ร่วมมิสซา หรือนมัสการท่านไม่ชอบ ส่วนใด ???

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ มี.ค. 08, 2010 8:25 pm

ผมว่าซึ้งนะครับ... : xemo023 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

เสาร์ มี.ค. 20, 2010 4:51 am

ไม่ค่อยชอบเวลาไปวัด ตอนพระท่านเทศ ฟังๆน้ำไหลพรากๆ ร้องเพลง น้ำตาไหลพรากๆ  มันกลั้นไม่ได้ อยู่ๆก็ไหลมาเอง

อีกอย่าง อยากรับศีลมหาสนิทบ้างได้แต่นั่งดูเค้ารับ แต่ก็ช่วยร้องเพลงไม่หยุด
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ มี.ค. 20, 2010 7:53 am

ยิ่งน่าจะต้องชอบนะครับ
แสดงว่า พระจิตเจ้าทรงทำงาน ทำให้คุณฟังพระวาจาและซาบซึ้งถึงความรักของพระ
ขอพระอวยพรนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

พุธ มิ.ย. 08, 2011 8:18 pm

ไม่ชอบที่เวลาพาเพื่อนพุืธไป มันมักจะถามนู่นถามนี่ตอนเขาสวด หรือร้องเพลงหรือตอนพ่อเทศน์
ทั้งๆที่พาเพื่อไปก่อนเวลาตั้ง 30 นาที่ มันไม่ถามมาถามตอนเรื่มพิธี - -
weerachart
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 03, 2011 12:57 am

พุธ มิ.ย. 08, 2011 8:50 pm

เวลามอบสันติสุขแก่กัน ผมสังเกตบางคนไหว้เป็นหุ่นยนต์ถูกตั้งโปรแกรมมาเลย ก่อนร่วมมิสซาบางคนก็หน้าบูดมาเลย แทนที่จะมีความสุข เสร็จพิธีก็รีบกลับบ้าน น่าจะอยู่คุยกันก่อน วัดผมยิ่งเป็นวัดเล็กๆใครไม่มาก็จับผิดได้เลย จะเปิดวัดทีก็เสาร์-อาทิตย์ วันเสาร์ก็เปิดแค่ทำความสะอาด วันอาทิตย์ก็เปิด3ชั่วโมง มีมิสซาแค่รอบเดียวต่ออาทิตย์เอง ด้วยที่ว่าเป็นวัดเล็ก ไม่ค่อยมีคริสตชนคาทอลิก มีไม่ถึง20-30คนมั๊ง ส่วนโปรฯก็เยอะมาก เกือบ100คนเลย ไม่ได้ว่าอะไรน่ะครับ แต่รู้สึกว่าแบ่งๆมาบ้างก็ได้ วัดจะได้คึกคัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2011 8:50 am

Cherval เขียน:ไม่ชอบที่เวลาพาเพื่อนพุืธไป มันมักจะถามนู่นถามนี่ตอนเขาสวด หรือร้องเพลงหรือตอนพ่อเทศน์
ทั้งๆที่พาเพื่อไปก่อนเวลาตั้ง 30 นาที่ มันไม่ถามมาถามตอนเรื่มพิธี - -
ก็บอกสั้นๆไปหน่ะครับว่าอยู่ในพิธีอยู่ สงสัยอะะไร จด/จำไว้

หลังพิธีค่อยถาม รบกวนคนอื่นเขา :s023:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2011 1:33 pm

ผมไม่ชอบก็คงตอน คนขึ้นมาอ่านพระคัมภีร์บางคน ไม่เตรียมตัวในการอ่านก่อนขึ้นมา ทำให้อ่านผิดบ้างอ่านเว้นวรรคไม่ถูกที่ อ่านเร็วมากจนไม่รู้จะรีบไปไหน ทั้งที่รู้ว่าคนไหนไม่ชำนาญก็ยังปล่อยขึ้นมาอ่านครับ แล้วก็คนชอบคุยตอนร่วมมิสซา แล้วก็ตอนนำสวดต่างๆไม่รู้ว่าเค้าจะรีบไปไหนรัวลิ้นซะไม่ทัน
saroonram
โพสต์: 160
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 16, 2007 3:20 pm

