หน้า 1 จากทั้งหมด 2

รวมคำถามจากพระคัมภีร์

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 30, 2010 9:28 pm
โดย littleseal
มัทธิว 6

5 "เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐาน อย่าเป็นเหมือนคนหน้าซื่อใจคด เพราะเขาชอบยืนอธิษฐานในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะให้คนทั้งปวงได้เห็น เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว

6 ฝ่ายท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่าน

7 "แต่เมื่อท่านอธิษฐานอย่าพูดพล่อยๆซ้ำซาก เหมือนคนต่างชาติกระทำเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะทรงโปรดฟัง

8 อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะว่าสิ่งไรซึ่งท่านต้องการ พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านทูลขอแล้ว


อ่านบทนี้แล้วเกิดคำถามขึ้นว่า "บทสวดที่เราสวดกันอยู่หรือคำรำพึงรำพันไม่มีรูปแบบที่เราขอกับพระเป็นเจ้า" ควรกระทำหรือเปล่าคะ? ถ้าตามเอกสารบทนี้เราควรสวดแต่ "บทข้าแต่พระบิดา" ที่พระเยซูเป็นผู้สอนเท่านั้นใช่หรือเปล่าคะ?

: xemo029 : สับสนมากมาย

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 30, 2010 10:01 pm
โดย Holy
อันนี้พระองค์หมายถึงห้ามสวดแบบโอ้อวดเฉยๆครับ

ส่วนพูดพร่ำซ้ำซากมันเหมือนท่องบ่นแบบไม่ตั้งใจ แต่ถ้าเรามีบทสวดและตั้งใจสวดไม่พร่ำก็จะมีประโยชน์อย่างมากครับ

สรุปคือพระองคืแค่จะบอกเราว่า ปริมาณไม่สำคัญเท่าคุณภาพ นั่นเองครับ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 01, 2010 1:21 am
โดย littleseal
เข้าใจความหมายแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
(ถ้าอ่านแล้วติดขัดตรงไหนขอรบกวนอีกนะคะ) : emo045 :

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 01, 2010 9:13 pm
โดย Veritas
รูปแมวน้ำน่ารักจังเลยครับ ::005::

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 1:16 pm
โดย littleseal
ขอบคุณค่ะ แถมอีกรูป
รูปภาพ

ขอถามตอบในกระทู้นี้เลยนะคะ เกี่ยวกับพระธรรมที่เริ่มอ่านแล้วสงสัยอ่ะค่ะ

มัทธิว 13
54 เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงบ้านเมืองของพระองค์แล้ว พระองค์ก็สั่งสอนในธรรมศาลาของเขา จนคนทั้งหลายประหลาดใจแล้วพูดกันว่า "คนนี้มีสติปัญญาและการอิทธิฤทธิ์อย่างนี้มาจากไหน
55 คนนี้เป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ มารดาของเขาชื่อมารีย์มิใช่หรือ และน้องชายของเขาชื่อยากอบ โยเสส ซีโมน และยูดาสมิใช่หรือ
56 และน้องสาวทั้งหลายของเขาก็อยู่กับเรามิใช่หรือ เขาได้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้มาจากไหน"


- พระเยซูไม่ใช่บุตรองค์เดียว (ตามสายเลือด) ของแม่พระเหรอคะ?
จึงทำให้คนเหล่านั้นสงสัยลำดับญาติ

มัทธิว 14
6 แต่เมื่อวันฉลองวันกำเนิดของเฮโรดมาถึง บุตรสาวนางเฮโรเดียสก็เต้นรำต่อหน้าเขาทั้งหลาย ทำให้เฮโรดชอบใจ
7 เฮโรดจึงสัญญาโดยปฏิญาณว่า เธอจะขอสิ่งใดๆ ก็จะให้สิ่งนั้น
8 บุตรสาวก็ทูลตามที่มารดาได้สั่งไว้แล้วว่า "ขอศีรษะยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เพคะ"
9 ฝ่ายกษัตริย์เฮโรดก็เศร้าใจ แต่เพราะเหตุที่ได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่พวกที่เอนกายลงรับประทานด้วยกันกับท่าน จึงออกคำสั่งอนุญาตให้
10 แล้วก็ใช้คนไปตัดศีรษะยอห์นในคุก
11 เขาจึงเอาศีรษะของยอห์นใส่ถาดมาให้หญิงสาวนั้น หญิงสาวนั้นก็เอาไปให้มารดา


- ใช่เรื่องนางบาปซาโลเมหรือเปล่าคะ?


มัทธิว 15
22 ดูเถิด มีหญิงชาวคานาอันคนหนึ่งมาจากเขตแดนนั้นร้องทูลพระองค์ว่า "โอ พระองค์ผู้ทรงเป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงโปรดเมตตาข้าพระองค์เถิด ลูกสาวของข้าพระองค์มีผีสิงอยู่เป็นทุกข์ลำบากยิ่งนัก"
23 ฝ่ายพระองค์ไม่ทรงตอบเขาสักคำเดียว และพวกสาวกของพระองค์มาอ้อนวอนพระองค์ ทูลว่า "ไล่เธอไปเสียเถิด เพราะเธอร้องตามเรามา"
24 พระองค์ตรัสตอบว่า "เรามิได้รับใช้มาหาผู้ใด เว้นแต่แกะหลงของวงศ์วานอิสราเอล"
25 ฝ่ายหญิงนั้นก็มานมัสการพระองค์ทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์เถิด"
26 พระองค์จึงตรัสตอบว่า "ซึ่งจะเอาอาหารของลูกโยนให้แก่สุนัขก็ไม่ควร"
27 ผู้หญิงนั้นทูลว่า "จริงพระองค์เจ้าข้า แต่สุนัขนั้นย่อมกินเดนที่ตกจากโต๊ะนายของมัน"
28 แล้วพระเยซูตรัสตอบเขาว่า "โอ หญิงเอ๋ย ความเชื่อของเจ้าก็มาก ให้เป็นไปตามความปรารถนาของเจ้าเถิด" และลูกสาวของเขาก็หายเป็นปกติตั้งแต่ขณะนั้น


- ช่วยอธิบายเพิ่มเกี่ยวกับบทนี้ได้มั้ยคะ?
ทำไมตอนแรกพระเยซูถึงไล่นางไป แล้วทำไมพอนางตอบว่า
สุนัขย่อมกินเดนตกจากโต๊ะนาย พระเยซูถึงทรงช่วยคะ?

