พระเยซูเคยตรัสสอนว่าเราไม่ได้มาเพื่อพิพากษาลงโทษโลกหากแต่มากอบกู้โลก
ข้อความในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมหลายๆเรื่องผมยังไม่กล้าปักใจเชื่อด้วยซ้ำ
เคยได้ยินมาว่าคนที่นับถือพระเจ้าเมื่อเสียชีวิตพระองค์จะประทานแสงแห่งความรู้แจ้งมาให้เราๆจะเห็นเลยว่าจิตของเราควรจะได้อยู่กับพระองค์หรือไม่ และถ้าต้องไปชำระตนเองให้บริสุทธิ์จะต้องใช้โทษนานเท่าไหร่ เป็นตัวเราเองที่รู้ตัวว่าไม่สะอาดพอ ไม่ใช่พระเจ้าท่านมาไล่เราไปนรกหรือว่าไฟชำระ
มีใครเชื่อแบบผมบ้าง ผมเชื่อว่าพระเจ้าไม่เคยลงโทษมนุษย์ อย่าไปโทษพระเลย
ยน 12:44
พระเยซูเจ้าตรัสเสียงดังว่า
ผู้ที่เชื่อในเรา
ไม่ได้เชื่อในเราเท่านั้น
แต่ยังเชื่อในพระองค์ผู้ทรงส่งเรามาด้วย
ผู้ที่เห็นเรา
ก็เห็นพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา
เราเข้ามาในโลกเป็นแสงสว่าง
เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อในเราไม่อยู่ในความมืด
ผู้ใดได้ยินวาจาของเรา แล้วไม่ปฏิบัติตาม
เราไม่ตัดสินลงโทษเขา
เพราะเราไม่ได้มาเพื่อตัดสินลงโทษโลก
แต่มาเพื่อช่วยโลกให้รอดพ้น
ผู้ที่ไม่ยอมรับเรา และไม่ยอมรับวาจาของเรา
ก็มีผู้ตัดสินลงโทษเขาแล้ว
วาจาที่เราได้กล่าวนั้น
จะตัดสินลงโทษเขาในวันสุดท้าย
เพราะเรามิได้พูดตามใจของเรา
แต่พระบิดาผู้ทรงส่งเรามา
ได้ทรงบัญชาว่าเราต้องพูดอะไร และพูดอย่างไร
ฮบ 12:5-13 พระเจ้าทรงตักเตือนเยี่ยงบิดา
ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ
ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนของพระเจ้า
อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า
เพราะพระเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก
และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร
ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย ถ้าท่านไม่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนอย่างที่ทุกคนได้รับ ท่านก็ไม่ใช่บุตร แต่เป็นลูกไม่มีพ่อ นอกจากนั้น เราทุกคนต่างมีบิดาผู้ให้กำเนิดเฆี่ยนตีสั่งสอนเรา และเราเคารพท่าน เราก็ยิ่งควรอ่อนน้อมเชื่อฟังพระบิดาฝ่ายจิตของเราเพื่อจะมีชีวิตมิใช่หรือ บิดาผู้ให้กำเนิดเราเฆี่ยนตีสั่งสอนเพียงไม่กี่วันตามที่ท่านเห็นสมควร แต่พระเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
พระเยซูเจ้าตรัสเสียงดังว่า
ผู้ที่เชื่อในเรา
ไม่ได้เชื่อในเราเท่านั้น
แต่ยังเชื่อในพระองค์ผู้ทรงส่งเรามาด้วย
ผู้ที่เห็นเรา
ก็เห็นพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา
เราเข้ามาในโลกเป็นแสงสว่าง
เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อในเราไม่อยู่ในความมืด
ผู้ใดได้ยินวาจาของเรา แล้วไม่ปฏิบัติตาม
เราไม่ตัดสินลงโทษเขา
เพราะเราไม่ได้มาเพื่อตัดสินลงโทษโลก
แต่มาเพื่อช่วยโลกให้รอดพ้น
ผู้ที่ไม่ยอมรับเรา และไม่ยอมรับวาจาของเรา
ก็มีผู้ตัดสินลงโทษเขาแล้ว
วาจาที่เราได้กล่าวนั้น
จะตัดสินลงโทษเขาในวันสุดท้าย
เพราะเรามิได้พูดตามใจของเรา
แต่พระบิดาผู้ทรงส่งเรามา
ได้ทรงบัญชาว่าเราต้องพูดอะไร และพูดอย่างไร