ศุกร์ มิ.ย. 10, 2011 9:39 am

ส่วนที่ไม่ประทับใจในการร่วมมิสซาคือ การนมัสการเป็นเพียงพิธีกรรมที่ต้องกระทำและความเชื่อยชาไม่มีชีวิตชีวา เช่นตอนมอบสันติสุขให้แก่กันและกัน กระปิดกระปอย ทำโดยพอให้เสร็จๆไป ชีวิตชีวาไม่มี หรือใครจะเถียง และท่าทีการร้องแพลงอยากให้มีชีวิตมากกว่านี้ ในส่วนอื่นดีหมดแล้ว แก้ไขได้ จะดีมากๆเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 11, 2011 12:29 pm

เหมาะสมและชอบยิ่งนัก ชอบทุกขั้นตอน::014:: ::015:: ::017::
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 15, 2011 2:55 pm

Cherval เขียน:ไม่ชอบที่เวลาพาเพื่อนพุืธไป มันมักจะถามนู่นถามนี่ตอนเขาสวด หรือร้องเพลงหรือตอนพ่อเทศน์
ทั้งๆที่พาเพื่อไปก่อนเวลาตั้ง 30 นาที่ มันไม่ถามมาถามตอนเรื่มพิธี - -
วิธีหนึ่งที่เจี๊ยบทำ เมื่อพาเพื่อนที่ไม่ใช่คริสเตียนไปโบสถ์ เจี๊ยบจะแนะนำ การนมัสการ
มีขั้นตอนอะไรบ้าง ในพิธีเราทำอะไรบ้าง และช่วยเปิดเพลง เปิดพระคัมภีร์ แล้วบอกเพื่อน
ว่าถ้าสงสัยอะไร ให้ถามหลังนมัสการ ครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 15, 2011 2:58 pm

หรือเมื่อไปมิสซากับเพื่อนคริสเตียน เจี๊ยบอธิบายขั้นตอนมิสซา และบอกว่า
เราโปรฯทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้บ้าง เพื่อไมให้ พี่น้องคริสตังสดุด
ที่สำคัญยิ่ง ห้าม เอาเท้าวาง ที่เบาะคุกเข่า แล้วเราปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
แต่ว่า พอเพื่อนเห็น คริสตังเอา เท้าวางบนเบาะคุกเข่า เพื่อนถามว่า
ทำไมเขาวางteenล่ะ ...เจี๊ยบบอกว่า สงสัย คุณพ่อลืมบอกเขามั้ง 555 :s013:
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

พุธ มิ.ย. 15, 2011 4:00 pm

Jeab Agape เขียน:หรือเมื่อไปมิสซากับเพื่อนคริสเตียน เจี๊ยบอธิบายขั้นตอนมิสซา และบอกว่า
เราโปรฯทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้บ้าง เพื่อไมให้ พี่น้องคริสตังสดุด
ที่สำคัญยิ่ง ห้าม เอาเท้าวาง ที่เบาะคุกเข่า แล้วเราปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
แต่ว่า พอเพื่อนเห็น คริสตังเอา เท้าวางบนเบาะคุกเข่า เพื่อนถามว่า
ทำไมเขาวางteenล่ะ ...เจี๊ยบบอกว่า สงสัย คุณพ่อลืมบอกเขามั้ง 555 :s013:
เขาห้ามเอาเท้าวางเหรอ? :s030: บางทีแมวน้ำก็วางแต่ถอดรองเท้าออก (มีถุงเท้านะ)
เพราะรองเท้ามันหนักคุกเข่าไม่ค่อยสะดวก
tach
โพสต์: 200
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 9:53 pm

อังคาร ต.ค. 11, 2011 12:12 am

ไม่ชอบตอนที่ คนนุ่งกางเกงขาสั้น สายเดี่ยวเข้าวัด
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ต.ค. 11, 2011 9:35 pm

ไม่ชอบหลายอย่าง เช่น ไม่ชอบคนคุยกันขณะกำลังนมัสการ ไม่ชอบเด็กวิ่งเพ่นพ่าน
ไม่ชอบคนแต่งกายไม่ให้เกียรตอสถานที่ รู้สึกว่าเขาไม่ให้เกีรติพระเจ้า :s015:
honinbo
โพสต์: 45
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 01, 2009 8:31 pm

