Belong to the Truth Jesus Christ

คือ ตามหัวข้ออ่ะครับ

ผมสงสัยมานานแล้ว คือ ผมเคยได้ยิน มา 2 แบบ

แล้วมันขัดแย้งกันแฮะ ตกลงว่ากินได้หรือป่าว ?

คือ บางคนบอกว่ากินไม่ได้ บางคนบอกว่ากินได้ แต่อย่าให้ถึงกับเมา

ตกลงยังไงครับ ? 

อิสลามห้ามดื่มเครื่องมึนเมาทุกชนิดโดยไม่คำนึงว่ามันทำมาจากอะไรหรือดื่มมากน้อยแค่ไหน เพราะอิสลามถือว่าการดื่มมากเป็นสาเหตุทำให้เมาและการห้ามดื่มแม้จำนวนเล็กน้อย ก็เพราะนักดื่มเหล้าก็มักจะเริ่มจากการดื่มที่ละน้อยก่อน และกลายเป็นทาสของมันในที่สุด 
     

ตามพระคัมภีร์ให้ดื่มได้ครับ แต่ห้ามเมา

เพราะในสมัยก่อนใช้เหล้าเป็นส่วนผสมของยาด้วย

ดื่มได้ค่ะ ในพิธีกรรมก็ยังมีเหล้าองุ่น อาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู ก็มีเหล้าองุ่น
เเต่ก็คือดื่มเพื่อฉลอง เเละต้องไม่ดื่มมากเกินไปจนขาดสติ  : emo045 :

ปล. ถ้าไปฉลองหนักๆทุกวันนี่ก็... เเง่มๆ

คริสตชนคาทอลิกสามารถดื่มได้

แต่ของโปรฯ ออธอดอกซ์ ฯลฯ ไม่ทราบครับ

ไม่รู้มาก่อนเลยแหะ ทุกวันนี้ไม่ดื่มเลย (จะเกิน1ปีล่ะ มีแอบผสมตอนงานเลี้ยงฉลองพ่อกลับจากใต้ไปแก้วเดียว) เพราะคิดว่าเป็นบาป

ถ้าเป็นมอรมอนจะดื่มไม่ได้ครับ

เรามีกฎ พระคำแห่งปัญญา มีเมื่อประมาณ 140 ปีที่แล้ว

คือห้ามบริโภคสิ่งเหล่านี้
แอลกอฮอล์
เครื่องดื่มชูกำลัง
สารเสพติด
ชา
กาแฟ

สิ่งที่พระองค์สัญญาไว้สำหรับบัญญัตินี้คือร่างกายแข็งแรงครับ (ตรงตัวตามหลักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน)

แต่ว่าบางทีก็หลวมได้

ตอนนั้นมีคนเอาข้าวหมากมาแล้วผมไม่รู้จัก พระวิญญาณบอกผมว่าไม่ควรกิน แต่ผมอยากกิน ผมเลยกินเข้าไป มาตอนหลังจึงรู้ว่ามันมีน้ำตาลเมาซึ่งมีแอลกอฮอล์

แต่มีอีกวันหนึ่งไปอบรม ช่วงพัก ผมดื่มน้ำเปล่า แต่เพื่อนผมบอกว่าสีมันขุ่น ๆ แม่บ้านบอกว่าใส่ชาลิปตัน... แต่ตอนผมดื่ม พระวิญญาณไม่ได้ห้ามผม

ได้ แต่ไม่ควร ดื่มเยอะ

โปรฯสายหลักของเจี๊ยบ "ห้าม สุรา (เบียร์ ไวน์ สาโท ฯลฯ) นารี ภาชี บุหรี่ " ครับ

พวกที่ว่าได้ ก็คือ ผิด ข้อห้าม ครับ

จริงๆ พระคัมภีร์ไม่ได้ห้าม แต่เราที่ข้อห้าม เพื่อการถวายเกียรติแด่พระเจ้า ด้วยกาย เพราะเป็นพระวิหาร ของพระเจ้า
และ กฏของคนทั่วๆไปแล้ว ห้ามดื่ม ห้ามสูบ ห้ามเที่ยว เราลูกของพระเจ้าก็ต้องปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น
และเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สังคม ครับ

