Belong to the Truth Jesus Christ

ผมเขียนบทความนี้ เพราะเพื่อนผมชวนไปกินเหล้า แต่ศาสนวินัยของผมจะดื่มแอลกอฮอลไม่ได้ (รายละเอียดของวินัยก็คือ ห้ามดื่มกรณีที่เป็นความบันเทิง) เกิดคิดขึ้นมาว่า...

ขอบคุณพระเจ้า สำหรับชีวิตที่เป็นแบบอย่างในการกล้าปฏิเสธโลก
บทความนี้เป็นคำเตือนสติที่ดีมากสำหรับคริสตชนทุกคนให้ "เตรียมพร้อมอยู่เสมอ" ค่ะ

เมื่อคืนก็หลงไปอีกรอบ เฮ้อ จริงๆเลยเรา แพ้ภัยคืนวันศุกร์ทุกที กลับมาตีสี่ ก็ได้แต่สวดภาวนาก่อนนอน รุ้สึกเหมือนเป็นคนมือถือสากปากถือศีลเลย

เอ่อ ถามคำถามแบบนั้น ถามมา เป็นผม ผมคง ทำอะไรไม่ถูกอ่ะคับ คงอึ้ง....=[]=

เวลาเรากำลังเสพสุขกะอายมุข เราก็คงจะลืมเตรียมพร้อมการเสด็จกลับมาของพระองค์

สารภาพว่าลืมเตรียมตัวอยู่เรื่อย

แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างอยู่ดีนี่นะ อืม....

ดีจังเลยค่ะคุณแมวเทา..เหมียวๆๆๆ 

เป็นตัวอย่างที่ดีมากค่ะ น่าดีใจแทนจริงๆ

มก.13:36-37
จงเฝ้าระวังอยู่ กลัวว่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลับอยู่
ซึ่งเราบอกพวกท่าน เราก็บอกคนทั้งปวงด้วยว่า จงเฝ้าระวังอยู่เถิด

เหมือนกับพุทธวาจาว่า


ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว... เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า... สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อม และสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด


สอนให้ไม่ประมาทเหมือนกัน 

ผมคงเที่ยวผับเที่ยวเทคมะได้หรอก

เสียงดังเกิน 80 dB ก้ออ้วกแตกแระ -*-



แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงแล้ว

ไม่ว่าผมทำอะไรผิดอยู่ก้อไม่คิดอะไรหรอกฮะ

จะยอมรับผิดทุกอย่าง T^T

มะอยากปั้นหน้าเนียนเฉพาะตอนพระองค์มา

เพิ่งเมากลับมาเหมือนกันครับ

เละเทะเลย .. ฮ่าๆ ..

godlike เขียน: เมื่อคืนก็หลงไปอีกรอบ เฮ้อ จริงๆเลยเรา แพ้ภัยคืนวันศุกร์ทุกที กลับมาตีสี่ ก็ได้แต่สวดภาวนาก่อนนอน รุ้สึกเหมือนเป็นคนมือถือสากปากถือศีลเลย

ค่อยๆ ถอยตัวออกมานัท ทีละนิด เข้าใจหละ สังคมเด็กมหาวิทยาลัยวัยรุ่น

เมื่อก่อนพี่ก็เป็น พยายามมองหาความเลวร้ายและสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหาที่ตามมาของการใช้ชีวิตในที่อโคจร

เมื่อเราเห็นมันแล้ว มันก็ไม่น่าไปเที่ยวอีกต่อไปเอง ผีเสื้อราตรี มันไม่ใช่ของจริงหรอก แค่ภาพมายา มองให้ออกนะจ๊ะ

ทานตะวัน เขียน: เหมือนกับพุทธวาจาว่า


ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว... เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า... สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อม และสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด

ปัจฉิมโอวาทใช่ไหมฮะ ^^

sinner เขียน:

godlike เขียน: เมื่อคืนก็หลงไปอีกรอบ เฮ้อ จริงๆเลยเรา แพ้ภัยคืนวันศุกร์ทุกที กลับมาตีสี่ ก็ได้แต่สวดภาวนาก่อนนอน รุ้สึกเหมือนเป็นคนมือถือสากปากถือศีลเลย

ค่อยๆ ถอยตัวออกมานัท ทีละนิด เข้าใจหละ สังคมเด็กมหาวิทยาลัยวัยรุ่น

เมื่อก่อนพี่ก็เป็น พยายามมองหาความเลวร้ายและสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหาที่ตามมาของการใช้ชีวิตในที่อโคจร

เมื่อเราเห็นมันแล้ว มันก็ไม่น่าไปเที่ยวอีกต่อไปเอง ผีเสื้อราตรี มันไม่ใช่ของจริงหรอก แค่ภาพมายา มองให้ออกนะจ๊ะ