ศุกร์ ต.ค. 14, 2011 11:04 pm

ไม่ใช่ไม่ชอบนะ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ คือพ่อเปนคนฟิลิบปินส์ ครับ แหะๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ต.ค. 15, 2011 3:10 pm

เพิ่ม....ไม่ชอบตอนคนเดินออกไปรับศิลไม่สำรวม....
บางทีเดินเร็วๆอาดๆแกว่งมือ ไม่ค่อยเรียบร้อย โดยฉะเพาะผู้ชาย
น่าสำรวมมากกว่านี้หน่อยค่ะ..
.... :s015: ....
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ ต.ค. 17, 2011 4:46 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

เสาร์ ต.ค. 15, 2011 4:41 pm

ถ้าให้พูดตรงๆ หลายๆ เรื่อง เช่นเรื่องโทรศัพท์ดัง หรือบางคนเวลาสวด และร้องเพลงในวัด จะพูดกันเบามาก เหมือนพิกุลจะร่วงออกจาปาก แต่เวลาอยู่ข้างนอกด่ากันตะโกนคุยกันเสียงดังไม่เป็นไร ตะคอกใส่คนอื่นไม่เป็นไร บางคนก็ร้องดังเกินไม่สนใจใคร กูจะร้องดังๆไม่ฟังทำนองเลย แล้วบางทีก็จะร้องแบบว่า ทำไมไม่ช่วยกันร้อง และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับผมก็ยังไม่เท่ากับที่หลายครั้ง คุณพ่อไม่เตรียมตัวในมิสซา และที่สำคัญมากๆ คือที่คุณพ่อจะเทศน์ หลังอ่านบทอ่าน หลายครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่า หลายๆท่าน เทศน์เอาใจคนที่ฟัง หรือบางครั้งก็เทศน์แบบว่าไม่เกี่ยวกันเลย บางครั้งก็เทศน์อยู่แง่เดียว ฟังแล้วรู้สึกแบบว่า ล้างบาปก็ได้ขึ้นสวรรค์แล้ว มีความเชื่อก็ได้ขึ้นสวรรค์แล้ว อะไรแบบนั้น ดูเหมือนทำความดีจะกลายเป็นประเด็นรองไปเลย ในทางกลับกัน สมมุติว่า มีคนที่เป็นคนดีมาทั้งชีวิตแต่ไม่รู้จักพระเจ้า กับคนที่รู้จักพระเจ้าแล้ว มีความเชื่อแล้วแต่ไม่ทำความดีไม่ละทิ้งความชั่วซักที คำถามคือ คุณคิดว่าใครจะได้ขึ้นสวรรค์ครับ

ที่ผมรู้สึกเสียใจหลายครั้งที่เห็นผู้ที่จะช่วยนำลูกแกะกลับหลงทางไปซะเอง ส่วนลูกแกะหลายคนก็ไม่เคยเห็นพระเจ้าเป็นอันดับแรกในชีวิต ไม่เคยรู้จักพระองค์เลยนอกจากวันอาทิตย์ 1 ชม หรือบางที อาจจะปีละ 1 ชม ในกำหนดปัสกา แค่นั้น ถ้าทุกคนยังต้องการอาหารบำรุงร่างกาย แล้วคิดว่าวิญญาณเราไม่ต้องการอาหารหรือครับ พระเจ้าอวยพรครับ

พระเยซูเจ้าตรัสสอนศิษย์ว่า “คนที่กล่าวแก่เราว่า ‘พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้

มนุษย์มิได้มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารเท่านั้น แต่มีชีวิตด้วยพระวาจาทุกคำที่ออกจากพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 1:56 am

1.ไม่ชอบคนที่ยืนกอดอก แทนการพนมมือ เพราะผมคิดว่าเป็นการเสียมารยาท
2.ไม่ชอบคนที่ใช้การย่อเข่าแทนการกราบไหว้ เรามีธรรมเนียมไทยในการไหว้ ทำไมไม่ใช้ ไปใช้ทำเนียมฝรั่งทำไม ไม่เข้าใจ
3.ช่วงที่มีการไหว้แบ่งปันสันติสุขแด่ผู้อื่น ไม่ชอบคนที่ไหว้แบบกวาดไปซ้ายที ขวาที แต่น่าตาไม่รับไหว้ บูดบึ่ง ไม่สบสายตาผู้อื่น ทำๆไปงั้น แบบขอผ่านไปที

