ทำไม โปรเตสแตน ถึงไม่เชื่อเรื่องไฟชำระครับ และสวดให้ผู้ตายไม่ได้

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:05 pm

ทำไม โปรเตสแตน ถึงไม่เชื่อเรื่องไฟชำระครับ และสวดให้ผู้ตายไม่ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
A Sheep
โพสต์: 1131
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 5:44 pm

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:12 pm

เอ๋? พี่บอยไม่ใช่โปรเตสแตนเหรอคะ??


หนูก็ไม่รู้เหมือนกันอ่า =__=''
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:20 pm

ไม่ทราบเหมือนกันครับ  : emo036 :
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:27 pm

คุณพี่บอยดูมาร์ติน ลูเธอร์แล้วมะใช่เหรอฮับ ก็เกิดจากท่านมะใช่เหรอ...งง : xemo029 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:49 pm

sinner เขียน: คุณพี่บอยดูมาร์ติน ลูเธอร์แล้วมะใช่เหรอฮับ ก็เกิดจากท่านมะใช่เหรอ...งง : xemo029 :
A Sheep เขียน: เอ๋? พี่บอยไม่ใช่โปรเตสแตนเหรอคะ??


หนูก็ไม่รู้เหมือนกันอ่า =__=''
อยากรู้ด้านศาสนศาสตร์คร้าบ -.- แง่ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Trinity
โพสต์: 147
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 06, 2008 2:00 am

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:56 pm

อันที่จริงเราคริสตชน (ทั้งโปรตัสตันท์ และคาทอลิก) ต่างยอมรับพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ที่สืบทอดมาจากชาวยิวเหมือนกัน เพียงแต่หลังการถูกกวาดต้อนไปกรุงบาบิโลน ชาวยิวต่างกระจัดกระจายกันไปตามที่ต่าง ๆ ที่ยังเหลือรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ มี 2 แห่งคือ ที่แผ่นดินปาเลสไตน์ ซึ่งยังคงใช้ภาษาฮีบรูเป็นหลัก
และที่เมืองอเล็กซานเดรียในประเทศอียิปต์ ซึ่งใช้ภาษากรีกเป็นหลัก ต้องยอมรับว่าชาวยิวที่ใช้ภาษากรีกมีใจเปิดกว้าง มากกว่าชาวยิวที่ใช้ภาษาฮีบรู ซึ่งออกไปทางอนุรักษ์นิยม
เมื่อพวกเขาแปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม จากภาษาฮีบรูมาเป็นฉบับภาษากรีก ที่เรียกกันว่า "สารบบเจ็ดสิบ หรือ Septuagint" จึงได้รวมหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวยิวที่ใช้ภาษากรีกเข้าไปด้วย

ส่วนที่เพิ่มเติมจากภาษาฮีบรูได้แก่
โทบิต และ ยูดิธ ต้นฉบับเป็นภาษาอาราเมอิก หรืออาจเป็นฮีบรู
บารุค และ มัคคาบี 1 ต้นฉบับเป็นภาษาฮีบรู
ปรีชาญาณ และ มัคคาบี 2 ต้นฉบับเป็นภาษากรีก
บุตรสิรา
บางส่วนของ เอสเธอร์ ต้นฉบับอาจเป็นภาษาฮีบรู
บางส่วนของ ดาเนียล ต้นฉบับเป็นภาษากรีก

จุดแตกหักด้านพระคัมภีร์ระหว่างคริสตชนเกิดขึ้นในปี 1519 ที่เมือง Leipzig เมื่อ Eck อ้างข้อความจากหนังสือมัคคาบี ฉบับที่ 2 เพื่อสนับสนุนคำสอนเรื่องไฟชำระ
แต่ Luther คัดค้านโดยอ้างว่าหนังสือดังกล่าวไม่อยู่ในสารบบ
ผลสรุปคือ ลูเธอร์เดินตามสารบบของชาวยิวในปาเลสไตน์ที่ใช้ภาษาฮีบรู

