พระสมณสาส์นว่าด้วยศีลมหาสนิท(MYSTERIUM FIDEI)
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 08, 2009 8:41 pm
สวัสดีครับพี่น้อง,
เนื่องด้วย ปีนี้ เป็นปีพระสงฆ์ จึงขอนำพระสมณสาส์นที่จะช่วยให้เราเข้าใจในหัวใจของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
เหตุว่า "ศีลมหาสนิทเป็นหัวใจของชีวิตคริสตชน เป็นศีลแห่งความรักและการคืนดี" อาศัยพระสงฆ์เป็นศาสนบริกร
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า,โปรดคุ้มครองเขาให้ปราศจากมลทิน ดุจปังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาจับต้องเป็นกิจวัตร
ให้ทุกความคิด คำพูด และการกระทำควรค่าแก่การยกย่อง ข้าแต่พระมารดามารีย์ ราชินีของพระสงฆ์ ช่วยวิงวอนเทอญ.
พระสมณสาส์นเรื่องศีลมหาสนิท(MYSTERIUM FIDEI)
ให้ไว้ ณ กรุงโรม มหาวิหารนักบุญเปโตร วันฉลองนักบุญปีโอที่ 10
วันที่ 3 กันยายน 1965 ปีที่ 3 แห่งสมณสมัย
(1)"ศีลมหาสนิท"เป็นสิ่งมหัศจรรย์ล้ำลึกทางความเชื่อ เป็นของขวัญที่พระคริสตเจ้าทรงประทานแก่พระศาสนจักร อันพระศาสนจักรได้พิทักษ์รักษาไว้ด้วยความรักเฉกเช่นขุมทรัพย์อันประเมินค่ามิได้ตลอดมา ในการพิจารณาเรื่องพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ คราวประชุมสังคายวาติกันครั้ง 2 เราได้ประกาศยืนยันความเชื่อในเรื่องศีลมหาสนิทนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งบรรดาพี่น้องพระสงฆ์มีความเห็นว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การเชิญชวนสัตบุรุษให้มีส่วนร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณ และกระตุ้นเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของการศรัทธาศีลศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างลึกซึ้ง อันสัตบุรุษต้องร่วมใจกับพระสงฆ์ถวายปังแด่พระบิดาเจ้าเป็นเครื่องบูชาเพื่อความรอดของตนเองและมนุษยชาติ และใช้อาหารศักดิ์สิทธิ์นี้เลี้ยงวิญญาณของตน
(2)ถ้าเราถือว่าพิธีกรรมมีความสำคัญที่สุดในชีวิตของพระศาสนจักร เราจะกล่าวได้ว่า ศีลมหาสนิทเป็นหัวใจและศูนย์กลางของพระศาสนจักรทีเดียว เหตุว่า ศีลมหาสนิทเป็นท่อธารแห่งชีวิตซึ่งเรามาชำระล้างและชุบตัวเพื่อเสริมกำลัง จนในที่สุด เรามิได้มีชีวิตเพื่อตัวเราเองอีกต่อไป หากแต่มีชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้า และเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์อย่างแน่นแฟ้นอาศัยความรัก
(3)เพื่อความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า "ศรัทธามีความสัมพันธ์กับการรับใช้อย่างไร" พี่น้องพระสงฆ์ ที่เป็นปิตาจารย์ของยุคที่เข้าประชุมสังคายนานี้ได้รัยรองคำสั่งสอนที่พระศาสนจักรไปแล้ว ทั้งยังได้ประกาศอย่างสง่าในสังคายนาเมืองเตรนในอดีต และยังได้อธิบายเรื่องความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับศีลมหาสนิทด้วยข้อความที่เป็นจริงดังนี้ว่า
(4)"ในการเลี้ยงพระกระยาอาหารค่ำครั้งสุดท้าย ณ คืนที่ชีวิตถูกมอบให้ศัตรู พระองค์ท่านได้ทรงตั้งการถวายบูชาศีลมหาสนิท นั่นคือ พระวรกายและพระโลหิตของพระองค์เอง เพื่อจะให้การพลีพระชนม์บนไม้กางเขนมีอยู่ตลอดไปจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง อันเป็นเหมือนอนุสรณ์เตือนใจพระศาสนจักรให้ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ จึงเป็นศีลแห่งศรัทธา เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นสายสัมพันธ์แห่งความรัก ซึ่งในงานเลี้ยงปัสกาเมื่อเรารับองค์พระคริสตเจ้าแล้ววิญญาณของเราจะได้รับพระหรรษทานและคำมั่นสัญญาว่า จะได้รับสิริมงคลในภายภาคหน้า"(Constit. De Sacra Liturgia, c. 2, n.47; AAS LVI, 1964, p.113).