มัทธิว 21
9 ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้ากับผู้ที่ตามมาข้างหลังก็พร้อมกันโห่ร้องว่า "โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด `ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา' ในที่สูงสุด"


- โฮซันนา คืออะไรเหรอคะ?

มัทธิว 22
32 `เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัม เป็นพระเจ้าของอิสอัค และเป็นพระเจ้าของยาโคบ' พระเจ้ามิได้เป็นพระเจ้าของคนตาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าของคนเป็น"


- ช่วยอธิบายข้อความนี้เพิ่มด้วยนะคะ
พระเจ้ามิได้เป็นพระเจ้าของคนตายแต่ทรงเป็นพระเจ้าของคนเป็น
หมายถึงพระบิดาหรือพระเยซูคะ? แล้วที่ทรงเป็นพระเจ้าของคนเป็น
หมายถึงคนที่เชื่อในพระองค์เหรอคะ? หรือหมายถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่คะ?

ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะค่ะ ยังไม่มีโอกาสได้ไปโบสถ์เรียนพระธรรม
จึงต้องขอความรู้จากทุกท่านที่นี่แทนค่ะ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 2:42 pm
โดย Holy
ข้อแรกลองอ่านบทความนี้ครับ

http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=13&t=1090



ข้อ2คือนางซาโลเมครับ

ข้อ3ตามลิงคืนี้ครับ

http://www.salit.org/sunday/29sundayprint.html

ข้อ4 โฮซานนารากศัพท์ฮีบรูเดิมจริงๆหมายถึง “ขอทรงช่วย...ให้รอดเถิด” แต่ปัจจุบันใช้ในความหมายว่า สรรเสริญพระเจ้า

ข้อ5ตามลิงคืนี้ครับ http://bible4thai.com/main/new-matthew/ ... w-22-23-33


ปล.ผมแนะนำว่าต่อไปหากอ่านพระคัมภีรืออนไลนืให้ใช้เวบนี้่นะครับ

http://bible4thai.com/main/

เพราะสำนวนอ่านง่ายและทันสมัย และยังมีการอธิบายทุกบททุกตอนอีกด้วยครับ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 3:06 pm
โดย littleseal
ขอบคุณคุณ Holy ค่ะ เข้าใจสิ่งที่สงสัยแล้วค่ะ ขอบคุณเรื่องเว็บด้วยค่ะ
ปกติอ่านจากหนังสือเลยไม่ทันนึกถึงว่าตอนนี้มีเว็บอธิบายพระธรรมแล้ว : emo018 :
ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อยากรู้อะไรก็ไม่รู้จะหาคำตอบได้ที่ไหน

เริ่มสำนึกว่าเรายังศึกษาและอ่านไม่ถี่ถ้วนจริง กลัวทำให้รำคาญ
ขอโทษค่ะ : xemo031 :

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 3:17 pm
โดย Holy
ไม่ต้องกลัวว่าจะรำคาญครับ ยินดีรับใช้

เพียงแต่ว่าถ้าใช้เวบที่แนะนำจะเข้าใจได้สะดวกรวดเร็วขึ้น และเชื่อถือได้ด้วยครับ

ขอพระเจ้าอวยพร ::022::

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 02, 2010 10:51 pm
โดย littleseal
ซาบซึ้งค่ะ : xemo023 : ขอพระเป็นเจ้าอวยพรเช่นกันค่ะ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 03, 2010 11:57 am
โดย littleseal
::005:: ขอสอบถามต่อค่ะ ที่เว็บนู้นไม่ได้อธิบายเรื่องศีลอดไว้ค่ะ

มก 2:18-22 การโต้เถียงเรื่องการจำศีลอดอาหาร

- ชาวคริสมีการถือศีลอดด้วยมั้ยคะ? แล้วปฏิบัติกันอย่างไรเหรอคะ?

มก 7:14-23 สิ่งที่บริสุทธิ์และสิ่งที่เป็นมลทิน

- หมายถึงว่าสิ่งที่เราทานเข้าไปไม่ต้องมีข้อห้ามเหมือนศาสนาอื่นที่ห้้ามทานเนื้อสัตว์บางชนิดด้วยเหรอคะ? อย่างของอิสลามห้ามทานหมู ของหมักดอง เหล้า

มก 9:14-29 คนถูกปีศาจสิง

29พระองค์ตรัสตอบว่า "ปีศาจชนิดนี้ขับไล่ออกไม่ได้เลย นอกจากด้วยการอธิษฐานภาวนาเท่านั้น"c

c สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า "และการจำศีลอดอาหาร"


- อ่านถึงตรงนี้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ที่จะขับไล่ปีศาจต้องเป็นคนภาวนา หรือผู้ที่ปีศาจศีลต้องเป็นผู้ภาวนาเหรอคะ? และถ้าบางฉบับหมายถึงการถือศีลอดต้องกระทำเป็นประจำทุกปีเหมือนทางอิสลามเหรอคะ?

อีกเรื่องคือ

- Holy Spirit, พระจิต, พระวิญญาณ, เทวดาอารักข์, ทูตสวรรค์, วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ต่างกันอย่างไรเหรอคะ?

ถามเพราะไม่ทราบจริง ขอบคุณล่วงหน้านะคะที่ให้คำตอบที่ทำให้เกิดปัญญา



ปล. ไบเบิ้ลที่อ่านอยู่เจอพิมพ์ผิดทั้งวรรคเลย (คำแปลไทยน่าจะนำข้อความมาลงผิด) พอมาอ่านในเว็บที่ปรับปรุงใหม่ถึงรู้ว่าไม่ตรงกัน (ถึงว่าแปลก ๆ) สงสัยต้องอัพเดทไบเบิ้ลที่อ่านจริง ๆ ::010::

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 03, 2010 9:19 pm
โดย Holy
มก 2:18-22 การโต้เถียงเรื่องการจำศีลอดอาหาร

- ชาวคริสมีการถือศีลอดด้วยมั้ยคะ? แล้วปฏิบัติกันอย่างไรเหรอคะ?


