เราจำเป็นหรือไม่ครับก็ต้องไปแสวงบุญในที่ไกลๆ เช่นเมืองลูร์ด ฟาติมา เยรูซาเล็ม ฯลฯ
หรือ แม้แต่ที่สองคอน เพราะว่า การสวดภาวนา การไปวัดทุกวันอาทิตย์ รับศีลแก้บาปอย่างสม่ำเสมอ
เราได้รับพระพร พระหรรษทาน จากพระเป็นเจ้า แม่พระ อย่างมากมายแล้ว : xemo017 :
คริสตังเราจำเป็นหรือไม่ครับ ( ได้โปรดตอบด้วยนะครับ )
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
ไม่จำเป็นคับ เพราะว่า การสวดภาวนา เราสวดที่ไหนก็ได้ ยังไงคำภาวนาก็ถึงพระอยู่ดี
แต่ว่า การไปสถานที่ต่างๆเล่านั้น มันเพื่อความสุขทางใจ
รวมๆแล้วคือไม่จำเป็นคับ
แต่ว่า การไปสถานที่ต่างๆเล่านั้น มันเพื่อความสุขทางใจ
รวมๆแล้วคือไม่จำเป็นคับ
จุดประสงค์ของการเดินทางไปแสวงบุญไกล ๆ ก็คือ การรื้อฟื้นความเชื่อความศรัทธา เพราะพระเจ้าทรงมีพระประสงค์จะใช้สถานที่บางแห่งเพื่อกระตุ้นความศรัทธาของมนุษย์ เช่น แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ประจักษ์ของพระเยซูเจ้าและแม่พระ เพราะเมื่อเราได้ไปในที่เหล่านั้น เราจะเห็นความศรัทธาของผู้คนมากมายซึ่งทำให้เราเกิดความเชื่อมากขึ้น อีกทั้งการเดินทางไกล ๆ ก็มีความยากลำบาก จึงเป็นการพลีกรรมอย่างหนึ่งด้วย แต่กระนั้น การแสวงบุญก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่มีความเชื่อมั่นคงแล้ว เพราะเขาย่อมสัมผัสกับการประทับอยู่ของพระเจ้าได้ในทุกหนแห่ง แต่การแสวงบุญจำเป็นสำหรับผู้ที่ความเชื่อยังไม่เข้มแข็ง ต้องการพลัง หลายๆ คนได้ไปแสวงบุญแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตฝ่ายจิตที่ดีขึ้น มีความรักพระมากขึ้น คนบาปบางคนกลับใจ
ดังนั้น การจะตัดสินว่าการแสวงบุญจำเป็นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพชีวิตฝ่ายจิตของคน ๆ นั้นครับ
ดังนั้น การจะตัดสินว่าการแสวงบุญจำเป็นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพชีวิตฝ่ายจิตของคน ๆ นั้นครับ
นักบุญออกัสติน :
“ถ้าเราเช็ดน้ำตาแต่เพียงหยดเดียวเมื่อระลึกถึงพระทรมานของพระเยซูเจ้าแล้ว ยังจะมีคุณค่ามากกว่าไปแสวงบุญ จำศีลอดอาหารเสียอีก”
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=10495.0
“ถ้าเราเช็ดน้ำตาแต่เพียงหยดเดียวเมื่อระลึกถึงพระทรมานของพระเยซูเจ้าแล้ว ยังจะมีคุณค่ามากกว่าไปแสวงบุญ จำศีลอดอาหารเสียอีก”
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=10495.0
การแสวงบุญ ตามแนวทางของศาสนาคริสต์คืออะไรครับ?
ถามคุณตอบคำถามข้อนี้ได้ คุณก็คงตอบได้ว่า การแสวงบุญจำเป็นหรือไม่
สำหรับผมแล้ว การแสวงบุญไม่ได้เป็น need หรือ ความจำเป็นที่ต้องกระทำครับ
แต่ถ้าทำได้ ก็ควรทำเสีย เพื่อเพิ่มพูนความศรัทธาที่มีอยู่
ถามคุณตอบคำถามข้อนี้ได้ คุณก็คงตอบได้ว่า การแสวงบุญจำเป็นหรือไม่
สำหรับผมแล้ว การแสวงบุญไม่ได้เป็น need หรือ ความจำเป็นที่ต้องกระทำครับ
แต่ถ้าทำได้ ก็ควรทำเสีย เพื่อเพิ่มพูนความศรัทธาที่มีอยู่
- ~~~พระเจ้าทรงคุ้มครอง~~~
- โพสต์: 139
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 18, 2009 12:13 am
ไม่ต้องไปที่ไหนไกลๆหรอกคับ...พระท่านอยู่ที่ใจฮะ ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนเลยคับ แฮ่ๆ
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไปเถอะคับ ถือว่าเป็นการไปทำบุญ(อีกอย่างก็คือเที่ยวไปด้วยในตัว )
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไปเถอะคับ ถือว่าเป็นการไปทำบุญ(อีกอย่างก็คือเที่ยวไปด้วยในตัว )
-
- โพสต์: 141
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 03, 2006 12:17 pm
การแสวงบุญ คือ การแสวงหาพระเจ้าผู้ประทับอยู่ในจิตวิญญาณของเรา...