ทั้ง 3 ข้อที่ผมไม่ชอบ เกี่ยวกับการไหว้ล้วนๆครับ อิอิ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:46 am

Kenneth เขียน:1.ไม่ชอบคนที่ยืนกอดอก แทนการพนมมือ เพราะผมคิดว่าเป็นการเสียมารยาท
2.ไม่ชอบคนที่ใช้การย่อเข่าแทนการกราบไหว้ เรามีธรรมเนียมไทยในการไหว้ .......
3.ช่วงที่มีการไหว้แบ่งปันสันติสุขแด่ผู้อื่น.................
ทั้ง 3 ข้อที่ผมไม่ชอบ เกี่ยวกับการไหว้ล้วนๆครับ อิอิ
>> พี่เคนเนทครับ ผมเดาเอาว่า พี่คงมาจากกระทรวงวัฒนธรรมไทย ใช่ไหม ฮะ :s013:
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 12:19 pm

>> พี่เคนเนทครับ ผมเดาเอาว่า พี่คงมาจากกระทรวงวัฒนธรรมไทย ใช่ไหม ฮะ :s013:
555555 :s012: เห็นจะเป็นจริงดังที่กล่าวมา :s012: มีอารมณ์ร่วมเกี่ยวกับการไปไทยมากไปหน่อย ขออภัย อิอิอิอิอิ :s013:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ย. 21, 2011 6:10 am

ไม่ทราบว่า คุณพ่อเจ้าพิธีได้แวะมาอ่านหรือเปล่า อาจจะต้องให้แต่ละวัดทบทวนการมิสซาว่า
ควรปรับปรุงอย่างไร เพราะว่าบ้างเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องใหม่ เช่นการใช้เทคโนโลยี การแต่งกาย
หรือธรรมเนียมประเพณีของสังคมเปลี่ยนไป เป็นต้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
josep_maria
โพสต์: 34
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2011 5:52 pm

จันทร์ ม.ค. 16, 2012 6:00 pm

2.ไม่ชอบคนที่ใช้การย่อเข่าแทนการกราบไหว้ เรามีธรรมเนียมไทยในการไหว้ ทำไมไม่ใช้ ไปใช้ทำเนียมฝรั่งทำไม ไม่เข้าใจ
อันนี้โดนตัวนะ ผมก็ย่อเข่าก่อนนั่งที่นั่ง หรือ เมื่อเข้าใกล้ตู้ศีล หรือพระแท่น ตลอดเลย ไม่แค่แค่ผมคนเดียวนะ คนที่มีอายุในวัด ด้วยความเคยชินเขาก็ทำกัน มันเป็นธรรมเนียมเดิมๆที่มีมา จะว่าทำไมไม่ไหว้ทั้งที่ง่ายกว่า อันนี้มันขึ้นอยู่กับึความเคยชินแล้วหล่ะครับ
wisit
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 2:30 pm

เสาร์ ม.ค. 28, 2012 1:17 am

ไม่ชอบตรงที่ไมค์หอน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 29, 2012 7:53 pm

josep_maria เขียน:
2.ไม่ชอบคนที่ใช้การย่อเข่าแทนการกราบไหว้ เรามีธรรมเนียมไทยในการไหว้ ทำไมไม่ใช้ ไปใช้ทำเนียมฝรั่งทำไม ไม่เข้าใจ
อันนี้โดนตัวนะ ผมก็ย่อเข่าก่อนนั่งที่นั่ง หรือ เมื่อเข้าใกล้ตู้ศีล หรือพระแท่น ตลอดเลย ไม่แค่แค่ผมคนเดียวนะ คนที่มีอายุในวัด ด้วยความเคยชินเขาก็ทำกัน มันเป็นธรรมเนียมเดิมๆที่มีมา จะว่าทำไมไม่ไหว้ทั้งที่ง่ายกว่า อันนี้มันขึ้นอยู่กับึความเคยชินแล้วหล่ะครับ
ถอนสายบัวก็ประเพณีไทยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ ม.ค. 30, 2012 9:55 pm