ส่วนคาทอลิกเดินตามสารบบของชาวยิวในอเล็กซานเดรียที่ใช้ภาษากรีก
ต่อมา ในปี 1546 (27 ปีหลังเหตุการณ์ที่เมือง Leipzig) สังคายนาที่นครเตรนท์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ (ไม่ผิดพลาด) รับรองหนังสือทุกเล่มที่คาทอลิกใช้อยู่ในปัจจุบัน (ทั้งสารบบที่หนึ่งและสารบบที่สอง) ว่า "เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์และได้รับการดลใจจากพระเป็นเจ้า"
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:58 pm

อ่านอันนี้ประกอบด้วยค่ะ  : emo038 :

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7220.0
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

อังคาร พ.ย. 17, 2009 11:21 pm

BoYz - The Series เขียน:
sinner เขียน: คุณพี่บอยดูมาร์ติน ลูเธอร์แล้วมะใช่เหรอฮับ ก็เกิดจากท่านมะใช่เหรอ...งง : xemo029 :
A Sheep เขียน: เอ๋? พี่บอยไม่ใช่โปรเตสแตนเหรอคะ??


หนูก็ไม่รู้เหมือนกันอ่า =__=''
อยากรู้ด้านศาสนศาสตร์คร้าบ -.- แง่ๆ
กระทู้(เกือบ)ล่อเป้าละ : emo056 :

ถ้าอยากได้แบบศาสนศาสตร์ต้องไปเอาที่พระคริสตธรรม มีให้อ่านตาแฉะ จะเอาเป็นภาษาอะไรล่ะ

เพราะถ้ามาศาสนศาสตร์กันตรงๆ ในนี้ เรื่องข้อเหมือนไม่เป็นไร แต่เรื่องข้อต่างนี่พี่ว่าไม่ควรนะ ทำลายเอกภาพเปล่าๆ  : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร พ.ย. 17, 2009 11:37 pm

แหะๆ ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อังคาร พ.ย. 17, 2009 11:54 pm

ไฟชำระมีจริงหรือเปล่าจริง ๆ เราก็ไม่รู้นะ

แต่สักวัน คำตอบก็คงมาหาเราเองแหละ
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พุธ พ.ย. 18, 2009 9:27 am

Valkyrie_chan เขียน: ไฟชำระมีจริงหรือเปล่าจริง ๆ เราก็ไม่รู้นะ

แต่สักวัน คำตอบก็คงมาหาเราเองแหละ

ที่นี่มีคำตอบจ้า http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7220.0
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

พุธ พ.ย. 18, 2009 12:01 pm

เขาตัดออกไป สิ่งใหนที่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่เอา ถึงแม้จะมีมาตั้งแต่โบราณ ก็ไม่ยอมรับ  ยิ่งโปร บางสายยิ่งแล้วใหญ่เลย ตัดประเพณี และพิธีกรรมออก หมด เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

พุธ พ.ย. 18, 2009 12:22 pm

Trinity เขียน: อันที่จริงเราคริสตชน (ทั้งโปรตัสตันท์ และคาทอลิก) ต่างยอมรับพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ที่สืบทอดมาจากชาวยิวเหมือนกัน เพียงแต่หลังการถูกกวาดต้อนไปกรุงบาบิโลน ชาวยิวต่างกระจัดกระจายกันไปตามที่ต่าง ๆ ที่ยังเหลือรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ มี 2 แห่งคือ ที่แผ่นดินปาเลสไตน์ ซึ่งยังคงใช้ภาษาฮีบรูเป็นหลัก
และที่เมืองอเล็กซานเดรียในประเทศอียิปต์ ซึ่งใช้ภาษากรีกเป็นหลัก ต้องยอมรับว่าชาวยิวที่ใช้ภาษากรีกมีใจเปิดกว้าง มากกว่าชาวยิวที่ใช้ภาษาฮีบรู ซึ่งออกไปทางอนุรักษ์นิยม
เมื่อพวกเขาแปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม จากภาษาฮีบรูมาเป็นฉบับภาษากรีก ที่เรียกกันว่า "สารบบเจ็ดสิบ หรือ Septuagint" จึงได้รวมหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวยิวที่ใช้ภาษากรีกเข้าไปด้วย

