ใครคือผู้สร้างจิตวิญญาณของมนุษย์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ต.ค. 09, 2009 5:32 pm

ใครคือผู้สร้างจิตวิญญาณของมนุษย์

รูปภาพ
(โดย  ดร.กำจร  เชาวน์รัตน์)

เป็นคำถามสั้น ๆ  แต่ผู้ที่ถูกถามไม่สามารถตอบได้  และส่วนใหญ่มักจะพูดว่าธรรมชาตินั่นแหละเป็นผู้สร้างเพราะเป็นคำตอบที่ง่ายและไม่สามารถพิสูจน์ได้  แต่ที่จริงแล้วคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จิตวิญญาณของมนุษย์เราถูกสร้างขึ้นมาจากธรรมชาติหรือ  ดิน  น้ำ  ลม  ไฟ  และคงเป็นเครื่องหมายคำถามที่ใหญ่เท่าฟ้าสำหรับผู้ที่ต้องการทราบว่าวิตวิญญาณของเขาเหล่านั้นมาจากไหน  และใครเป็นผู้สร้าง  แต่พี่น้องคริสเตียนที่ศึกษาพระวจนะพระเจ้าในพระคัมภีร์  เราทุกคนต่างทราบดีว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ในโลกนี้ถูกสร้างโดยพระผู้สร้างหรือพระเจ้านั่นเอง

      คนส่วนมากเคยได้ยินได้ฟังการกล่าวถึงชาตินี้ชาติหน้า  อดีตชาตินับร้อยพันชาติ  แต่ผู้ที่กล่าวถึงชาติต่าง ๆ  เหล่านั้นไม่มีใครเลยสักคนที่สามารถตอบได้ว่าชาติแรกของเรานั้นมาจากไหนและใครเป็นผู้สร้าง  ขอโทษเถอะแค่อาหารมื้อเที่ยงเมื่อเจ็ดวันที่ผ่านมาท่านทานข้าวกับอะไรก็ยังลืมหมดไม่สามารถจำได้  ดังนั้นอย่าไปคิดระลึกถึงชาติไหน ๆ  เลย  คงเป็นแค่หลักปรัชญาเท่านั้นเอง  โปรดอย่าหลงทางอยู่เลย  และขอเรียนว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคนในโลกนี้พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งสิ้น  และพระองค์ให้เราเกิดมาบนโลกนี้เพียงชาติเดียวจริง ๆ  โดยเหตุนี้เราจึงต้องเร่งทำความดีและเชื่อฟังคำสอนของพ่อฝ่ายจิตวิญญาณของเรานั่นคือพระเจ้านั่นเอง  และพระวจนะของพระเจ้านั้น  พระองค์ทรงดลใจให้คนสี่สิบคนเขียนขึ้นเป็นภาษาฮีบรูและนำมารวมกันเป็นพระคัมภีร์ไบเบิลนักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ด้วยคาบอนมีองค์กรวิทยาศาสตร์โลกรับรองอายุพระคัมภีร์มีอายุเกือบห้าพันปีซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่เคยทราบมาก่อนอีกทั้งคิดว่าพระคัมภีร์ไบเบิลคงมีอายุเพียงสองพันปีเศษ  นับได้ว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันอย่างมากจริง ๆ ดังนั้นเมื่อท่านทราบแล้วก็ขอเรียนยืนยันให้ท่านทราบว่าพระคำของพระเจ้าทุกตัวอักษรเป็นความจริงที่เราสามารถพิสูจน์ได้ทุกประการตราบจนถึงยุคปัจจุบันนี้  นับได้ว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์จริง ๆ  หรือแม้แต่พระเยซูคริสตเจ้าจะเสด็จมาประสูติเป็นมนุษย์ในโลกนี้พระคัมภีร์ก็ได้เขียนล่วงหน้าไว้แล้วเกือบหนึ่งพันปีกล่าวถึงสถานที่ประสูติ  ที่ไหน  เมื่อใด  อย่างไร  หรือพระนามของพระองค์ของพระมารดา  และผู้เกี่ยวข้อง  ถูกต้องหมด  เห็นไหมน่าอัศจรรย์จริง ๆ