ฮบ 12:5-13 พระเจ้าทรงตักเตือนเยี่ยงบิดา
ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ
ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนของพระเจ้า
อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า
เพราะพระเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก
และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร
ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย ถ้าท่านไม่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนอย่างที่ทุกคนได้รับ ท่านก็ไม่ใช่บุตร แต่เป็นลูกไม่มีพ่อ นอกจากนั้น เราทุกคนต่างมีบิดาผู้ให้กำเนิดเฆี่ยนตีสั่งสอนเรา และเราเคารพท่าน เราก็ยิ่งควรอ่อนน้อมเชื่อฟังพระบิดาฝ่ายจิตของเราเพื่อจะมีชีวิตมิใช่หรือ บิดาผู้ให้กำเนิดเราเฆี่ยนตีสั่งสอนเพียงไม่กี่วันตามที่ท่านเห็นสมควร แต่พระเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
ผมยังมีความคิดว่าความยากลำบากทั้งหลายในโลกนี้อาจจะมาพระเจ้าหรือไม่ก็ได้ ถ้ามันมาจากพระเจ้ามันอาจจะเป็นบททดสอบสำหรับเรา เป็นโจทย์ให้เราทำ เมื่อเราเจอโจทย์เราอาจจะได้โอกาสที่จะทำความดี ด้วยความเสียสละ เพื่อใช้โทษบาปทั้งของตัวเรา และผู้อื่น เลยไปถึงวิญญาณในไฟชำระอีกต่างหาก
การเฆี่ยนตีสั่งสอนก็ทำไปเพื่อสั่งสอน แต่มิใช่เพื่อลงโทษ
แต่ถ้าตายไปแล้วจะต้องไปพบกับไฟชำระหรือนรก อันนี้เป็นจากบาปเราเองแหงๆ ไม่ใช่การเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระเจ้าแน่ๆผมเชื่ออย่างนั้น
การเฆี่ยนตีสั่งสอนก็ทำไปเพื่อสั่งสอน แต่มิใช่เพื่อลงโทษ
แต่ถ้าตายไปแล้วจะต้องไปพบกับไฟชำระหรือนรก อันนี้เป็นจากบาปเราเองแหงๆ ไม่ใช่การเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระเจ้าแน่ๆผมเชื่ออย่างนั้น
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อาแมนสำหรับกระทู้นี้ครับ
- ต้นไม้แห่งเจสซี
- โพสต์: 343
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
- ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
- ติดต่อ:
อาแมนครับ
หนุกหนาน หนุกหนาน
หนุกหนาน หนุกหนาน
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
จังซี่มันต้องลงโทษก็คงต้องลงโทษค่ะ
มีหลายคนน่าโดนลงโทษแต่ยังไม่โดนสักที และอยากให้โดนด้วย
คือพวกคนเลว ๆ ทั้งหลายที่อยู่ข้างมาร ผู้ชายที่ชอบข่มเหงผู้หญิง พวกนักการเมืองที่ทำตัวเป็นพระเจ้าทำคนอื่นเดือดร้อน และที่สำคัญคือ "คนที่มันเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้า ข่มเหงพี่น้องคริสเตียนเราอย่างเลวร้าย แล้วยังมีหน้าอ้างว่าคริสตชนรุกรานวัฒนธรรมเขา (อย่างที่บางประเทศชอบทำ)"
มีหลายคนน่าโดนลงโทษแต่ยังไม่โดนสักที และอยากให้โดนด้วย
คือพวกคนเลว ๆ ทั้งหลายที่อยู่ข้างมาร ผู้ชายที่ชอบข่มเหงผู้หญิง พวกนักการเมืองที่ทำตัวเป็นพระเจ้าทำคนอื่นเดือดร้อน และที่สำคัญคือ "คนที่มันเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้า ข่มเหงพี่น้องคริสเตียนเราอย่างเลวร้าย แล้วยังมีหน้าอ้างว่าคริสตชนรุกรานวัฒนธรรมเขา (อย่างที่บางประเทศชอบทำ)"