+++++++คริสตชนมีการถือศีลอดอาหารครับ โดยทั่วไปจะกระทำในวันศุกร์ โดยไม่กินสัตว์บก คือกินแต่พวกปลา และผัก และกินแค่พอดีเกือบจะอิ่มโดยกินอิ่มเต็มที่แค่มื้อเดียว มักทำในช่วงเทศกาลอีสเตอร์




มก 7:14-23 สิ่งที่บริสุทธิ์และสิ่งที่เป็นมลทิน

- หมายถึงว่าสิ่งที่เราทานเข้าไปไม่ต้องมีข้อห้ามเหมือนศาสนาอื่นที่ห้้ามทานเนื้อสัตว์บางชนิดด้วยเหรอคะ? อย่างของอิสลามห้ามทานหมู ของหมักดอง เหล้า


++++++คริสตศาสนาไม่มีกฎข้อห้ามเรื่องการกินครับ



มก 9:14-29 คนถูกปีศาจสิง

29พระองค์ตรัสตอบว่า "ปีศาจชนิดนี้ขับไล่ออกไม่ได้เลย นอกจากด้วยการอธิษฐานภาวนาเท่านั้น"c

c สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า "และการจำศีลอดอาหาร"


- อ่านถึงตรงนี้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ที่จะขับไล่ปีศาจต้องเป็นคนภาวนา หรือผู้ที่ปีศาจศีลต้องเป็นผู้ภาวนาเหรอคะ? และถ้าบางฉบับหมายถึงการถือศีลอดต้องกระทำเป็นประจำทุกปีเหมือนทางอิสลามเหรอคะ?

++++++ทำทั้ง2คนเลยยิ่งดี แต่หลักๆ ผู้ทำการขับผีจะถือศีลอดอาหาร ในกรณีการขับผี คือการถือศีลอดในกรณีพิเศษที่ต้องการอธิษฐานเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ใช่การถือศีลอดประจำปีครับ



อีกเรื่องคือ

- Holy Spirit, พระจิต, พระวิญญาณ, เทวดาอารักข์, ทูตสวรรค์, วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ต่างกันอย่างไรเหรอคะ?

+++++++++++++Holy Spirit, พระจิต, พระวิญญาณ วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ คือสิ่งเดียวกันครับ เป็นชื่อเรียกสถานะหนึ่งของพระเจ้าเมื่อเวลามาสถิตกับมนุษย์

ทูตสวรรค์ คือผู้รับใช้พระเจ้าที่เรามักเห้นในงานศิลปะรูปร่างเป็นคนมีปีก

เทวดาอารักข์ คือทูตสวรรค์ที่มีหน้าที่อารักขาดูแลมนุษย์ หรือสถานที่เป็นพิเศษครับ

สนใจเรื่องทุตสวรรค์อ่านได้จากลิงค์นี้ครับ

http://www.belongtothetruth.com/Holy/friend_index.htm

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 03, 2010 10:43 pm
โดย Berserker
แว๊บมาสูบความรู้ด้วยคนค่ะ : emo045 :

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 04, 2010 3:40 pm
โดย littleseal
Berserker - : xemo026 : ยินดีต้อนรับเลยค่ะ แวะมาเริ่มต้นเรียนรู้ด้วยกันจะได้มีเพื่อนเรียนด้วย >.<

คุณ Holy ค่ะ อ่านตามลิงก์ที่ให้แล้วค่ะ เกิดข้อสงสัยว่า

- ถ้าเป็นรูปร่างที่ชัดเจนตามที่นักบุญแต่ละท่านกล่าวไว้เราทราบได้ว่าเป็นอารักขเทวดา แต่ถ้ามีแค่เสียงหรือความรู้สึกเราจะแยกได้อย่างไรคะว่าเป็นพระจิตหรืออารักขเทวดาที่มาคุ้มครองเรา?

ส่วนตรงนี้บิดตัวอาย >.< ในพระคัมภีร์ก็เขียนไว้อย่าสงสัย ไม่สงสัยนะคะแค่ไม่เข้าใจ : emo018 :

มาระโก 15
25ขณะที่เขาตรึงพระองค์นั้นเป็นเวลาประมาณเก้านาฬิกาd
d แปลตามตัวอักษร "สามโมงเช้า" หมายถึงเวลาระหว่างเก้าโมงเช้าถึงเที่ยง

33เมื่อถึงเวลาเที่ยง ทั่วแผ่นดินก็มืดไปจนกระทั่งถึงเวลาบ่ายสามโมง 34ครั้นถึงเวลาบ่ายสามโมง พระเยซูเจ้าทรงร้องเสียงดังว่า "เอโลอี เอโลอีf ลามา ซาบั๊กทานี" ซึ่งแปลว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า"


- ฉบับที่อ่านตอนแรกคือ สามโมงเช้า เลยเข้าใจว่านี่เป็นเหตุผลที่ให้สวดภาวนาตอนตีสาม กับ บ่ายสามโมง แท้จริงแล้วบทนี้ไม่เกี่ยวกับเวลาในการภาวนาใช่มั้ยคะ? (พอดีบทสวดสายประคำพระเมตตาให้สวดตอนบ่ายสามโมงซึ่งเป็นเวลาสิ้นพระชนม์ด้วยอ่ะค่ะ)

ลูกา 8

31ปีศาจเหล่านั้นพร่ำวอนพระองค์มิให้ทรงสั่งมันให้ลงไปในขุมลึกc

c ใน มก 5:10 ปีศาจได้อ้อนวอนพระเยซูเจ้า "อย่าขับไล่มันออกจากบริเวณนั้น" ใน ลก ปีศาจได้อ้อนวอนพระองค์ไม่ให้สั่งมันให้ลงไปในขุมลึกใต้แผ่นดินอันเป็นที่อยู่ตามปกติและเป็นบ้านที่มันจะต้องอยู่ตลอดไป (วว 9:1,2,11; 11:7; 17:8; 20:1,3)


- การที่ปีศาจเหล่านั้นไม่อยากกลับลงขุมลึกเลือกไปเข้าฝูงสุกรแล้วตาย จะทำให้ปีศาจตายด้วยหรือเปล่าคะ? แล้วปีศาจเหล่านั้นจะมีไปเกิดเผื่อกลับตัวหรือเปล่าคะหรือหากเป็นปีศาจแล้วไม่มีหนทางจะกลับมาหาพระเป็นเจ้าอีก?

