ทำไม โปรเตสแตน ถึงไม่เชื่อเรื่องไฟชำระครับ และสวดให้ผู้ตายไม่ได้
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:05 pm
ทำไม โปรเตสแตน ถึงไม่เชื่อเรื่องไฟชำระครับ และสวดให้ผู้ตายไม่ได้
ผู้อยู่ฝ่ายความจริง
https://newmana.com/phpbb/
sinner เขียน: คุณพี่บอยดูมาร์ติน ลูเธอร์แล้วมะใช่เหรอฮับ ก็เกิดจากท่านมะใช่เหรอ...งง![]()
อยากรู้ด้านศาสนศาสตร์คร้าบ -.- แง่ๆA Sheep เขียน: เอ๋? พี่บอยไม่ใช่โปรเตสแตนเหรอคะ??
หนูก็ไม่รู้เหมือนกันอ่า =__=''
กระทู้(เกือบ)ล่อเป้าละBoYz - The Series เขียน:sinner เขียน: คุณพี่บอยดูมาร์ติน ลูเธอร์แล้วมะใช่เหรอฮับ ก็เกิดจากท่านมะใช่เหรอ...งง
อยากรู้ด้านศาสนศาสตร์คร้าบ -.- แง่ๆA Sheep เขียน: เอ๋? พี่บอยไม่ใช่โปรเตสแตนเหรอคะ??
หนูก็ไม่รู้เหมือนกันอ่า =__=''
Valkyrie_chan เขียน: ไฟชำระมีจริงหรือเปล่าจริง ๆ เราก็ไม่รู้นะ
แต่สักวัน คำตอบก็คงมาหาเราเองแหละ
เจนเห็นเอา บทความนี้มาแปะทุกทีเลย (เคยอ่านบ้างหรือป่าวค่ะ สารบบสอง ไ่ม่ใช่แค่มีการสนับสนุนให้มีการสวดให้คนตายเท่านั้นแต่ยังหนุนความเชื่อในพระเจ้า สำหรับชาวคริสต์ชนและการอยู่ร่วมสังคมกับคนต่างศาสนาต่างชาติอีกด้วย ) ที่จริง ไม่ใช่มีเพียง catholic หรอกนะค่ะ orthodox ก็ใช้ เล่มเดียวกัน ที่จริงนะ เราตกลงกันแล้ว ทั้งพระศาสนจักร ตะวันตกและออกว่าจะใช้เล่มที่เราร่วมกันจัดทำ ร่วมกัน และถือว่า พระคำภีร์ทั้ง 72 เล่ม ถือว่าสมบูรณ์แล้ว แต่โปรที่เกิด มายุคหลัง ไม่เห็นด้วย และตัดพระคำภีร์ ออก (โบสถ์บางที่ก็ใส่ร้ายว่าเราเพิ่มเอาทั้งที่มีมาก่อนหน้าโปรกว่า พันปี)Trinity เขียน: อันที่จริงเราคริสตชน (ทั้งโปรตัสตันท์ และคาทอลิก) ต่างยอมรับพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ที่สืบทอดมาจากชาวยิวเหมือนกัน เพียงแต่หลังการถูกกวาดต้อนไปกรุงบาบิโลน ชาวยิวต่างกระจัดกระจายกันไปตามที่ต่าง ๆ ที่ยังเหลือรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ มี 2 แห่งคือ ที่แผ่นดินปาเลสไตน์ ซึ่งยังคงใช้ภาษาฮีบรูเป็นหลัก
และที่เมืองอเล็กซานเดรียในประเทศอียิปต์ ซึ่งใช้ภาษากรีกเป็นหลัก ต้องยอมรับว่าชาวยิวที่ใช้ภาษากรีกมีใจเปิดกว้าง มากกว่าชาวยิวที่ใช้ภาษาฮีบรู ซึ่งออกไปทางอนุรักษ์นิยม
เมื่อพวกเขาแปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม จากภาษาฮีบรูมาเป็นฉบับภาษากรีก ที่เรียกกันว่า "สารบบเจ็ดสิบ หรือ Septuagint" จึงได้รวมหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวยิวที่ใช้ภาษากรีกเข้าไปด้วย
ส่วนที่เพิ่มเติมจากภาษาฮีบรูได้แก่
โทบิต และ ยูดิธ ต้นฉบับเป็นภาษาอาราเมอิก หรืออาจเป็นฮีบรู
บารุค และ มัคคาบี 1 ต้นฉบับเป็นภาษาฮีบรู
ปรีชาญาณ และ มัคคาบี 2 ต้นฉบับเป็นภาษากรีก
บุตรสิรา
บางส่วนของ เอสเธอร์ ต้นฉบับอาจเป็นภาษาฮีบรู
บางส่วนของ ดาเนียล ต้นฉบับเป็นภาษากรีก
จุดแตกหักด้านพระคัมภีร์ระหว่างคริสตชนเกิดขึ้นในปี 1519 ที่เมือง Leipzig เมื่อ Eck อ้างข้อความจากหนังสือมัคคาบี ฉบับที่ 2 เพื่อสนับสนุนคำสอนเรื่องไฟชำระ
