นนักบวช และก็ไม่สามารถจะมี sex ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าว่าตามคำสอนที่ยังสอนกันในปัจจุบัน อย่างนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า การสอนเช่นนี้จะถูกน้ำพระทัยพระผู้เป็นเจ้าจริงหรือไม่

เป็นที่รู้กันว่าทุกสรรพสิ่งมาจากพระเจ้า ไม่ใช่ว่ามนุษย์จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มี sex แต่ไม่ควรลืมว่าเรื่อง sexual drive ซึ่งเป็นแรงขับดันทีมีค่อนข้างมากนั้นก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระองค์ ถามว่าพระเจ้าจะทรงมีเจตนาอันใดนั้น ตัวผมก็คงจะตอบไม่ได้เนื่องจากผมก็เป็นมนุษย์ซึ่งมีภูมิรู้ที่จำกัด แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าอะไรก็ตามที่ไม่ผิดต่อความรักไม่น่าจะเป็นบาป

พี่ชายหนูที่เป็นหมอ ชอบพูดว่า "คุมกำหนัด นั่นแหละ คุมกำเนิด " อิ๊ๆๆ มะรู้โดนเฮียโฮลี่ลบป่าว ;D

ในศาสนาคาทอลิกนั้นมีบัญญัติข้อที่สำคัญสุดอยู่ 2 ข้อ คือให้รักพระเจ้าให้มากเท่าที่จะทำได้ และรักเพื่อนมนุษย์ให้เท่ากับรักตัวเอง

ผมมีความเห็นว่าการมี sex แบบที่ศาสนาไม่ยอมรับอันได้พูดมาข้างต้น ไม่จำเป็นว่าจะผิดในข้อที่สองนี้แน่ๆ ตราบเท่าที่ไม่ได้มีเจตนาอันเห็นแก่ตัว นอกใจ หรือ ทำไปเพื่อทำลายใคร

ส่วนในข้อแรกผมมีความเห็นว่าน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นสุดจะหยั่งถึงได้ดังนั้นจึงเกิดข้อสงสัยอย่างมากว่าที่เข้าใจกันนั้นมันถูกต้องจริงแล้วหรือ

sansrepos เขียน: ต่ออีกนิดว่าด้วยเรื่องของพวกรักร่วมเพศ คนที่เป็นเกย์ หรือ จะทอม ดี้ อะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อเขาไม่ได้ถวายตัวเป็นข้ารับใช้ เช่นนักบวช และก็ไม่สามารถจะมี sex ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าว่าตามคำสอนที่ยังสอนกันในปัจจุบัน อย่างนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า การสอนเช่นนี้จะถูกน้ำพระทัยพระผู้เป็นเจ้าจริงหรือไม่

เป็นที่รู้กันว่าทุกสรรพสิ่งมาจากพระเจ้า ไม่ใช่ว่ามนุษย์จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มี sex แต่ไม่ควรลืมว่าเรื่อง sexual drive ซึ่งเป็นแรงขับดันทีมีค่อนข้างมากนั้นก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระองค์ ถามว่าพระเจ้าจะทรงมีเจตนาอันใดนั้น ตัวผมก็คงจะตอบไม่ได้เนื่องจากผมก็เป็นมนุษย์ซึ่งมีภูมิรู้ที่จำกัด แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าอะไรก็ตามที่ไม่ผิดต่อความรักไม่น่าจะเป็นบาป

ผมว่าศาสนจักรสอนถูกนะครับ ถ้ามองพระคัมภีร์เป็นบรรทัดฐาน

กท 5:13-26 เสรีภาพและความรัก
พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มารับอิสรภาพ ขอเพียงแต่อย่าใช้อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก เพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ถ้าท่านกัดกันและกินกัน ก็จงระวังตัวไว้เถิดว่า ท่านจะทำลายกันจนหมดสิ้น

หนับหนุน พระคัมภีร์ที่น้องโฮลี่ ยกมาค่ะ :-*

เรื่องการคุมกำเนิด
ทางพระศาสนจักร ให้คุมด้วยวิธีธรรมชาติคะ

คือ นับวัน

I go to a catholic university and in my Physiology class, professor realized this very well and he also mentioned that this is only for education when he talks about sterilization and stuff....