ถ้าดื่มมากไปจะตกเป็นทาสของ Gula(ความตะกละ) เอาได้ครับ

Jeab Agape เขียน:
โปรฯสายหลักของเจี๊ยบ "ห้าม สุรา (เบียร์ ไวน์ สาโท ฯลฯ) นารี ภาชี บุหรี่ " ครับ

พวกที่ว่าได้ ก็คือ ผิด ข้อห้าม ครับ

จริงๆ พระคัมภีร์ไม่ได้ห้าม แต่เราที่ข้อห้าม เพื่อการถวายเกียรติแด่พระเจ้า ด้วยกาย เพราะเป็นพระวิหาร ของพระเจ้า
และ กฏของคนทั่วๆไปแล้ว ห้ามดื่ม ห้ามสูบ ห้ามเที่ยว เราลูกของพระเจ้าก็ต้องปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น
และเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สังคม ครับ

อาเมนครับ พี่เจี๊ยบ

บอยไม่ดื่ม(ไม่มีค่ะ) 555+
ยกเว้นบางกรณี จะดื่มนิดหน่อย ถ้างานนั้นจำเป็นต้องดื่มครับ เพื่อเข้าสังคม แต่ไม่เมา ไม่มึน อิอิ

เลย์ช่วงนี้ไม่ค่อยดื่มเท่าไรครับ เพราะสัญญากับแม่พระว่าจะไม่ดื่ม ไม่เที่ยว 

สงสัยมานานละ (ทั้งที่กินอยู่บ่อย ๆ ) ว่า ในพิธีมิสซา(หรือศีลมหาสนิท) นี่ ขนมปังนี่คือขนมปังกรอบ ไม่ฟูเพราะไร้เชื้อ ใช่ไหมคะ

แล้วน้ำองุ่นที่กินอยู่ ใช่เหล้าองุ่นรึเปล่า หรือว่าน้ำองุ่นธรรมดา แล้วมันต่างกันยังไง

Valkyrie_chan เขียน: สงสัยมานานละ (ทั้งที่กินอยู่บ่อย ๆ ) ว่า ในพิธีมิสซา(หรือศีลมหาสนิท) นี่ ขนมปังนี่คือขนมปังกรอบ ไม่ฟูเพราะไร้เชื้อ ใช่ไหมคะ

แล้วน้ำองุ่นที่กินอยู่ ใช่เหล้าองุ่นรึเปล่า หรือว่าน้ำองุ่นธรรมดา แล้วมันต่างกันยังไง

จริงๆจะใช้ เหล้าองุ่นครับ
แต่ว่า เหล้าแพง เลยใช้น้ำองุ่นเอง บางที่ ใช้ ทิปโก้ 55+

แต่ไม่เป็นไร ยังคงไว้ซึ่ง มหาสนิท คร้าบบ ^ ^

ผมนี่ซัดซะเปรมทุกคืนวันศุกร์เลยครับ

BoYz - The Series เขียน:

Valkyrie_chan เขียน: สงสัยมานานละ (ทั้งที่กินอยู่บ่อย ๆ ) ว่า ในพิธีมิสซา(หรือศีลมหาสนิท) นี่ ขนมปังนี่คือขนมปังกรอบ ไม่ฟูเพราะไร้เชื้อ ใช่ไหมคะ

แล้วน้ำองุ่นที่กินอยู่ ใช่เหล้าองุ่นรึเปล่า หรือว่าน้ำองุ่นธรรมดา แล้วมันต่างกันยังไง

จริงๆจะใช้ เหล้าองุ่นครับ
แต่ว่า เหล้าแพง เลยใช้น้ำองุ่นเอง บางที่ ใช้ ทิปโก้ 55+

