หน้า 1 จากทั้งหมด 3
ขริบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 9:00 pm
โดย ทานตะวัน
งงครับ คริสต์ต้องขริบรึเปล่า เห็นแต่ยิวขริบ:
เยเนซิส
17:9 พระเจ้าตรัสแก่อับราฮัมว่า "เหตุฉะนั้นเจ้าและเชื้อสายของเจ้าที่มาภายหลังเจ้าตลอดชั่วอายุของพวกเขาจะรักษาพันธสัญญาของเรา
17:10 นี่เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเจ้าจะรักษาระหว่างเรากับเจ้าและเชื้อสายของเจ้า ที่มาภายหลังเจ้า คือเด็กผู้ชายทุกคนในท่ามกลางพวกเจ้าจะเข้าสุหนัต
17:11 เจ้าจะเข้าสุหนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของเจ้า และมันจะเป็นหมายสำคัญแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับเจ้า
17:12 ผู้ชายที่มีอายุแปดวันจะเข้าสุหนัตในท่ามกลางพวกเจ้า เด็กผู้ชายทุกคนตลอดชั่วอายุของพวกเจ้า ผู้ชายที่เกิดในบ้านหรือเอาเงินซื้อมาจากคนต่างด้าวใดๆซึ่งมิใช่เชื้อสายของ เจ้า
17:13 ผู้ชายที่เกิดในบ้านของเจ้าและผู้ชายที่เอาเงินซื้อมาจำเป็นต้องเข้าสุหนัต และพันธสัญญาของเราจะอยู่ที่เนื้อของเจ้า เป็นพันธสัญญานิรันดร์
17:14 เด็กผู้ชายที่มิได้เข้าสุหนัต คือผู้ที่มิได้เข้าสุหนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของเขา ชีวิตนั้นจะถูกตัดขาดจากชนชาติของเขา เขาได้ละเมิดพันธสัญญาของเรา"
สรุปแล้ว(ผู้ชาย)ทุกคนที่นี่ขริบใช่ไหมครับ งง

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 9:06 pm
โดย Deo Gratias
ถ้าสุหนัต(ขลิป)ด้วยเหตุผลทางสุขภาพก็แล้วแต่ใครอยากจะทำก็ทำได้นะคะ
แต่ถ้าเป็นเรื่องของความเชื่อหรือพิธีกรรมทางศาสนา
คริสตชนทุกคนที่รับศีลล้างบาปหรือบัพติศมาแล้ว เราถือว่าเป็นการเข้าสุหนัตฝ่ายวิญญาณค่ะ
"ในพระองค์นั้นท่านได้รับพิธีเข้าสุหนัตที่มือมนุษย์มิได้กระทำ โดยที่ท่านได้สละกายเนื้อหนังเสียในการเข้าสุหนัตแห่งพระคริสต์ และได้ถูกฝังไว้กับพระองค์ในพิธีบัพติศมาแล้ว และในพิธีนั้นท่านได้ฟื้นขึ้นมาจากตายกับพระองค์ด้วย โดยเชื่อในการกระทำของพระเจ้าผู้ได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมา" (คส.2:11-12)
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 10:16 pm
โดย Like a Heaven
สะอาดดีครับ
แนะนำเลย
^ ^
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 10:26 pm
โดย Ministry Of Men
Like a Heaven เขียน:
สะอาดดีครับ
แนะนำเลย
^ ^
ที่ศึกษามา ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้..ถ้า..เปิดแล้ว..อะ
-*-
แค่รักษาความสะอาดก็พอ
เห็นด้วยครับ
เพื่อป้องกันมะเร็งต่อที่ร้าก
และตัวเราเอง
อีกอย่าง จะได้หอมๆ

