Belong to the Truth Jesus Christ

บอร์ดสารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯของนิวมานา
เป็นพระดำรัสของพระแม่มารีย์จริงๆหรอครับ
แล้วพระแม่ตรัสผ่านทางใครครับ.
ผมสงสัยจริงๆ

การที่แม่พระจะตรัสจริงหรือไม่นั้น โปรดใช้วิจารณญาณและพระจิตเจ้าทรงนำ

ยังไม่ได้อ่านอันนี้ใช่ไหมครับ

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3175.0

แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ และยังไม่หายสงสัยอยู่ดี
ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ

ก็อย่างที่บอกไปว่า เราไม่จำเป็นต้องเชื่อ เพราะมันไม่ใช่ข้อความเชื่อที่พระศาสนจักรบังคับ

เหมือนทุกวันนี้ เราคิดว่า พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่2 เป็นนักบุญไหม เพราะเมื่อมีบางคนคิดว่าน่าจะเร่งตั้งท่านเป้นนักบุญ ก็มีคนมาขัดว่า เฮ้ย ยังไม่สมควรหรอก

แต่สำหรับหลายๆคนในใจก็เชื่อว่าท่านเป็นนักบุญไปแล้ว และก็ยังคงมีไม่น้อยที่ไม่คิดแบบนั้น

ซึ่งไม่มีใครรู้ได้หรอกว่าแท้จริงที่สุดคืออะไร จนกว่าจะถึงที่สุดของการพิสูจน์ แต่ระหว่างนี้ ก็มีคนเยอะแยะสวดขอพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่2 ให้ช่วยวิงวอนพระเจ้ากันแล้ว



ดังนั้น เรื่องแบบนี้ เชื่อก็ไม่บาป ไม่เชื่อก็ไม่บาป ครับ

ถ้ากลัวไม่กล้าเชื่อ จะไม่เชื่อก้ไม่มีใครว่าหรอกครับ

แต่ส่วนตัวผม ถ้าถามว่า แม่พระจะรักลูกไหม แม่พระจะห่วงลูกไหม แม่พระจะอยากให้ลูกๆรักพระ และศรัทธาไหม

ผมอ่านสารเหล่านี้แล้ว ผมแน่ใจว่า ถ้าสมมุติแม่พระมาอยู่ต่อหน้าผมและจะพูดอะไรกับผม แม่ก็คงพูดอะไรประมาณนี้เหมือนกัน


ผมจึงเชื่อในเนื้อหาว่า การประพฤติตามสารนี้ น่าจะเป้นที่พอพระทัยของพระเจ้าและแม่พระ เพราะเมื่อทำตามไป มีแต่จะศักดิ์สิทธิ์และศรัทธามากขึ้น และมีแต่จะเป็นคริสตชนที่ดียิ่งๆขึ้น


ลก 6:43
ต้นไม้ที่เกิดผลไม่ดีย่อมไม่ใช่ต้นไม้พันธุ์ดี หรือต้นไม้พันธุ์ไม่ดีย่อมไม่ให้ผลดีเช่นกัน  เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้จากผลของต้นไม้นั้น เราย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อเทศจากพงหนาม หรือเก็บผลองุ่นจากกอหนาม  คนดีย่อมนำสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน ส่วนคนเลวย่อมนำสิ่งที่เลวออกมาจากขุมทรัพย์ที่เลวของตน เพราะปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา

เชื่อไม่เชื่อนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่สำหรับผมสิ่งหนึ่งที่ได้เมื่ออ่านก็คือว่าไม่เห็นมีอะไรขัดกับข้อเชื่อ แม่พระมีแต่บอกให้เรากลับใจและรักพระยิ่งๆขึ้น จริงจังกับชีวิตฝ่ายจิตยิ่งๆขึ้น และไม่ได้เรียกร้องให้เราต้องมอบหรือทำอะไรให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่แม่พระบอกให้เราทำเพื่อเราเองจะได้รอดพ้นและเพื่อนมนุษย์จะได้รับพระเมตตา จริงไม่จริงอันนี้แล้วแต่ว่าจะมองกันยังไง แต่มองจากสิ่งที่บอกก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไร อย่างที่คุณโฮลี่บอกนั่นแหละครับเชื่อก็ไม่บาป ไม่เชื่อก็ไม่บาปครับ

