ประมวลภาพกิจกรรม "อบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชน"ของคู่ชมรมเพื่อพระคริสต์
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 8:18 pm
หวัดดีครับ พี่้น้องทุกคน
ต้องขออภัยจริง ๆ ภาพกิจกรรมที่ผมนำมาขึ้นนี้เป็นของปีที่แล้ว (เอ๊ะหรือของต้นปีนะ) ก็ขอนำรูปภาพจากกิจกรรม "อบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชน"ของกลุ่มคู่สมรสเพื่อพระคริสต์ (Couples For Christ หรือ CFC) ของกลุ่มคนไทยมาฝาก จริง ๆ ตัวกิจกรรมจะแ่บ่งเป็น 3 ภาค ที่ผมเอามานำเสนอนั้นเป็นของภาค 3 ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่าไฮไลท์เลยก็ว่าได้ เชิญติดตามชมได้เลยครับ แต่รู้สึกว่าจะมีคนไม่กี่คนที่ได้เห็นภาพกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ใครเห็นแล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ
ภาพนี้ งานยังไม่เริ่มเลย ทุกคนเริ่มทะยอยเข้ามาทีละนิด

เจ้าหน้าที่ก็เตรียมซ้อมเพลงสำหรับวันนี้

วันนี้พ่อบรรจงไม่มาแฮะ ไม่มีวจนพิธีกรรม ก็เลยให้พ่อตามาโย่ นำสวดภาวนาแทน

ทุกคนตั้งใจฟังพ่อตามาโย่พูดด้วย

นี่คนที่มาร่วมกิจกรรมฟื้นฟูของเรา ที่ลงชื่อไว้ก็ประมาณ 40 คนครับ



แหะ ๆ ไฮไลท์ของวันนี้ ซึ่งผมก็ไม่นึกว่า ท่านผู้นี้จะมา .... ใช่แล้วครับ พระคุัณเจ้าประธานอีกเช่นเคย

หลัีงจากนั้น อาจารย์อารมณ์บรรยาย นิดน่อย (ลืิมถ่ายตอน อาจารย์พูดอ่ะ แง ๆ)

อาจารย์อารมณ์ ใ้ช้การเปรียบเทียบดีมาก ว่า ในกล่องของขวัญใบน้อยนี้ที่ให้แต่ละคน ซึ่งเปิดออกมาเป็นเมล็ดข้าว และเมล็ดพืชชนิดต่าง ๆ เป็นพระพรพระจิตเจ้าที่เรามีทุกคนและจะต้องนำไปใช้ให้เป็นพระโยชน์โดยการนำไปใช้ แต่จำเนื้อหาไม่ได้ละ เดี๋ยวจะเอามาแบ่งปันทีหลังละกันนะครับ

นี่อาจารย์อารมณ์ ควบคุมการแจกกล่องของขวัญใบน้อย

ต่อไปนี้เป็นการรื้อฟื้นสัญญาศีลล้างบาป

หลังจากนี้ก็เป็นการวอนขอรับการล้างในพระจิตเจ้า เอ๊ะ เป็นยังไงกันนะ การล้างในพระจิตเจ้า ตอนนี้ดูภาพภาวนาไปก่อนนะครับ

การภาวนาครั้งนี้ยาวมาก ๆ มีทั้งการถวายตัวแด่พระคริสตเจ้า แม่พระ สรรเสริญนมัสการ การขอบคุณ การขอโทษ การวอนขอความคุ้มครองป้องกันครอบครัว การขับไล่ความชั่วร้ายต่าง ๆ รวมถึงการรักษาแผลใจด้วย ซึ่งบอกตรง ๆ ว่ายาวจริง ๆ จนผมคุกเ้ข่าไม่ไหว (เพราะน้ำหนักตัว)

พระคุณเจ้าประธานมาทีไร ท่านก็ต้องมีการอวยพรให้เราทางศีลมหาสนิททุกทีั ซึ่งนับว่าเป็นบุญของเราอย่างยิ่ง