      ดังนั้นเรื่องจิตวิญญาณของมนุษย์ในโลกนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งถ้าเราไม่ทราบว่าเป็นมาอย่างไรก็อาจจะสายไปแต่วันนี้เมื่อทราบแล้ว  เราควรจะปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้เป็นที่พอพระทัยต่อพระเจ้าหรือพระบิดาของเราเอง มนุษย์ในโลกนี้ส่วนมากจะยึดติดกับความสุขชั่วคราว  ไม่ยอมคิดถึงความสุขนิรันดร์  แม้เราจะมีความสุขมากที่สุด  แค่สูญเสียคนใกล้ตัวเราก็เสียใจแทบจะตายไปด้วยและอย่าลืมว่าร่างกายของมนุษย์เราเปรียบเสมือนบ้านที่ให้จิตวิญญาณอาศัยอยู่  แน่นอนที่สุดวันหนึ่งบ้านแต่ละหลังต้องพังไป  จิตวิญญาณนั้น ๆ  จะทำอย่างไร  เราจะนำทรัพย์สินทั้งโลกนี้มาแลกให้กลับมาหนุ่ม-สาวใหม่  ก็คงทำไม่ได้จริง ๆ การดำรงชีวิตในโลกนี้  เราลองสำรวจตรวจสอบดูการใช้ชีวิตจริงในแต่ละวันคล้าย ๆ  กันหมด  ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกลับเข้าไปนอนใหม่แต่ทว่า  วัน  เดือน  ปี  ผ่านไปเร็วมาก  เป็นเด็กน้อยอยู่ไม่นาน  ก็เป็นผู้ใหญ่  ไม่นานก็เป็นคนแก่  และไม่นานก็จากโลกนี้ไป  แต่ถ้าเราอยู่ในความเชื่อต่อคำสอนของพระเจ้านั่นหมายถึงเราเป็นลูกที่ดีของพระเจ้า  บำเหน็จรอเราอยู่เบื้องบนจริง ๆ

      ความสุขในโลกนี้  (ชั่วคราว)  เราอาจใช้ทรัพย์สินเงินทองซื้อหามาได้หมดแต่ลืมไปว่าความสุขนั้น ๆ  เพียงไม่กี่ปีก็สูญสลายไป  แต่ความสุขชั่วนิรันดร์นั้นเราไม่ต้องใช้ทรัพย์สินเงินทองซื้อมาเหมือนที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า  เรานั้นได้ปฏิบัติตามคำสอนของพ่อฝ่ายจิตวิญญาณของเราหรือไม่ พระองค์เฝ้าคอยและดูเราอยู่เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างจิตวิญญาณของเรามาจริง ๆ  ที่พระองค์ให้เรามาเกิดใช้ชีวิตบนโลกนี้  เราสามารถศึกษาได้จากพระคัมภีร์โดยไม่ยากและเราจะภูมิใจมากที่ทราบว่าจิตวิญญาณของเราถูกสร้างโดยพระเจ้า  และเราจะภูมิใจมากขึ้นไปอีกถ้าเราสามารถปกป้องต่อสู้ซาตานที่จะเข้ามาใส่ความคิดอันเลวร้ายในชีวิตอันแสนสั้นของเราในโลกนี้เพราะเราต้องกลับไปรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราถูกครอบงำให้กระทำเราสามารถสร้างเกราะป้องกันภัยเหล่านี้ได้โดยการอธิษฐานและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์  เราจะมีสติที่ดี  วิญญาณชั่วไม่สามารถเข้ามาครอบงำเราได้  และวันนั้นเราก็จะได้รับบำเหน็จตอบแทนเมื่อจิตวิญญาณของเรากลับไปเฝ้าพระองค์ที่นั่นแหละ  เราจะพบความสุขที่เปี่ยมล้นในบ้านที่แท้จริงของเราจริง ๆ  อาเมน.

ดร.กำจร  เชาวน์รัตน์.  คริสเตียนนิวส์  ข่าวสารของคริสเตียน  ปีที่  13  ฉบับที่  110  เดือนกันยายน  2009  หน้าที่  1 (ต่อหน้า9).  กรุงเทพฯ:  2009.
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

ศุกร์ ต.ค. 09, 2009 7:46 pm

ขอบคุณมากครับ ::022::
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

เสาร์ ต.ค. 10, 2009 6:40 pm

ขอบคุณค่ะ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Stephen
โพสต์: 117
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 2:07 pm

พุธ ต.ค. 14, 2009 12:00 pm

เคยได้ยินมาว่า ทูตสวรรค์เกิดจากรัศมีของพระเจ้า แต่จิตของมนุษย์เกิดจาก....อะไร อะ : emo073 :
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 9:56 pm

ขอบคุณ มากครับ ดีมากๆ เลย ::054::
Little Boy
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am

อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:49 am

พระเจ้าทำให้เราเป็นวิญญาณมนุษย์ที่มีสิทธิเสรี เราจึงเป็นเหมือนลูกของพระบิดา องค์ผู้เป็นพระเจ้าสูงสุด ขอพระสิริมีแด่พระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

อังคาร ต.ค. 27, 2009 11:11 am

Stephen เขียน: เคยได้ยินมาว่า ทูตสวรรค์เกิดจากรัศมีของพระเจ้า แต่จิตของมนุษย์เกิดจาก....อะไร อะ : emo073 :
การจาก ลมหายใจของ พระองค์ นั้นเอง ที่ทำให้มนุษย์ ทุกคนเป็นลูก หลานของพระองค์
แก้ไขล่าสุดโดย เจนจิรา เมื่อ อังคาร ต.ค. 27, 2009 11:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ต.ค. 28, 2009 7:14 pm

ขอบคุณครับ

พระวจนะของพระองค์ทรงเป็นจริงนิรันดรเสมอ
ตอบกลับโพส