ผมไม่ชอบที่เวลาหลังรับศีลมหาสนิทแล้ว ก็ต้องมาสวดบทพระเยซูผู้พระทัยดี ข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์ พระสิริรุ่งโรจน์ และบทสวดเพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ ทำให้ไม่มีเวลาสวดส่วนตัวเงียบ ๆ เมื่อได้รับพระเยซูเจ้าเข้ามาประทับใจวิญญาณแล้ว ก็อยากดื่มด่ำในการสัมผัสความรักพระองค์มากกว่ามาท่องบทสวดยืดยาว เขาว่าสวดแล้วจะได้พระคุณการุณย์ ในเมื่อได้แก้บาปและรับศีล สวดบทข้าพเจ้าเชื่อในและบทข้าแต่พระบิดาในมิสซาแล้วก็น่าจะเพียงพอกับเงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ พอสวดจบปุ๊บคุณพ่อหรือพิธีกรก็มาประกาศหลายเรื่องจนเราลืมพระเยซูเจ้าที่เพิ่งได้รับไปเลย แต่ถ้ามีเวลาให้รำพึงเงียบ ๆ สักครูก็จะดีกว่า แล้วอีกอย่างการประชาสัมพันธ์ควรประกาศหลังจากพระสงฆ์สวดบทภาวนาหลังรับศีลแล้ว ไม่อย่างนั้นบทภาวนานี้ก็ควรจะเปลี่ยนชื่อเป็นบทภาวนาหลังการประชาสัมพันธ์ เพราะว่าถ้ามาประกาศอะไรหลังรับศีล จะเป็นการขัดกลางช่วงเวลารับศีลซึ่งยังไม่จบถ้าไม่ได้สวดบทภาวนาหลังรับศีล และสุดท้าย หลังจากการเทศน์ ควรมีเวลาเงียบ ๆ สักครู่ ให้ได้ไตร่ตรองในสิ่งที่เพิ่งได้ฟังจบไป อีกทั้งผู้เทศน์ก็ยังได้มีเวลาพักเสียงด้วย คนที่เป็นพิธีกรจึงไม่ควรรีบประกาศให้สัตบุรุษยืนขึ้นทันที่ ที่ว่ามาสามอย่างนี้ ไม่ใช่ความคิดของผมเอง แต่ได้รับฟังมาจากพระสังฆราชและคุณพ่อบางท่าน ท่านบ่นให้ฟังบ่อย ๆ แต่ก็คงไปเปลี่ยนแปลงยากครับ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาจนติดแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ อังคาร ม.ค. 31, 2012 12:45 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

อังคาร ม.ค. 31, 2012 11:46 am

ตอนนี้ ไปวัด เซนต์จอห์น ที่ลาดพร้าว ชอบ บราเดอร์เทศน์มากๆ และเพิ่งได้รู้ว่าพระเจ้า มีวิธีที่จะบอกในสิ่งที่เราข้องใจและสงสัยอย่างกังขา บอกลงมาตรงๆ ผ่านทาง บราเดอร์ ช่างเป็นอะไรที่ มหัศจรรย์สุดๆ

ส่วนไม่ชอบหรอ ก้อตอนเทศน์อีกนั่นหล่ะ พ่อบางท่านก็พูดวกไปวนมา น่าจะให้มีสีสรร มากๆ คนจะได้ไม่ง่วงอ่ะค่ะ

แต่ตอนนี้เราตาสว่างแล้ว ทั้งใจ และวิญญาณ และจะสวดภาวนาให้มากขึ้นด้วย
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

