หน้า 1 จากทั้งหมด 1
					
				+++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 2:00 am
				โดย Holy
				การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1
--------------------------------------
คำเตือน-บทความนี้ เป็นเพียงสมมุติฐานหนึ่ง ของผู้ที่ได้วิเคราะห์ ข้อมูลและเหตุการณ์ ในกรณีการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1 จึงเป็นเพียงทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อกันว่าอาจเป็นไปได้  มิใช่ข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ ในการแยกแยะข้อมูล การคาดเดา และข้อสมมุติฐาน ออกจากกัน
-------------------------------------
   
ความโกลาหลอลหม่านเกิดขึ้นบริเวณหน้าห้องทรงงานของสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
   ร่างของพระสันตะปาปาฟุบอยู่กับโต๊ะทรงงานในพระหัตถ์ยังทรงถือเอกสารค้างอยู่  ครั้นเมื่อเข้าไปถวายการปฐมพยาบาลก็ปรากฏว่าพระองค์ไม่มีลมหายใจเสียแล้ว 
 พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่  1  เพิ่งได้รับการเลือกจากพระคาร์ดินัลทั่วโลกให้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้เมื่อ  33  วันก่อนเท่านั้น  หน้าที่รับใช้พระผู้เป็นเจ้าในฐานะของผู้แทนองค์พระเยซูคริสต์ที่สืบต่อกันมาจาก น.เปโตร อัครสาวก ได้หยุดชะงักลงอีกวาระหนึ่ง
 
   ภาพข่าวการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปพระองค์ใหม่ได้แพร่ไปทั่วโลกในเวลาไม่นาน  สร้างความรู้สึก 
 “ช็อกโลก”   การประกาศอย่างเป็นทางการจากวาติกันบอกว่า
องค์สมเด็จพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์กะทันหันจากโรคกล้ามเนื้อพระหทัยขาดเลือด  (Myocardial  infarction)  
        แต่ยากที่จะมีผู้ใดเชื่อ  เนื่องจากพระองค์ก็ดูมีสุขภาพและพระพลานามัยดีทุกประการ  มิหนำซ้ำยังทรงยิ้มแย้มแจ่มใสผิดกับพระสันตะปาปาพระองค์ก่อน ๆ  ที่ทรงดูเคร่งขรึมอยู่เสมอ  จนได้รับพระสมัญญานามจากประชาชนด้วยความรักใคร่ว่า  “โป๊ปผู้ยิ้มแย้ม  (Smilling  pope)”   ดังนั้นหลังจากการสิ้นพระชนม์ไม่นาน  จึงเกิดการกังขา ของสาเหตุการสิ้นพระชนม์ว่าอาจเป็นการ  “ฆาตกรรม” 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 2:08 am
				โดย Holy
				คุณพ่อผู้สุภาพถ่อมตน    
   พระคาร์ดินัลหนุ่มอัลบิโน่  ลูเชียนี่  ถือกำเนิดในครอบครัวที่ค่อนข้างขัดสน ไม่เคยมีความปรารถนาที่จะเป็นพระสันตะปาปาเองแม้แต่น้อย  เพียงตำแหน่งพระคาร์ดินัล  ท่านก็คิดว่าเป็นสิ่งที่สูงสุดในชีวิตการเป็นนักบวชของพระศาสนจักรแล้ว  
ด้วยความไม่ทะเยอทะยานนี้ทำให้ท่านยิ่งเป็นที่รักใคร่ของทุก ๆ  คนที่อยู่ใกล้ชิด  โดยเฉพาะองค์สมเด็จพระสันตะปาปา ปอลที่ 6  ผู้ที่คาร์ดินัลอัลบิโน่ทำงานใกล้ชิดเหมือนเป็นเลขาอยู่นั้น  ทรงรักและเป็นห่วงอัลบิโน่เสมือนเป็นบุตรของพระองค์  ทรงสั่งสอนกิจการงานต่าง ๆ  ของสงฆ์ให้อย่างละเอียด
 