ลูกา 9

30ทันใดนั้น บุรุษสองคนคือโมเสสและประกาศกเอลียาห์gมาสนทนากับพระองค์


- มีหลายครั้งที่ธรรมจารย์เก่าได้ยกอ้างว่าพระเยซูเป็นโมเสสกับเอลียาห์ พอไปอ่านเอลียาห์ก็จะกลับมาเช่นเดียวกันพระเยซู สามารถฟื้นคนตายได้เช่นกันเพราะเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เชื่อพระเยซูเป็นพระบุตรเหรอคะ? ในขณะเดียวกันทางอิสลามนับพระเยซูเป็นนะบีเหมือนนะบีท่านอื่น ๆ ก็เพราะเหตุผลนี้ด้วยเหรอคะ? (ข้อนี้ขออภัยที่กลายเป็นการยกเปรียบเทียบกลัวเป็นปัญหาความขัดแย้งจัง)

58พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า "สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ"

- สะดุดใจตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้วค่ะ บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะหมายถึงอะไรเหรอคะ?

ลก 10:21-22 ผู้ต่ำต้อยได้รับข่าวดี : พระบิดาและพระบุตร
ลก 10:23-24 สิทธิพิเศษของบรรดาศิษย์

f เปาโลเน้นข้อเท็จจริงที่ว่าพระเจ้าได้ทรงปิดบัง ‘ธรรมล้ำลึก' ไว้เป็นเวลายาวนาน (รม 16:25 เชิงอรรถ l ดู 1 ปต 1:11-12)


- สิ่งที่กล่าวไว้ในสอนบทนี้หมายถึงการที่ได้รับทราบว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรและเป็นผู้ไถ่ให้เรารอดเหรอคะ?

ลก 11:24-25 ปีศาจกลับมา

- หมายถึง ยามที่เราเคยได้รับรู้ถึงพระเป็นเจ้าแล้ว พระเป็นเจ้าเคยช่วยเราแล้วจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงแล้ว แต่เรากลับปฏิเสธพระองค์ สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นจะกลับในจำนวนที่มากกว่าเดิมร้ายกาจกว่าเดิมเหรอคะ?

ลูกา 12


6นกกระจอกห้าตัวราคาขายสองบาทมิใช่หรือ แม้กระนั้นไม่มีนกสักตัวเดียวที่พระเจ้าทรงลืม


- หมายถึง นกที่ราคาตัวหนึ่งไม่ถึงบาท (มีมูลค่าน้อยมาก) พระเป็นเจ้าก็ยังจำได้ แต่มนุษย์มีค่ามากกว่านกเสียอีกพระเป็นเจ้าย่อมรู้จักพวกเราเป็นอย่างดีใช่มั้ยคะ?

ลก 13:6-9 อุปมาเรื่องต้นมะเดื่อเทศไร้ผล

b เหตุการณ์เรื่องต้นมะเดื่อเทศถูกสาปให้เหี่ยวเฉาใน มก 11:20-25 อาจทำให้เราคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงเคร่งครัด แต่ ลก ใช้อุปมาเรื่องนี้เพื่อแสดงความเพียรอดทนของพระองค์มากกว่า

c "สามปีแล้ว" บางคนคิดว่า วลีนี้เป็นการกล่าวพาดพิงถึงระยะเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนตามที่เราทราบจากพระวรสารของยอห์น


- อ่านฉบับมธ. มก. ตอนแรกตัวเองเข้าใจว่าหมายถึงพระเป็นเจ้าทรงฤทธานุภาพที่จะให้สิ่งใดเป็นอย่างไรก็ได้ อ่านรอบสองกลายเป็นเข้าใจว่าต้นมะเดื่อเทศที่ไม่มีผลหมายถึงคนที่พระเยซูพร่ำสอนแต่ก็ไม่ได้เข้าใจความรักของพระองค์เลยสุดท้ายพระองค์จึงต้องพิพากษาคนเหล่านั้น แต่ในฉบับลูกานี้หมายถึงพระองค์จะให้โอกาสคนเหล่าออกไปอีกถามที่มีบ่าวของท่านทูลขอร้องไว้ แบบนี้เข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะ?

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 04, 2010 11:16 pm
โดย Holy
- ถ้าเป็นรูปร่างที่ชัดเจนตามที่นักบุญแต่ละท่านกล่าวไว้เราทราบได้ว่าเป็นอารักขเทวดา แต่ถ้ามีแค่เสียงหรือความรู้สึกเราจะแยกได้อย่างไรคะว่าเป็นพระจิตหรืออารักขเทวดาที่มาคุ้มครองเรา?
จริงๆแล้วจะเป็นพระจิตหรือทูตสวรรค์ก้มาจากแหล่งเดียวกันคือพระเจ้า โดยปรกติพระเจ้าใช้ทูตสวรรค์ทำงานให้พระองค์ และขณะเดียวกัน ทูตสวรรค์ส่วนมากทำงานอย่างเงียบๆคือไม่ชอบโชว์ตัว เพราะพวกท่านไม่ได้ต้องการความดีความชอบอะไรจากมนุษย์ นอกจากบรรดานักบุญที่มีพระพรพิเศษ หรือมีเหตุผล ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องสนใจมากนักว่านี่คือใครที่ทำงาน เพราะจะใครทำงานก็มาจากพระเจ้าทั้งนั้นครับ

ส่วนตรงนี้บิดตัวอาย >.< ในพระคัมภีร์ก็เขียนไว้อย่าสงสัย ไม่สงสัยนะคะแค่ไม่เข้าใจ : emo018 :

มาระโก 15
25ขณะที่เขาตรึงพระองค์นั้นเป็นเวลาประมาณเก้านาฬิกาd
d แปลตามตัวอักษร "สามโมงเช้า" หมายถึงเวลาระหว่างเก้าโมงเช้าถึงเที่ยง

33เมื่อถึงเวลาเที่ยง ทั่วแผ่นดินก็มืดไปจนกระทั่งถึงเวลาบ่ายสามโมง 34ครั้นถึงเวลาบ่ายสามโมง พระเยซูเจ้าทรงร้องเสียงดังว่า "เอโลอี เอโลอีf ลามา ซาบั๊กทานี" ซึ่งแปลว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า"


- ฉบับที่อ่านตอนแรกคือ สามโมงเช้า เลยเข้าใจว่านี่เป็นเหตุผลที่ให้สวดภาวนาตอนตีสาม กับ บ่ายสามโมง แท้จริงแล้วบทนี้ไม่เกี่ยวกับเวลาในการภาวนาใช่มั้ยคะ? (พอดีบทสวดสายประคำพระเมตตาให้สวดตอนบ่ายสามโมงซึ่งเป็นเวลาสิ้นพระชนม์ด้วยอ่ะค่ะ)
ความจริงเราสวดภาวนาตอนไหนก็ได้ครับ แต่การที่แนะนำให้สวดในเวลาที่สิ้นพระชนม์ก็มาจากการต้องการให้ระลึกถึงการสิ้นพระชนมืเพื่อไถ่บาปเราเป็นพิเศษ