V
V
V
V
V
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 10:40 pm
โดย Léon
ปิ๊กกาจูใครดูโลกได้แล้วก็ไม่ต้องขริบก็ได้มั้งคะ
คนที่ปิ๊กกาจูไม่สามารถที่จะเปิดได้สุดสตรีม ก็ควรทำ
เพื่อไม่ให้มีอะไรไปหมักหมม เกิดโรคตามมาได้มากมาย
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 12:04 am
โดย Alphonse
ขริบเลยครับแนะนำ แต่หาหมอดีๆ หน่อยนะ เดี๋ยว...ฮ่าาา
ปกติเดี๋ยวนี้ ถ้าเด็กชายเกิดใหม่ ทางโรงพยาบาลจะถามว่าจะให้ขริบเลยไหม ก็ขริบไปเลยก็ดี
แต่อย่างที่ความเห็นข้างบนๆ บอก ถ้าเปิดแล้ว
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 1:28 am
โดย Zaliaus
การศึกษาในต่างประเทศพบว่า การขริบ ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งองคชาติ ได้เน้ออออ....
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 4:32 am
โดย Edwardius
น้องหมอ
พี่จะรอวันที่น้องจะ "ขริบ" ให้่ 555+
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 6:28 am
โดย Buddy
Zaliaus เขียน:
การศึกษาในต่างประเทศพบว่า การขริบ ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งองคชาติ ได้เน้ออออ....
เคยได้ยินว่า ขริบมันไปช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกนะคะ คือลดการติดเชื้อ HPV น่ะค่ะ (ลดยังไง คงไม่ต้องอธิบาย

) แต่มะเร็งองคชาตินี่ ไม่เคยได้ยินค่ะ ลองไป search ดู เจอแต่ post-circumcision carcinoma of the penis น่ะค่ะ เลยไม่แน่ใจว่า ตกลงมันป้องกันหรือยังไงกันแน่ หรือกรณี post-circumcision carcinoma of the penis เกิดเพราะทำไม่ดีก็ไม่ทราบเหมือนกัน
The Journal of Urology
Volume 175, Issue 2, February 2006, Pages 557-561
Conclusions
Penile carcinoma in circumcised men is a distinct disease commonly following nonclassic vigorous circumcision. Delayed diagnosis and deferring surgical treatment are associated with increased mortality.
และเค้าก็ว่า ลดการติดเชื้อ HIV ด้วย (คือถ้า HPV มันไม่ติด HIV ก็เป็นไวรัสเหมือนกัน น่าจะไม่ติดด้วย

) อันนี้ศึกษาที่อูกานดา เค้าว่า แบบนั้นนะคะ (New England Journal of Medicine, March 26, 2009)
สรุปคือ ทำเพื่อผู้หญิงค่ะ

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 7:36 am
โดย Ministry Of Men
Buddy เขียน:
Zaliaus เขียน:
การศึกษาในต่างประเทศพบว่า การขริบ ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งองคชาติ ได้เน้ออออ....
เคยได้ยินว่า ขริบมันไปช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกนะคะ คือลดการติดเชื้อ HPV น่ะค่ะ (ลดยังไง คงไม่ต้องอธิบาย

) แต่มะเร็งองคชาตินี่ ไม่เคยได้ยินค่ะ
ครับ มันลดการเกิดโรคในผู้ชายด้วยเหมือนกันครับ (ตามที่เคยอ่านนะ -*- )
และก็ทำเพื่อคู่นอนของตนด้วย ^.^
เรื่อง HIV ลดโอกาสลงได้มาก กว่าผู้ที่ไม่ขลิบปิ๊กกาจู

พูดแล้วเขิลๆ เดี๋ยวพอสรุปที่ผมรู้ให้ฟัง
ข้อดี
-ลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
-ลดโอกาสการเป็นมะเร็งมดลูก และมะเร็งปิ๊กกาจู
http://www.trcarc.org/home/article/view.php?id=19
-ผงาดยืนนาน ถึกกว่าเดิม

เค้าว่างั้นนะครับ
-สะอาดไร้กลิ่น
ข้อเสีย
-โอกาสติดเชื้อสูงกว่าคนขลิบ
-โอกาสเป็นมะเร็งในคู่นอนและตนเองสูงมาก หากรูดสุดไม่ได้ ก็ล้างได้ไม่หมด

-Masturbation ไม่ได้ หรือลำบากกว่าเดิม ในคนขลิบ

-ขลิบผิดพลาด ปิ๊กกาจูเสียรูปทรง รวมทั้งอาจเกิดปัญหาตอนแข็งตัว
คุณหมอภากร เคยพูดไว้ที่คริสตจักรแห่งหนึ่งว่า
การขลิบในวัยเด็กช่วงอายุที่พระคัมภีร์กำหนด เป็นการกระตุ้นวิตามินA นี่คือพระอัจฉริยะภาพของพระเจ้า
แต่ผมแนะนำว่า ไม่ต้องขลิบ ถ้าสามารถรูดได้จนถึง coronal ridge แล้วติดพรหมจรรย์หนุ่ม (ยังไม่สุด) ตรงนั้นแหละคือแหล่งหมักหมม เอ่อม