มีคุณพ่อหลายท่านบอกว่า ถึงไม่ใช่เป็นแม่พระจริงๆ ถึงเขียนเอง ก็เก่งมาก ที่เขียนได้ขนาดนี้ 

สารเหล่านี้ มีคุณพ่อคอยตรวจสอบเรื่องความเชื่อนะคะว่า "ไม่ขัดต่อความเชื่อและศีลธรรม"

ลักษณะสารแบบนี้นะคะ เค้าเรียกว่า Interior Locution ภาษาไทยเรียกอะไรไม่รู้ ไม่ใช่อะไรที่ประหลาด ไม่เคยมีในโลก อย่างอันนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างนึงค่ะของคนที่ได้รับสาร และเผยแพร่ และมีพันธกิจ

http://www.directionforourtimes.com/

http://www.mmp-usa.net/

เรื่องการตรวจสอบ  ไต่สวน เป็นหน้าที่พระศาสนจักร และผู้รับผิดชอบค่ะ

Declaration

The decree of The Sacred Congregation for the Evangelization of the People  A.A.S.58,1186 (approved by Pope Paul VI on October 14, 1966) states that the Nihil Obstat and Imprimatur are no longer required on Catholic publication that deal with private revelations, provided they contain nothing contrary to faith and morals.

The author hereby affirms his unconditional submission to the final and official judgment of the Magisterium of the Church.

คำประกาศ
ตามกฤษฎีกาของสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน A.A.S.58.118 (อนุมัติโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ณ วันที่ 14 ตุลาคม 1966) แถลงว่า พระองค์ทรงอนุมัติให้ตีพิมพ์เรื่องใดก็ตามที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเป็นเจ้าโดยไม่ต้องผ่านการรับรอง

จะเป็นของหลอกลวงขึ้นมา...
หรือ เป็นของจริง...

ถ้ามันเกิดผลดีต่อคุณ ก็เเสดงว่ามาจากพระเจ้าค่ะ 

ให้พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองดีกว่า สารนั้นเตือนอะไรคุณอยู่หรือเปล่า

ฟังหูไว้หู

ส่วนรื่องตรัสผ่านใคร

ขอสงวนไว้เป็นความลับนะคะ
เพราะเป็นเจตนาของผู้รับสาร ที่จะไม่เผยตัว

ให้เป็นเรื่องของผู้อ่าน กับตัวสารเอง
พิจารณาว่า ถ้านำไปปฏิบัติ เกิดประโยชน์
ก็เป็นความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ให้สาร กับ ผู้อ่านเอง

ถ้าไม่อ่าน ไม่เชื่อ  ก็อยู่ที่การตัดสินใจของคุณ

ผู้รับสาร เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้นค่ะ

ถ้าทำตามแล้วเป็นเรื่องดีกับตัวและผู้อื่นและ ไม่ได้ทำให้เดือดร้อนใคร แล้วจะจำเป็นตรงไหนคับ? ที่ต้องมาตามรู้ให้ได้ว่าจริงหรือไม่จริง หรือใครเป็นผู้รับสาร

= ="
จริงๆ อยากให้มันสำคัญก็ดีนะ ไม่ใช่เรื่องผู้รับสารนะ แต่เป็นเรื่องที่เค้าถามเพื่อความมั่นใจ

ทำดีไม่เดือนร้อนใครก็ดีแล้ว ไม่ว่าสิ่งนั้นจะจริงหรือไม่จริงเนี่ย....
แปลกๆอยุ่นะ เหมือนๆกับพวกคนศาสนาอื่นๆก็พูดได้เหมือนๆกัน
ทำดีตามแบบพระพุทธเป็นคนดีได้ ไม่มีพระเจ้าก็ช่างประมานนั้น

เราว่าค่อนข้างดีนะที่เค้ามาถาม เราเองก็อยากรู้ อย่างน้อยแค่มาบอกว่าเชื่อถือได้ หลายๆคนก็จะใจชื้นขึ้น

ผมก็แค่สงสัยเองจึงได้ถาม

ทำไม(บางคำตอบ)จึงใช่คำพูดที่.......