I found this hard too. I mean I am a convert and I just didn't have any idea how it is possible not to take any contraception when I was first catechized. But in fact, if you love your spouse enough, you don't want to do any contraception. ... I used to feel weird with this teaching before I was baptized but right now, I feel weird with the idea of sterilization.... When you surrender enough to God, you'll feel it's much better to follow the church teaching. By this way, you'll love your spouse more.

You're right that abstinence sometimes indicates that it's you don't want to have a baby. It could mean not so good intention. But that is less evil. In catholic, if you can't do anything that is purely holy, we are suggested to choose what is less evil. .... And in fact, this indicates responsibility too. If you can't take the consequences, you simply don't do it... :)

Moreover, SEX IS HOLY.

Buddy เขียน:
Moreover, SEX IS HOLY.

ห๋า~~~~~~~~~~~~~~~ พี่โฮลี่ ไปเกี่ยวข้อง อะไร กับ sex *heh *gg

หมอโต้งนี่เอง โทรหาเจ๊minnieด้วยจ้า

วันใหนลงมากรุงเทพจ๊ะ จาได้เจอกานนนน :D

Jeab Agape เขียน:

Buddy เขียน:
Moreover, SEX IS HOLY.

ห๋า~~~~~~~~~~~~~~~ พี่โฮลี่ ไปเกี่ยวข้อง อะไร กับ sex *heh *gg

5555555 คิดได้งายยยย

ถ้าจะต้องปฏิบัติตามข้อห้ามหรือบทบัญญัติที่ตีความกันในปัจจุบัน การประกอบอาชีพของผมต้องมีปัญหาแน่ครับ ยังดีนะผมไม่ได้เป็นหมอสูตินรี เพราะเรื่องการทำหมันและการสั่งใช้ยาคุมทุกประเภทเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งเลย

สมัยผมเรียนในมหาลัยผมต้องสอบทำหมันด้วย ดีนะไม่มีสอบทำแท้งไม่งั้นคงไม่ได้จบมาเป็นหมอแน่ๆ

ตอนที่เป็นแพทย์ฝึกหัดเมื่อราวๆปีกว่าที่แล้วก็ต้องหัดทำหมันให้มันคล่องขึ้น ตอนนี้ผมมาประจำอยู่กุมารเวชเลยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้โดยตรง ก็ดีไม่มีเรื่องให้ลำบากใจเท่าไหร่

ยังมีอีกอย่างเรื่องการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ที่เรียกว่า morning after pill ซึ่งอาจต้องให้คำปรึกษาแก่ผู้มารับบริการเหมือนกัน ในบางครั้ง

ตามหลักการวิทยาศาสตร์ มันก็ไม่ได้ต่างไปจากการทำแท้งนัก เพราะเป็นการไปทำให้เยื่อบุมดลูกไม่อยู่ในสภาพที่ตัวอ่อนจะเข้าไปฝังตัวได้ ซึ่งมันก็จะตายหลังจากนั้น ตัวอ่อนหรือ embryo นี้ไม่ว่าทางศาสนาหรือทางวิทยาศาสตร์ก็ถือว่าเป็นชีวิตใหม่ แต่ในทางกฎหมายหรือทางสังคมศาสตร์จะไม่ยอมรับเพราะถือว่าตัวอ่อนที่ว่าจะไม่สามารถอยู่ได้ถ้าปราศจากร่างกายของมารดาจึงไม่มีสภาพบุคคล และการใช้ morning after pill ก็ไม่เป็นสิ่งผิดแม้ในประเทศที่ห้ามการทำแท้ง (จริงๆห้ามไม่ได้เลย แต่ใส่ไว้ในกฎหมายยังงั้นแหละ)

แม้จะไม่ได้เป็นสูติแพทย์แต่การเป็นกุมารแพทย์ก็ต้องให้คำแนะนำเรื่องการทำหมันเหมือนกัน เพราะปัญหาความยากจนนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพจิตและส่งผลต่อสถาบันครอบครัวและการเลี้ยงดูเด็ก ถ้าจะให้สอนแต่เรื่องศาสนาให้คนคุมกำเนิดโดยวิธีที่ไม่พึ่งเทคโนโลยี เห็นจะเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