แต่ไม่เป็นไร ยังคงไว้ซึ่ง มหาสนิท คร้าบบ ^ ^

"พิธีมิสซา" สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นคาทอลิกนะครับ
คาทอลิกจะใช้เหล้าองุ่นแท้ และเหล้าองุ่นจริง คือ เป็นเหล้าองุ่นที่ผลิตจากองุ่น น้ำ และเชื้อหมักเท่านั้น
ห้ามเจอสิ่งใดลงไปอีก (แม้แต่สารกันบูดก็ไม่ได้)
Mass Wine มักจะผลิตเป็นการเฉพาะ เพื่อใช้ในพิธีกรรม ซึ่งอาจมีสี รส และกลิ่นต่างกันไป
ส่วนตัวชอบแบบที่อาสนวิหารพระหฤทัยใช้ เพราะออกหวานมากกว่าขม (ไม่ได้ดื่มนะครับ dip เอา)

ส่วน ปัง หรือ host หรือ wafer จะ้เป็นแป้งสาลี กับ น้ำ เท่านั้น
เหมือนเหล้าองุ่นครับคือ ห้ามเติมวัตถุใดๆ ลงไปอีก

Edwardius เขียน:

BoYz - The Series เขียน:

Valkyrie_chan เขียน: สงสัยมานานละ (ทั้งที่กินอยู่บ่อย ๆ ) ว่า ในพิธีมิสซา(หรือศีลมหาสนิท) นี่ ขนมปังนี่คือขนมปังกรอบ ไม่ฟูเพราะไร้เชื้อ ใช่ไหมคะ

แล้วน้ำองุ่นที่กินอยู่ ใช่เหล้าองุ่นรึเปล่า หรือว่าน้ำองุ่นธรรมดา แล้วมันต่างกันยังไง

จริงๆจะใช้ เหล้าองุ่นครับ
แต่ว่า เหล้าแพง เลยใช้น้ำองุ่นเอง บางที่ ใช้ ทิปโก้ 55+

แต่ไม่เป็นไร ยังคงไว้ซึ่ง มหาสนิท คร้าบบ ^ ^

"พิธีมิสซา" สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นคาทอลิกนะครับ
คาทอลิกจะใช้เหล้าองุ่นแท้ และเหล้าองุ่นจริง คือ เป็นเหล้าองุ่นที่ผลิตจากองุ่น น้ำ และเชื้อหมักเท่านั้น
ห้ามเจอสิ่งใดลงไปอีก (แม้แต่สารกันบูดก็ไม่ได้)
Mass Wine มักจะผลิตเป็นการเฉพาะ เพื่อใช้ในพิธีกรรม ซึ่งอาจมีสี รส และกลิ่นต่างกันไป
ส่วนตัวชอบแบบที่อาสนวิหารพระหฤทัยใช้ เพราะออกหวานมากกว่าขม (ไม่ได้ดื่มนะครับ dip เอา)

ส่วน ปัง หรือ host หรือ wafer จะ้เป็นแป้งสาลี กับ น้ำ เท่านั้น
เหมือนเหล้าองุ่นครับคือ ห้ามเติมวัตถุใดๆ ลงไปอีก

ของคาทอลิกก็ตามที่ เอดดี้ บอกครับ
ส่วนของโปรก็ตามที่ผมบอกแหละ ^ ^

อย่างไรเสีย ก็คือ มหาสนิท
ปล.ผมมองในมุมโปรเตสแตน นะครับ 

โปรฯ ในประเทศไทย ห้ามดื่มเหล้าเบียร์ทุกชนิดไม่ว่ามากหรือน้อย เพราะถ้าให้มี 1 ก็จะมี 2 3 4.... จนเมา
และถือว่าร่างกายเป็นพระวิหารของพระเจ้าอย่างที่พี่น้องบางท่านกล่าวมาแล้ว
แต่ก็ไม่ใช่ห้ามหัวชนฝาแบบไม่มีข้อยกเว้น ถ้าด้วยเหตุผลทางสุขภาพดื่มเพื่อรักษาโรคตามแพทย์สั่งก็โอเค (1ทธ.5:23)
สำหรับพิธีมหาสนิทในบางคริสตจักรที่ต้องการรักษาธรรมเนียมเดิมก็ยังคงมีการใช้เหล้าองุ่นอยู่