ต่ออีกนิด....อิอิ

มาตามหาสาวในฝันแบบพี่เอมม่าดีกว่ามั๊ย ผู้หญิงที่ยำเกรงในพระเจ้า 

ทานตะวัน เขียน: มก.13:36-37
จงเฝ้าระวังอยู่ กลัวว่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลับอยู่
ซึ่งเราบอกพวกท่าน เราก็บอกคนทั้งปวงด้วยว่า จงเฝ้าระวังอยู่เถิด

เหมือนกับพุทธวาจาว่า


ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว... เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า... สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อม และสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด


สอนให้ไม่ประมาทเหมือนกัน  : xemo017 :

ในแง่ความตายที่มาเยือน ทั้ง 2 คำสอนนี้ สอนเหมือนกัน  : xemo026 :

แต่ในแง่วันเวลาแห่งพระคริสต์นั้นมาถึง คงเริ่มแตกต่างกัน(มั้งนะ)  : xemo016 :




แล้วขณะนี้แมวเทากำลังทำอะไรอยู่น่ะ 

^
^
^
กินข้าวหมกไก่ทอดอยู่ครับ ^^

Grey Cat =^. .^= เขียน: ^
^
^
กินข้าวหมกไก่ทอดอยู่ครับ ^^

อยากกินนนนนนนน 

ไม่ได้กินนานมากแล้ว ข้าวหมกไก่ 

สิ่งที่ต้องสอนให้มากคือวิธีการรักษาบัญญัติและเดินในทางที่ปราศจากบาป
สิ่งที่ต้องสอนให้น้อยคือการอภัยบาป หรือทำอย่างไรบาปที่ทำไว้จะถูกชดใช้

Little Boy เขียน: สิ่งที่ต้องสอนให้มากคือวิธีการรักษาบัญญัติและเดินในทางที่ปราศจากบาป
สิ่งที่ต้องสอนให้น้อยคือการอภัยบาป หรือทำอย่างไรบาปที่ทำไว้จะถูกชดใช้

การอภัยบาป ?? =  พระคุณ + พระเมตตา ของพระเจ้า??

สอนน้อย ให้น้ำหนักเบาไม่ได้หรอก

ยิ่งเป็นพระคุณ ยิ่งเป็นพระเมตตา ต้องยิ่งย้ำยิ่งเน้นในคริสตจักรเลย
เพราะความรักทำให้คนเดินในทางชอบธรรมโดยเต็มใจ ไม่ใช่ด้วยความเคร่งครึตามกฏหรือความกลัว หากแต่เป็นความรักและสันติสุขของพระคริสต์ในชีวิตต่างหาก

สรุปคือ ความรักของพระเจ้าส่งผลดี มาจากพระคุณและพระเมตตา นี่เป็นพื้นฐานของคริสตชนทุกนิกายเลยก็ว่าได้ครับ 

Ministry Of Men เขียน:

Little Boy เขียน: สิ่งที่ต้องสอนให้มากคือวิธีการรักษาบัญญัติและเดินในทางที่ปราศจากบาป
สิ่งที่ต้องสอนให้น้อยคือการอภัยบาป หรือทำอย่างไรบาปที่ทำไว้จะถูกชดใช้

การอภัยบาป ?? =  พระคุณ + พระเมตตา ของพระเจ้า??

สอนน้อย ให้น้ำหนักเบาไม่ได้หรอก

ยิ่งเป็นพระคุณ ยิ่งเป็นพระเมตตา ต้องยิ่งย้ำยิ่งเน้นในคริสตจักรเลย
เพราะความรักทำให้คนเดินในทางชอบธรรมโดยเต็มใจ ไม่ใช่ด้วยความเคร่งครึตามกฏหรือความกลัว หากแต่เป็นความรักและสันติสุขของพระคริสต์ในชีวิตต่างหาก

สรุปคือ ความรักของพระเจ้าส่งผลดี มาจากพระคุณและพระเมตตา นี่เป็นพื้นฐานของคริสตชนทุกนิกายเลยก็ว่าได้ครับ 

  อาเมนค่ะ

Ministry Of Men เขียน:

Little Boy เขียน: สิ่งที่ต้องสอนให้มากคือวิธีการรักษาบัญญัติและเดินในทางที่ปราศจากบาป
สิ่งที่ต้องสอนให้น้อยคือการอภัยบาป หรือทำอย่างไรบาปที่ทำไว้จะถูกชดใช้

การอภัยบาป ?? =  พระคุณ + พระเมตตา ของพระเจ้า??