ไม่ได้ทะลึ่งนะ คือใครรูดได้ถึงตรงนี้ ก็แค่ซาดิสกับตัวเองหน่อย มันจะเปิดได้สุดเอง
เพราะการขลิบ อาจทำให้แผลติดเชื้อได้ แล้วมันต้องใช้เวลาสมานแผล ถ้าเกิดมันคึกคักขึ้นมา แผลอาจฉีก ต้องไปเย็บใหม่อีก
ปล.ปรึกษาหมอก็ดีครับ เลือกหมอก็ดี
ปล2.ไม่ได้ทะลึ่งนะ

ปล3.การขลิบคือเรื่องปกติ ธรรมชาติ ที่ครั้งหนึ่งพระเจ้าเคยทำพันธสัญญา เรียกว่า สุหนัต
หมายเหตุ coronal ridge ดูภาพประกอบที่ google -*-

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 9:18 am
โดย (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
ปิ๊กา ชู่ววววว~~~

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 9:43 am
โดย Buddy
คนละคนแล้วครับ เขียน:
Buddy เขียน:
Zaliaus เขียน:
การศึกษาในต่างประเทศพบว่า การขริบ ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งองคชาติ ได้เน้ออออ....
เคยได้ยินว่า ขริบมันไปช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกนะคะ คือลดการติดเชื้อ HPV น่ะค่ะ (ลดยังไง คงไม่ต้องอธิบาย