อังคาร ม.ค. 31, 2012 4:41 pm

Kenneth เขียน:1.ไม่ชอบคนที่ยืนกอดอก แทนการพนมมือ เพราะผมคิดว่าเป็นการเสียมารยาท
2.ไม่ชอบคนที่ใช้การย่อเข่าแทนการกราบไหว้ เรามีธรรมเนียมไทยในการไหว้ ทำไมไม่ใช้ ไปใช้ทำเนียมฝรั่งทำไม ไม่เข้าใจ
3.ช่วงที่มีการไหว้แบ่งปันสันติสุขแด่ผู้อื่น ไม่ชอบคนที่ไหว้แบบกวาดไปซ้ายที ขวาที แต่น่าตาไม่รับไหว้ บูดบึ่ง ไม่สบสายตาผู้อื่น ทำๆไปงั้น แบบขอผ่านไปที
สองข้อแรกน่ะผมเลย ผมไม่คิดว่าการย่อถอนสายบัวเป็นธรรมเนียมฝรั่งนะ ที่วัดผมหรือที่ไหนผมก็เห็นเขาทำกัน พ่อ ปู่ ย่า อา และญาติคนอื่นๆ ที่เป็นคาทอลิกเขาก็ทำกัน คนที่แก่กว่าปู่อีกเขาก็ทำ ผมอธิบายไม่ได้หรอกว่าทำไมถึงทำ มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว มีมานานมากแล้วด้วย ทั้งยืนกอดอก ทั้งย่อเข่า ตอนเด็กๆ ย่าจะเป็นคนพาเข้าวัด ย่าก็ถอนสายบัว ไม่ได้ไหว้นะ แต่ช่วงอื่นก็ไม่ได้กอดอกแต่พนมมือ ผมคิดว่าผมน่าจะเหมือนพ่อ เพราะพ่อก็กอดอกตลอด มันก็แล้วแต่คนที่เขาจะทำนะผมคิดว่า บ้านผมทำแบบนี้ ซึ่งมันก็เป็นหนึ่งในหลายๆ วิธีที่เห็นได้ในหมู่คริสตังไทย ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงคิดว่าเป็นธรรมเนียมฝรั่ง

ส่วนข้อสามอันนี้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นด้วยหรือเปล่า แต่ทุกครั้งที่หันไปไหว้มอบสันติสุข แก้มนี่แทบปริโดยอัตโนมัติ พร้อมกันกับได้รับรอยยิ้มและสันติสุขกลับมา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ก.พ. 08, 2012 3:38 pm

Andreas เขียน:ผมไม่ชอบที่เวลาหลังรับศีลมหาสนิทแล้ว ก็ต้องมาสวดบทพระเยซูผู้พระทัยดี ข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์ พระสิริรุ่งโรจน์ และบทสวดเพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ ทำให้ไม่มีเวลาสวดส่วนตัวเงียบ ๆ เมื่อได้รับพระเยซูเจ้าเข้ามาประทับใจวิญญาณแล้ว ก็อยากดื่มด่ำในการสัมผัสความรักพระองค์มากกว่ามาท่องบทสวดยืดยาว เขาว่าสวดแล้วจะได้พระคุณการุณย์ ในเมื่อได้แก้บาปและรับศีล สวดบทข้าพเจ้าเชื่อในและบทข้าแต่พระบิดาในมิสซาแล้วก็น่าจะเพียงพอกับเงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ พอสวดจบปุ๊บคุณพ่อหรือพิธีกรก็มาประกาศหลายเรื่องจนเราลืมพระเยซูเจ้าที่เพิ่งได้รับไปเลย แต่ถ้ามีเวลาให้รำพึงเงียบ ๆ สักครูก็จะดีกว่า แล้วอีกอย่างการประชาสัมพันธ์ควรประกาศหลังจากพระสงฆ์สวดบทภาวนาหลังรับศีลแล้ว ไม่อย่างนั้นบทภาวนานี้ก็ควรจะเปลี่ยนชื่อเป็นบทภาวนาหลังการประชาสัมพันธ์ เพราะว่าถ้ามาประกาศอะไรหลังรับศีล จะเป็นการขัดกลางช่วงเวลารับศีลซึ่งยังไม่จบถ้าไม่ได้สวดบทภาวนาหลังรับศีล และสุดท้าย หลังจากการเทศน์ ควรมีเวลาเงียบ ๆ สักครู่ ให้ได้ไตร่ตรองในสิ่งที่เพิ่งได้ฟังจบไป อีกทั้งผู้เทศน์ก็ยังได้มีเวลาพักเสียงด้วย คนที่เป็นพิธีกรจึงไม่ควรรีบประกาศให้สัตบุรุษยืนขึ้นทันที่ ที่ว่ามาสามอย่างนี้ ไม่ใช่ความคิดของผมเอง แต่ได้รับฟังมาจากพระสังฆราชและคุณพ่อบางท่าน ท่านบ่นให้ฟังบ่อย ๆ แต่ก็คงไปเปลี่ยนแปลงยากครับ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาจนติดแล้ว
เอิ๊ก ผมไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าหลังรับศีลแล้วต้องสวดบทเหล่านั้น ส่วนตัวพอรับศีลแล้วผมก็จะคุกเข่าสวดและคุยกับพระเยซู ขอบคุณพระองค์ ฯลฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.พ. 09, 2012 9:36 am