ผมก็เป็นคริสตังคนหนึ่ง เชื่อและรักใน

พระแม่ไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน

ถ้าหากความสงสัยของผม

ไปกระทบกับความรู้สึกบางคน

ผมก็ขอโทษด้วย...และช่วยสวดให้

คนบาปอย่างผมด้วย   

 

อย่าคิดมากเลยค่ะ

การพิมพ์ข้อความบนนี้  เป็นการสื่อสารทางเดียว 
เราไม่เห็นอารมณ์ของคนเขียน  อาจจะเข้าใจผิดได้


ไม่คิดว่า จะมีใครในนี้เจตนาร้ายในการตอบคำถามของคุณหรอกค่ะ

Happiiloo เขียน: = ="

เราว่าค่อนข้างดีนะที่เค้ามาถาม เราเองก็อยากรู้ อย่างน้อยแค่มาบอกว่าเชื่อถือได้ หลายๆคนก็จะใจชื้นขึ้น

ส่วนเรื่องที่จะให้มาฟันธงว่า เชื่อถือได้หรือไม่ได้นั้น  คงไม่มีใครฟันธงให้ค่ะ 
เมื่ออ่านแล้ว มีความรู้สึกอย่างไร เชื่อหรือไม่  ขอความสว่างจากพระเจ้า
แล้วขอให้พิจารณาเอง  ว่าจะเชื่อหรือไม่ 

อย่างที่บอกไว้แล้วว่า  เรื่องนี้ พระศาสนจักรยังไม่รับรอง
ดังนั้นเราเป็นฆราวาสธรรมดา  คงไม่มีอำนาจฟันธงรับรองให้ได้

อ่านด้วยหัวใจ อานแล้วรักพระเจ้ามากขึ้นมั๊ย
อ่านแล้วเป็นคนดีขึ้นมั๊ย  อ่านแล้วออกห่างจากทางของพระเจ้าหรือเปล่า
พิจารณา แล้วเลือกเองนะคะ

จากเจ้าของกระทู้ เขียน:
ผมก็แค่สงสัยเองจึงได้ถาม

ทำไม(บางคำตอบ)จึงใช่คำพูดที่.......

ผมก็เป็นคริสตังคนหนึ่ง เชื่อและรักใน

พระแม่ไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน

ถ้าหากความสงสัยของผม

ไปกระทบกับความรู้สึกบางคน

ผมก็ขอโทษด้วย...และช่วยสวดให้

คนบาปอย่างผมด้วย   

 

คนรับสารเค้าแถลงว่า เค้าไม่สะดวกที่จะเปิดตัว เราก็ต้องเคารพความคิดเค้า 

คนที่อยากรู้ ก็รู้สึกว่า ถูกปิดบัง ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองถูกกีดกัน ไม่ได้รับความเคารพ  เหมือนเป็นคนที่ไม่สำคัญ ... (ไม่งั้นเค้าคงไม่บรรจุสิทธิในการรับรู้ข่าวสาร เป็นหนึ่งในสิทธิมนุษยชน ..  ไม่งั้นแพทย์คงไม่จำเป็นต้องชี้แจงอาการและการรักษาให้กับเรา...  เพราะต้องเคารพสิทธิของเรา) ... 