) แต่มะเร็งองคชาตินี่ ไม่เคยได้ยินค่ะ
ครับ มันลดการเกิดโรคในผู้ชายด้วยเหมือนกันครับ (ตามที่เคยอ่านนะ -*- )
และก็ทำเพื่อคู่นอนของตนด้วย ^.^
เรื่อง HIV ลดโอกาสลงได้มาก กว่าผู้ที่ไม่ขลิบปิ๊กกาจู
-ลดโอกาสการเป็นมะเร็งมดลูก และมะเร็งปิ๊กกาจู
http://www.trcarc.org/home/article/view.php?id=19
เข้าใจแล้วค่ะ
คิดว่า น่าจะเป็นแบบนี้นะคะ
คือการขลิบจะลดการติดเชื้อ HPV และก็การศึกษาใหม่ๆ จะพบการลดการติดเชื้อ HIV ด้วย
ซึ่งมะเร็งองคชาตินั้น ก็เกิดจากการติดเชื้อ HPV เหมือนกัน ดังนั้น เค้าก็เลยบอกว่า การขลิบป้องกันมะเร็งองคชาติได้ แต่ก็มีกรณีที่เจอ penile carcinoma ในคนที่ขลิบ (อาจจะทำไม่ดี) ซึ่งเท่าที่เข้าใจ carcinoma คือ เซลล์มะเร็ง ... ดังนั้นคนที่ขลิบก็เสี่ยงเป็นมะเร็งองคชาติจากการขลิบ (ถ้าทำไม่ดีมั้ง) เหมือนกับว่า ถ้าจะขลิบ ต้องขลิบกับหมอ
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 10:20 am
โดย Ministry Of Men
ปิ๊กาจู มันเป็นสัตว์ที่มีจริงๆหรือป่าวครับ
มันน่ารักดีเนอะ ตัวเหลืองๆ
อยากเลี้ยงจัง
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 10:53 pm
โดย Zaliaus
Buddy เขียน:
คนละคนแล้วครับ เขียน:
Buddy เขียน:
เคยได้ยินว่า ขริบมันไปช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกนะคะ คือลดการติดเชื้อ HPV น่ะค่ะ (ลดยังไง คงไม่ต้องอธิบาย : xemo017 :) แต่มะเร็งองคชาตินี่ ไม่เคยได้ยินค่ะ
ครับ มันลดการเกิดโรคในผู้ชายด้วยเหมือนกันครับ (ตามที่เคยอ่านนะ -*- )
และก็ทำเพื่อคู่นอนของตนด้วย ^.^
เรื่อง HIV ลดโอกาสลงได้มาก กว่าผู้ที่ไม่ขลิบปิ๊กกาจู
-ลดโอกาสการเป็นมะเร็งมดลูก และมะเร็งปิ๊กกาจู
http://www.trcarc.org/home/article/view.php?id=19
เข้าใจแล้วค่ะ
คิดว่า น่าจะเป็นแบบนี้นะคะ
คือการขลิบจะลดการติดเชื้อ HPV และก็การศึกษาใหม่ๆ จะพบการลดการติดเชื้อ HIV ด้วย
ซึ่งมะเร็งองคชาตินั้น ก็เกิดจากการติดเชื้อ HPV เหมือนกัน ดังนั้น เค้าก็เลยบอกว่า การขลิบป้องกันมะเร็งองคชาติได้ แต่ก็มีกรณีที่เจอ penile carcinoma ในคนที่ขลิบ (อาจจะทำไม่ดี) ซึ่งเท่าที่เข้าใจ carcinoma คือ เซลล์มะเร็ง ... ดังนั้นคนที่ขลิบก็เสี่ยงเป็นมะเร็งองคชาติจากการขลิบ (ถ้าทำไม่ดีมั้ง) เหมือนกับว่า ถ้าจะขลิบ ต้องขลิบกับหมอ
ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนะครับ พอดีสอบเสร็จแล้วเลยมีเวลาอ่านดูอีกที
The incidence of squamous cell carcinoma of the penis ranges from 10% to 20% of male malignancies in some parts of Asia, Africa, and South America. A striking correlation exists between the practice of circumcision and the occurrence of penile cancer. Circumcision confers protection; hence, this cancer is extremely rare among Jews and Moslems and is correspondingly more common in populations in which circumcision is not routinely practiced. It is postulated that circumcision is associated with better genital hygiene, which, in turn, reduces exposure to carcinogens that may be concentrated in smegma and decreases the likelihood of infection with potentially oncogenic human papillomavirus (HPV). จาก