   เหตุการณ์ครั้งสำคัญที่เสมือนเป็นลางดีและแสดงออกถึงเนื้อแท้แห่งจิตใจอันประเสริฐของพระคาร์ดินัลอัลบิโน่ที่มีแต่ความถ่อมพระองค์ทรง 
 “ติดดิน”  อยู่เสมอ  คือเมื่อปี  1969  ขณะที่พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าคณะแห่งเวนิชโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่  6  นั้น  ขณะที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่มาร่วมแสดงความยินดีกว่า  20,0000  คน  สมเด็จพระสันตะปาปา  ได้ถอดผ้าสโตล  (Stole  ผ้าคล้องคอของพระที่ต้องใส่เวลาทำพิธีสงฆ์ที่เป็นทางการ)  ที่คล้องพระศอออกแล้วทรงสวมคอของพระคาร์ดินัลอัลบิโน่ด้วยความเอ็นดู  สร้างความเขินอายให้กับพระคาร์ดินัลหนุ่มเป็นอย่างมาก  ดังที่ท่านได้เล่าเหตุการณ์นี้ไว้เมื่อเป็นพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่  1  แล้วว่า
 “สมเด็จพระสันตะปาปาทรงทำให้ข้าพเจ้าเขินอายมากที่สุดในชีวิตเมื่อท่านทรงนำผ้าสโตลมาคล้องคอให้ข้าพเจ้าต่อหน้าประชาชนกว่า  20,000  คน  วินาทีนั้นข้าพเจ้ารู้สึกหูตาหน้าแดงไปหมดคงแทบจะแดงไปจรดรากผมเลย  ขอสารภาพว่าข้าพเจ้าไม่เคยหน้าแดงเท่านี้มาก่อนเลย”
   “สมเด็จพระสันตะปาปาทรงทำให้ข้าพเจ้าเขินอายมากที่สุดในชีวิตเมื่อท่านทรงนำผ้าสโตลมาคล้องคอให้ข้าพเจ้าต่อหน้าประชาชนกว่า  20,000  คน  วินาทีนั้นข้าพเจ้ารู้สึกหูตาหน้าแดงไปหมดคงแทบจะแดงไปจรดรากผมเลย  ขอสารภาพว่าข้าพเจ้าไม่เคยหน้าแดงเท่านี้มาก่อนเลย” 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 2:23 am
				โดย Holy
				พระสันตะปาปาองค์ใหม่
   ครั้นเมื่อพระสันตะปาปาปอลที่  6  สิ้นพระชนม์ลงด้วยโรคพระหทัยวายเฉียบพลัน  ก็เป็นหน้าที่ของพระคาร์ดินัลทุกคนที่จะต้องเข้าประชุมคอนคลาฟ  (Conclave)  อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำการเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่  รวมถึงท่าน อัลบิโน่  ด้วย  การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเคร่งเครียด  เพราะการสวรรคตของโป๊ปปอลที่ 6  เกิดขึ้นกระทันหัน  จึงไม่มีผู้ใดมีเวลาเตรียมคิดเลือกคนที่ชอบไว้ก่อน 
 
    ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นจากปล่องเหนือวิหารน้อยซิสทีนถึงสองครั้งสองครา  จนเวลาล่วงไปวันหนึ่ง  พระคาร์ดินัลทุกองค์ก็ยังคงประชุมกันอยู่ในห้องปิดตายนั้น  จนขึ้นวันที่สองตอนสาย ๆ  เหล่าผู้เฝ้าคอยจึงได้เห็นควันสีขาวอันศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งขึ้นมา  ทุกคนต่างยินดีปรีดาโห่ร้องดีใจกันทั่วไปด้วยเป็นสัญญาณว่า พระศาสนจักรได้พระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แล้ว
   พระคาร์ดินัล อัลบิโน่  ลูเชียนี่ เป็นผู้ถูกเลือกด้วยฉันทามติจากที่ประชุม  ด้วยความถ่อมพระองค์ทรงพยายามขอร้องว่า  
ไม่ต้องการสวมมงกุฎเทียร่า  หรือนำแห่ขึ้นพระที่นั่งอันศักดิ์สิทธิ์ของพระสันตะปาปาตามสมณประเพณี   แต่ก็ไร้ผลเพราะผู้ที่จะเป็นพระสันตะปาปาจำต้องผ่านพิธีศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ทุกอย่าง  
คงมีเพียงอย่างเดียวที่เป็นไปตามคำขอคือ  การปฏิญาณพระองค์ที่ระเบียงพระบัญชรที่ทำขึ้นอย่างเรียบง่ายโดยมีพระคาร์ดินัลผู้ช่วยทำพิธีคือคาร์ดินัลโยเซฟ  ราทซิงเกอร์  (ต่อมาเป็นพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่  16  องค์ปัจจุบัน)
 
   และใบหน้าอันยิ้มแย้มและอ่อนโยนดุจบิดาของพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ปรากฎที่ระเบียงที่ชาวโลกเฝ้าจับตา ก็ถูกขนานนามว่าเป็น 
ใบหน้าอันเปี่ยมเมตตาของพระศาสนจักร "the merciful face of the Church"
   พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่  16 หรือ คาร์ดินัลโยเซฟ  ราทซิงเกอร์ ในเวลานั้น ได้กล่าวไว้เมื่อปี 2003 สรุปคุณลักษณะของพระสันตะปาปา ผู้นี้ว่า 
"โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าแน่ใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า พระองค์เป็นนักบุญองค์หนึ่ง เพราะความดีอันยิ่งใหญ่ ความเรียบง่าย ถ่อมสุภาพ และความกล้าหาญ ของพระองค์"

 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 2:38 am
				โดย Holy
				ควันของซาตานที่ลอยเล็ดลอดเข้ามาในพระศาสนจักร?
  องค์กรลับในอิตาลีมีมากมายหลากหลายสมกับเป็นดินแดนมาเฟีย  แต่องค์กรที่เก่าแก่ที่สุดแถมมีสมาชิกเป็นผู้ใหญ่ผู้โตมีหน้าตาในสังคมอยู่ด้วยเห็นจะไม่มีใครเกิน  “ฟรีเมสัน  (Freemasons)”  องค์กรนี้มีอายุยืนมาตั้งแต่สมัยกษัตริย์โซโลมอนในราว  850  ปีก่อนพระคริสต์ประสูติ  แต่เริ่มก่อตั้งขึ้นมาจริง ๆ  ในยุโรปเมื่อ  ปี  1717  
   ฟรีเมสันสยายอิทธิพลจากยุโรปไปถึงดินแดนทวีปไกลโพ้นอย่างสหรัฐอเมริกา และแม้แต่  “โฮลี่  ซี”  หรือรัฐวาติกันอันศักดิ์สิทธิ์ ก็เชื่อกันว่าอาจมีสมาชิกขององค์กรนี้เข้ามาแอบแฝงอยู่ด้วย และแม้แต่พระคาร์ดินัลบางองค์ ก็โดนต้องสงสัย  ดังนั้นหากข้อสงสัยนี้เป็นจริง ก็เป็นไปได้ที่แม้แต่พระสันตะปาปาจะทรงกระทำสิ่งใด จะถูกรู้ถูกสืบโดยองค์กรนี้
 