แต่ Luther คัดค้านโดยอ้างว่าหนังสือดังกล่าวไม่อยู่ในสารบบ
ผลสรุปคือ ลูเธอร์เดินตามสารบบของชาวยิวในปาเลสไตน์ที่ใช้ภาษาฮีบรู
ส่วนคาทอลิกเดินตามสารบบของชาวยิวในอเล็กซานเดรียที่ใช้ภาษากรีก
ต่อมา ในปี 1546 (27 ปีหลังเหตุการณ์ที่เมือง Leipzig) สังคายนาที่นครเตรนท์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ (ไม่ผิดพลาด) รับรองหนังสือทุกเล่มที่คาทอลิกใช้อยู่ในปัจจุบัน (ทั้งสารบบที่หนึ่งและสารบบที่สอง) ว่า "เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์และได้รับการดลใจจากพระเป็นเจ้า"
ถ้าเรามีความอ่อนน้อมต่อพระเจ้าและชาวสวรรค์ และเข้าใจพระคัมภีร์jacky เขียน: เขาตัดออกไป สิ่งใหนที่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่เอา ถึงแม้จะมีมาตั้งแต่โบราณ ก็ไม่ยอมรับ ยิ่งโปร บางสายยิ่งแล้วใหญ่เลย ตัดประเพณี และพิธีกรรมออก หมด เลย
คณะลูเทอ ยังปฏิบัติสิ่งที่เรียกว่า พอดี ในมุมมองของเค้าเองValkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้
เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
พระคัมภีร์ของพี่น้องโรมันคาทอลิกในส่วนโปรเตสแตนท์ไม่มี เป็นพันธสัญญาเดิมทั้งหมดValkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้
เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
ตัวลูเธอร์เองยังรักและนับถือพระมารดาของพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ตัดอะไรของพระนางไป การลดเกียรติแม่พระ เริ่มมีมาไม่เพิ่ง 100กว่าปีที่ผ่านมา โดยคริสตจักรใหม่ๆ ที่ตีความพระคัมภีร์ใหม่Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้
เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
สำเนาถูกต้องค่ะHoly เขียน:ตัวลูเธอร์เองยังรักและนับถือพระมารดาของพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ตัดอะไรของพระนางไป การลดเกียรติแม่พระ เริ่มมีมาไม่เพิ่ง 100กว่าปีที่ผ่านมา โดยคริสตจักรใหม่ๆ ที่ตีความพระคัมภีร์ใหม่Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้
เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
เรื่องของไฟชำระ และเรื่องความศรัทธาต่อการอธิษฐานต่อพระมารดาพระเจ้า ไม่ใช่ความเชื่อบังคับ แม้แต่คาทอลิคเอง จะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ได้ ไม่บาป คาทอลิคจะไม่อธิษฐานผ่านแม่พระเลยก็ได้ และมีไม่น้อยด้วยที่เป็นเช่นนั้น เพราะทางคาทอลิคเอง หลังสังคยานา เราเปิดกว้างในความหลากหลายของเรื่องปลีกย่อยทางความเชื่อมากขึ้นอย่างมาก สามารถมีไสตล์ส่วนตัวที่แตกต่างกันได้ แต่มีจุดร่วมสำคัญๆเดียวกัน เพราะผู้เป็นคาทอลิคมีอยู่ทุกประเทศทั่วโลกนับพันล้านคน การบังคับให้ต้องเหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง กลับกลายเป็นข้อขัดขวางของการปรับตัวเข้าสู่สังคม ดังนั้น ในหลายหลากประเทศ แม้เรามีบทนมัสการหรือมิซซาวันอาทิตย์บทเดียวกันตรงกันทั่วโลก แต่ยังสามารถปฎิบัติแตกต่างกันได้ เช่น