ทีนี้คือไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยว่า การล้างในพระจิตเจ้าเป็นยังไง จริง ๆ ก็คือเป็นการปลุกพระจิตเจ้าในตัวเรานั่นแหละ ต้องบอกก่อนนะครับว่า นี่ไม่ใช่เป็นการรับพระจิตแบบที่เรารับกัน ตอนรับศีลกำลังนะครับ เป็นแค่การปลุกพลังของพระจิตเจ้า แต่การที่เราจะขอพลังจากพระจิตเจ้า เราก็ต้องภาวนา เตรียมตัวเตรียมใจ หมั่นแก้บาปรับศีล ถ้าจะให้ดีก็ต้องมีการ จำศีลอดอาหาร อดเนื้อ และการพลีกรรมด้วย เพื่อเป็นการเตรียมจิตใจของเราให้พร้อมที่จะรับพระจิตเจ้ามาประทับในใจเราอย่างแท้จริง และในตอนนี้พระคุณเจ้าก็เจิมเราด้วยน้ำมัน...น้ำมันอะไรก็ไม่ทราบนะครับ เพราะท่านไม่ได้บอกไว้



อ้าว มีคนล้มด้วยฮะ ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะบางคนจะสัมผัสพลังของพระจิตเจ้าได้อย่างรุนแรง บางทีแค่เจิมหน้าผากก็ล้มไปซะดื้อ ๆ แบบผมคนนึง ซึ่งจริง ๆ ความรู้สึกนี้ผมรู้สึกตั้งแต่อยู่ในโบสถ์วันอาทิตย์มาตั้งนานแล้วครับ แต่คุมตัวเองไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่สวดข้าแต่พระบิดาครับ ผมปล่อยตัวสบาย ๆ นิ่ง ๆ แต่เหมือนจะล้มทั้งยืนเลยครับ งานนี้ขนาดยังไม่เจิมผม ผมยืนอยู่ก็ยังโคลงเคลงเลย รู้สึกคนที่ล้มจะมีประมาณ 10 กว่าคนเกือบ 20 คนหนะครับ



พี่คนนี้เค้าพอลุกขึ้นมาได้ ก็ประมาณสักครู่กว่าจะลุกได้ ก็มานั่งภาวนา

โอ้ว เต็ม ๆ จะ ๆ พ่อตามาโย่ หรือพระคุัณเจ้า ไม่ได้ผลักเลยนะครับก็ล้มไปเลย แค่เจิมแป๊บเดียว




จริง ๆ ตอนนั้นจะมีคนร้องเพลงและเปิดเพลงคลอ ๆ ไป ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามสวดขอพระจิตเจ้าในใจดีกว่า เพื่อจะได้รับอย่างเต็ม ๆ
คราวนี้ก็มาสวดเล็กน้อย หลังจากการล้างในพระจิตเจ้าเสร็จ

นี่ครับ คนที่ล้มช่วงหลัง ๆ นะครับ

นี่จะเป็นการแบ่งปันประสบการณ์เมื่อสักครู่ว่า ใครประสบพบเจออะไรกันบ้าง ผมก็เคยมีประสบการณ์มาก่อนนะครับ เรื่อง"ภาษาแปลก" "ภาษาลิ้น" หรือ "ภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ" ถ้าอยากรู้ว่า พระพรในการพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจว่าเป็นอย่างไร ไปค้นได้ใน 1 คร. 12:10 ให้ดูคำอธิบาย h นะครับ (เฉพาะพระคัมภีร์ของคาทอลิก ฉบับปกสีแดงกับสีส้ม)

หืมม กว่าจะเสร็จก็ล่อไปเกือบบ่าย ก็มาทานข้าวกัน


นี่กลุ่มเยาวชนเพื่อพระคริสต์ (YFC) ก็มากับเขาด้วยนะ




ภาคบ่าย ลุงจิมมี่ก็มาพูดถึงชีวิตในพระจิตเจ้า ซึ่งก็ไม่ได้ถ่ายรูปแกมาด้วย (ขอโทษลุงด้วยนะครับ)
ทีนี้คิวอาจารย์อารมณ์บ้างหละ บรรยายเกี่ยว กับชุมชนคาทอลิก เราจำเป็นต้องเกาะกลุ่มกันและยึดพระเจ้าไว้

อาจารย์เปรียบกับชุมชนคาทอลิกเป็นเหมือนแจกันดอกไม้ที่ต้องประกอบด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ถึงจะออกมาสวย ทีนี้อาจารย์ให้ทุกคนออกมาปักดอกไม้ในแจกัน หึ ๆ สวยไหมหละพี่น้อง



พระคุณเจ้าท่านก็มาแจมด้วย

ไงหละ เละสิ้นดี 555

คราวนี้อาจารย์อารมณ์ก็มาอธิบายด้วยดอกไม้ว่า ชุมชนคาทอลิก ถ้าไม่มีการจัดการดี ๆ มันก็จะมั่วเหมือนแจกันดอกไม้ที่เราเอามาวางกันแบบลวก ๆ เ่ช่นกันชุมชนคาทอลิกของเรา ต้องมีพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช ฆารวาส ถึงจะครบถ้วน