   การที่องค์กรลับนี้ตั้งอยู่ได้ก็เพราะเงินสนับสนุนจากเหล่าสมาชิกที่ร่ำรวย จากการมีสถานะทางสังคมที่สูง จากประเทศต่างๆทั่วยุโรป และ วาติกันนั้นได้รับบรรณาการจากกษัตริย์และราชินีคาทอลิกทั้งหลายมามานับพันปีแล้ว ปัจจุบัน “มิวชิโอ  วาติกาน่า”  หรือพิพิธภัณฑ์วาติกัน ยังจัดแสดงของระดับที่เรียกว่ามีค่าควรเมืองทั้งหลายอยู่มากมาย ดังนั้นการส่งสมาชิกเข้าแฝงตัวในประเทศที่เล็กที่สุดในโลกนี้ ก็เพราะหื่นกระหายจะครอบครองทรัพย์สมบัติเหล่านี้นั่นเอง และอาจจะทะเยอทะยานไปถึงการกุมบังเหียน
ศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลกด้วย
 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 2:49 am
				โดย Holy
				ศัตรูผู้ศักดิ์สิทธิ์
  พระสันตะปาปาพระองค์ใหม่เป็นผู้ที่มีพระอุปนิสัยอันประเสริฐที่เรียกว่า  “ติดดิน”  ไม่ถือพระองค์เลยแม้แต่น้อย   พระองค์ทรงนึกอยู่เสมอว่าก็ยังเป็น พระคาร์ดินัลอัลบิโน่ คนเดิมที่มีหน้าที่รับใช้องค์พระสันตะปาปาอยู่นั่นเอง  
  เมื่อก่อนนั้นเวลามีปัญหาใหญ่ใด ๆ  ในวาติกัน ที่พระชั้นผู้ใหญ่มาปรึกษาพระองค์  พระองค์มักจะตอบเสมอว่า  
“เดี๋ยวพ่อจะไปกราบทูลถามสมเด็จพระสันตะปาปาให้นะ”  มีเรื่องเล่าต่อ ๆ  กันมาว่าเมื่อแรกได้เป็นพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่  1  นั้นพระองค์ทรงตอบคำถามเหล่านี้อย่างเคยชินด้วยประโยคเดิม ๆ  ว่า  
“แล้วพ่อจะไปทูลถามสมเด็จพระสันตะปาปาให้นะ”
   แล้วเมื่อนึกขึ้นได้ก็ทรงกล่าวว่า  
“อ้าว...จริงสิ  ก็ตัวพ่อเองนี่นาเอาเป็นว่าพ่อจะไปทูลถามพระผู้เป็นเจ้าให้ก็แล้วกันนะ”

พระบุคลิกภาพที่อ่อนโยน  ทำให้ทรงเป็นที่รักของประชาชนอย่างมาก
   เพราะทรงถือว่า
วาติกันคือพระอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกมนุษย์ที่พร้อมจะเป็นที่พึ่งให้กับบรรดาลูกแกะทั้งหลาย   พระองค์จะไม่ทรงยอมให้มีสิ่งใดที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นเป็นอันขาด  
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:08 am
				โดย Holy
				การชำระพระวิหาร
   โป๊ปจอห์นปอลที่  1  ทรง  “ยกเครื่อง”   ปฎิรูปวาติกันตั้งแต่หัวจรดเท้า  ไม่ให้มีซอกมุมไหนที่จะใช้เป็นที่ซ่อนของมิจฉาชีพได้เป็นอันขาด  แล้วเรื่องก็เกิดเมื่อทรงปฎิรูปไปจนถึงแหล่งใหญ่ที่เป็น หนึ่งในแหล่งสูบเลือดของพวกเหลือบศาสนา นั่นคือ  “ธนาคารแห่งรัฐวาติกัน  (Institutoper  le  Opere  di  Religione  หรือ  IOR)”  เพราะได้มีการหมุนเงินจำนวน  “มหาศาล”  ไปซื้อหุ้นของธนาคารอัมโบรเซียน่าแห่งมิลาน  (Banco  Ambrosiano)  โดย 
โรแบโต้ คาลวี  ผู้อำนายการใหญ่ของธนาคารแห่งนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มมาเฟียอิตาลีและกลุ่มเมสัน  ว่ากันว่าองค์พระสันตะปาปาทรงสืบจนทราบสายสนกลในของเครือข่ายฟรีเมสันซึ่งโยงใยมาถึงกลุ่มมาเฟียอิตาลีภายนอกวาติกันด้วย  แต่ก่อนที่จะได้ทรงลงมือ  
“ล้างบาง”  องค์กรลับเหล่านี้  พระองค์ก็เป็นฝ่ายถูก  
“ตัดตอน”  เสียก่อน