ส่วนที่เพิ่มเติมจากภาษาฮีบรูได้แก่
โทบิต และ ยูดิธ ต้นฉบับเป็นภาษาอาราเมอิก หรืออาจเป็นฮีบรู
บารุค และ มัคคาบี 1 ต้นฉบับเป็นภาษาฮีบรู
ปรีชาญาณ และ มัคคาบี 2 ต้นฉบับเป็นภาษากรีก
บุตรสิรา
บางส่วนของ เอสเธอร์ ต้นฉบับอาจเป็นภาษาฮีบรู
บางส่วนของ ดาเนียล ต้นฉบับเป็นภาษากรีก

จุดแตกหักด้านพระคัมภีร์ระหว่างคริสตชนเกิดขึ้นในปี 1519 ที่เมือง Leipzig เมื่อ Eck อ้างข้อความจากหนังสือมัคคาบี ฉบับที่ 2 เพื่อสนับสนุนคำสอนเรื่องไฟชำระ
แต่ Luther คัดค้านโดยอ้างว่าหนังสือดังกล่าวไม่อยู่ในสารบบ
ผลสรุปคือ ลูเธอร์เดินตามสารบบของชาวยิวในปาเลสไตน์ที่ใช้ภาษาฮีบรู

ส่วนคาทอลิกเดินตามสารบบของชาวยิวในอเล็กซานเดรียที่ใช้ภาษากรีก
ต่อมา ในปี 1546 (27 ปีหลังเหตุการณ์ที่เมือง Leipzig) สังคายนาที่นครเตรนท์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ (ไม่ผิดพลาด) รับรองหนังสือทุกเล่มที่คาทอลิกใช้อยู่ในปัจจุบัน (ทั้งสารบบที่หนึ่งและสารบบที่สอง) ว่า "เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์และได้รับการดลใจจากพระเป็นเจ้า"
เจนเห็นเอา บทความนี้มาแปะทุกทีเลย (เคยอ่านบ้างหรือป่าวค่ะ สารบบสอง ไ่ม่ใช่แค่มีการสนับสนุนให้มีการสวดให้คนตายเท่านั้นแต่ยังหนุนความเชื่อในพระเจ้า สำหรับชาวคริสต์ชนและการอยู่ร่วมสังคมกับคนต่างศาสนาต่างชาติอีกด้วย )  ที่จริง ไม่ใช่มีเพียง catholic หรอกนะค่ะ orthodox ก็ใช้ เล่มเดียวกัน ที่จริงนะ เราตกลงกันแล้ว ทั้งพระศาสนจักร ตะวันตกและออกว่าจะใช้เล่มที่เราร่วมกันจัดทำ ร่วมกัน และถือว่า พระคำภีร์ทั้ง 72 เล่ม ถือว่าสมบูรณ์แล้ว แต่โปรที่เกิด มายุคหลัง ไม่เห็นด้วย และตัดพระคำภีร์ ออก (โบสถ์บางที่ก็ใส่ร้ายว่าเราเพิ่มเอาทั้งที่มีมาก่อนหน้าโปรกว่า พันปี)
Little Boy
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am

พุธ พ.ย. 18, 2009 3:13 pm

ผมก็เคยสงสัยเรื่องไฟชำระครับ
แล้วผมก็อ่านข้อพระคัมภีร์ที่สมาชิกที่บอร์ดนี้ว่ากล่าวถึงไฟชำระ
แล้วผมก็อธิษฐานถามพระองค์ครับ ว่าความจริงเป็นอย่างไร
ไม่ขอเล่าต่อนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ พ.ย. 18, 2009 4:13 pm

เรื่องไฟชำระ ผมไม่มีประสบการณ์
แต่เรื่องอธิษฐานให้ผู้ตายนั้น พระเจ้าเปิดเผยส่วนตัวว่าทำได้ และชีวิตหลังความตายของผู้ตายนั้นยังคงมี และรับพระเมตตาจากพระเจ้าได้ตลอดเวลา