สำหรับโปรฯ ในบางประเทศอนุโลมเรื่องการดื่มไวน์(ในปริมาณที่เหมาะสม )
เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตในประเทศของเขา และด้วยอากาศที่หนาว (มิชชั่นบอกน่ะ)  : emo027 :

ใน พีธีีศีล ของ Orthodox จะรับพระโลหิต เป็นเหล้า องุ่นแท้ หลังแก้บาป แค่ใช้ช้อนประมาณ ช้อนทานอาหาร แล้วคุณ พ่อก็จะป้อนเข้า ปากเราโดย มี Brother คอยเอา ผ้ารองรับ
ปรกติ เด็กทารก จนถึง ผู้ใหญ่ รับเหล้าองุ่น ทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว

พระธรรมตอนใหนนะ ที่บอกว่า ควรดื่มเหล้าองุ่น บ้าง เพื่อสุขภาพ อะค่ะ

jacky เขียน: พระธรรมตอนใหนนะ ที่บอกว่า ควรดื่มเหล้าองุ่น บ้าง เพื่อสุขภาพ อะค่ะ

1ทธ.5:23
"อย่าดื่มแต่น้ำอีกต่อไป แต่จงใช้เหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย เพื่อประโยชน์แก่กระเพาะอาหารของท่าน และโรคที่บังเกิดแก่ท่านเนืองๆ"   

μόνο ο Ιησούς เขียน:

jacky เขียน: พระธรรมตอนใหนนะ ที่บอกว่า ควรดื่มเหล้าองุ่น บ้าง เพื่อสุขภาพ อะค่ะ

1ทธ.5:23
"อย่าดื่มแต่น้ำอีกต่อไป แต่จงใช้เหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย เพื่อประโยชน์แก่กระเพาะอาหารของท่าน และโรคที่บังเกิดแก่ท่านเนืองๆ"   

ขอบคุณ มากค่ะ

นอกศีลมหาสนิทนะครับ

โปรฯ ต่างประเทศ : ถ้าไม่ใช่เหล้าองุ่น แต่เป็นเหล้าอื่นๆ จะดื่มได้หรือป่าว

ขอบคุณทุกคำอธิบายครับ

สิ่งเสพติด ของโปรฯอินเดีย เช่นกลุ่มพวก Nagaland ห้ามเรื่องหมาก-พลู ด้วยค่ะ

แต่ที่พม่า ไม่ห้าม กลุ่มคริสต์โปรฯคณะกระเกรี่ยงแบ๊พติสต์ ซัดหมาก -พลูกันอานเลย
พี่ไปตรวจเซมมินารีเขา นักศึกษา ยกหมากพลูต้อนรับ  พี่กินค่ะ เวียนหัวน้ำลายยืด
เพราะแพ้ปูน กับยาเส้น ที่เขาห่อให้ อิอิ

แต่ถ้าอยากเป็นอธิการหรือศิษยาภิบาลนี่ห้ามดื่มนะครับ 

การดื่มสุราทำให้ปัญญาทราม ทำผิดได้ง่าย

Little Boy เขียน: แต่ถ้าอยากเป็นอธิการหรือศิษยาภิบาลนี่ห้ามดื่มนะครับ 

ถ้าโปรฯในประเทศไทย ห้ามคริสเตียนมดื่มค่ะ ดังนั้น ยิ่งเป็นศิษยาภิบาล ต้องเป็นแบบเลยค่ะ

Jeab Agape เขียน:
โปรฯสายหลักของเจี๊ยบ "ห้าม สุรา (เบียร์ ไวน์ สาโท ฯลฯ) นารี ภาชี บุหรี่ " ครับ

