+สีแดงคือสัญลักษณ์แห่งการรับใช้ ไม่ใช่เกียรติยศชื่อเสียง+
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 9:20 pm
โดย ซินดี้ วูดเดิ้น จากหนังสือพิมพ์ วันว้อยส์ ฉบับ 23 กุมภาพันธ์ 2001
03/02/2003 19:20:52
แปลและเรียบเรียงโดย
สิริโรจนา
กรุง โรม (CNS) -- พระคาร์ดินัลเอเฝอรี่ ดัลเลส ได้ถวายมิสซาในฐานะพระสงฆ์เป็นครั้งสุดท้าย ท่านได้สวดภาวนาขอให้ท่านได้สวมชุดสีแดงประจำตำแหน่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการ รับใช้พระศาสนจักร ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศชื่อเสียงส่วนตัว
นักเทววิทยาคณะเยซูอิทชาวอเมริกัน อายุ 82 ปี ได้ถวายมิสซาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่วัดกีซูในกรุงโรม ที่ซึ่ง นักบุญอิกเนชัสแห่งโลโญลา ผู้ตั้งคณะเยซูอิท ได้พำนักอยู่ หมดลมหายใจ และถูกฝังไว้
ท่านศาสดาจารย์ของมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมแห่งนิวยอร์กจะได้เป็นสมาชิกของคณะพระคาร์ดินัล พร้อมกับอีก 15 ท่านในวันรุ่งขึ้น
ในระหว่างถวายมิสซาพระคาร์ดินัลได้เทศว่า นักบุญอิกเนชัสได้ต้องการให้เพื่อนร่วมงานทำงานด้วย ความสุภาพถ่อมตนเพื่อรับใช้พระศาสนจักร และโลก โดยไม่แสวงหาเกียรติยศชื่อเสียง แต่เพื่อเห็นแก่พระเป็นเจ้า
ท่านได้กล่าวว่า: "เมื่อคนเห็นพระคาร์ดินัลได้รับการเคารพยกย่อง และแต่งกายด้วยเครื่องประดับ เขาก็จะสงสัย ในคำสั่งสอนของนักบุญอิกเนชัส และ ยิ่งกว่านั้นเสียอีก ว่าพระเยซูเจ้าจะตรัสถึงเรื่องนี้อย่างไร?"
ท่านได้สนทนาต่อท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนนักบวชเยซู อิท มิตรสหาย และกลุ่มคนจากมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมว่า: "พระเยซูเจ้าได้ตรัสเสมอเสียดสีคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยๆ และอยู่ในวังเหมือนเจ้าชาย"
แต่พระคาร์ดินัลดัลเลสได้บอกว่า ท่านได้มองดูเครื่องแต่งกายของพระคาร์ดินัลเหมือนวัดวาอารามอันวิจิตรงดงาม ที่สัตบุรุษได้สร้าง ไม่ใช่เป็นสัญลักษณ์แห่งการโอ้อวด แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกตัญญูรู้คุณและความรักต่อพระเป็นเจ้า
ท่านได้พูดว่า "ดังนั้น เมื่อข้าพเจ้าสวมชุดไหมสีแดง ข้าพเจ้าจะต้องอยู่ในจิตตารมภ์แห่งการรับใช้อย่างสุภาพถ่อมตน ตรงกันข้ามกับเครื่องหมายภายนอก"
หลังมิสซาแล้ว พระคาร์ดินัลได้กล่าวว่า ท่านจะทำงานหนัก ระลึกอยู่เสมอว่า: "ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศชื่อเสียงส่วนตัว แต่เพื่อพระสิริโรจนาของพระเป็นเจ้า"
พระคาร์ดินัลได้ให้สัมภาษณ์บริการข่าวสารคาทอลิกว่า ท่านได้ขอร้ององค์พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่สอง ยกเลิกกฏที่ว่าท่านจะต้องได้รับศีลบวชเป็นพระสังฆราชก่อนที่จะได้เป็นสมาชิก ของคณะพระคาร์ดินัล
ในระยะเวลาสิบปีที่แล้วพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล ก็ได้ขอร้องพระสันตะปาปาเช่นเดียวกันเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นพระสังฆราช
ท่านได้พูดว่า: "ข้าพเจ้าไม่คิดว่าข้าพเจ้าจะสามารถทำงานหนักได้ เช่น โปรดศีลกำลังหรือ บวชพระสงฆ์ใหม่"
นอกจากนี้ ท่านได้พูดว่า พระสังฆราชจำต้องยื่นใบลาออกต่อพระสันตะปาปาเมื่ออายุครบ 75 ปี
"ดังนั้นการบวชพระสังฆราช ผู้มีอายุ 82 ปี เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถ้าข้าพเจ้ามีอายุอ่อนกว่านี้ ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าก็อยากเป็นพระสังฆราช ทั่วโลกมีพระสังฆราชคณะเยซูอิทหลายองค์ ท่านทั้งหลายปฏิบัติงานอย่างดีและเราก็ต้องการเขาทั้งหลาย"
ท่านยังได้ลงความเห็นว่า ที่ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลเป็นการให้กำลังใจขององค์พระสันตะปาปาต่อนักเทววิทยา
ท่านได้พูดว่า: "ข้าพเจ้าได้พยายามทำงานของข้าพเจ้าอย่างสัตย์ซื่อต่อพระศาสนจักร และนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่งานของพระศาสนจักร โดยความรู้และประสบการณ์ของข้าพเจ้าทางเทววิทยา คนต้องได้รับการอธิบายเรื่องความเชื่อ และงานของข้าพเจ้าเป็นจำนวนมากเพียงแต่ให้ความกระจ่าง ต่อสิ่งที่พระศาสนจักรสั่งสอนและพยายามช่วยคนเข้าใจคำสั่งสอนนั้น"