ขอนำเสนอรูปภาพนี้หน่อย เป็นวงล้อชีวิตคริสตชน เป็นสิ่งที่เราคริสตชนขาดไม่ได้ คือ
การภาวนา ศึกษาพระวาจา ชีวิตกลุ่ม การรับใช้พระศาสนจักร และศีลศักดิ์สิทธิ์

พ่อตามาโย่และท่านประธานมาปิดพิธีครับ


และเช่นเคยทุกกิจกรรมการฟื้นฟูทุกครั้งต้องปิดด้วย พิธีบูชาขอบพระคุณ



จบไปได้ด้วยดีครับ
กิจกรรมตัวนี้เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมคู่้สมรสเพื่อพระคริสต์ (CFC) ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ เริ่มต้นจากที่ฟิลิิปปินส์ ผมรู้สึกว่า เป็นอะไรที่เคร่งเครียดและเข้มข้นกว่านี้ แต่ผมว่า ของกลุ่มคนไทย เจ๋งกว่าเยอะ มีท่านพระสังฆราช ประธานมา่ร่วมด้วยทุกครั้งและเราก็ได้รับพรอย่างมากมายทุกครั้ง ไม่พอ ยังมีขุนพลนักบรรยายยอดเยี่ยมอย่าง อาจารย์อารมณ์ พูลโภคผล ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิพิเศษของกลุ่มคนไทยเลยทีเีดียว
ยิ่งกว่านี้ กิจกรรมอบฟื้นฟูชีวิตคริสตชนของเรานี้ ได้รับการรับรองจากสภาสังฆราชของไทยเรียบร้อยแล้วครับ
คราวหน้าถ้ามีกิจกรรม "ฟื้นฟูชีวิตคริสตชน" อีกครั้ง จะแจ้งให้ทราบ ถ้าสนใจจะติดต่อสอบถาม ก็ส่งอีเมลมาที่ book_for_christ@hotmail.com หรือ จะโทรมาที่เบอร์ 089-4782387 ก็ได้นะขอรับได้ทุกเมื่อนะครับ
ต้องขออภัยจริง ๆ ภาพกิจกรรมที่ผมนำมาขึ้นนี้เป็นของปีที่แล้ว (เอ๊ะหรือของต้นปีนะ) ก็ขอนำรูปภาพจากกิจกรรม "อบรมฟื้นฟูชีวิตคริสตชน"ของกลุ่มคู่สมรสเพื่อพระคริสต์ (Couples For Christ หรือ CFC) ของกลุ่มคนไทยมาฝาก จริง ๆ ตัวกิจกรรมจะแ่บ่งเป็น 3 ภาค ที่ผมเอามานำเสนอนั้นเป็นของภาค 3 ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่าไฮไลท์เลยก็ว่าได้ เชิญติดตามชมได้เลยครับ แต่รู้สึกว่าจะมีคนไม่กี่คนที่ได้เห็นภาพกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ใครเห็นแล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ
ภาพนี้ งานยังไม่เริ่มเลย ทุกคนเริ่มทะยอยเข้ามาทีละนิด

เจ้าหน้าที่ก็เตรียมซ้อมเพลงสำหรับวันนี้

วันนี้พ่อบรรจงไม่มาแฮะ ไม่มีวจนพิธีกรรม ก็เลยให้พ่อตามาโย่ นำสวดภาวนาแทน

ทุกคนตั้งใจฟังพ่อตามาโย่พูดด้วย

นี่คนที่มาร่วมกิจกรรมฟื้นฟูของเรา ที่ลงชื่อไว้ก็ประมาณ 40 คนครับ



แหะ ๆ ไฮไลท์ของวันนี้ ซึ่งผมก็ไม่นึกว่า ท่านผู้นี้จะมา .... ใช่แล้วครับ พระคุัณเจ้าประธานอีกเช่นเคย

หลัีงจากนั้น อาจารย์อารมณ์บรรยาย นิดน่อย (ลืิมถ่ายตอน อาจารย์พูดอ่ะ แง ๆ)