เท่าที่ผมทราบมาเห็นจะมีแต่ชาวมุสลิมส่วนมากและชาวคริสต์ส่วนน้อยเท่านั้นที่ใช้วิธีนับวันหรืองดการมี sex ไปเลย

พระคัมภีร์และคำสอนของเรามีการบันทึกและนำมาตึความกันหลายครั้ง ผมไม่แน่ใจแนวคิดจิตนิยมทางศาสนาของผู้ที่เห็นด้วยกับแนวทางอนุรักษ์นิยมจะถูกต้องจริงหรือไม่ และหากมีการเปลี่ยนแปลงการตึความคำสอนและข้อห้ามเหล่านี้ ก็ไม่แน่ว่าจะเกิดผลดีต่อสังคม เพราะพวกฉวยโอกาสหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง และใช้อิสรภาพในทางที่ผิด เพื่อจะทำบาปมากขึ้นก็คงจะมีเช่นกัน

ผมทำงานในเขตต่างจังหวัด ผู้ป่วยเด็กจำนวนมาก อาจมากกว่าครึ่งหนึ่งที่มารับบริการตรวจรักษากับผมเป็นเด็กทีไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ โดยจะเป็นตายายเลี้ยง ปู่ย่าหรือป้าน้าก็มีบ้าง ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเด็กเหล่านี้เกิดมาโดยความสมัครใจของพ่อแม่จริงหรือไม่ บางทีอาจไม่ตั้งใจแต่คงยิ่งแย่หากคิดสั้นไปทำแท้งมันซะเลย

ขณะที่หลายคนอยากมีบุตรแต่ต้องทำงานหนัก ตามประสาผู้ใช้แรงงานที่ถูกเอาเปรียบเพื่อรับค่าแรงต่ำชนิดที่คนชั้นกลางหรือคนทำงานนั่งโต๊ะไม่มีวันเข้าใจได้ คนเหล่านี้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้เพียง 1-2 เดือนเป็นอย่างมาก แล้วก็เอาเด็กมาฝากให้ญาติดูแล ปีหนึ่งจะมาเห็นหน้าลูกไม่เกิน 2 ครั้ง

ผมยังสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เราจะไปสอนให้คนพวกนี้ ซึ่งส่วนมากมีการศึกษาน้อย และบางคนอาจไม่ค่อยมีความคิดด้วยซ้ำให้ลูกเท่าที่จะสามารถรับผิดชอบได้ และให้ใช้วิธีธรรมชาติด้วย

มาตอบแล้วเหรอออ

มีเรื่องอื่นๆๆหลายๆๆมุมมอง เล่าให้ฟังหน่อยจิ๊

อยากฟังงะ :D

First of all, you're right about the morning pill. It's not different from ABORTION.

And... this is gonna be a long story... It's related not only to FAITH but also to ETHICS.

In my opinion, the keywords are CONSCIENCE and DECISION TO DO LESS EVIL.

In Bhuddist consceince, they don't kill. If you recommend morning pill, it's against their conscience. But they don't have God. I'm not sure whether condom is the best way for them. ... I think there is no absolute solution for this. ..... It depends on many factors... The point is , in my opinion, you don't need to teach what is according to your conscience but according to their conscience. Because if you teach them to do what we do, it'll trouble their conscience and that's a sin. It's like when the priests minister Mong. Mong feel nothing wrong with multiple wives... and the priests just don't bother them by teaching that having multiple wives is wrong... It's quite similar to your case.

There is a case in the US where catholic pharmacists and physicians just don't prescribe contraceptive pills and patients just claim their rights to have the pills. Those catholic medical staffs insisted not to do anything against their faith... And many ones just feel doctors should distinguish between work and personal stuff. They found FAITH is the personal affair.