Robbins and Cotran Pathologic Basis of Disease. 7th
Neonatal circumcision has been considered protective against invasive penile cancer. An extensive review of 1103 cases of penile cancer reported in 1932 failed to detect a single case among men circumcised as neonates. With reported benefits including prevention of urinary tract infections, STIs and invasive penile cancer. neonatal circumcision became a routine practice in North America. Over the next 6 decades, there were 12 published articles, each reporting a single case of invasive penile squamous cell carcinoma following neonatal circumcision. จาก
Canadian Urological Association Journal 2008 February
ก็คือสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิด "Invasive squamous cell carcinoma of the penis" (ไม่ใช้ป้องกันนะ) ซึ่งมะเร็งชนิดนี้สัมพันธ์กับการติดเชื้อ human papillomavirus (HPV) นั่นเอง แต่ต้องเป็นการทำแบบ Neonatal circumcision นะครับ ไม่ใช่ทำหลังจากผ่านช่วง childhood ไปแล้ว
ฝากนิด
ผู้หญิงในบอร์ดนี้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ควรไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ทุกๆ 5 ปี
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 11:43 pm
โดย ~@Little lamb@~
รม 2:25-29 การเข้าสุหนัตช่วยให้รอดพ้นไม่ได้
(25)การเข้าสุหนัตมีความหมายเมื่อท่านปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ แต่ถ้าท่านยังคงละเมิดธรรมบัญญัติ
ท่านก็ไม่ได้เข้าสุหนัตมากไปกว่าผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตแต่อย่างใด (26)และถ้าผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตปฏิบัติ
ตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติ สถานะของการไม่ได้เข้าสุหนัตของเขาจะไม่เท่ากับการได้เข้าสุหนัตหรือ
(27)นอกจากนั้น คนที่ไม่ได้เข้าสุหนัตทางกาย แต่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติก็พิพากษาโทษท่าน ซึ่งได้รับ
ธรรมบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษรและเข้าสุหนัตแล้ว แต่กลับละเมิดธรรมบัญญัติเสียเอง (28)การเป็นยิว
นั้นไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏเพียงภายนอก และการเข้าสุหนัตก็ไม่ใช่เพียงการขลิบเนื้อหนังส่วนหนึ่งออกไป
(29)ชาวยิวที่แท้จริงคือคนที่เป็นยิวจากภายใน และการเข้าสุหนัตที่แท้จริงก็คือการเข้าสุหนัตในใจ ไม่ใช่
เรื่องการปฏิบัติตามตัวอักษร แต่เป็นเรื่องของจิตใจ เขาอาจจะไม่ได้รับการยกย่องจากมนุษย์ แต่เขาจะได้
รับการยกย่องจากพระเจ้า
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 12:24 am
โดย Ministry Of Men
Zaliaus เขียน:
ฝากนิด
ผู้หญิงในบอร์ดนี้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ควรไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ทุกๆ 5 ปี
อื่ม ใช่ครับ สนับสนุน ไปตรวจๆกันไว้ มะเร็งนั้นน่ากลัวนะครับ ตายทรมานจริงๆ
ดูแลสุขภาพร่างกายกันด้วย
จริงๆ ตรวจสุขภาพประจำปี ทุกๆปี ได้ยิ่งดีเลยครับ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่นะ