อาจารย์อารมณ์ ใ้ช้การเปรียบเทียบดีมาก ว่า ในกล่องของขวัญใบน้อยนี้ที่ให้แต่ละคน ซึ่งเปิดออกมาเป็นเมล็ดข้าว และเมล็ดพืชชนิดต่าง ๆ เป็นพระพรพระจิตเจ้าที่เรามีทุกคนและจะต้องนำไปใช้ให้เป็นพระโยชน์โดยการนำไปใช้ แต่จำเนื้อหาไม่ได้ละ เดี๋ยวจะเอามาแบ่งปันทีหลังละกันนะครับ

นี่อาจารย์อารมณ์ ควบคุมการแจกกล่องของขวัญใบน้อย

ต่อไปนี้เป็นการรื้อฟื้นสัญญาศีลล้างบาป

หลังจากนี้ก็เป็นการวอนขอรับการล้างในพระจิตเจ้า เอ๊ะ เป็นยังไงกันนะ การล้างในพระจิตเจ้า ตอนนี้ดูภาพภาวนาไปก่อนนะครับ

การภาวนาครั้งนี้ยาวมาก ๆ มีทั้งการถวายตัวแด่พระคริสตเจ้า แม่พระ สรรเสริญนมัสการ การขอบคุณ การขอโทษ การวอนขอความคุ้มครองป้องกันครอบครัว การขับไล่ความชั่วร้ายต่าง ๆ รวมถึงการรักษาแผลใจด้วย ซึ่งบอกตรง ๆ ว่ายาวจริง ๆ จนผมคุกเ้ข่าไม่ไหว (เพราะน้ำหนักตัว)

พระคุณเจ้าประธานมาทีไร ท่านก็ต้องมีการอวยพรให้เราทางศีลมหาสนิททุกทีั ซึ่งนับว่าเป็นบุญของเราอย่างยิ่ง


ทีนี้คือไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยว่า การล้างในพระจิตเจ้าเป็นยังไง จริง ๆ ก็คือเป็นการปลุกพระจิตเจ้าในตัวเรานั่นแหละ ต้องบอกก่อนนะครับว่า นี่ไม่ใช่เป็นการรับพระจิตแบบที่เรารับกัน ตอนรับศีลกำลังนะครับ เป็นแค่การปลุกพลังของพระจิตเจ้า แต่การที่เราจะขอพลังจากพระจิตเจ้า เราก็ต้องภาวนา เตรียมตัวเตรียมใจ หมั่นแก้บาปรับศีล ถ้าจะให้ดีก็ต้องมีการ จำศีลอดอาหาร อดเนื้อ และการพลีกรรมด้วย เพื่อเป็นการเตรียมจิตใจของเราให้พร้อมที่จะรับพระจิตเจ้ามาประทับในใจเราอย่างแท้จริง และในตอนนี้พระคุณเจ้าก็เจิมเราด้วยน้ำมัน...น้ำมันอะไรก็ไม่ทราบนะครับ เพราะท่านไม่ได้บอกไว้



อ้าว มีคนล้มด้วยฮะ ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะบางคนจะสัมผัสพลังของพระจิตเจ้าได้อย่างรุนแรง บางทีแค่เจิมหน้าผากก็ล้มไปซะดื้อ ๆ แบบผมคนนึง ซึ่งจริง ๆ ความรู้สึกนี้ผมรู้สึกตั้งแต่อยู่ในโบสถ์วันอาทิตย์มาตั้งนานแล้วครับ แต่คุมตัวเองไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่สวดข้าแต่พระบิดาครับ ผมปล่อยตัวสบาย ๆ นิ่ง ๆ แต่เหมือนจะล้มทั้งยืนเลยครับ งานนี้ขนาดยังไม่เจิมผม ผมยืนอยู่ก็ยังโคลงเคลงเลย รู้สึกคนที่ล้มจะมีประมาณ 10 กว่าคนเกือบ 20 คนหนะครับ



พี่คนนี้เค้าพอลุกขึ้นมาได้ ก็ประมาณสักครู่กว่าจะลุกได้ ก็มานั่งภาวนา

โอ้ว เต็ม ๆ จะ ๆ พ่อตามาโย่ หรือพระคุัณเจ้า ไม่ได้ผลักเลยนะครับก็ล้มไปเลย แค่เจิมแป๊บเดียว




จริง ๆ ตอนนั้นจะมีคนร้องเพลงและเปิดเพลงคลอ ๆ ไป ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามสวดขอพระจิตเจ้าในใจดีกว่า เพื่อจะได้รับอย่างเต็ม ๆ
คราวนี้ก็มาสวดเล็กน้อย หลังจากการล้างในพระจิตเจ้าเสร็จ