ลูกา 8

31ปีศาจเหล่านั้นพร่ำวอนพระองค์มิให้ทรงสั่งมันให้ลงไปในขุมลึกc

c ใน มก 5:10 ปีศาจได้อ้อนวอนพระเยซูเจ้า "อย่าขับไล่มันออกจากบริเวณนั้น" ใน ลก ปีศาจได้อ้อนวอนพระองค์ไม่ให้สั่งมันให้ลงไปในขุมลึกใต้แผ่นดินอันเป็นที่อยู่ตามปกติและเป็นบ้านที่มันจะต้องอยู่ตลอดไป (วว 9:1,2,11; 11:7; 17:8; 20:1,3)


- การที่ปีศาจเหล่านั้นไม่อยากกลับลงขุมลึกเลือกไปเข้าฝูงสุกรแล้วตาย จะทำให้ปีศาจตายด้วยหรือเปล่าคะ? แล้วปีศาจเหล่านั้นจะมีไปเกิดเผื่อกลับตัวหรือเปล่าคะหรือหากเป็นปีศาจแล้วไม่มีหนทางจะกลับมาหาพระเป็นเจ้าอีก?
ปีศาจนั้นเป็นจิตวิญญาณอยู่แล้วครับ ดังนั้นจิตมันไม่สามารถตายได้ แต่การที่มันอาศัยร่างหมู ตายพร้อมหมู ก็อนุมานได้ว่าจพทำให้มันไปอยู่ที่ ที่ไม่ใช่นรกในทันที แต่จะเป็นอย่างไรนั้น พระคัมภีร์ไม่ได้บอกไว้่ แต่เชื่อว่ามันคงไปที่ที่ไม่แย่เท่านรก

จิตต่างๆสามารถเลือกที่จะเชื่อฟังหรือต่อต้านพระเจ้าได้ตามอำเภอใจที่มี ในความเชื่อคริสตศาสนามีการพิพากษาครั้งสุดท้ายเมื่อสิ้นพิภพ และในเวลานั้นทั้งจิตของมนุษย์และทูตสวรรค์ตลอดจนปีศาจก็จะถูกตัดสินด้วย ดังนั้นก็อาจเป็นได้ว่าวาระสุดท้ายพระเจ้าจะทรงกระทำอะไรอีกมากมายที่เราไม่อาจรู้ครับ
ลูกา 9

30ทันใดนั้น บุรุษสองคนคือโมเสสและประกาศกเอลียาห์gมาสนทนากับพระองค์


- มีหลายครั้งที่ธรรมจารย์เก่าได้ยกอ้างว่าพระเยซูเป็นโมเสสกับเอลียาห์ พอไปอ่านเอลียาห์ก็จะกลับมาเช่นเดียวกันพระเยซู สามารถฟื้นคนตายได้เช่นกันเพราะเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เชื่อพระเยซูเป็นพระบุตรเหรอคะ? ในขณะเดียวกันทางอิสลามนับพระเยซูเป็นนะบีเหมือนนะบีท่านอื่น ๆ ก็เพราะเหตุผลนี้ด้วยเหรอคะ? (ข้อนี้ขออภัยที่กลายเป็นการยกเปรียบเทียบกลัวเป็นปัญหาความขัดแย้งจัง)
ไม่ใช่เหตุผลนี้หรอกครับ การที่เขาไม่เชื่อพระเยซู เป้นเพราะเขาวางสเปกของพระผู้ไถ่ไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะต้องมาอย่างยิ่งใหญ่เป้นกษัตริย์กู้ชาติ แต่พระเยซูมากู้วิญญาณซึ่งมาอีกแนวนึงเลย ชาวยิวบางคนที่มีเสปกไว้อีกแบบจึงรับไม่ได้


58พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า "สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ"

- สะดุดใจตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้วค่ะ บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะหมายถึงอะไรเหรอคะ?
พระองค์ตรัสในทำนองว่าพระองค์เดินทางร่อนเร่เทศนา มีความยากลำบาก บางคืนนอนกลางดินกินกลางทราย สำนวนไทยว่า ไม่มีที่จะซุกหัวนอน นั่นแหละครับ พระองค์ตรัสให้คนที่จะมาติดตามพระองค์ เตรียมใจไว้ก่อนว่า เป็นคริสต์ไม่ใช่มาสบาย พระองค์ก็ดำรงชีวิตอยู่ในโลกอย่างลำบากเช่นกัน

ลก 10:21-22 ผู้ต่ำต้อยได้รับข่าวดี : พระบิดาและพระบุตร
ลก 10:23-24 สิทธิพิเศษของบรรดาศิษย์

f เปาโลเน้นข้อเท็จจริงที่ว่าพระเจ้าได้ทรงปิดบัง ‘ธรรมล้ำลึก' ไว้เป็นเวลายาวนาน (รม 16:25 เชิงอรรถ l ดู 1 ปต 1:11-12)


- สิ่งที่กล่าวไว้ในสอนบทนี้หมายถึงการที่ได้รับทราบว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรและเป็นผู้ไถ่ให้เรารอดเหรอคะ?
ใช่ครับ

ลก 11:24-25 ปีศาจกลับมา

- หมายถึง ยามที่เราเคยได้รับรู้ถึงพระเป็นเจ้าแล้ว พระเป็นเจ้าเคยช่วยเราแล้วจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงแล้ว แต่เรากลับปฏิเสธพระองค์ สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นจะกลับในจำนวนที่มากกว่าเดิมร้ายกาจกว่าเดิมเหรอคะ?
ทำนองนั้นครับ พูดง่ายๆก็คืออย่าประมาท เพราะวันข้างหน้า เราอาจตกในบาป หรือตกในการครอบงำของผีปีศาจที่แย่กว่าเดิมได้ เมื่อบ้าน(จิตวิญญาณ)เก็บกวาดสะอาดแล้ว อย่าปล่อยให้มีที่ว่าง แต่ให้เติมเต็มด้วยพระจิตเจ้า เพื่อจะไม่กลับไปตกในสภาพที่แย่อีก

ลูกา 12


6นกกระจอกห้าตัวราคาขายสองบาทมิใช่หรือ แม้กระนั้นไม่มีนกสักตัวเดียวที่พระเจ้าทรงลืม


- หมายถึง นกที่ราคาตัวหนึ่งไม่ถึงบาท (มีมูลค่าน้อยมาก) พระเป็นเจ้าก็ยังจำได้ แต่มนุษย์มีค่ามากกว่านกเสียอีกพระเป็นเจ้าย่อมรู้จักพวกเราเป็นอย่างดีใช่มั้ยคะ?