โรแบโต้ คาลวี  
   หลังจากสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาไม่นาน  เงินจำนวนหลายล้านลีร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับธนาคารรัฐวาติกันได้ถูกผ่อนถ่ายออกนอกประเทศอย่างลึกลับ  และก่อนหน้านั้นเพียง  4  ปีวาติกันก็สูญเงินกว่า  30  ล้านดอลลาร์ไปกับธนาคารอัมโบรเซียโน่  ซึ่งเกี่ยวข้องกับคาลวี่ด้วยเช่นกัน  เขาได้ส่งจดหมายลับเตือนพระพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ คือ พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่  2 อย่างชัดเจนก่อนที่ธนาคารอัมโบรเซียโน่จะล้มละลายเพียง  2  สัปดาห์ว่า  
“เหตุการณ์นี้จะเร่งให้เกิดหายนะครั้งใหญ่หลวงเกินที่จะประมาณได้และพระศาสนจักรจะต้องเสีหายอย่างร้ายแรงที่สุด”
   จากนั้นตัวเขาถูกทางการอิตาลีออกหมายจับในฐานะอาชญากรฟอกเงินและได้เข้าไปนอนในคุกอยู่ช่วงสั้น ๆ  ซึ่งในระหว่างนั้นเขาพยายามจะฆ่าตัวตาย  แต่ผู้คุมเห็นเสียก่อนจึงรอดมาได้ 
 ข่าวบางกระแสบอกว่าเขาถูก  “สั่ง”  ให้ฆ่าตัวตายมากกว่า   อย่างไรก็ดีหลังจากได้รับอิสรภาพ  คาลวี่ตระหนักดีว่าถ้ายังอยากตายแบบสวย ๆ  คงไม่สามารถอยู่ในอิตาลีต่อไปได้  เขาจึงทิ้งครอบครัวซมซานออกนอกประเทศไปยังอังกฤษ  แต่ก็เพื่อไปเปลี่ยนที่ตายเท่านั้นเอง  เพราะในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เขาเหยียบกรุงลอนดอนได้ไม่ถึง  24  ชั่วโมงดี  บุรุษไปรษณีย์เมืองผู้ดีเป็นประจักษ์พยานรายแรกที่เห็นร่างมนุษย์แขวนต่องแต่งอยู่ที่สะพานแบล็กฟรายร์กลางกรุงลอนดอนนั่นเอง
   
ภายในกระเป๋าเสื้อสูทของเขาตุงไปด้วยอิฐบล็อกขนาดใหญ่และฟ่อนเงินหลากสกุล  (เหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาค  3  ของภาพยนตร์  “ก็อดฟาเธอร์”  ด้วย) ผลจากการชันสูตรในชั้นแรกลงความเห็นว่าคาลวี่ทำอัตวินิบาตกรรม  แต่ทางครอบครัวไม่ปักใจเชื่อ  จึงมีการขุดศพขึ้นมาพิศูจน์ใหม่อย่าละเอียด  ถึงได้พบหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเขาถูกฆ่าตายก่อนนำมาแขวนไว้
 ต่อมาเมื่อปี  2002  จึงได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นการฆาตรกรรม
   ต่อมาเมื่อปี  2002  จึงได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นการฆาตรกรรม 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:21 am
				โดย Holy
				ทฤษฏีสมคบคิด
 
   การสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน  ในขณะที่งานทุกอย่างของพระองค์ในการสร้างความโปร่งใสให้กับวาติกันกำลังเป็นไปได้ด้วยดีนั้นสร้างความกังขาให้กับชาวอิตาลีและประชาคมโลกมาก
  สิ่งที่ดูเหมือนเป็นพิรุธให้สงสัยว่ามีเงื่อนงำอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังการสิ้นพระชนม์นั้น 
 สมมุติฐานมีมากมายไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งกับองค์กรลับฟรีเมสัน,  มาเฟียวาติกัน,  ลัทธินิยมนาซีหรือแม้แต่แนวคิดสุดโต่งประเภทมนุษย์ต่างดาวอยู่เบื้องหลังก็ยังมี   
 
มีเหตุการณ์ชวนสงสัยเกิดขึ้น 3  เรื่องก่อนและหลังการสิ้นพระชนม์ขององค์พระสันตะปาปาไม่นาน  นั่นคือ
   1.  
มรณกรรมอย่างปัจจุบันทันด่วนของพระชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ได้เข้าเฝ้าโป๊ปก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ไม่กี่วัน  โดยมีข่าวร่ำลือกันว่า  พระท่านนี้ท่านรับเคราะห์แทน  เพราะเผลอดื่มกาแฟพิษที่ปรุงพิเศษเตรียมไว้ให้โป๊ปพระองค์เดียว
   2.  หลังจากโป๊ปสิ้นพระชนม์แล้ว  พระคาร์ดินัลชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายบัญชาให้กระทำการ  
“ถนอมพระศพ”  โดยการอาบยาในทันทีซึ่งตามกฎหมายของอิตาลีแล้วไม่สามารถกระทำได้  ศพที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตจำต้องรอให้มีการชันสูตรเสียก่อนจึงจะนำไปอาบยาหรือเข้าพิธีกรรมได้  แต่เนื่องจากวาติกันเป็นรัฐอิสระจึงไม่อยู่ในกรอบกฎหมายแห่งอิตาลี
   3.  ทางวาติกันอ้างเรื่องของกฎหมายศาสนจักรว่า  พระศพขององค์สมเด็จพระสันตะปาปาไม่สามารถให้ทำการผ่าชันสูตรได้  เพราะถือเป็นการ  “ไม่บังควร”  ที่จะล่วงละเมิดต่อพระศพ  แต่ที่จริงแล้วนั้นในปี  1830  ได้เคยมีการชันสูตรพระศพสมเด็จพระสันตปาปาปิอุสที่  8  เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการสิ้นพระชนม์และผลปรากฏว่า  
“พระองค์อาจถูกลอบวางยาพิษ” 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:27 am
				โดย Holy
				ความเป็นไปได้อื่นๆ
   มรณกรรมอาจเกิดจากสาเหตุธรรมชาติได้เช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 
การเสวยยาเกินขนาด  (อ้างอิงYallop,  David  In  God’s  Name)  เนื่องด้วยมีโรคประจำพระองค์คือโรคพระหทัยและยาที่เสวยนั้นคือดิจิทัลลิส  (Digitalis)   ซึ่งเป็นยาที่มีช่วงการรักษาแคบ  (narrow  the  rapeutic  range)  หมายความว่าถ้าเสวยเกินไป  หรือเสวยเป็นระยะเวลานาน ยานี้จะกลายเป็นยาพิษต่อร่างกายทันที   แม้ในปัจจุบันยาดิจิทัลลิสนี้ก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มยาที่อันตราย  แพทย์ที่สั่งยาต้องแนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด  เป็นต้นว่าการเห็นภาพเหลืองหรือมีคลื่นไส้อาเจียนอ่อนเพลีย  และต้องนัดมาตรวจเลือดหาระดับของดิจิทัลลิสในเลือดเป็นระยะ ๆ
 