เชื่อว่า คนรับสารเอง ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดความรู้สึกนี้นะคะ และไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่เคารพผู้อื่น แต่เค้าก็มีสิทธิที่จะมีความเป็นส่วนตัว มีสิทธิที่จะเปิดหรือไม่เปิดเช่นกัน และเราเอง ก็มีสิทธิที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ เช่นกัน

เคารพซึ่งกันและกันนะคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่พระ แต่เป็นเรื่องมนุษย์ที่เราต้องเคารพกันและกันมากกว่าค่ะ 

เวลาอ่าน อย่าไปคิดว่า แม่บอกเค้าคนเดียวนะคะ แม่บอกเรานี่แหละ เหมือนเวลาที่อ่านพระวรสาร เวลาที่พระเยซูเจ้าพูดกับเปโตร พระองค์ก็ไม่ได้พูดกับเปโตรคนเดียวใช่มั้ยคะ พระองค์พูดกับเรา 

Happiiloo เขียน: = ="
จริงๆ อยากให้มันสำคัญก็ดีนะ ไม่ใช่เรื่องผู้รับสารนะ แต่เป็นเรื่องที่เค้าถามเพื่อความมั่นใจ

ทำดีไม่เดือนร้อนใครก็ดีแล้ว ไม่ว่าสิ่งนั้นจะจริงหรือไม่จริงเนี่ย....
แปลกๆอยุ่นะ เหมือนๆกับพวกคนศาสนาอื่นๆก็พูดได้เหมือนๆกัน
ทำดีตามแบบพระพุทธเป็นคนดีได้ ไม่มีพระเจ้าก็ช่างประมานนั้น

เราว่าค่อนข้างดีนะที่เค้ามาถาม เราเองก็อยากรู้ อย่างน้อยแค่มาบอกว่าเชื่อถือได้ หลายๆคนก็จะใจชื้นขึ้น

มันไม่ใช่อ่ะคับ? คือที่ผมพยามจะบอกหมายถึงตัวสารเนี้ย ที่กล่าวถึงว่า ถ้ามันทำให้คนทำดีได้ก็คงไม่ต้องสนหรอกครับว่าสารชิ้นนี้ใครแต่ง แต่เจตนาไม่ได้จะตีความหมายแบบนั้นนะ

  บางช่วงบางตอน อ่านแล้วก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่ก็จะถามกับแม่มารีย์โดยตรง ด้วยการสวดภาวนาอธิฐาน ว่าตรงนี้ท่อนนั้น หรือสารฉบับนี้ มาจากแม่จริงๆหรือเปล่า
เพราะบางคำบางตอน แม่ก็สอนให้กับเฉพาะบุคคล ถ้าผู้นั้นมาอ่านเจอ เขาก็จะเข้าใจเองค่ะ
แต่เราอาจจะงงๆ นิดหน่อย  อ่านตรงไหนแล้วงง  ก็อธิฐานสวดภาวนาถามกับแม่มารีย์เลยค่ะ  แล้วแม่จะมีวิธิีบอกหรืออธิบายให้คุณทราบเอง

ผมคิดว่าการมาเครียดกับการตั้งคำถามว่าอันไหนจริงไม่จริงอาจทำให้เราพลาดอะไรบางอย่างไป

ผมคิดว่าหากเราอ่านสารแล้วลองพิจารณาดูว่าเนื้อหากล่าวถึงอะไร มีประโยชน์ไหม ขัดแย้งหลักความเชื่อหรือไม่ น่าจะมีประโยชน์

หากเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรไม่ว่าเนื้อหาเหล่านี้จะมากจากไหนก็บย่อมเป็นสิ่งดี หรือเปล่า ?