ใช่ครับ



ลก 13:6-9 อุปมาเรื่องต้นมะเดื่อเทศไร้ผล

b เหตุการณ์เรื่องต้นมะเดื่อเทศถูกสาปให้เหี่ยวเฉาใน มก 11:20-25 อาจทำให้เราคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงเคร่งครัด แต่ ลก ใช้อุปมาเรื่องนี้เพื่อแสดงความเพียรอดทนของพระองค์มากกว่า

c "สามปีแล้ว" บางคนคิดว่า วลีนี้เป็นการกล่าวพาดพิงถึงระยะเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนตามที่เราทราบจากพระวรสารของยอห์น


- อ่านฉบับมธ. มก. ตอนแรกตัวเองเข้าใจว่าหมายถึงพระเป็นเจ้าทรงฤทธานุภาพที่จะให้สิ่งใดเป็นอย่างไรก็ได้ อ่านรอบสองกลายเป็นเข้าใจว่าต้นมะเดื่อเทศที่ไม่มีผลหมายถึงคนที่พระเยซูพร่ำสอนแต่ก็ไม่ได้เข้าใจความรักของพระองค์เลยสุดท้ายพระองค์จึงต้องพิพากษาคนเหล่านั้น แต่ในฉบับลูกานี้หมายถึงพระองค์จะให้โอกาสคนเหล่าออกไปอีกถามที่มีบ่าวของท่านทูลขอร้องไว้ แบบนี้เข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะ?
จริงๆเรื่องนี้ เป็นคนละเหตุการณ์กัน แต่ยกมาเปรียบเทียบกันครับ คือเรื่องแรกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของพระเยซู แต่อีกเรื่องเป็นเรื่องที่พระเยซูเล่านิทานเปรียบเทียบ เพื่อสอนคน แต่ที่เขายก2เรื่องนี้มาเทียบกันก็เพื่อจะบอกว่า คนอ่านเรื่องแรกอาจคิดว่าพระองค์ดูดุ เด็ดขาด แต่ให้คิดว่า เรื่องแรกมันคือต้นไม้จริงๆ แต่เรื่องที่2เมื่อเปรียบต้นมะเดื่อเป็นคน จะรู้ว่าที่จริงพระองค์ให้โอกาสและเวลาแก่ทุกคนเสมอ ไม่ใช่จะลงโทษทันทีแบบเห็นคนเป็นผักปลา กล่าวคือพระองค์ปฎิบัติต่อมนุษย์ดีกว่าต้นไม้หรือสัตว์แน่นอน ส่วนในความหมายที่คุณเข้าใจในเรื่องที่2ก็ถูกต้องแล้วครับ พระเจ้ามีพระเมตตาไม่สิ้นสุด แต่เวลาที่จะกลับใจมันมีจำกัดนะครับ การโดนตัดก็เหมือนคนที่หมดโอกาส อาจจะถึงเวลาตาย ยังไม่กลับตัว ตายไปทั้งยังไม่มีผลกรรมดีใดๆก็โดนตัดสินลงโทษครับ นอกจากนี้ยังสะท้อนบทบาทการทรงไถ่ของพระเยซู พระบิดา และมนุษย์เราครับ กล่าวคือพระเยซูเสด็จมาขออภัยโทษเพื่อมนุษย์เราแล้ว ถ้ามนุษย์คนนั้นๆเองไม่ตอบสนองตราบที่ยังมีโอกาส(ออกผล) ถ้าตายไปโดนพิพากษาลงโทษอย่าโทษพระเจ้า ต้องโทษว่าตัวเองได้รับโอกาสและความช่วยเหลือแล้วแต่ไม่ตอบรับปรับปรุงตัวเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเป็นคริสต์ ต้องมาล้างบาป รับเชื่อ และเป็นคริสตชน เพราะถ้าเราอยากได้รับการไถ่จากพระเยซู ซึ่งได้ลงมาไถ่ไว้ก่อนแล้ว เราต้องทำส่วนของเราคือการตอบรับความช่วยเหลือนั้น คือเราเองต้องรับเชื่อล้างบาป กลับตัวกลับใจทำตามที่พระเยซูสอนด้วย

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 06, 2010 12:52 am
โดย littleseal
: xemo017 : ขอบคุณมากค่ะ อ่านทวนซ้ำหลายรอบให้เข้าใจเลยค่ะ
พอเริ่มอ่านบทยอห์นแล้วมีอะไรไม่เข้าใจเยอะขึ้นอีก
จะพยายามหาคำตอบจากที่อื่นให้ได้ก่อนนะคะ
ไม่เข้าใจจริง ๆ จะมาโพสถามอีกค่ะ ขอโทษค่ะ
ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ เลยที่ร้องถาม "ทำไม ๆ " ไม่หยุด
แอบอายตัวเอง

ศรัทธาต่อพระเป็นเจ้ามีเพิ่มขึ้น ๆ นะคะไม่ได้ลดน้อยลงเลย

ขอให้พระเป็นเจ้าอวยพรทุกท่านค่ะ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 06, 2010 4:10 am
โดย Holy
ยินดีรับใช้ครับ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 08, 2010 5:35 pm
โดย littleseal
นี่คือคำสารภาพค่ะ

ตอนแรกตั้งใจจะอ่านไบเบิ้ลใหม่ให้จบใน 10 วัน และจะอ่านไบเบิ้ลเก่ากับอัลกุรอานต่อ เพราะอยากรู้คำสอนที่พระเป็นเจ้ามอบให้ไว้ทั้งหมด จิตใจตัวเองตอนนั้นเหมือนคนขาดน้ำกลางทะเลทราย พอพบบ่อน้ำก็รีบจ้วงตักดื่มโดยไม่รู้ว่านั่นจะทำให้ตาย

พอถึงอ่านจบบทของลูกากำลังจะขึ้นบทของยอห์นก็มีบางอย่างทำให้สะดุด และเป็นช่วงพอดีที่หนังสือแม่รักลูกส่งมาถึงบ้าน