พวกที่ว่าได้ ก็คือ ผิด ข้อห้าม ครับ

จริงๆ พระคัมภีร์ไม่ได้ห้าม แต่เราที่ข้อห้าม เพื่อการถวายเกียรติแด่พระเจ้า ด้วยกาย เพราะเป็นพระวิหาร ของพระเจ้า
และ กฏของคนทั่วๆไปแล้ว ห้ามดื่ม ห้ามสูบ ห้ามเที่ยว เราลูกของพระเจ้าก็ต้องปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น
และเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สังคม ครับ

ใช่เลยครับ

Prod Pran เขียน:

Little Boy เขียน: แต่ถ้าอยากเป็นอธิการหรือศิษยาภิบาลนี่ห้ามดื่มนะครับ 

ถ้าโปรฯในประเทศไทย ห้ามคริสเตียนมดื่มค่ะ ดังนั้น ยิ่งเป็นศิษยาภิบาล ต้องเป็นแบบเลยค่ะ

ใช่อีกครับ

สุรา แอลกอฮอล์ ของมึนเมา นี่เริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคไหนแล้วใครเป็นคนคิดค้นเนี่ย

Memory เขียน: สุรา แอลกอฮอล์ ของมึนเมา นี่เริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคไหนแล้วใครเป็นคนคิดค้นเนี่ย

ประวัติของสุรา เหล้า เบียร์ไวน์ แชมเปญ วอดก้า

1.สุรา หลักฐานบ่งบอกว่ามีมาแต่สมัยกลาง (ระยะเวลาจากคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงปลายศตวรรษที่ 14) โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งในซาเลอร์ อิตาลี นำเหล้าองุ่นมาต้มให้เดือดให้ไอผ่านท่อที่ทำให้เย็น ไอจะควบแน่นกลายเป็นหยดแอลกอฮอล์ใช้ผสมยา ตั้งชื่อหยดน้ำนั้นว่า "อควาไวเต้"(Aqua-vitae) หรือ "น้ำแห่งชีวิต" ด้านจีนและอินเดีย มีหลักฐานยืนยันว่าฮ่องเต้ทุกพระองค์เสวยน้ำจัณฑ์ เช่นกันกับพระจักรพรรดิแห่งอินเดียนับแต่ก่อนพุทธกาล

เหล้ากลั่นมีชื่อเรียกต่างๆ ออกไปตามวัตถุดิบและกรรมวิธีการผลิต 1.ตากีลา-Tequila จากกระบองเพชร Agave แห่งเมือง Tequila เม็กซิโก 2.จิน-Gin จากข้าวผสม juniper ผลไม้ตระกูลเบอรี่ 3.รัม-Rum จากน้ำอ้อยหมัก 4.วอดก้า-Vodka 5.วิสกี้-Whisky / Whiskey จากข้าวบาเล่ย์ ข้าวโพด ข้าวไรน์ กลั่นแล้วบ่มในถังไม้โอ๊ก มี Scotch Whisky จากสกอตแลนด์ Rye Whisky จากแคนาดา Irish Whiskey จากไอร์แลนด์ Bourbon Whiskey จากอเมริกา 6.บรั่นดี-Brandy หมักองุ่น กลั่นแล้วบ่ม 7.คอนญัก-Cognac ราชาแห่งบรั่นดี

2.เหล้า มนุษย์ค้นพบน้ำเมาจากผลของการหมัก ย้อนไปได้ถึงสมัยบาบิโลนและอียิปต์ที่พบว่าถ้าเอาผลองุ่นมาบีบให้แตกแล้วหมักกับข้าวที่ทำให้ชื้นจะได้น้ำที่มีฟองเล็กน้อย ดื่มแล้วรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจ ส่วนในแง่วิทยาศาสตร์ หลุยส์ ปาสเตอร์ พบเชื้อราชนิดที่เรียกว่ายีสต์ เป็นสิ่งมีชีวิต และใช้น้ำตาลที่ได้จากการย่อยแป้งเป็นอาหาร แล้วถ่ายเอาของเสียออกมา ซึ่งก็คือแอลกอฮอล์และคาร์บอนไดออกไซด์