  หรือ
การสิ้นพระชนม์อาจเกิดจากลิ่มพระโลหิตไปอุดตันที่พระปัปผาสะ  (ปอด)  เฉียบพลัน  (Pulmonary  embolism)  ซึ่งเป็นผลแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยจากโรคพระหทัยผิดปกติ   ( อ้างอิง Cornwell,  John;  A  thief  in  the  night)  โดยกลไกก็คือเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจเต้นผิดจังหวะจะทำให้เกิดการไหลวนแปรปรวนของกระแสโลหิตในห้องหัวใจกวนให้เลือดจับตัวเป็นก้อนลิ่มเล็ก ๆ  แล้วถูกดันออกสู่ร่างกายไปพร้อมกับกระแสเลือด  ที่นี้มันก็จะตรงไปอุดตันตามที่ต่าง ๆ  โดยบริเวณที่อันตรายที่สุดคือสมองและปอดเพราะถ้าหลอดเลือดถูกอุดแล้วทำให้เสียชีวิตแบบเฉียบพลันได้  และที่สำคัญคือ 
พระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่  1  เคยมีประวัติของลิ่มเลือดอุดตันที่ตา  (Eye  embolism)  เมื่อราว  3  ปีก่อนหน้านี้ 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:45 am
				โดย Holy
				ประตูนรกไม่มีวันชนะพระศาสนจักร

ตราประจำพระองค์
   ถึงแม้พระองค์จะทรงเป็นประมุขแห่งศาสนจักรอยู่ได้ไม่นาน  แต่ช่วงเวลาสั้น ๆ  นั้นพระองค์ได้ริเริ่มงานใหม่ ๆ  ให้เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก  พระองค์ได้เปิดประตูวาติกันติดต่อกับประชาคมโลก  และเป็นโป๊ปพระองค์แรกที่สลายกำแพงประเพณีอันเคร่งครัดของวาติกันด้วยพระบุคลิกที่  “สุภาพถ่อมตน”   และการตรัสที่เป็นกันเอง  อย่างเป็นธรรมชาติของพระองค์อันเป็นพระคุณลักษณะพิเศษของความเมตตาที่มีอยู่ในพระทัยอยู่แล้ว
 การดำเนินชีวิตและพระกรณียกิจของพระองค์  ได้จุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับพระคาร์ดินัลหนุ่มนามว่าคาโรลวอยตีลา  ดำเนินรอยตามอย่างไม่ผิดเพี้ยน  พระคาร์ดินัล องค์นี้  ต่อมาก็คือองค์สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่  2 นั่นเอง
   เท่ากับว่าแม้พระองค์จะสิ้นพระชนม์ไปก่อนเวลาอันควร  แต่ก็ได้ส่งมอบมรดก และประทานพระสันตะปาปาผู้ประเสริฐที่สุดอีกพระองค์หนึ่ง  ให้แก่ชาวโลกแล้ว
   การดำเนินชีวิตและพระกรณียกิจของพระองค์  ได้จุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับพระคาร์ดินัลหนุ่มนามว่าคาโรลวอยตีลา  ดำเนินรอยตามอย่างไม่ผิดเพี้ยน  พระคาร์ดินัล องค์นี้  ต่อมาก็คือองค์สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่  2 นั่นเอง
   เท่ากับว่าแม้พระองค์จะสิ้นพระชนม์ไปก่อนเวลาอันควร  แต่ก็ได้ส่งมอบมรดก และประทานพระสันตะปาปาผู้ประเสริฐที่สุดอีกพระองค์หนึ่ง  ให้แก่ชาวโลกแล้ว