เป็นสิ่งที่ราวกับอัศจรรย์ที่แม่พระทรงเตือน

หน้าแรกที่พบและสายตาเห็นเป็นข้อความประมาณ "ลูกเลือกที่จะกระทำเองอย่ากล่าวโทษว่าเป็นน้ำพระทัยของพระบิดา" ตอนนั้นสะดุ้งเล็ก ๆ แต่พอมือพลิกไปอีกหน้าข้อความที่เห็นประมาณ "สิ่งที่แม่บอกไปก่อนหน้านี้ ลูกได้เข้าใจและได้นำปฏิบัติหรือยัง จึงต้องการให้แม่กล่าวอะไรอีก" และเจออีกข้อความคือ "ลูกอ่านสาสน์ที่แม่ให้เพียงแค่ผ่านตาไปแต่คำสอนไม่ได้เข้าใจในหัวใจลูกเลย" (ข้อความไม่ตรงกับหนังสือเอาจากที่ความทรงจำจำได้)

: emo031 :

ขอโทษค่ะ

ขอโทษพระเป็นเจ้า ขอโทษพระแม่ค่ะ

จากนี้จะค่อย ๆ อ่านและไตร่ตรองให้มากกว่าเดิม

ขอถามเพิ่มนะคะ

ลก 14

34‘เกลือเป็นสิ่งดี แต่ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาสิ่งใดมาทำให้เค็มได้เล่า 35เกลือนั้นย่อมไม่มีประโยชน์ทั้งสำหรับดินและสำหรับเป็นปุ๋ย มีแต่จะถูกโยนทิ้งเท่านั้น ใครมีหูสำหรับฟัง ก็จงฟังเถิด'


- หมายถึง คนดีมีความรู้แต่ถ้าไม่มีศรัทธาเหรอคะ? ช่วยอธิบายเพิ่มในส่วนนี้ด้วยค่ะ

ลก 16:1-8 ความฉลาดของผู้จัดการ

8‘นายนึกชมผู้จัดการทุจริตคนนั้นbว่าเขาทำอย่างเฉลียวฉลาด ทั้งนี้ก็เพราะบุตรของโลกนี้มีความเฉลียวฉลาดในการติดต่อกับคนประเภทเดียวกันมากกว่าบุตรของความสว่าง'

b นักวิชาการบางคนอธิบายว่าในสมัยนั้นผู้จัดการดูแลผลประโยชน์คงจะได้รับค่านายหน้าจากการขายสินค้าของนาย ซึ่งเป็นรายได้อย่างเดียวของเขาเพราะไม่มีเงินเดือน เพราะฉะนั้นในกรณีนี้จำนวนสินค้าที่ส่งให้จริงคงมีเพียงน้ำมันมะกอกห้าสิบถังและข้าวสาลีเพียงแปดสิบกระสอบ เมื่อผู้จัดการลดจำนวนสินค้าในใบสำคัญ จึงเป็นการสละผลประโยชน์ที่เขาควรจะได้รับเท่านั้น โดยไม่ทำให้นายต้องเสียผลประโยชน์ นายจึงยกย่องเขาเป็น ‘คนฉลาด' ผู้จัดการผู้นี้ได้ชื่อว่า ‘ทุจริต' (ข้อ 8) เพราะการกระทำในเรื่องอื่นก่อนหน้านั้น ไม่ใช่เรื่องนี้


- ช่วยขยายความด้วยค่ะ ตรงนี้ไม่เข้าใจ เพราะ นายเสียผลประโยชน์ได้จำนวนของไม่ครบทำไมถึงยังชม

ลก 20:9-19 อุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย

- เจ้าของสวนหมายถึงพระเป็นเจ้า คนรับใช้คือผู้เผยแพร่พระวจนะที่ผ่าน ๆ มา แล้วบุตรเจ้าของสวนหมายถึงพระเยซู คนเช่าสวนหมายถึงคนในยุคสมั้ยนั้นใช่มั้ยคะ?

หินที่ช่างก่อสร้างทิ้งเสียนั้น ได้กลายเป็นศิลาหัวมุม

18ทุกคนที่ล้มลงบนหินก้อนนั้นจะแหลกเป็นชิ้น ๆ หินก้อนนี้ตกทับผู้ใด ผู้นั้นจะแหลกเป็นชิ้น ๆ เช่นเดียวกัน


- ช่วยอธิบายด้วยค่ะ หิน ในที่นี่หมายถึงอะไร?

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 08, 2010 10:23 pm
โดย Holy
littleseal เขียน:นี่คือคำสารภาพค่ะ

ตอนแรกตั้งใจจะอ่านไบเบิ้ลใหม่ให้จบใน 10 วัน และจะอ่านไบเบิ้ลเก่ากับอัลกุรอานต่อ เพราะอยากรู้คำสอนที่พระเป็นเจ้ามอบให้ไว้ทั้งหมด จิตใจตัวเองตอนนั้นเหมือนคนขาดน้ำกลางทะเลทราย พอพบบ่อน้ำก็รีบจ้วงตักดื่มโดยไม่รู้ว่านั่นจะทำให้ตาย

พอถึงอ่านจบบทของลูกากำลังจะขึ้นบทของยอห์นก็มีบางอย่างทำให้สะดุด และเป็นช่วงพอดีที่หนังสือแม่รักลูกส่งมาถึงบ้าน

เป็นสิ่งที่ราวกับอัศจรรย์ที่แม่พระทรงเตือน

หน้าแรกที่พบและสายตาเห็นเป็นข้อความประมาณ "ลูกเลือกที่จะกระทำเองอย่ากล่าวโทษว่าเป็นน้ำพระทัยของพระบิดา" ตอนนั้นสะดุ้งเล็ก ๆ แต่พอมือพลิกไปอีกหน้าข้อความที่เห็นประมาณ "สิ่งที่แม่บอกไปก่อนหน้านี้ ลูกได้เข้าใจและได้นำปฏิบัติหรือยัง จึงต้องการให้แม่กล่าวอะไรอีก" และเจออีกข้อความคือ "ลูกอ่านสาสน์ที่แม่ให้เพียงแค่ผ่านตาไปแต่คำสอนไม่ได้เข้าใจในหัวใจลูกเลย" (ข้อความไม่ตรงกับหนังสือเอาจากที่ความทรงจำจำได้)

: emo031 :