3.เบียร์ หลักฐานบอกว่าการผลิตเบียร์มีมาเป็นเวลานานเกือบ 5,000 ปี บันทึกแคว้นเมโสโปเตเมียราว 2,800 ปีก่อนคริสต์ศักราชพูดถึงการแบ่งปันเบียร์ให้ผู้ใช้แรงงาน สมัยอียิปต์โบราณก็พบว่ามีการผลิตเบียร์และนิยมดื่มเบียร์อย่างกว้างขวาง มีภาพเขียนและภาพสลักบนแผ่นหินเป็นหลักฐาน

4.ไวน์ ไวน์มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 19 เมื่อหลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์คนดังของโลกพบว่า "ยีสต์" หรือเชื้อราขนาดเล็ก เป็นตัวเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้เป็นแอลกอฮอล์ โดยอาศัยปฏิกริยาที่ค่อนข้างซับซ้อน

การหมักน้ำองุ่นให้กลายเป็นเหล้าเป็นไวน์นั้นเป็นวิธีตามธรรมชาติ โดยยีสต์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติของผิวองุ่นให้เป็นแอลกอฮอล์และฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้อาจเติมยีสต์เข้าไปอีก เพื่อช่วยกระบวนการหมัก

ไวน์แดงทำมาจากองุ่นแดง ที่หมักเชื้ออุณหภูมินานประมาณ 2 สัปดาห์ ด้วยอุณหภูมิ 21-29 องศาเซลเซียส ส่วนไวน์ขาวทำมาจากองุ่นเขียวขาว หมักเชื้อที่อุณหภูมิ 10-15 เซลเซียส นานประมาณ 3-6 สัปดาห์

ขั้นตอนคร่าวๆที่ผู้ผลิตไวน์ทำกันก็คือ สกัดน้ำออกมาจากองุ่นก่อนและใส่ถังหมัก เมื่อหมักและกรองตะกอนจากเหล้าองุ่นแล้ว จึงนำเก็บไว้แล้วค่อยบรรจุขวดทีหลัง

รสชาติของไวน์ทที่ต่างกันนั้น นอกจากจะแตกต่างที่ตัวองุ่นแล้ว ยังขึ้นกับขั้นตอนและเวลาของการหมักอีกด้วย

5.แชมเปญ คือไวน์ชนิดมีแก๊ส หรือ sparkling wine เรียกแชมเปญตามชื่อแคว้น Champagne ของฝรั่งเศส อันเป็นที่ซึ่งผลิตไวน์ประเภทนี้ออกมา ทั้งนี้ต้องผลิตจากองุ่น 1 ใน 3 พันธ์คือ Pinot Noir, Pinot Meunier และ Chardonnay ต่างไปจากนั้นจัดเป็นสปาร์กลิง ไวน์ ธรรมดา

6.วอดก้า โอท็อปรัสเซีย รวมถึงโปแลนด์ และฟินแลนด์ เหล้าสีขาวใส มีกลิ่นเพียงเล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึก หมักจากข้าวหรือมันฝรั่งผ่านการกรองและดูดกลิ่นจนเหลือสีเจือปนและกลิ่นน้อยที่สุด

มีประวัติว่าวอดก้าถือกำเนิดในโปแลนด์เมื่อศตวรรษที่ 9 ต่อมาไปแพร่หลายไปในประเทศแถบยุโรปตะวันออก และรุ่งโรจน์มีชื่อเสียงที่ประเทศรัสเซียในศตวรรษที่ 14 เมื่อทูตสหราชอาณาจักรเดินทางสู่ไปมอสโก มีการต้อนรับด้วยเครื่องดื่มวอดก้า จากนั้นวอดก้าก็ได้ยกในฐานะเป็นเครื่องดื่มประจำชาติชาติรัสเซีย ซึ่งต่อมาผลิตเพื่อการส่งออกด้วย ผู้รับซื้อชาติแรกที่ถูกบันทึกไว้คือประเทศสวีเดน มีการเซ็นสัญญาซื้อขายใน
ค.ศ.1505 

http://writer.dek-d.com/wut_crazy/story/view.php?id=241991