ที่อเมริกา ที่เน้นเรื่องสิทธิเท่าเทียมมากกว่า ผู้หญิงจะมีส่วนร่วมในการช่วยพิธีกรรมมากกว่าของไทย ฆารวาสช่วยส่งศีลมหาสนิทแก่ผู้อื่นได้ ในขณะเมืองไทยสงวนไว้ให้บาทหลวงส่งคนเดียว
ที่ฟิลิปปินส์ หรือเกาหลี ยังคงรักษาประเพณีการคลุมผมร่วมพิธี แต่เมืองไทยเลิกไปแล้ว
ในต่างประเทศหลายๆแห่ง พิธีล้างเท้าสาวก บาทหลวงเลือกสัตบุรุษทั้งชายหญิงและเด็ก เพื่อเน้นความหมายแท้จริงของการรับใช้ฆารวาสทุกเพศทุกวัย แต่เมืองไทยยังเน้นให้ชายสูงวัยเท่านั้น เพราะให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูแล้วสื่อถึงตัวแทนอัครสาวก12คน อะไรแบบนี้
แต่หลักการของพิธีกรรมหลักๆ และข้อเชื่อหลักๆ จะเหมือนกันหมดทั่วโลก
Holy เขียน:ตัวลูเธอร์เองยังรักและนับถือพระมารดาของพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ตัดอะไรของพระนางไป การลดเกียรติแม่พระ เริ่มมีมาไม่เพิ่ง 100กว่าปีที่ผ่านมา โดยคริสตจักรใหม่ๆ ที่ตีความพระคัมภีร์ใหม่Valkyrie_chan เขียน: ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคุณลูเธอร์เท่าไหร่เหมือนกัน ได้ข่าวว่ายังรักแม่พระ แต่ทำไมถึงตัดบทส่วนที่ยืนยันเรื่องแม่พระออกไปจากสารบบพระคัมภีร์เสียได้
เฮ้อ ไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับแฟนเท่าไหร่ เพราะแฟนก็เป็นโปรฯ ไม่เชื่อเรื่องแม่พระกับไฟชำระซะด้วยสิ
เรื่องของไฟชำระ และเรื่องความศรัทธาต่อการอธิษฐานต่อพระมารดาพระเจ้า ไม่ใช่ความเชื่อบังคับ แม้แต่คาทอลิคเอง จะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ได้ ไม่บาป คาทอลิคจะไม่อธิษฐานผ่านแม่พระเลยก็ได้ และมีไม่น้อยด้วยที่เป็นเช่นนั้น เพราะทางคาทอลิคเอง หลังสังคยานา เราเปิดกว้างในความหลากหลายของเรื่องปลีกย่อยทางความเชื่อมากขึ้นอย่างมาก สามารถมีไสตล์ส่วนตัวที่แตกต่างกันได้ แต่มีจุดร่วมสำคัญๆเดียวกัน เพราะผู้เป็นคาทอลิคมีอยู่ทุกประเทศทั่วโลกนับพันล้านคน การบังคับให้ต้องเหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง กลับกลายเป็นข้อขัดขวางของการปรับตัวเข้าสู่สังคม ดังนั้น ในหลายหลากประเทศ แม้เรามีบทนมัสการหรือมิซซาวันอาทิตย์บทเดียวกันตรงกันทั่วโลก แต่ยังสามารถปฎิบัติแตกต่างกันได้ เช่น
ที่อเมริกา ที่เน้นเรื่องสิทธิเท่าเทียมมากกว่า ผู้หญิงจะมีส่วนร่วมในการช่วยพิธีกรรมมากกว่าของไทย ฆารวาสช่วยส่งศีลมหาสนิทแก่ผู้อื่นได้ ในขณะเมืองไทยสงวนไว้ให้บาทหลวงส่งคนเดียว
ที่ฟิลิปปินส์ หรือเกาหลี ยังคงรักษาประเพณีการคลุมผมร่วมพิธี แต่เมืองไทยเลิกไปแล้ว
ในต่างประเทศหลายๆแห่ง พิธีล้างเท้าสาวก บาทหลวงเลือกสัตบุรุษทั้งชายหญิงและเด็ก เพื่อเน้นความหมายแท้จริงของการรับใช้ฆารวาสทุกเพศทุกวัย แต่เมืองไทยยังเน้นให้ชายสูงวัยเท่านั้น เพราะให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูแล้วสื่อถึงตัวแทนอัครสาวก12คน อะไรแบบนี้
แต่หลักการของพิธีกรรมหลักๆ และข้อเชื่อหลักๆ จะเหมือนกันหมดทั่วโลก