ทำไมชาวคาทอลิกจึงเชื่อว่า พระนางมารีย์ทรงเป็นพรหมจารีย์เสมอ

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ศุกร์ มิ.ย. 04, 2010 3:02 pm

รูปภาพ

การเป็นพรหมจารีมีสามลักษณะ คือ การเป็นพรหมจารีเมื่อปฏิสนธิ ตอนให้กำเนิด และการเป็นพรหมจารีเสมอตลอดกาล ชาวคาทอลิกเชื่อว่า พระแม่มารีย์ทรงเป็นพรหมจารีก่อนให้กำเนิดพระ-คริสตเจ้า ในขณะพระคริสตเจ้าทรงบังเกิด และหลังจากนั้นด้วย ในอีกแง่หนึ่งก็คือ พระนางทรงเป็นพรหมจารีเสมอ

มีข้อมูลชัดเจนจากพระคัมภีร์ เรื่องการเป็นพรหมจารีในขณะปฏิสนธิพระเยซูเจ้า ในการเล่าเรื่องการปฏิสนธินั้น ทั้งนักบุญมัทธิวและนักบุญลูกา ได้เล่าว่าพระเยซูเจ้าทรงปฏิสนธิ “ด้วยเดชะพระจิต” อย่างที่เราสวดกันในบทข้าพเจ้าเชื่อ และมิใช่โดยทางการมีสัมพันธ์กับมนุษย์ นักบุญมัทธิวกล่าวไว้ชัดเจนในเรื่องนี้ “พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า” (มธ 1:18)

นักบุญลูกากล่าวย้ำเรื่องนี้ว่า ตั้งแต่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ของพระนางทรงมีพระบิดาเจ้าสวรรค์พระองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น “พระองค์จึงได้รับนามว่าบุตรของพระเจ้า” ในการกล่าวถึงบรรพบุรุษของพระคริสตเจ้านั้น นักบุญลูกาบ่งชี้ว่า พระเยซูเจ้าถูกถือว่าเป็นบุตรของโยเซฟ “เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเริ่มเทศนาสั่งสอนนั้น มีพระชนมายุราวสามสิบพรรษา คนทั่วไปคิดว่า พระองค์ทรงเป็นบุตรของโยเซฟ” (ลก 3:23)

ดังนั้น พระวรสารต่างก็ยืนยันไว้ชัดเจนว่า พระเยซูเจ้าทรงปฎิสนธิโดยพระอานุภาพโดยตรงของพระเจ้าและถือว่าเป็นอัศจรรย์ที่อยู่นอกกระบวนการปกติ และพระนางมารีย์ยังคงเป็นพรหมจารี ดังที่ทูตสวรรค์กาเบรียลกล่าวยืนยันกับพระนางว่า “ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้” (ลก 1:37)

รูปภาพ

นักบุญมัทธิวยังอ้างถึงคำทำนายของประกาศกอิสยาห์ (อสย 7:14) เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงเรื่องการเป็นพรหมจารีใน ขณะปฏิสนธิและในขณะให้กำเนิด “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นจริงว่า “หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์และจะคลอดบุตรชาย ซึ่งจะได้รับนามว่า อิมมานูเอล” (มธ 1:22-23) ไม่ว่านักวิชาการทางด้านพระคัมภีร์จะตีความเรื่องนี้อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือ ถ้อยความตอนนี้นักบุญมัทธิวต้องการบอกบรรดาผู้อ่านพระคัมภีร์ให้ทราบว่าพระนางมารีย์ยังคงเป็นพรหมจารีทั้งในขณะปฏิสนธิพระบุตรและขณะให้กำเนิดพระองค์

ในเรื่องพรหมจารีเสมอตอลดกาลของพระนางมารีย์นั้น ถึงแม้เอเสเคียล 44:2 บอกไว้ว่า “ประตูนี้ปิดอยู่เรื่อยไป อย่าให้เปิดและไม่ให้ใครเข้าไปทางนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้เสด็จเข้าไปทางนี้ เพราะฉะนั้นจึงให้ปิดไว้”

นักวิชาการและนักเทววิทยายุคกลางบางท่านตีความให้การสนับสนุนเรื่องพรหมจารีเสมอของ พระนางมารีย์ ธรรมประเพณีคริสตังยืนยันเรื่องนี้กับเรา ยิ่งกว่านั้นเราจึงพึงสังเกตว่า ไม่มีข้ออ้างจากพันธสัญญาใหม่ที่กล่าวถึงพี่น้องชายหญิงของพระเยซูเจ้าโดยที่พระแม่มารีย์มีลูกคนอื่นๆ เนื่องจากว่าเป็นแค่ญาติพี่น้องหรือญาติสนิท

