ปู่เย็น
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 8:25 pm

ปู่ เย็น อายุ 106ปี วัย106ปี ของชายชราคนหนึ่งน่าจะพูดได้ว่า เลยภาวะไม้ใกล้ฝั่งไปแล้วหลายขุม ปู่เย็นอยู่ตัวคนเดียว เคยมีเมียแต่ไม่มีลูก เพราะปู่เย็นเป็นหมัน ถ้าปู่มีลูกไม่แน่ว่าป่านนี้ลูกๆของปู่ จะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่สำหรับปู่ ยังไงปู่ก็ยังไม่ตายแน่ๆ นอกจากยังไม่ตาย ปู่ยังแข็งแรงใช้ได้ ไม่ว่าร่างกายหรือหัวใจ
ชายชราคนหนึ่ง ร้องไห้กับการจากไปของหญิงชราคนหนึ่งนาน 3 เดือน คงไม่ใช้เพราะความขี้แย นับแต่วันที่ย่าจากไป ปู่ก็ออกจากบ้านเช่าราคาเดือนละแปดร้อยบาท ขนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นในชีวิต มาอยู่บ้านหลังใหม่ ไม่มีเสา ไม่มีหลังคา ยาวราวๆ 2 วา กว้างแค่ 2ศอก บ้านของปู่เป็นเพียงเรือรำเล็กๆ ลอยอยู่ในลำน้ำเพชรบุรี นับถึงปัจจุบัน ปู่กินอยู่ หลับนอน อยู่ในเรือมานานนับสิบปี โดยมีการงานแห่งชีวิตเพียงอย่างเดียวคือ การดักอวนหาปลา
ทุกวัน ปู่จะจอดเรือนั่งๆนอนๆ อยู่ใต้สะพานลำไย ซึ่งทอดเชื่อมระหว่าง บ้านหม้อ กับตลาดวัดท่อ พอเย็นๆ ก็จะเริ่มพายเรือออกไปหาที่วางอวน ปู่จะลงอวนคืนละ 2 ครั้ง ดึกๆครั้งหนึ่ง รุ่งเช้าอีกครั้งหนึ่ง ได้ปลามา ปู่ก็จะเอาใส่กะละมังหิ้วขึ้นมาขายที่ตลาดวัดท่อในตอนเช้า ก่อนเดินกลับลงไปพักผ่อน ชม.เวลาเลือนผ่านชีวิตไปโดยไม่วิตกทุกข์ร้อน หรือไม่ก็ซ่อมอวนอยู่ในเรือนเรือ
ปู่ไม่ชอบให้ใครสงสารปู่ แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น ปู่มักจะขายปลาที่นับวันยิ่งหายากในราคาถูกๆ คนที่มาซื้อเห็นปู่ขายถูก ยิ่งขอซื้อให้ถูกเข้าไปอีก แต่ปู่ก็ไม่ว่าอะไร นานปีทีหนจึงจะมีคนใจดี ซื้อปลาไม่กี่ตัว ให้เงินเกินมา ไม่เอาเงินที่ปู่ทอนกลับไป แบบนี้ปู่ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าใครให้ปุ่ฟรีๆ มีปัญหาทันที
ผมเคยถามปู่ว่า ทำไมปู่ไม่ไปขอความเมตตาจากใครๆเขา คนแก่ๆ ยังไงๆ ใครๆ ก็สงสาร ปู่บอกว่า ไม่เอา ไม่ชอบที่สุด ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือมีตีน มันยังหากินได้เอง (รู้จักมั๊ยหอยน่ะ..ปู่ย้ำ) ประสาอะไร กับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย
พ่อได้อ่านบทความนี้ ชีวิตปู่เย็นน่าจะช่วยการดำเนินชีวิตคริสตชนของเราได้ เราจะดำเนินตามพระบัญญัติแห่งความรัก ที่พระเยซูเจ้าทรงสอนไม่ได้เลย ถ้าเรามัวจมอยู่กับความทุกข์ ความหมดหวัง ความท้อแท้ ปู่เย็นที่ไม่สุขสบายแม้ก่อนตายท่านจะได้รับเรือพระราชทานจากสมเด็จพระราชิ นินาถ พ่อคิดว่า ถ้าปู่เย็นจะขออะไรที่มากกว่าเรือ พระองค์ท่านก็พร้อมที่จะช่วยแน่นอน แต่ปู่เย็นไม่โลภ
ความไม่โลภและไม่มัวแต่สงสารตัวเอง จมอยู่ในความทุกข์ ทำให้ปู่กล้าพูดว่า "ปู่ไม่ชอบให้ใครสงสารปู่ แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น" เราคริสตชนก็เช่นเดียวกัน อย่ามัวแต่จะให้ใครมาสงสาร เราต้องสงสารคนอืน เราจึงจะเป็นเครื่องมือของพระที่ประกาศความรักด้วยการให้อภัย และสันติสุขที่ถูกความทุกข์และบาปครอบงำ
พระคัมภีร์ ลก4:38-39
"พระเยซูเจ้าเสด็จจากศาลาธรรมเข้าไปในบ้านของซีโมน มารดาของภรรยาซีโมนกำลังป่วยเป็นไข้หนัก คนที่อยู่ที่นั่นอ้อนวอนพระองค์ให้ทรงช่วยนาง พระองค์จึงทรงก้มลงเหนือนางและบังคับไข้ นางก็หายไข้ ลุกขึ้นมารับใช้ทุกคนทันที"
สารวัดอัครเทวดาราฟาแอล รายสัปดาห์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2009 : emo038 :