พระจิตเจ้าทรงทำงานอยู่ในเราทุกคน อ่าน คุยกับตัวเอง คุยกับพระเจ้า ผมว่าพระองค์จะให้คำตอบเราได้

อย่างผมกลับใจมาหาพระเพราะอ่านหนังสือ อย่าง "เทวากับซาตาน" ด้วยซ้ำแต่แผนการพระองค์ก็มีหลายรูปแบ

เลย์ก็สงสัยครับ 

King Zadin เขียน: ผมคิดว่าการมาเครียดกับการตั้งคำถามว่าอันไหนจริงไม่จริงอาจทำให้เราพลาดอะไรบางอย่างไป

ผมคิดว่าหากเราอ่านสารแล้วลองพิจารณาดูว่าเนื้อหากล่าวถึงอะไร มีประโยชน์ไหม ขัดแย้งหลักความเชื่อหรือไม่ น่าจะมีประโยชน์

หากเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรไม่ว่าเนื้อหาเหล่านี้จะมากจากไหนก็บย่อมเป็นสิ่งดี หรือเปล่า ?


พระจิตเจ้าทรงทำงานอยู่ในเราทุกคน อ่าน คุยกับตัวเอง คุยกับพระเจ้า ผมว่าพระองค์จะให้คำตอบเราได้

อย่างผมกลับใจมาหาพระเพราะอ่านหนังสือ อย่าง "เทวากับซาตาน" ด้วยซ้ำแต่แผนการพระองค์ก็มีหลายรูปแบ

นั่นสินะ หลายรูปแบบจริง ๆ

วันนี้เพิ่งอ่านการ์ตูนที่ร้านเช่าไปเรื่องนึง แอบจี๊ดระดับวีนแตกในใจ(ไม่กล้าตะโกนลั่นร้าน) เมื่อเห็นฉากพระเอกด่าพระเจ้าในใจเพราะเห็นเพื่อนน่าสงสาร แต่ไม่รู้ทำไม กลับฉุกคิดได้นิดนึงว่า

"เราเองก็เคยด่า เคยว่า เคยประชดพระองค์แรง ๆ เหมือนกัน ไม่ใช่แค่ในอดีต ปัจจุบันเผลอไม่ได้ก็ทำบ่อยซะด้วยสิ ทำไม่น้อยไปกว่าที่พูดดี ๆ กับพระองค์เลย ตอนนี้ยังหายใจได้ก็ด้วยพระพรแล้ว สาเหตุก็หลายเรื่อง หลายอย่างเลย พระคัมภีร์หลายตอนก็ไม่เข้าใจเจตนาพระองค์เลย โดยเฉพาะในคัมภีร์เดิม อ่านแล้วอดนึกไม่ได้ว่า นี่ใช่ผู้ที่เรายอมรับเป็นนายจริงเหรอเนี่ย

ไม่เข้าใจว่าทำไมพระองค์ต้องให้เกิด ทำไมถ้าอยากลบล้างบาปมนุษย์จริง แค่ย้อนเวลากลับไปให้ถึงตอนที่ยังไม่มีบาปเกิดขึ้น แล้วหักคองูก่อนไปหลอกเอวา ก็จบแล้ว หรือไม่ก็.......สำหรับตัวเรา อยากกลับไปเกิดใหม่เพื่อแก้ไขสิ่งที่เคยผิดพลาด(เกือบทุกครั้งของชีวิต เพราะเห็นตัวเองในตอนนี้แล้วอยากเอาไประเบิดพลีชีพพร้อม ๆ ลูซี่จังมาก)"

ทุกสิ่งที่พ้นผ่านไปไม่กลับคืนได้หรอกครับ ยกเว้นชีวิตในพระคริสต์

peternus เขียน: ทุกสิ่งที่พ้นผ่านไปไม่กลับคืนได้หรอกครับ ยกเว้นชีวิตในพระคริสต์

"ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า" มิใช่หรือไร

สิ่งที่แม่พูด คือสิ่งที่แม่สอนลูกที่ดี
ไม่เคยสงสัยในพระวาจานี้ ว่าจะจริงหรือไม่จริง
แต่รู้สึกขอบคุณแม่เสียมากกว่าว่า ท่านยังคงห่วงลูกๆของท่านอยู่เสมอ
ขอบคุณกับความรักของแม่ ความรักของพระเจ้าที่ส่งผ่านมาทางแม่พระ