นี่ครับ คนที่ล้มช่วงหลัง ๆ นะครับ

นี่จะเป็นการแบ่งปันประสบการณ์เมื่อสักครู่ว่า ใครประสบพบเจออะไรกันบ้าง ผมก็เคยมีประสบการณ์มาก่อนนะครับ เรื่อง"ภาษาแปลก" "ภาษาลิ้น" หรือ "ภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ" ถ้าอยากรู้ว่า พระพรในการพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจว่าเป็นอย่างไร ไปค้นได้ใน 1 คร. 12:10 ให้ดูคำอธิบาย h นะครับ (เฉพาะพระคัมภีร์ของคาทอลิก ฉบับปกสีแดงกับสีส้ม)

หืมม กว่าจะเสร็จก็ล่อไปเกือบบ่าย ก็มาทานข้าวกัน


นี่กลุ่มเยาวชนเพื่อพระคริสต์ (YFC) ก็มากับเขาด้วยนะ




ภาคบ่าย ลุงจิมมี่ก็มาพูดถึงชีวิตในพระจิตเจ้า ซึ่งก็ไม่ได้ถ่ายรูปแกมาด้วย (ขอโทษลุงด้วยนะครับ)
ทีนี้คิวอาจารย์อารมณ์บ้างหละ บรรยายเกี่ยว กับชุมชนคาทอลิก เราจำเป็นต้องเกาะกลุ่มกันและยึดพระเจ้าไว้

อาจารย์เปรียบกับชุมชนคาทอลิกเป็นเหมือนแจกันดอกไม้ที่ต้องประกอบด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ถึงจะออกมาสวย ทีนี้อาจารย์ให้ทุกคนออกมาปักดอกไม้ในแจกัน หึ ๆ สวยไหมหละพี่น้อง



พระคุณเจ้าท่านก็มาแจมด้วย

ไงหละ เละสิ้นดี 555

คราวนี้อาจารย์อารมณ์ก็มาอธิบายด้วยดอกไม้ว่า ชุมชนคาทอลิก ถ้าไม่มีการจัดการดี ๆ มันก็จะมั่วเหมือนแจกันดอกไม้ที่เราเอามาวางกันแบบลวก ๆ เ่ช่นกันชุมชนคาทอลิกของเรา ต้องมีพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช ฆารวาส ถึงจะครบถ้วน

ขอนำเสนอรูปภาพนี้หน่อย เป็นวงล้อชีวิตคริสตชน เป็นสิ่งที่เราคริสตชนขาดไม่ได้ คือ
การภาวนา ศึกษาพระวาจา ชีวิตกลุ่ม การรับใช้พระศาสนจักร และศีลศักดิ์สิทธิ์

พ่อตามาโย่และท่านประธานมาปิดพิธีครับ


และเช่นเคยทุกกิจกรรมการฟื้นฟูทุกครั้งต้องปิดด้วย พิธีบูชาขอบพระคุณ



จบไปได้ด้วยดีครับ
กิจกรรมตัวนี้เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมคู่้สมรสเพื่อพระคริสต์ (CFC) ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ เริ่มต้นจากที่ฟิลิิปปินส์ ผมรู้สึกว่า เป็นอะไรที่เคร่งเครียดและเข้มข้นกว่านี้ แต่ผมว่า ของกลุ่มคนไทย เจ๋งกว่าเยอะ มีท่านพระสังฆราช ประธานมา่ร่วมด้วยทุกครั้งและเราก็ได้รับพรอย่างมากมายทุกครั้ง ไม่พอ ยังมีขุนพลนักบรรยายยอดเยี่ยมอย่าง อาจารย์อารมณ์ พูลโภคผล ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิพิเศษของกลุ่มคนไทยเลยทีเีดียว
ยิ่งกว่านี้ กิจกรรมอบฟื้นฟูชีวิตคริสตชนของเรานี้ ได้รับการรับรองจากสภาสังฆราชของไทยเรียบร้อยแล้วครับ
คราวหน้าถ้ามีกิจกรรม "ฟื้นฟูชีวิตคริสตชน" อีกครั้ง จะแจ้งให้ทราบ ถ้าสนใจจะติดต่อสอบถาม ก็ส่งอีเมลมาที่ book_for_christ@hotmail.com หรือ จะโทรมาที่เบอร์ 089-4782387 ก็ได้นะขอรับได้ทุกเมื่อนะครับ