อย่างหนึ่งคือ ประสบการณ์ทางฝ่ายวิญญาณของผู้เชื่อที่แตกต่างนั้นตรงข้ามกัน ไม่เหมือนกัน....ทั้งที่เป็นพระเจ้าเดียวกัน - -

แต่ก็ให้เราเคารพความเชื่อกันและกันอ่ะนะ  : xemo026 :
jacky เขียน: เขาตัดออกไป สิ่งใหนที่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่เอา ถึงแม้จะมีมาตั้งแต่โบราณ ก็ไม่ยอมรับ  ยิ่งโปร บางสายยิ่งแล้วใหญ่เลย ตัดประเพณี และพิธีกรรมออก หมด เลย
ถ้าเรามีความอ่อนน้อมต่อพระเจ้าและชาวสวรรค์ และเข้าใจพระคัมภีร์
เราก็จะยิ่งได้รับพระพรมากขึ้นด้วยครับ  : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ พ.ย. 18, 2009 10:08 pm

ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้

เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ พ.ย. 18, 2009 10:10 pm

Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้

เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
คณะลูเทอ ยังปฏิบัติสิ่งที่เรียกว่า พอดี ในมุมมองของเค้าเอง
แต่ไม่ได้สวดผ่านเหมือนคาทอลิกครับ

ลองศึกษาให้ดีๆๆก่อนนะครับ ไม่อยากให้เข้าใจผิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

พุธ พ.ย. 18, 2009 11:40 pm

Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้

เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
พระคัมภีร์ของพี่น้องโรมันคาทอลิกในส่วนโปรเตสแตนท์ไม่มี เป็นพันธสัญญาเดิมทั้งหมด

ส่วนเรื่องราวของแม่พระเริ่มต้นที่พันธสัญญาใหม่ ซึ่งพันธสัญญาใหม่ที่โปรเตสแตนท์ใช้อยู่ทั้ง 27 เล่ม เหมือนกับที่พี่น้องโรมันคาทอลิกใช้ทั้งหมดค่ะ  : emo038 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 3:15 am

อันนี้ ขอยกเว้น ลูเธอแลนซ์ นะค่ะ เพราะโปรสายนี้ ยังมีพิธีกรรมที่สืบทอด จาก catholic อยู่มาก ส่วนในเรื่อง พระคำภีร์ เก่าที่ มาติน เขาตัดออกไป  เจนอยากให้พี่น้อง โปรได้มีโอกาส
ลองเอามานั่ง อ่านดู นะค่ะ เนื้อ เรื่อง เข้มข้น รุนแรง แต่แฝงไปด้วย การหนุนใจ  เช่นพระธรรมมัคคาบี ชาวยิวขนาดโดน ตัดแขนตัดขา เอาเนื้อ ไปทอด ต้ม ในกระทะ เขายัง ไม่เสื่อม ความเชื่อเลย 
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 3:31 am

กล่าวถึงสารบบที่2  บุตรสิรากับปรีชาญาณ ก็น่าอ่านมากงับ  : emo038 : : emo027 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 3:35 am

Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้

เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
ตัวลูเธอร์เองยังรักและนับถือพระมารดาของพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ตัดอะไรของพระนางไป การลดเกียรติแม่พระ เริ่มมีมาไม่เพิ่ง 100กว่าปีที่ผ่านมา โดยคริสตจักรใหม่ๆ ที่ตีความพระคัมภีร์ใหม่