But in my opinion, as long as diagnosis can be different of doctors to doctors, why don't this right to prescribe contraceptive pills cannot be different? I mean if you realize that you can't get the contraceptive pills from catholic doctors, you can find from someone else if you insist to have the pill. Doctors should prioratize on the quality of life of patients and in catholic doctors' opinion, they just feel that contraceptive pill doesn't promote the quality of life of patients. Why don't catholic doctors have a right to deny to prescribe the pill? ... This is my opinion na ka... I realize you know better than me in MEDICAL ETHICS.

I'd suggest you to consult a priest who's specialized in Medical Ethics. .. or just Ethics... or Moral Theology... I'll try to ask from someone here too but this is not a promise that you'll get answer na ka because I'm not sure I can find one.

Finally, listen to your heart and your conscience. Don't do anything against that. God always find a way for you. Don't let your heart trouble. ... God never ask us to do anything beyond our limitation. :)

อืม...เป็นหมอก็ลำบากเหมือนกันเน๊อะ

แต่จริงๆแล้ว
อาชีพที่ต้องเกี่ยวกับชีวิต
LL คิดว่าเราสามารถดูได้เป็นสองแง่นะ

เช่นทหาร ตำรวจ แม้เป็นคริสต์
แต่ถ้าต้องฆ่าใคร จับตายใคร
มันก็เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่ต้องทำ


จริงๆแล้ว....เราสามารถทำอย่างนี้ได้มั๊ย
คือ..................


พูดกับคนไข้ว่า
ในฐานะหมอ หมอแนะนำว่าทำหมันนะ ทำนั่นนะ กินไอ้นี่นะ
ในฐานะคริสตชน ผมแนะนำว่าทำอย่างนี้ๆๆนะ


LL ว่าแบบนี้ก็ดีคือ
ตามหน้าที่หมอ เราแนะนำแบบนี้
ตามหน้าที่คริสตชน เราแนะนำแบบนี้

1. เราให้ทางเลือกเขา
2. เราทำหน้าที่คริสตชนไม่บกพร่องด้วย
3. แพร่ธรรมไปในตัว

ส่วนเขาจะเชื่อ หรือ ไม่....เขาตัดสินเอง
ไม่ใช่เรา เราบอกทางเขาแล้ว เขาเลือกเดินเอง *no1

:D :D ถ้าให้ชัวร์ๆ หมอปรึกษาพระสงฆ์จะดีกว่านะค่ะ อย่างน้อยๆอาจพอมีหนทางที่ทำให้หมอชัดเจนขึ้นกว่านี้ค่ะ ;) ;)

พระองค์สร้างผู้ชายมาจากผงคลีดินเเละสร้างผู้ญมาจากผู้ชาย
อาดัมกับเอวาได้กระทำบาปทำให้ทั้งสองได้เกิดเกรงกลัวพระเจ้า
เกรงกลัวบาปของตนเเรกอดัมกับเอวาอยู่ได้อย่างไม่ต้องอายกัน
ไม่มีอะไรมาปกปิดร่างกายเพราะบาปทำให้ทั้สองคนสำนึกได้

เห็นด้วยกับพี่จิงๆเต็มที่คร๊าบบบบ

:D เวปเรามีคุณหมอด้วย ขอนอกเรื่องปรึกษาปัญหาสุขภาพหน่อยได้ปะ

อยากทราบว่าการออกกำลังกาย ในช่วง เย็น 17- 19 น. เป็นผลเสียต่อร่างกายจริงอะเป่าอะ
เพราะช่วงนี้ พลังงานเคลื่อนมาสู่ ไต ซึ่งไตกำลังทำงานหนัก จริงไหมหนอ :P

mind เขียน: :D เวปเรามีคุณหมอด้วย ขอนอกเรื่องปรึกษาปัญหาสุขภาพหน่อยได้ปะ

อยากทราบว่าการออกกำลังกาย ในช่วง เย็น 17- 19 น. เป็นผลเสียต่อร่างกายจริงอะเป่าอะ
เพราะช่วงนี้ พลังงานเคลื่อนมาสู่ ไต ซึ่งไตกำลังทำงานหนัก จริงไหมหนอ :P