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 1:54 am
โดย Zaliaus
คนละคนแล้วครับ เขียน:
Zaliaus เขียน:
ฝากนิด
ผู้หญิงในบอร์ดนี้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ควรไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ทุกๆ 5 ปี
อื่ม ใช่ครับ สนับสนุน ไปตรวจๆกันไว้ มะเร็งนั้นน่ากลัวนะครับ ตายทรมานจริงๆ
ดูแลสุขภาพร่างกายกันด้วย
จริงๆ ตรวจสุขภาพประจำปี ทุกๆปี ได้ยิ่งดีเลยครับ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่นะ
ต้องดูว่าแต่ละปีไปตรวจโรคอะไรด้วยครับ แต่ละโรคจะมีข้อบ่งชี้อยู่ ยิ่งตรวจเยอะก็เสียเงินเยอะ ยิ่ง รพ เอกชน ก็นะ
ทั้งๆที่โรคนั้นเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นน้อยมาก อย่างมะเร็งปากมดลูก มีการดำเนินโรคแต่แต่ติดเชื้อ HPV ไปจนกระทั่งเป็นมะเร็ง ใช้เวลาประมาณ 10-12 ปี
จึงเว้นระยะห่างการตรวจประมาณ 5 ปี หรือถ้ากลัวก็ 3 ปีครั้งก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกปีก็ได้ ค่าตรวจถูกมาก 300-500 บาท ไปตรวจกันซะนะ เดี๋ยวมาเจอในระยะที่มีอาการแล้วมันไม่คุ้มสุดๆ ไม่ทราบว่าบอร์ดนี้ใครอายุ 35 แล้วหรือยัง?
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 5:32 am
โดย Buddy
Zaliaus เขียน:
ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนะครับ พอดีสอบเสร็จแล้วเลยมีเวลาอ่านดูอีกที
The incidence of squamous cell carcinoma of the penis ranges from 10% to 20% of male malignancies in some parts of Asia, Africa, and South America. A striking correlation exists between the practice of circumcision and the occurrence of penile cancer. Circumcision confers protection; hence, this cancer is extremely rare among Jews and Moslems and is correspondingly more common in populations in which circumcision is not routinely practiced. It is postulated that circumcision is associated with better genital hygiene, which, in turn, reduces exposure to carcinogens that may be concentrated in smegma and decreases the likelihood of infection with potentially oncogenic human papillomavirus (HPV). จาก Robbins and Cotran Pathologic Basis of Disease. 7th
Neonatal circumcision has been considered protective against invasive penile cancer. An extensive review of 1103 cases of penile cancer reported in 1932 failed to detect a single case among men circumcised as neonates. With reported benefits including prevention of urinary tract infections, STIs and invasive penile cancer. neonatal circumcision became a routine practice in North America. Over the next 6 decades, there were 12 published articles, each reporting a single case of invasive penile squamous cell carcinoma following neonatal circumcision. จาก Canadian Urological Association Journal 2008 February
ก็คือสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิด "Invasive squamous cell carcinoma of the penis" (ไม่ใช้ป้องกันนะ) ซึ่งมะเร็งชนิดนี้สัมพันธ์กับการติดเชื้อ human papillomavirus (HPV) นั่นเอง แต่ต้องเป็นการทำแบบ Neonatal circumcision นะครับ ไม่ใช่ทำหลังจากผ่านช่วง childhood ไปแล้ว
ฝากนิด
ผู้หญิงในบอร์ดนี้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ควรไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ทุกๆ 5 ปี
ขอบคุณมากค่ะ : emo045 :
ถ้างั้นก็แปลว่า ถ้าจะขลิบ ต้องต้องทำตอนเด็ก ถ้าทำตอนโต บาดแผลจากการขลิบ อาจจะเสี่ยงเป็นมะเร็งได้อีก (post-circumcision carcinoma of the penis) รึเปล่า??
เรื่อง cervical cancer
แล้วถ้าถือโสดล่ะคะ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และไม่คิดจะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด โอกาสที่จะไป expose กับ HPV ไม่มีแน่ๆ จำเป็นมั้ย ... เพราะเคยไปตรวจทีนึง ตอนนั้นวิตกจริต เพราะเป็น acoustic neuroma ก็กลัวจะเป็นโน่นเป็นนี่ไปหมด พอไปตรวจทีนี่ คือ ร้องลั่นโรงพยาบาล พอกลับบ้านมาก็มีผลทางจิตใจมากๆ คือเหมือนถูกข่มขืน ทรมานทางจิตใจแบบสุดๆ คนรอบข้าง ครอบครัว ช่วยกันปลอบก็ไม่ได้ผล ต้อง councelling อีก คือตอนนั้นคิดเลยว่า จะไม่ไปตรวจอีกเด็ดขาด ยอมเป็นมะเร็งตายดีกว่าต้องมาทรมานกับความรู้สึกถูกข่มขืน ใช้เวลาเป็นเดือนๆ กว่าจะหาย คืนแรกนอนคนเดียวไม่ได้เลย มีอาการผวาด้วย เป็นอาทิตย์ กว่าจะหายผวา แต่ความเจ็บปวดในจิตใจมันทรมานสุดๆ ตอนนั้นเข้าใจคนถูกข่มขืนมาก ขนาดเราไม่มีประเด็นเรื่องศีลธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ มีคนปลอบ มีคนเข้าใจ สามารถเล่าให้คนฟังได้ ยังเกือบตาย แล้วคนที่ถูกข่มขืน ที่มีประเด็นอื่นนี่ มันจะขนาดไหน... กว่าจะผ่านไปได้ .. เกือบตาย : emo031 :
ตอนนั้นเสียใจมากๆเลยที่ไปตรวจ อายุแค่ 20 ต้นๆ เพศสัมพันธ์ก็ไม่เคยมี ผ้าอนามัยแบบสอดก็ไม่เคยใช้ ตอนนั้นพ่อโกรธหมอที่ตรวจมากเลยว่า ตรวจไปได้ยังไง น่าจะให้ความรู้และถามคนไข้ดีๆก่อน
มาที่อเมริกา หมอจะให้ตรวจนะ แต่ก็บอกไปว่า ไม่เอา ถ้ามันจะต้องเป็นนะ ยอมเป็นมะเร็งตาย และหนูก็ไม่มีภาวะเสี่ยง หนูไม่ตรวจ หมอก็บอก มันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครชอบหรอก ก็บอกไปว่า ค่าตรวจ กับค่า counselling ที่จะต้องเสียเนี่ย มันคุ้มมั้ย ยังไงก็ไม่ตรวจ
เล่าให้เพื่อนที่เป็นหมอฟัง เพื่อนยังบอก ... เธอ ขนาดชั้นแต่งงานแล้ว ยังไม่คิดไปตรวจเลย ชั้นบอกคนไข้นะ เพราะเป็นหน้าที่ แต่ชั้นไม่ไป : xemo016 :
น่าจะมีการตรวจแบบ non-invasive นะคะ ไม่งั้นนี่ ทรมานกันสุดๆ : emo018 :
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 8:00 am
โดย Ministry Of Men
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 11:30 am
โดย วอ
ปิกาจู น่ารัก