------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ-ขณะนี้ ทางวาติกันได้ดำเนินเรื่องเพื่อแต่ตั้งพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่1 เป็นนักบุญ ในกรณีที่หากว่าพระองค์สิ้นพระชนม์จากการฆาตกรรม จะทรงเป็นมรณสักขี(ผู้สละชีวิตเพื่อธำรงความเชื่อ)ด้วย แต่ในปัจจุบัน การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าสาเหตุจากโรคกล้ามเนื้อพระหทัยขาดเลือด  
----------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง
http://subcreators.com/blog/category/pope-paul-vi/
http://www.albino-luciani.com/
http://www.papaluciani.com/eng/
http://www.destroyfreemasonry.com/overview.htm
http://communio.stblogs.org/pope-john-paul-i/
นพ.กฤษดา  ศิรามพุช.  ต่วยตูนพิเศษ  ปีที่ 33 ฉบับที่ 393 เดือนพฤศจิกายน 2550  หน้าที่  7 – 13.  กรุงเทพฯ:  บริษัท  พี.วาทินพรินติ้ง  จำกัด,  2550.
 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 11:00 pm
				โดย ignatius
				ขอบพระคุณมากคะ เนื้อหานี่สุดยอดจริงๆ  
 
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 6:56 pm
				โดย Ot@
				น่าสนใจมากๆครับ ช่วยดันๆ 

 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 09, 2009 4:31 pm
				โดย Anna Singsa
				เป็นความรู้มาก ๆ ค่ะ...
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ
			 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 11:09 pm
				โดย ZaNe
				โหหห อ่านแล้วอึ้งๆ เป็นบทความที่น่าสนใจมาก  

 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: อาทิตย์  ก.ค. 05, 2009 11:44 pm
				โดย Nano Lamp
				Holy เขียน:
การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1
   ความโกลาหลอลหม่านเกิดขึ้นบริเวณหน้าห้องทรงงานของสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
   ร่างของพระสันตะปาปาฟุบอยู่กับโต๊ะทรงงานในพระหัตถ์ยังทรงถือเอกสารค้างอยู่  ครั้นเมื่อเข้าไปถวายการปฐมพยาบาลก็ปรากฏว่าพระองค์ไม่มีลมหายใจเสียแล้ว 
 พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่  1  เพิ่งได้รับการเลือกจากพระคาร์ดินัลทั่วโลกให้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้เมื่อ  33   วันก่อนเท่านั้น  หน้าที่รับใช้พระผู้เป็นเจ้าในฐานะของผู้แทนองค์พระเยซูคริสต์ที่สืบต่อกันมาจาก น.เปโตร อัครสาวก ได้หยุดชะงักลงอีกวาระหนึ่ง
ผมสงสัยตัวเลขนี้ 33 วัน
ทำไมต้อง 33 ด้วย 

 
			
					
				Re: +++การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1+++
				โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 14, 2009 6:44 pm
				โดย ~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~
				Nano Lamp เขียน:
Holy เขียน:
การสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1
   ความโกลาหลอลหม่านเกิดขึ้นบริเวณหน้าห้องทรงงานของสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
   ร่างของพระสันตะปาปาฟุบอยู่กับโต๊ะทรงงานในพระหัตถ์ยังทรงถือเอกสารค้างอยู่  ครั้นเมื่อเข้าไปถวายการปฐมพยาบาลก็ปรากฏว่าพระองค์ไม่มีลมหายใจเสียแล้ว 
 พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่  1  เพิ่งได้รับการเลือกจากพระคาร์ดินัลทั่วโลกให้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้เมื่อ  33   วันก่อนเท่านั้น  หน้าที่รับใช้พระผู้เป็นเจ้าในฐานะของผู้แทนองค์พระเยซูคริสต์ที่สืบต่อกันมาจาก น.เปโตร อัครสาวก ได้หยุดชะงักลงอีกวาระหนึ่ง
ผมสงสัยตัวเลขนี้ 33 วัน
ทำไมต้อง 33 ด้วย 
 
 
ก็ไม่ได้มีอะไรมากอ่ะคับ - -; แค่ว่าครองราชย์มาเดือนกว่า