(5)ถ้อยคำเหล่านี้ เป็นถ้อยคำสรรเสริญที่ใช้ในการถวายบูชา เป็นแก่นของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณที่ประกอบขึ้นทุกๆวัน ซึ่งสัตบุรุษเข้ามาร่วมส่วนโดยการเข้ามารับพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า ซึ่งจะได้รับพระหรรษทานเป็นโอสถแห่งความไม่รู้ตาย คือ ชีวิตนิรันดร ตรงตามที่พระเยซูคริสตเจ้าตรัสไว้ว่า"ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเราก็มีชีวิตนิรันดรเราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย"(ยอห์น 6:54)
Qui manducat meam carnem, et bibit menin sanguinem, habet vitam aeternam: et ego resuscitabo eum in novissimo die(Io.6,55)
(6)ฉะนั้น พวกเรามีความเชื่อมั่นว่า การปฏิรูปรื้อฟื้นพิธีกรรมจะทำให้ความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทเกิดผล โดยอาศัยการกระตุ้นเตือนนี้พระศาสนจักร"จะก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน"(เทียบ ยอห์น 17:23)* อันจะทำให้คริสตชนมีความภาคภูมิใจ และเร้าจิตใจให้เข้ามาร่วมเอกภาพแห่งความรัก อาศัยพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า
Ego in eis, et tu in me: ut sint consummati in unum: et cognoscat mundus quia tu me misisti, et dilexisti eos, sicut et me dilexisti.(Io.17:23)
"ข้าพเจ้าอยู่ในเขา และพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้าเพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์โลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาและพระองค์ทรงรักเขาเช่นเดียวกับที่ทรงรักข้าพเจ้า"(ยอห์น 17:23)
(7)เราเห็นผลและรูปรอยของผลดังกล่าวบ้างแล้ว จากบุตรของพระศาสนจักรที่มีความชื่นชมยินดี ตอบรับ"สังฆธรรมนูญว่าด้วยพิธีกรรมและหนังสืออื่นๆ" ซึ่งมุ่งค้นคว้าและศึกษาเกี่ยวกับศีลมหาสนิท เป็นต้น ในเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าคือศีลมหาสนิท กับ พระกายทิพย์พระคริสตเจ้าคือพระศาสนจักร
เทียบ http://www.catholic.or.th/archive/vatic ... /vb09.html
(8)เรื่องนี้ เราถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราชื่นชมโสมนัสและมีกำลังใจ เราจึงบอกกล่าวพี่น้องไว้ เพื่อจะได้ร่วมจิตร่วมใจกับเราโมทนาคุณพระเป็นเจ้าผู้ประสาทความดีทั้งมวล อาศัยพระจิตของพระองค์ปกครองพระศาสนจักรให้เกิดผลแห่งความดีต่อไป
(มีต่อ)
เนื่องด้วย ปีนี้ เป็นปีพระสงฆ์ จึงขอนำพระสมณสาส์นที่จะช่วยให้เราเข้าใจในหัวใจของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
เหตุว่า "ศีลมหาสนิทเป็นหัวใจของชีวิตคริสตชน เป็นศีลแห่งความรักและการคืนดี" อาศัยพระสงฆ์เป็นศาสนบริกร
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า,โปรดคุ้มครองเขาให้ปราศจากมลทิน ดุจปังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาจับต้องเป็นกิจวัตร
ให้ทุกความคิด คำพูด และการกระทำควรค่าแก่การยกย่อง ข้าแต่พระมารดามารีย์ ราชินีของพระสงฆ์ ช่วยวิงวอนเทอญ.
พระสมณสาส์นเรื่องศีลมหาสนิท(MYSTERIUM FIDEI)
ให้ไว้ ณ กรุงโรม มหาวิหารนักบุญเปโตร วันฉลองนักบุญปีโอที่ 10
วันที่ 3 กันยายน 1965 ปีที่ 3 แห่งสมณสมัย
(1)"ศีลมหาสนิท"เป็นสิ่งมหัศจรรย์ล้ำลึกทางความเชื่อ เป็นของขวัญที่พระคริสตเจ้าทรงประทานแก่พระศาสนจักร อันพระศาสนจักรได้พิทักษ์รักษาไว้ด้วยความรักเฉกเช่นขุมทรัพย์อันประเมินค่ามิได้ตลอดมา ในการพิจารณาเรื่องพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ คราวประชุมสังคายวาติกันครั้ง 2 เราได้ประกาศยืนยันความเชื่อในเรื่องศีลมหาสนิทนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งบรรดาพี่น้องพระสงฆ์มีความเห็นว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การเชิญชวนสัตบุรุษให้มีส่วนร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณ และกระตุ้นเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของการศรัทธาศีลศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างลึกซึ้ง อันสัตบุรุษต้องร่วมใจกับพระสงฆ์ถวายปังแด่พระบิดาเจ้าเป็นเครื่องบูชาเพื่อความรอดของตนเองและมนุษยชาติ และใช้อาหารศักดิ์สิทธิ์นี้เลี้ยงวิญญาณของตน