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 4:17 pm
โดย Zaliaus
ถ้างั้นก็แปลว่า ถ้าจะขลิบ ต้องต้องทำตอนเด็ก ถ้าทำตอนโต บาดแผลจากการขลิบ อาจจะเสี่ยงเป็นมะเร็งได้อีก (post-circumcision carcinoma of the penis) รึเปล่า??
น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ
Post-circumcision cancer may occur at the circumcision scar. The cause is unknown. One may hypothesize that the circumcision scar tissue is less resistant to penetration of HPV which then transfers DNA to the human cell and starting the growth of the neoplasm. More research is needed to determine the etiology of post-circumcision cancer. จาก Bissada NK, Morcos RR, el-Senoussi M. Post-circumcision carcinoma of the penis. I. Clinical aspects. J Urol 1986 Feb;135(2):283-5 (เก่าไปนิด)
เออ...ไม่ทราบว่าไปดูแบบไหนมาครับ โดยทั่วไปน่าจะเป็นการทำ pap smear คือการป้ายเซลล์บริเวณปากมดลูกมาตรวจทางเซลล์วิทยา
ซึ่งวิธีที่แพร่หลายและราคาถูก องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้วิธีนี้ครับ
แต่การจะเข้าไปป้ายเซลล์มาได้นั้น ก็ต้องเปิดช่องคลอดแล้วใช้ไม้พันสำสีแหย่เข้าไป
เข้าใจว่าน่าจะไม่เจ็บนะครับ แต่ก็คงรู้สึกเหมือนมีอะไรเข้าไปในช่องอันนั้นของเรา เป็นการรุกล้ำความเป็นพรหมจารีย์ของเรา(หรือเปล่า)
ก็เลยอาจทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจได้ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ แต่สำหรับผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากและประสบการณ์โชกโชนแล้ว
ซึ่งเตรียมใจพร้อมสำหรับการตรวจแล้ว ก็อาจจะไม่มีผลกระทบมากนัก
ภาพประกอบ
http://justsayxeno.files.wordpress.com/2007/05/pap_smear.gif
pap smear เป็นแค่การตรวจคัดกรอง(หาโรคก่อนที่จะมีอาการ) ยังมีการตรวจวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษา (ในกรณีที่พบว่ามีความผิดปกติ) ซึ่งก็คือการตัดชิ้นเนี้อตรวจทางพยาธิวิทยา อันนี้น่ากลัวมาก แต่ก็ยังมีน่ากลัวกว่านี้อีก
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 8:06 pm
โดย Buddy
Zaliaus เขียน:
ถ้างั้นก็แปลว่า ถ้าจะขลิบ ต้องต้องทำตอนเด็ก ถ้าทำตอนโต บาดแผลจากการขลิบ อาจจะเสี่ยงเป็นมะเร็งได้อีก (post-circumcision carcinoma of the penis) รึเปล่า??
น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ
Post-circumcision cancer may occur at the circumcision scar. The cause is unknown. One may hypothesize that the circumcision scar tissue is less resistant to penetration of HPV which then transfers DNA to the human cell and starting the growth of the neoplasm. More research is needed to determine the etiology of post-circumcision cancer. จาก Bissada NK, Morcos RR, el-Senoussi M. Post-circumcision carcinoma of the penis. I. Clinical aspects. J Urol 1986 Feb;135(2):283-5 (เก่าไปนิด)
เออ...ไม่ทราบว่าไปดูแบบไหนมาครับ โดยทั่วไปน่าจะเป็นการทำ pap smear คือการป้ายเซลล์บริเวณปากมดลูกมาตรวจทางเซลล์วิทยา
ซึ่งวิธีที่แพร่หลายและราคาถูก องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้วิธีนี้ครับ
แต่การจะเข้าไปป้ายเซลล์มาได้นั้น ก็ต้องเปิดช่องคลอดแล้วใช้ไม้พันสำสีแหย่เข้าไป
เข้าใจว่าน่าจะไม่เจ็บนะครับ แต่ก็คงรู้สึกเหมือนมีอะไรเข้าไปในช่องอันนั้นของเรา เป็นการรุกล้ำความเป็นพรหมจารีย์ของเรา(หรือเปล่า)
ก็เลยอาจทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจได้ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ แต่สำหรับผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากและประสบการณ์โชกโชนแล้ว
ซึ่งเตรียมใจพร้อมสำหรับการตรวจแล้ว ก็อาจจะไม่มีผลกระทบมากนัก
ภาพประกอบ
http://justsayxeno.files.wordpress.com/2007/05/pap_smear.gif
pap smear เป็นแค่การตรวจคัดกรอง(หาโรคก่อนที่จะมีอาการ) ยังมีการตรวจวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษา (ในกรณีที่พบว่ามีความผิดปกติ) ซึ่งก็คือการตัดชิ้นเนี้อตรวจทางพยาธิวิทยา อันนี้น่ากลัวมาก แต่ก็ยังมีน่ากลัวกว่านี้อีก
อันนี้ใหม่ค่ะ ลองดู
The Journal of Urology
Volume 175, Issue 2, February 2006, Pages 557-561
http://www.sciencedirect.com/science?_o ... 8d8078995c
แต่มันก็มี report case เหมือนกันที่ทำตอนเด็ก แต่เจอ cell carcinoma เค้าก็บอกว่า เป็น nonhealing scar สรุปก็คือ ถ้าจะทำต้องทำให้ดีจริงๆ คิดว่านะ
Neonatal circumcision and invasive squamous cell carcinoma of the penis: a report of 3 cases and a review of the literature,
Can Urol Assoc J, v.2(1); Feb 2008
Pap Smear
จะบอกว่า ไม่ได้ไปดูค่ะ แต่ไปทำ ประสบการณ์ตรง อี pap smear นี่แหละ .... ใครบอกไม่เจ็บ เจ็บเกือบตาย เจ็บตั้งแต่เอาเครื่องมือเข้าไปแล้ว เจ็บตั้งแต่เริ่มตรวจเลย ... ร้องลั่นโรงพยาบาล คนรอหน้าห้องตรวจ ไม่กล้าเข้าตรวจเลย ตอนนั้นไปกับแม่ แม่เล่าให้ฟังว่า มีแม่คนนึงเหมือนกัน พาลูกไปตรวจ แม่ก็บอกลูกว่า ไม่เจ็บหรอกลูก เท่านั้นแหละ พอได้ยินเสียงร้อง แม่คนนั้นพูดไม่ออกเลย
เกือบตาย แล้วมีผลกับจิตวิญญาณด้วยคือ มันจะเป็นปฎิกิริยาเหมือนคนถูกข่มขืนน่ะค่ะ ที่จะแบบ เกลียดผู้ชายที่ทำ และพาลเกลียดผู้ชายทั้งโลก ประมาณนั้น อันนี้คนทำคือหมอ ก็มีอาการแค้นหมอ เกลียดหมอสูติ เกลียดคนที่แนะนำให้ทำ