พี่มายด์หมายถึง ไต หรือ ใส้เลื่อนฮะ :-*

ถามพี่หมอ โต้ง ฮะ พี่รักษาเด็กๆ นี่ ได้มีโอกาสภาวนาให้เขาบ้างหรือเปล่าฮะ

เพราะตามที่หนูทราบ พี่หมอคริสเตียนหลายๆท่าน ก็พึ่งพา พระเยซูคริสต์แพทย์ ผู้ประเสริฐ
ให้ทรงนำ มือของพวกเขาด้วย เพราะเชื่อว่าพระเจ้าตรีเอกภาพ ทรงอยู่เหนืออำนาจของการรักษา
ทั้งหมด ฮะ ......................................พี่หมอโต้ง ต้องใช้จิตวิทยาเด็กร่วมด้วยป่าวตอนรักษา

เอ่อ บอร์ดนี้ มีพี่สาวๆ ที่มีพฤติกรรมแบบนางงาม รักเด็กเยอะ ฮะ ลองควานหาตัวไปช่วยงานดูสิ

ก๊าก~~~~~~~~~


พี่มายด์เป็นไส้เลื่อน

Jeab Agape เขียน:

mind เขียน: :D เวปเรามีคุณหมอด้วย ขอนอกเรื่องปรึกษาปัญหาสุขภาพหน่อยได้ปะ

อยากทราบว่าการออกกำลังกาย ในช่วง เย็น 17- 19 น. เป็นผลเสียต่อร่างกายจริงอะเป่าอะ
เพราะช่วงนี้ พลังงานเคลื่อนมาสู่ ไต ซึ่งไตกำลังทำงานหนัก จริงไหมหนอ :P

พี่มายด์หมายถึง ไต หรือ ใส้เลื่อนฮะ :-*

มะได้เป็นอะไร แค่สงสัยอย่างที่ถาม อะ เจี๊ยบ

แต่ไส้อะ มันคงไม่เลื่อนหรอก เพราะมัน ถูกไขมันล๊อคอยู่(ว่ากระทบพุงใครบางคนด้วย) :Pฮิ ฮิ ฮิ

mind เขียน:
มะได้เป็นอะไร แค่สงสัยอย่างที่ถาม อะ เจี๊ยบ

แต่ไส้อะ มันคงไม่เลื่อนหรอก เพราะมัน ถูกไขมันล๊อคอยู่(ว่ากระทบพุงใครบางคนด้วย) :Pฮิ ฮิ ฮิ

555555 กระทบ พวกตระกูล P เกือบทุกคนมั้ง อิอิ ;D

ฮือ ฮือ คุณหมอ ม่ายมาตอบ เลย :P อยากรู้จัง อยากรู้จัง

สวัสดี ครับ พี่ พีพี :-*

ไม่เคยได้ยินว่าไตจะเสื่อมนะครับ แต่ศาสตร์การแพทย์แผนจีนนี่ผมไม่เคยได้ศึกษาดังนั้นคิดว่าไม่แน่อาจจะมีผลบ้างก็ได้ แต่ไม่น่าจะเป็นอันตราย จนเป็นข้อห้าม

Prod Pran เขียน:

mind เขียน:
มะได้เป็นอะไร แค่สงสัยอย่างที่ถาม อะ เจี๊ยบ

แต่ไส้อะ มันคงไม่เลื่อนหรอก เพราะมัน ถูกไขมันล๊อคอยู่(ว่ากระทบพุงใครบางคนด้วย) :Pฮิ ฮิ ฮิ

555555 กระทบ พวกตระกูล P เกือบทุกคนมั้ง อิอิ ;D

มุขนี้สุดยอดฮา คะพี่พีพี

Lost Lamb เขียน:

Prod Pran เขียน:

mind เขียน:
มะได้เป็นอะไร แค่สงสัยอย่างที่ถาม อะ เจี๊ยบ

แต่ไส้อะ มันคงไม่เลื่อนหรอก เพราะมัน ถูกไขมันล๊อคอยู่(ว่ากระทบพุงใครบางคนด้วย) :Pฮิ ฮิ ฮิ

555555 กระทบ พวกตระกูล P เกือบทุกคนมั้ง อิอิ ;D

มุขนี้สุดยอดฮา คะพี่พีพี

อิอิ เขิน เผาตัวเองต่างหากจ๊ะ :-*