เมื่อเริ่มคิดว่า "จะไปแสวงบุญ" นั่นคือ การเริ่มเปิดใจต่อพระหรรษทานของพระเจ้าแล้ว
เมื่อเดินทาง ตอนนั้น จิตวิญญาณย่อมจดจ่ออยู่ที่พระเจ้าที่เรากำลังไปหา ... พระพรก็เริ่มหลั่งไหลลงมา
ความยากลำบากในการเดินทาง คือ การชำระจิตใจให้สะอาด เพราะจะเกิดการยอมรับความยากลำบาก(กางเขน)ได้ง่าย
การพบปะผู้ศรัทธามากมาย นั่นคือ การแบ่งปันพระพรให้แก่กันและกัน ผ่านทางกริยาท่าทาง
การไปถึงสถานที่แห่งนั้น จะพบความศรัทธาของผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นจิตวิญญาณให้เปิดรับพระพรมากขึ้น
ทั้งผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ทั้งบุคคลที่ไปร่วมแสวงบุญจากหลายที่ ล้วนแล้วแต่มีพลังงานบวกทั้งสิ้น เพราะมีจิตใจใฝ่หาเบื้องสูง(พระเจ้า)ทุกคน
ส่งผลให้สถานที่แห่งนั้น เต็มไปด้วยความอิ่มเอิบ ชื่นชมยินดี และพลังงานแบบนี้ ก็กลายเป็นแหล่งรองรับและดึงดูดพระพรจากพระเจ้าลงมาอย่างมากมาย
เมื่อกลับมา ... แต่ละคนก็อิ่มเอิบไปด้วยความสุข เพราะเมื่อพระพรได้หลั่งออกจากตัวเราไปรดคนอื่น เราก็เปียก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชก ) เมื่อคนอื่นแบ่งปันมาให้เรา เราก็เปียกอีก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชกอีก) ...
ไปแสวงบุญที่ไหนได้บ้าง...
ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
หรือ
บ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดูแลคนที่อยู่ในบ้าน
เพราะเมื่อเราเริ่มที่จะไปหาเขา ... ไปทำไม ... ไปทำให้เขามีความสุข = ความคิดบวก = จิตเริ่มเปิด พระพรก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา
แล้วถ้ามีเจตนาว่า
เมื่อเริ่มคิดว่า "จะไปแสวงบุญ" นั่นคือ การเริ่มเปิดใจต่อพระหรรษทานของพระเจ้าแล้ว
เมื่อเดินทาง ตอนนั้น จิตวิญญาณย่อมจดจ่ออยู่ที่พระเจ้าที่เรากำลังไปหา ... พระพรก็เริ่มหลั่งไหลลงมา
ความยากลำบากในการเดินทาง คือ การชำระจิตใจให้สะอาด เพราะจะเกิดการยอมรับความยากลำบาก(กางเขน)ได้ง่าย
การพบปะผู้ศรัทธามากมาย นั่นคือ การแบ่งปันพระพรให้แก่กันและกัน ผ่านทางกริยาท่าทาง
การไปถึงสถานที่แห่งนั้น จะพบความศรัทธาของผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นจิตวิญญาณให้เปิดรับพระพรมากขึ้น
ทั้งผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ทั้งบุคคลที่ไปร่วมแสวงบุญจากหลายที่ ล้วนแล้วแต่มีพลังงานบวกทั้งสิ้น เพราะมีจิตใจใฝ่หาเบื้องสูง(พระเจ้า)ทุกคน
ส่งผลให้สถานที่แห่งนั้น เต็มไปด้วยความอิ่มเอิบ ชื่นชมยินดี และพลังงานแบบนี้ ก็กลายเป็นแหล่งรองรับและดึงดูดพระพรจากพระเจ้าลงมาอย่างมากมาย
เมื่อกลับมา ... แต่ละคนก็อิ่มเอิบไปด้วยความสุข เพราะเมื่อพระพรได้หลั่งออกจากตัวเราไปรดคนอื่น เราก็เปียก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชก ) เมื่อคนอื่นแบ่งปันมาให้เรา เราก็เปียกอีก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชกอีก) ...
ไปแสวงบุญที่ไหนได้บ้าง...
ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
หรือ
บ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดูแลคนที่อยู่ในบ้าน
เพราะเมื่อเราเริ่มที่จะไปหาเขา ... ไปทำไม ... ไปทำให้เขามีความสุข = ความคิดบวก = จิตเริ่มเปิด พระพรก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา
แล้วถ้ามีเจตนาว่า
- เลย์
- โพสต์: 1845
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
- ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
- ติดต่อ:
[quote="PeterCartoon"]
การแสวงบุญ คือ การแสวงหาพระเจ้าผู้ประทับอยู่ในจิตวิญญาณของเรา...