ธรรมประเพณีเรื่องความเป็นพรหมาจารีของพระนางมารีย์นั้นมีมาแต่ยุคแรกๆ นักบุญอิกญาซีโอแห่งอันทิโอก ตั้งแต่ศตวรรษแรกนั่นเอง (ท่านสิ้นใจที่กรุงโรม ค.ศ. 107) ในจดหมายของท่านถึงชาวสมีร์นา กล่าวไว้ว่า พระเยซูเจ้า “ทรงบังเกิดจากหญิงพรหมจารีผู้หนึ่งอย่างแท้จริง” ดังนั้นจึงยืนยันถึงการปฏิสนธิโดยที่ยังทรงเป็นพรหมจารีและให้กำเนิดโดยที่ยังทรงเป็นพรหมจารี นี้คือหลักฐานเด่นชัดจากธรรมประเพณีตั้งแต่ยุคแรก คำยืนยันของปิตาจารย์เรื่องพรหมจารีของพระนางมารีย์นั้นยังมั่นคงอยู่ตลอดมา และสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของสัตบุรุษตั้งแต่สมัยแรกๆ เราสามารถสรุปความเชื่อนี้ได้จากคำกล่าวของนักบุญออกัสติน (ค.ศ. 354-430) “พระนางทรงปฏิสนธิโดยยังทรงเป็นพรหมจารี พระนางทรงให้กำเนิดโดยยังเป็นพรหมจารี จากนั้นไม่นานความเชื่อตามธรรมประเพณีเช่นนี้ของพระศาสนจักรก็เป็นที่ยอมรับโดยเอกฉันท์จากสภาสังคายนาแห่ง คัลเซดอน (ค.ศ. 451)

ถ้อยคำ “พรหมจารีเสมอ” ที่เกี่ยวกับพระนางมารีย์นั้นใช้กันโดยทั่วไปในพระศาสนจักรมาตั้งแต่ศตวรรษแรกๆ ในศตวรรษที่ 4 นักบุญเอปีฟานิอุส (ค.ศ. 315-403) ได้นำเสนอในบทข้าพเจ้าเชื่อแห่งนิเชตามสำนวนของตะวันออก สังคายนาวาติกันที่ 2 ยืนยันเรื่องนี้ในถ้อยคำในบทขอบพระคุณในมิสซาโรมัน “พระนางมารีย์ผู้ทรงศรีพรหมจารีเสมอพระชนนีของพระเจ้า และพระเยซูคริสตเจ้า” (พระ-ศาสนจักร 52) ถ้อยคำดังกล่าวนี้ใช้อยู่บทขอบพระคุณแบบที่ 1

รูปภาพ


http://ccbkk.catholic.or.th/Question_ab ... qu-19.html
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ มิ.ย. 09, 2010 1:20 pm

เยี่ยม GOOD Excellent
nerine
โพสต์: 153
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 4:54 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 11:56 pm

ดีมากค่ะ คนที่ไม่เข้าใจจะได้เข้าใจ
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

พุธ ส.ค. 04, 2010 2:58 pm

ขอบคุณค่ะ :s002:
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

พฤหัสฯ. ส.ค. 05, 2010 10:43 am

ขอบคุณครับ :s007:
กุญแจซอล
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2010 5:15 pm

อาทิตย์ ส.ค. 08, 2010 11:17 am

ขอบคุณค่ะ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 24, 2010 5:12 pm

เมื่อมังกรหรืองูเห็นว่าตนถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน ก็เริ่มเบียดเบียนสตรีที่คลอดบุตรชาย แต่สตรีนั้นรับปีกนกอินทรีใหญ่สองปีกเพื่อจะได้บินไปยังถิ่นทุรกันดารที่พำนักของนาง ที่นั่นนางจะได้รับการเลี้ยงดูพ้นสายตาของงูเป็นเวลาสามปีครึ่ง งูพ่นน้ำออกจากปากเหมือนแม่น้ำตามหลังสตรี เพื่อให้นางถูกกระแสน้ำพัดไป แต่แผ่นดินช่วยนางไว้ แผ่นดินอ้าปากออกและดื่มแม่น้ำที่มังกรพ่นออกมาจากปากของมัน มังกรโกรธสตรี และออกไปทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า
(วว12:13-17)
ตอบกลับโพส