จาก http://www.geocities.com/prakobkit/new/enew145.htm
03/02/2003 19:20:52
แปลและเรียบเรียงโดย
สิริโรจนา
กรุง โรม (CNS) -- พระคาร์ดินัลเอเฝอรี่ ดัลเลส ได้ถวายมิสซาในฐานะพระสงฆ์เป็นครั้งสุดท้าย ท่านได้สวดภาวนาขอให้ท่านได้สวมชุดสีแดงประจำตำแหน่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการ รับใช้พระศาสนจักร ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศชื่อเสียงส่วนตัว
นักเทววิทยาคณะเยซูอิทชาวอเมริกัน อายุ 82 ปี ได้ถวายมิสซาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่วัดกีซูในกรุงโรม ที่ซึ่ง นักบุญอิกเนชัสแห่งโลโญลา ผู้ตั้งคณะเยซูอิท ได้พำนักอยู่ หมดลมหายใจ และถูกฝังไว้
ท่านศาสดาจารย์ของมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมแห่งนิวยอร์กจะได้เป็นสมาชิกของคณะพระคาร์ดินัล พร้อมกับอีก 15 ท่านในวันรุ่งขึ้น
ในระหว่างถวายมิสซาพระคาร์ดินัลได้เทศว่า นักบุญอิกเนชัสได้ต้องการให้เพื่อนร่วมงานทำงานด้วย ความสุภาพถ่อมตนเพื่อรับใช้พระศาสนจักร และโลก โดยไม่แสวงหาเกียรติยศชื่อเสียง แต่เพื่อเห็นแก่พระเป็นเจ้า
ท่านได้กล่าวว่า: "เมื่อคนเห็นพระคาร์ดินัลได้รับการเคารพยกย่อง และแต่งกายด้วยเครื่องประดับ เขาก็จะสงสัย ในคำสั่งสอนของนักบุญอิกเนชัส และ ยิ่งกว่านั้นเสียอีก ว่าพระเยซูเจ้าจะตรัสถึงเรื่องนี้อย่างไร?"
ท่านได้สนทนาต่อท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนนักบวชเยซู อิท มิตรสหาย และกลุ่มคนจากมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมว่า: "พระเยซูเจ้าได้ตรัสเสมอเสียดสีคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยๆ และอยู่ในวังเหมือนเจ้าชาย"
แต่พระคาร์ดินัลดัลเลสได้บอกว่า ท่านได้มองดูเครื่องแต่งกายของพระคาร์ดินัลเหมือนวัดวาอารามอันวิจิตรงดงาม ที่สัตบุรุษได้สร้าง ไม่ใช่เป็นสัญลักษณ์แห่งการโอ้อวด แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกตัญญูรู้คุณและความรักต่อพระเป็นเจ้า
ท่านได้พูดว่า "ดังนั้น เมื่อข้าพเจ้าสวมชุดไหมสีแดง ข้าพเจ้าจะต้องอยู่ในจิตตารมภ์แห่งการรับใช้อย่างสุภาพถ่อมตน ตรงกันข้ามกับเครื่องหมายภายนอก"
หลังมิสซาแล้ว พระคาร์ดินัลได้กล่าวว่า ท่านจะทำงานหนัก ระลึกอยู่เสมอว่า: "ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศชื่อเสียงส่วนตัว แต่เพื่อพระสิริโรจนาของพระเป็นเจ้า"
พระคาร์ดินัลได้ให้สัมภาษณ์บริการข่าวสารคาทอลิกว่า ท่านได้ขอร้ององค์พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่สอง ยกเลิกกฏที่ว่าท่านจะต้องได้รับศีลบวชเป็นพระสังฆราชก่อนที่จะได้เป็นสมาชิก ของคณะพระคาร์ดินัล
ในระยะเวลาสิบปีที่แล้วพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล ก็ได้ขอร้องพระสันตะปาปาเช่นเดียวกันเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นพระสังฆราช
ท่านได้พูดว่า: "ข้าพเจ้าไม่คิดว่าข้าพเจ้าจะสามารถทำงานหนักได้ เช่น โปรดศีลกำลังหรือ บวชพระสงฆ์ใหม่"
นอกจากนี้ ท่านได้พูดว่า พระสังฆราชจำต้องยื่นใบลาออกต่อพระสันตะปาปาเมื่ออายุครบ 75 ปี
"ดังนั้นการบวชพระสังฆราช ผู้มีอายุ 82 ปี เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถ้าข้าพเจ้ามีอายุอ่อนกว่านี้ ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าก็อยากเป็นพระสังฆราช ทั่วโลกมีพระสังฆราชคณะเยซูอิทหลายองค์ ท่านทั้งหลายปฏิบัติงานอย่างดีและเราก็ต้องการเขาทั้งหลาย"
ท่านยังได้ลงความเห็นว่า ที่ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลเป็นการให้กำลังใจขององค์พระสันตะปาปาต่อนักเทววิทยา
ท่านได้พูดว่า: "ข้าพเจ้าได้พยายามทำงานของข้าพเจ้าอย่างสัตย์ซื่อต่อพระศาสนจักร และนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่งานของพระศาสนจักร โดยความรู้และประสบการณ์ของข้าพเจ้าทางเทววิทยา คนต้องได้รับการอธิบายเรื่องความเชื่อ และงานของข้าพเจ้าเป็นจำนวนมากเพียงแต่ให้ความกระจ่าง ต่อสิ่งที่พระศาสนจักรสั่งสอนและพยายามช่วยคนเข้าใจคำสั่งสอนนั้น"
จาก http://www.geocities.com/prakobkit/new/enew145.htm