เรื่องของไฟชำระ และเรื่องความศรัทธาต่อการอธิษฐานต่อพระมารดาพระเจ้า ไม่ใช่ความเชื่อบังคับ แม้แต่คาทอลิคเอง จะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ได้ ไม่บาป คาทอลิคจะไม่อธิษฐานผ่านแม่พระเลยก็ได้ และมีไม่น้อยด้วยที่เป็นเช่นนั้น เพราะทางคาทอลิคเอง หลังสังคยานา เราเปิดกว้างในความหลากหลายของเรื่องปลีกย่อยทางความเชื่อมากขึ้นอย่างมาก สามารถมีไสตล์ส่วนตัวที่แตกต่างกันได้ แต่มีจุดร่วมสำคัญๆเดียวกัน เพราะผู้เป็นคาทอลิคมีอยู่ทุกประเทศทั่วโลกนับพันล้านคน การบังคับให้ต้องเหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง กลับกลายเป็นข้อขัดขวางของการปรับตัวเข้าสู่สังคม ดังนั้น ในหลายหลากประเทศ แม้เรามีบทนมัสการหรือมิซซาวันอาทิตย์บทเดียวกันตรงกันทั่วโลก แต่ยังสามารถปฎิบัติแตกต่างกันได้ เช่น

ที่อเมริกา ที่เน้นเรื่องสิทธิเท่าเทียมมากกว่า ผู้หญิงจะมีส่วนร่วมในการช่วยพิธีกรรมมากกว่าของไทย ฆารวาสช่วยส่งศีลมหาสนิทแก่ผู้อื่นได้ ในขณะเมืองไทยสงวนไว้ให้บาทหลวงส่งคนเดียว

ที่ฟิลิปปินส์ หรือเกาหลี ยังคงรักษาประเพณีการคลุมผมร่วมพิธี แต่เมืองไทยเลิกไปแล้ว

ในต่างประเทศหลายๆแห่ง พิธีล้างเท้าสาวก บาทหลวงเลือกสัตบุรุษทั้งชายหญิงและเด็ก เพื่อเน้นความหมายแท้จริงของการรับใช้ฆารวาสทุกเพศทุกวัย แต่เมืองไทยยังเน้นให้ชายสูงวัยเท่านั้น เพราะให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูแล้วสื่อถึงตัวแทนอัครสาวก12คน อะไรแบบนี้

แต่หลักการของพิธีกรรมหลักๆ และข้อเชื่อหลักๆ จะเหมือนกันหมดทั่วโลก
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 4:36 am

Holy เขียน:
Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้

เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
ตัวลูเธอร์เองยังรักและนับถือพระมารดาของพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ตัดอะไรของพระนางไป การลดเกียรติแม่พระ เริ่มมีมาไม่เพิ่ง 100กว่าปีที่ผ่านมา โดยคริสตจักรใหม่ๆ ที่ตีความพระคัมภีร์ใหม่


เรื่องของไฟชำระ และเรื่องความศรัทธาต่อการอธิษฐานต่อพระมารดาพระเจ้า ไม่ใช่ความเชื่อบังคับ แม้แต่คาทอลิคเอง จะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ได้ ไม่บาป คาทอลิคจะไม่อธิษฐานผ่านแม่พระเลยก็ได้ และมีไม่น้อยด้วยที่เป็นเช่นนั้น เพราะทางคาทอลิคเอง หลังสังคยานา เราเปิดกว้างในความหลากหลายของเรื่องปลีกย่อยทางความเชื่อมากขึ้นอย่างมาก สามารถมีไสตล์ส่วนตัวที่แตกต่างกันได้ แต่มีจุดร่วมสำคัญๆเดียวกัน เพราะผู้เป็นคาทอลิคมีอยู่ทุกประเทศทั่วโลกนับพันล้านคน การบังคับให้ต้องเหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง กลับกลายเป็นข้อขัดขวางของการปรับตัวเข้าสู่สังคม ดังนั้น ในหลายหลากประเทศ แม้เรามีบทนมัสการหรือมิซซาวันอาทิตย์บทเดียวกันตรงกันทั่วโลก แต่ยังสามารถปฎิบัติแตกต่างกันได้ เช่น

ที่อเมริกา ที่เน้นเรื่องสิทธิเท่าเทียมมากกว่า ผู้หญิงจะมีส่วนร่วมในการช่วยพิธีกรรมมากกว่าของไทย ฆารวาสช่วยส่งศีลมหาสนิทแก่ผู้อื่นได้ ในขณะเมืองไทยสงวนไว้ให้บาทหลวงส่งคนเดียว