Immanuel (MichaelPaul) เขียน:
Andreas เขียน:ผมไม่ชอบที่เวลาหลังรับศีลมหาสนิทแล้ว ก็ต้องมาสวดบทพระเยซูผู้พระทัยดี ข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์ พระสิริรุ่งโรจน์ และบทสวดเพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ ทำให้ไม่มีเวลาสวดส่วนตัวเงียบ ๆ เมื่อได้รับพระเยซูเจ้าเข้ามาประทับใจวิญญาณแล้ว ก็อยากดื่มด่ำในการสัมผัสความรักพระองค์มากกว่ามาท่องบทสวดยืดยาว เขาว่าสวดแล้วจะได้พระคุณการุณย์ ในเมื่อได้แก้บาปและรับศีล สวดบทข้าพเจ้าเชื่อในและบทข้าแต่พระบิดาในมิสซาแล้วก็น่าจะเพียงพอกับเงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ พอสวดจบปุ๊บคุณพ่อหรือพิธีกรก็มาประกาศหลายเรื่องจนเราลืมพระเยซูเจ้าที่เพิ่งได้รับไปเลย แต่ถ้ามีเวลาให้รำพึงเงียบ ๆ สักครูก็จะดีกว่า แล้วอีกอย่างการประชาสัมพันธ์ควรประกาศหลังจากพระสงฆ์สวดบทภาวนาหลังรับศีลแล้ว ไม่อย่างนั้นบทภาวนานี้ก็ควรจะเปลี่ยนชื่อเป็นบทภาวนาหลังการประชาสัมพันธ์ เพราะว่าถ้ามาประกาศอะไรหลังรับศีล จะเป็นการขัดกลางช่วงเวลารับศีลซึ่งยังไม่จบถ้าไม่ได้สวดบทภาวนาหลังรับศีล และสุดท้าย หลังจากการเทศน์ ควรมีเวลาเงียบ ๆ สักครู่ ให้ได้ไตร่ตรองในสิ่งที่เพิ่งได้ฟังจบไป อีกทั้งผู้เทศน์ก็ยังได้มีเวลาพักเสียงด้วย คนที่เป็นพิธีกรจึงไม่ควรรีบประกาศให้สัตบุรุษยืนขึ้นทันที่ ที่ว่ามาสามอย่างนี้ ไม่ใช่ความคิดของผมเอง แต่ได้รับฟังมาจากพระสังฆราชและคุณพ่อบางท่าน ท่านบ่นให้ฟังบ่อย ๆ แต่ก็คงไปเปลี่ยนแปลงยากครับ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาจนติดแล้ว

เอิ๊ก ผมไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าหลังรับศีลแล้วต้องสวดบทเหล่านั้น ส่วนตัวพอรับศีลแล้วผมก็จะคุกเข่าสวดและคุยกับพระเยซู ขอบคุณพระองค์ ฯลฯ
น้องทำถูกแล้วครับ จริง ๆ แล้วหลังรับศีลไม่ต้องมาสวดบทนู้นบทนี้พร้อมกันหรอกครับ แต่ควรให้สวดเงียบ ๆ ส่วนตัวครับ สวดจากใจดีที่สุด ถ้าบางคนอ้างว่าไม่รู้จะสวดอะไร ก็เลยท่องบทสวดสำเร็จรูป ก็อยากถามว่า ในใจคิดตามคำที่สวดหรือเปล่า หรือท่องแบบนกแก้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.พ. 09, 2012 7:54 pm

Andreas เขียน:ผมไม่ชอบที่เวลาหลังรับศีลมหาสนิทแล้ว ก็ต้องมาสวดบทพระเยซูผู้พระทัยดี ข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์ พระสิริรุ่งโรจน์ ฯลฯ
ซ้ำร้าย ก่อนมิสซา
สัตบุรุษบางวัด
ยังนำสวด "สายประคำแบบไฮสปีต" แบบว่า คิดว่า15-20นาที ต้องให้ครบสาย

ไม่แน่ใจว่าเวลาแค่นั้น สายประคำ5ทศ ที่สวดได้
ไม่กลายเป็นมาลัยที่ไหม้เกรียมถวายแม่พระรึไงหนิ :s008:
ตอบกลับโพส