(2)ถ้าเราถือว่าพิธีกรรมมีความสำคัญที่สุดในชีวิตของพระศาสนจักร เราจะกล่าวได้ว่า ศีลมหาสนิทเป็นหัวใจและศูนย์กลางของพระศาสนจักรทีเดียว เหตุว่า ศีลมหาสนิทเป็นท่อธารแห่งชีวิตซึ่งเรามาชำระล้างและชุบตัวเพื่อเสริมกำลัง จนในที่สุด เรามิได้มีชีวิตเพื่อตัวเราเองอีกต่อไป หากแต่มีชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้า และเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์อย่างแน่นแฟ้นอาศัยความรัก
(3)เพื่อความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า "ศรัทธามีความสัมพันธ์กับการรับใช้อย่างไร" พี่น้องพระสงฆ์ ที่เป็นปิตาจารย์ของยุคที่เข้าประชุมสังคายนานี้ได้รัยรองคำสั่งสอนที่พระศาสนจักรไปแล้ว ทั้งยังได้ประกาศอย่างสง่าในสังคายนาเมืองเตรนในอดีต และยังได้อธิบายเรื่องความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับศีลมหาสนิทด้วยข้อความที่เป็นจริงดังนี้ว่า
(4)"ในการเลี้ยงพระกระยาอาหารค่ำครั้งสุดท้าย ณ คืนที่ชีวิตถูกมอบให้ศัตรู พระองค์ท่านได้ทรงตั้งการถวายบูชาศีลมหาสนิท นั่นคือ พระวรกายและพระโลหิตของพระองค์เอง เพื่อจะให้การพลีพระชนม์บนไม้กางเขนมีอยู่ตลอดไปจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง อันเป็นเหมือนอนุสรณ์เตือนใจพระศาสนจักรให้ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ จึงเป็นศีลแห่งศรัทธา เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นสายสัมพันธ์แห่งความรัก ซึ่งในงานเลี้ยงปัสกาเมื่อเรารับองค์พระคริสตเจ้าแล้ววิญญาณของเราจะได้รับพระหรรษทานและคำมั่นสัญญาว่า จะได้รับสิริมงคลในภายภาคหน้า"(Constit. De Sacra Liturgia, c. 2, n.47; AAS LVI, 1964, p.113).
(5)ถ้อยคำเหล่านี้ เป็นถ้อยคำสรรเสริญที่ใช้ในการถวายบูชา เป็นแก่นของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณที่ประกอบขึ้นทุกๆวัน ซึ่งสัตบุรุษเข้ามาร่วมส่วนโดยการเข้ามารับพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า ซึ่งจะได้รับพระหรรษทานเป็นโอสถแห่งความไม่รู้ตาย คือ ชีวิตนิรันดร ตรงตามที่พระเยซูคริสตเจ้าตรัสไว้ว่า"ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเราก็มีชีวิตนิรันดรเราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย"(ยอห์น 6:54)
Qui manducat meam carnem, et bibit menin sanguinem, habet vitam aeternam: et ego resuscitabo eum in novissimo die(Io.6,55)
(6)ฉะนั้น พวกเรามีความเชื่อมั่นว่า การปฏิรูปรื้อฟื้นพิธีกรรมจะทำให้ความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทเกิดผล โดยอาศัยการกระตุ้นเตือนนี้พระศาสนจักร"จะก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน"(เทียบ ยอห์น 17:23)* อันจะทำให้คริสตชนมีความภาคภูมิใจ และเร้าจิตใจให้เข้ามาร่วมเอกภาพแห่งความรัก อาศัยพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า
Ego in eis, et tu in me: ut sint consummati in unum: et cognoscat mundus quia tu me misisti, et dilexisti eos, sicut et me dilexisti.(Io.17:23)
"ข้าพเจ้าอยู่ในเขา และพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้าเพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์โลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาและพระองค์ทรงรักเขาเช่นเดียวกับที่ทรงรักข้าพเจ้า"(ยอห์น 17:23)
(7)เราเห็นผลและรูปรอยของผลดังกล่าวบ้างแล้ว จากบุตรของพระศาสนจักรที่มีความชื่นชมยินดี ตอบรับ"สังฆธรรมนูญว่าด้วยพิธีกรรมและหนังสืออื่นๆ" ซึ่งมุ่งค้นคว้าและศึกษาเกี่ยวกับศีลมหาสนิท เป็นต้น ในเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าคือศีลมหาสนิท กับ พระกายทิพย์พระคริสตเจ้าคือพระศาสนจักร
เทียบ http://www.catholic.or.th/archive/vatic ... /vb09.html
(8)เรื่องนี้ เราถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราชื่นชมโสมนัสและมีกำลังใจ เราจึงบอกกล่าวพี่น้องไว้ เพื่อจะได้ร่วมจิตร่วมใจกับเราโมทนาคุณพระเป็นเจ้าผู้ประสาทความดีทั้งมวล อาศัยพระจิตของพระองค์ปกครองพระศาสนจักรให้เกิดผลแห่งความดีต่อไป
(มีต่อ)