ที่ฟิลิปปินส์ หรือเกาหลี ยังคงรักษาประเพณีการคลุมผมร่วมพิธี แต่เมืองไทยเลิกไปแล้ว

ในต่างประเทศหลายๆแห่ง พิธีล้างเท้าสาวก บาทหลวงเลือกสัตบุรุษทั้งชายหญิงและเด็ก เพื่อเน้นความหมายแท้จริงของการรับใช้ฆารวาสทุกเพศทุกวัย แต่เมืองไทยยังเน้นให้ชายสูงวัยเท่านั้น เพราะให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูแล้วสื่อถึงตัวแทนอัครสาวก12คน อะไรแบบนี้

แต่หลักการของพิธีกรรมหลักๆ และข้อเชื่อหลักๆ จะเหมือนกันหมดทั่วโลก
สำเนาถูกต้องค่ะ

พี่น้อง catholic มักจะปรับตามสภาพสังคม และสิ่งแวดล้อม ได้ดีเสมอ  : emo027 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 8:46 am

Holy เขียน:
Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้

เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
ตัวลูเธอร์เองยังรักและนับถือพระมารดาของพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ตัดอะไรของพระนางไป การลดเกียรติแม่พระ เริ่มมีมาไม่เพิ่ง 100กว่าปีที่ผ่านมา โดยคริสตจักรใหม่ๆ ที่ตีความพระคัมภีร์ใหม่


เรื่องของไฟชำระ และเรื่องความศรัทธาต่อการอธิษฐานต่อพระมารดาพระเจ้า ไม่ใช่ความเชื่อบังคับ แม้แต่คาทอลิคเอง จะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ได้ ไม่บาป คาทอลิคจะไม่อธิษฐานผ่านแม่พระเลยก็ได้ และมีไม่น้อยด้วยที่เป็นเช่นนั้น เพราะทางคาทอลิคเอง หลังสังคยานา เราเปิดกว้างในความหลากหลายของเรื่องปลีกย่อยทางความเชื่อมากขึ้นอย่างมาก สามารถมีไสตล์ส่วนตัวที่แตกต่างกันได้ แต่มีจุดร่วมสำคัญๆเดียวกัน เพราะผู้เป็นคาทอลิคมีอยู่ทุกประเทศทั่วโลกนับพันล้านคน การบังคับให้ต้องเหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง กลับกลายเป็นข้อขัดขวางของการปรับตัวเข้าสู่สังคม ดังนั้น ในหลายหลากประเทศ แม้เรามีบทนมัสการหรือมิซซาวันอาทิตย์บทเดียวกันตรงกันทั่วโลก แต่ยังสามารถปฎิบัติแตกต่างกันได้ เช่น

ที่อเมริกา ที่เน้นเรื่องสิทธิเท่าเทียมมากกว่า ผู้หญิงจะมีส่วนร่วมในการช่วยพิธีกรรมมากกว่าของไทย ฆารวาสช่วยส่งศีลมหาสนิทแก่ผู้อื่นได้ ในขณะเมืองไทยสงวนไว้ให้บาทหลวงส่งคนเดียว

ที่ฟิลิปปินส์ หรือเกาหลี ยังคงรักษาประเพณีการคลุมผมร่วมพิธี แต่เมืองไทยเลิกไปแล้ว

ในต่างประเทศหลายๆแห่ง พิธีล้างเท้าสาวก บาทหลวงเลือกสัตบุรุษทั้งชายหญิงและเด็ก เพื่อเน้นความหมายแท้จริงของการรับใช้ฆารวาสทุกเพศทุกวัย แต่เมืองไทยยังเน้นให้ชายสูงวัยเท่านั้น เพราะให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูแล้วสื่อถึงตัวแทนอัครสาวก12คน อะไรแบบนี้

แต่หลักการของพิธีกรรมหลักๆ และข้อเชื่อหลักๆ จะเหมือนกันหมดทั่วโลก
: xemo026 : ตามนั้น โรเนียว 1 แผ่น
ล็อคหัวข้อ