หมอที่ทำให้เป็นแม่เพื่อน ตอนแรกคิดว่า หายแล้วนะ แต่เมื่อวาน เพื่อนโพสต์รูปแม่เค้าใน facebook พอเห็นรูปแล้วยังจี๊ดเลย ความรู้สึกทั้งโกรธและเกลียดกลับมาอีก (หรือไม่ก็ยังไม่หายไม่รู้) ทั้งๆที่ตามเหตุผล เรารู้ว่า มันไม่มีอะไร เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่มันเป็นปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งก็ต้องต่อสู้กับมัน ไม่งั้นเราก็บาป มันกระทบไปขนาดนั้นจริงๆ
จะว่าไป ก็ต้องไปแก้บาปเหมือนกัน เพราะเราโกรธ เกลียด แค้น แบบแรงมากๆ ก็พยายามต่อสู้อยู่ค่ะ ...
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 9:45 pm
โดย Léon
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 10:59 pm
โดย Immanuel (MichaelPaul)
ตกลงคือควรขลิบแต่เด็กสินะ โตแล้วไม่ควร ?
ใครว่าเกิดเป็นชายสบายหว่า เรื่องแบบนี้ก็ทำให้ลำบากได้เหมือนกันนา
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 11:05 pm
โดย Ministry Of Men
Immanuel (MichaelPaul) เขียน:
ตกลงคือควรขลิบแต่เด็กสินะ โตแล้วไม่ควร ?
ใครว่าเกิดเป็นชายสบายหว่า เรื่องแบบนี้ก็ทำให้ลำบากได้เหมือนกันนา
อายพยาบาล -*-
อย่าเลย
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 11:10 pm
โดย Léon
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 4:14 am
โดย Buddy
Leo เขียน:
การตรวจแบบ invasive นี่
แ ห ก ก ว้ า ง มากๆ เลยเหรอครับ
กลัวจางงงงงงงงงงงงง
จิมแครี่ บอบช้ำหมดเลย
นิสัยไม่ดี เอาความเจ็บปวดของคนอื่นมาล้อเลียน

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 5:11 am
โดย Ministry Of Men
Leo เขียน:
กลัวฟูใส่พยาบาลเหรอ ก๊ากกกก
พยาบาลน่ากลัวจริงๆ เห็นสวยๆยิ้มหวานๆ นี่ตัวแสบเลยละ

Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 4:48 pm
โดย Léon
Re: ขริบ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 9:51 pm
โดย เจนจิรา
555555555555555555555555555555555555555