เมื่อเริ่มคิดว่า "จะไปแสวงบุญ" นั่นคือ การเริ่มเปิดใจต่อพระหรรษทานของพระเจ้าแล้ว
เมื่อเดินทาง ตอนนั้น จิตวิญญาณย่อมจดจ่ออยู่ที่พระเจ้าที่เรากำลังไปหา ... พระพรก็เริ่มหลั่งไหลลงมา
ความยากลำบากในการเดินทาง คือ การชำระจิตใจให้สะอาด เพราะจะเกิดการยอมรับความยากลำบาก(กางเขน)ได้ง่าย
การพบปะผู้ศรัทธามากมาย นั่นคือ การแบ่งปันพระพรให้แก่กันและกัน ผ่านทางกริยาท่าทาง
การไปถึงสถานที่แห่งนั้น จะพบความศรัทธาของผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นจิตวิญญาณให้เปิดรับพระพรมากขึ้น
ทั้งผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ทั้งบุคคลที่ไปร่วมแสวงบุญจากหลายที่ ล้วนแล้วแต่มีพลังงานบวกทั้งสิ้น เพราะมีจิตใจใฝ่หาเบื้องสูง(พระเจ้า)ทุกคน
ส่งผลให้สถานที่แห่งนั้น เต็มไปด้วยความอิ่มเอิบ ชื่นชมยินดี และพลังงานแบบนี้ ก็กลายเป็นแหล่งรองรับและดึงดูดพระพรจากพระเจ้าลงมาอย่างมากมาย
เมื่อกลับมา ... แต่ละคนก็อิ่มเอิบไปด้วยความสุข เพราะเมื่อพระพรได้หลั่งออกจากตัวเราไปรดคนอื่น เราก็เปียก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชก ) เมื่อคนอื่นแบ่งปันมาให้เรา เราก็เปียกอีก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชกอีก) ... : emo027 :
ไปแสวงบุญที่ไหนได้บ้าง...
ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
หรือ
บ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดูแลคนที่อยู่ในบ้าน
เพราะเมื่อเราเริ่มที่จะไปหาเขา ... ไปทำไม ... ไปทำให้เขามีความสุข = ความคิดบวก = จิตเริ่มเปิด พระพรก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา
แล้วถ้ามีเจตนาว่า
การแสวงบุญ คือ การแสวงหาพระเจ้าผู้ประทับอยู่ในจิตวิญญาณของเรา...
เมื่อเริ่มคิดว่า "จะไปแสวงบุญ" นั่นคือ การเริ่มเปิดใจต่อพระหรรษทานของพระเจ้าแล้ว
เมื่อเดินทาง ตอนนั้น จิตวิญญาณย่อมจดจ่ออยู่ที่พระเจ้าที่เรากำลังไปหา ... พระพรก็เริ่มหลั่งไหลลงมา
ความยากลำบากในการเดินทาง คือ การชำระจิตใจให้สะอาด เพราะจะเกิดการยอมรับความยากลำบาก(กางเขน)ได้ง่าย
การพบปะผู้ศรัทธามากมาย นั่นคือ การแบ่งปันพระพรให้แก่กันและกัน ผ่านทางกริยาท่าทาง
การไปถึงสถานที่แห่งนั้น จะพบความศรัทธาของผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นจิตวิญญาณให้เปิดรับพระพรมากขึ้น
ทั้งผู้สร้างสถานที่แห่งนั้น ทั้งบุคคลที่ไปร่วมแสวงบุญจากหลายที่ ล้วนแล้วแต่มีพลังงานบวกทั้งสิ้น เพราะมีจิตใจใฝ่หาเบื้องสูง(พระเจ้า)ทุกคน
ส่งผลให้สถานที่แห่งนั้น เต็มไปด้วยความอิ่มเอิบ ชื่นชมยินดี และพลังงานแบบนี้ ก็กลายเป็นแหล่งรองรับและดึงดูดพระพรจากพระเจ้าลงมาอย่างมากมาย
เมื่อกลับมา ... แต่ละคนก็อิ่มเอิบไปด้วยความสุข เพราะเมื่อพระพรได้หลั่งออกจากตัวเราไปรดคนอื่น เราก็เปียก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชก ) เมื่อคนอื่นแบ่งปันมาให้เรา เราก็เปียกอีก (อิ่มเอิบ ชุ่มโชกอีก) ... : emo027 :
ไปแสวงบุญที่ไหนได้บ้าง...
ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
หรือ
บ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดูแลคนที่อยู่ในบ้าน
เพราะเมื่อเราเริ่มที่จะไปหาเขา ... ไปทำไม ... ไปทำให้เขามีความสุข = ความคิดบวก = จิตเริ่มเปิด พระพรก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา
แล้วถ้ามีเจตนาว่า