สอนน้อย ให้น้ำหนักเบาไม่ได้หรอก

ยิ่งเป็นพระคุณ ยิ่งเป็นพระเมตตา ต้องยิ่งย้ำยิ่งเน้นในคริสตจักรเลย
เพราะความรักทำให้คนเดินในทางชอบธรรมโดยเต็มใจ ไม่ใช่ด้วยความเคร่งครึตามกฏหรือความกลัว หากแต่เป็นความรักและสันติสุขของพระคริสต์ในชีวิตต่างหาก

สรุปคือ ความรักของพระเจ้าส่งผลดี มาจากพระคุณและพระเมตตา นี่เป็นพื้นฐานของคริสตชนทุกนิกายเลยก็ว่าได้ครับ 

Deo Gratias เขียน:

Ministry Of Men เขียน:

Little Boy เขียน: สิ่งที่ต้องสอนให้มากคือวิธีการรักษาบัญญัติและเดินในทางที่ปราศจากบาป
สิ่งที่ต้องสอนให้น้อยคือการอภัยบาป หรือทำอย่างไรบาปที่ทำไว้จะถูกชดใช้

การอภัยบาป ?? =  พระคุณ + พระเมตตา ของพระเจ้า??

สอนน้อย ให้น้ำหนักเบาไม่ได้หรอก

ยิ่งเป็นพระคุณ ยิ่งเป็นพระเมตตา ต้องยิ่งย้ำยิ่งเน้นในคริสตจักรเลย
เพราะความรักทำให้คนเดินในทางชอบธรรมโดยเต็มใจ ไม่ใช่ด้วยความเคร่งครึตามกฏหรือความกลัว หากแต่เป็นความรักและสันติสุขของพระคริสต์ในชีวิตต่างหาก

สรุปคือ ความรักของพระเจ้าส่งผลดี มาจากพระคุณและพระเมตตา นี่เป็นพื้นฐานของคริสตชนทุกนิกายเลยก็ว่าได้ครับ 

  อาเมนค่ะ

เห็นด้วยครับ

ถ้าเรากำลัง...

1. ทานอาหาร
2. หลับ
3. แสดงละคร
4. ออกไปเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์
5. เล่นดนตรีประจำชาติต่างๆ
6. ทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำ - -
7. ทำสมาธิ
8. สอนหนังสือ
9. เกา
10. ฆ่าสัตว์
11. เล่นกีฬา
12. กำลังท่องเที่ยวอยู่
13. อ่านหนังสือ
14. เขียนบันทึกประจำวัน

ถ้าพระองค์เสด็จมาใน๘ที่พวกเราทำแบบนี้อ่ะ ถือว่าผิดไหมนี่ - -

^
^

ทำไปเหอะฮะวอ (ยกเว้นข้อ 10. - -')

เราว่าพระองค์คงไม่ตัดสินเราจากสิ่งที่เรากำลังทำตอนพระองค์มาเห็นหรอก

พระองค์คงพิพากษาเราจากสิ่งที่เราทำมาตลอดทั้งชีวิตมากกว่า 

† † †  Ʀƴʉʉϊƈƕ  † † † เขียน: ^
^

ทำไปเหอะฮะวอ (ยกเว้นข้อ 10. - -')

เราว่าพระองค์คงไม่ตัดสินเราจากสิ่งที่เรากำลังทำตอนพระองค์มาเห็นหรอก

พระองค์คงพิพากษาเราจากสิ่งที่เราทำมาตลอดทั้งชีวิตมากกว่า 

ก็จริง แต่ก็อย่าลืมว่า สภาพปัจจุบันเองก็ถูกนับรวมในข้อพิพากษาด้วย แต่นี่แหละสิ่งที่เราพึงระวัง

แฟนเราเคยยกตัวอย่างให้ฟัง

บางคนดำรงในความเชื่อมาตลอด แต่บั้นปลายชีวิตกลับมาฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังในรัก(แฟนทิ้ง) คนเช่นนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าแผ่นดินสวรรค์

แต่หากกลับใจในช่วงสุดท้าย ก็ยังรอดได้อย่างที่โจรคนที่สองบนกางเขนข้าง ๆ พระเยซู

แต่อย่างไรก็ดี คนที่คิดเอาพระเจ้าเป็น ATM (สารภาพบาปแล้วไปทำผิดเรื่อย ๆ โดยตั้งใจว่าเดี๋ยวก็ได้ล้าง) หรือคนที่คิดไปกลับใจเอาตอนท้ายแต่ตอนนี้ทำบาปมั่วซั่วไปก่อน คน ๆ นั้นไม่มีทางได้อะไรจากองค์พระผู้เป็นเจ้าแน่ ๆ เผลอ ๆ อาจโดนดัดหลังแบบไม่คาดคิดเอาตอนจบด้วยซ้ำ (เช่นม่องเท่งก่อนได้กลับใจจริง ๆ เหตุเพราะเห็นเรื่องกลับใจเป็นเรื่องล้อเล่น)