ขอโทษค่ะ

ขอโทษพระเป็นเจ้า ขอโทษพระแม่ค่ะ

จากนี้จะค่อย ๆ อ่านและไตร่ตรองให้มากกว่าเดิม

แนะนำว่า เมื่ออ่านพระะรรมใหม่จบแล้ว ให้อ่านพระธรรมเดิมต่อแทนการอ่านกรุอ่าน เพราะมิฉะนั้นจะสับสนอย่างแน่นอน ในกรุอ่านเองมีจุดที่เขียนโจมตีไบเบิ้ลทั้งใหม่และเก่าอยู่ด้วย โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าไบเบิ้ลถูกบิดเบือนหรือดัดแปลง ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และหลักฐานการไขแสดงจากพระเจ้าเอง นอกจากนี้ รายละเอียดหลายอย่างที่พาดพิงถึงบุคคลในไบเบิ้ลพระธรรมใหม่และพระธรรมเดิม ก็แตกต่างไปจากไบเบิ้ลต้นฉบับหลายอย่างหลายประการ ดังนั้นลองอ่านพระธรรมเดิมต่อแล้วจะพบความสอดคล้องกันของไบเบิ้ลพระะรรมเดิมและพระธรรมใหม่ แต่ถ้าไปอ่านกรุอ่านจะพบจุดที่ขัดแย้งกับไบเบิ้ลทั้งใหม่และเก่ามากมายซึ่งจะทำให้สับสนครับ

พระธรรมเดิมอ่านทางเนตได้ที่นี่ครับ

http://www.thaicatholicbible.com/OT_main.html

และบทความน่าสนใจมากมายครับ
http://www.reocities.com/prakobkit/new3/38.html

ขอถามเพิ่มนะคะ

ลก 14

34‘เกลือเป็นสิ่งดี แต่ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาสิ่งใดมาทำให้เค็มได้เล่า 35เกลือนั้นย่อมไม่มีประโยชน์ทั้งสำหรับดินและสำหรับเป็นปุ๋ย มีแต่จะถูกโยนทิ้งเท่านั้น ใครมีหูสำหรับฟัง ก็จงฟังเถิด'


- หมายถึง คนดีมีความรู้แต่ถ้าไม่มีศรัทธาเหรอคะ? ช่วยอธิบายเพิ่มในส่วนนี้ด้วยค่ะ
ลองอ่านอันนี้ครับ

http://www.catholic.or.th/spiritual/hom ... une08.html

ลก 16:1-8 ความฉลาดของผู้จัดการ

8‘นายนึกชมผู้จัดการทุจริตคนนั้นbว่าเขาทำอย่างเฉลียวฉลาด ทั้งนี้ก็เพราะบุตรของโลกนี้มีความเฉลียวฉลาดในการติดต่อกับคนประเภทเดียวกันมากกว่าบุตรของความสว่าง'

b นักวิชาการบางคนอธิบายว่าในสมัยนั้นผู้จัดการดูแลผลประโยชน์คงจะได้รับค่านายหน้าจากการขายสินค้าของนาย ซึ่งเป็นรายได้อย่างเดียวของเขาเพราะไม่มีเงินเดือน เพราะฉะนั้นในกรณีนี้จำนวนสินค้าที่ส่งให้จริงคงมีเพียงน้ำมันมะกอกห้าสิบถังและข้าวสาลีเพียงแปดสิบกระสอบ เมื่อผู้จัดการลดจำนวนสินค้าในใบสำคัญ จึงเป็นการสละผลประโยชน์ที่เขาควรจะได้รับเท่านั้น โดยไม่ทำให้นายต้องเสียผลประโยชน์ นายจึงยกย่องเขาเป็น ‘คนฉลาด' ผู้จัดการผู้นี้ได้ชื่อว่า ‘ทุจริต' (ข้อ 8) เพราะการกระทำในเรื่องอื่นก่อนหน้านั้น ไม่ใช่เรื่องนี้


- ช่วยขยายความด้วยค่ะ ตรงนี้ไม่เข้าใจ เพราะ นายเสียผลประโยชน์ได้จำนวนของไม่ครบทำไมถึงยังชม
ลองอ่านอันนี้ครับ

http://josephpornchai.blogspot.com/2007/09/25-c2.html
ลก 20:9-19 อุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย

- เจ้าของสวนหมายถึงพระเป็นเจ้า คนรับใช้คือผู้เผยแพร่พระวจนะที่ผ่าน ๆ มา แล้วบุตรเจ้าของสวนหมายถึงพระเยซู คนเช่าสวนหมายถึงคนในยุคสมั้ยนั้นใช่มั้ยคะ?
ใช่ครับ
หินที่ช่างก่อสร้างทิ้งเสียนั้น ได้กลายเป็นศิลาหัวมุม

18ทุกคนที่ล้มลงบนหินก้อนนั้นจะแหลกเป็นชิ้น ๆ หินก้อนนี้ตกทับผู้ใด ผู้นั้นจะแหลกเป็นชิ้น ๆ เช่นเดียวกัน


- ช่วยอธิบายด้วยค่ะ หิน ในที่นี่หมายถึงอะไร?
อันนี้ครับ http://www.thaicatholicbible.com/Year%20A/week%2021.htm

มีคำตอบเรื่องเก่าที่เคยถามด้วย

อยากเปลี่ยวหัวข้อ แหะ ๆ เหมือนถามเรื่องในไบเบิ้ลทุกเรื่องมาก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 4:16 pm
โดย littleseal
มิใช่ปล่อยให้คนชั่วทำความชั่ว แล้วเอาอย่างกัน

- เห็นด้วยเลยค่ะ ตอนนี้ได้ยินแต่ "ไม่เห็นเป็นไรเลย ใคร ๆ ก็ทำกัน" ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ดีแต่ก็ทำ เศร้าใจแทน...

ลก 16:1-8 ความฉลาดของผู้จัดการ

- อ่านคำแปลแล้วทำให้คิดว่าคำสอนนี้ใครแปลผิดตีความไม่ครบจะกลายเป็นเรื่องไม่ดีเลย นอกจากฉลาดแล้วต้องซื่อสัตย์ มีคุณธรรมประกอบแล้วจึงจะครบถ้วน = ="

“ บรรดาอัครสาวกและประกาศกเป็นรากฐาน มีพระคริสตเยซูทรงเป็นศิลาหัวมุม” (อฟ 2:20)

- ขอบคุณมากเลยค่ะ เข้าใจนัยนี้แล้ว เข้าใจเรื่องพระเมสสิยาห์กับผู้ประกาศเอลิยาห์แล้วค่ะ

ขอบคุณคุณ Holy อีกครั้งค่ะ ^^ เว็บที่แนะนำจะค่อย ๆ ตามอ่านนะคะ (ยังอ่านบทความในเว็บนิวมานาไม่ครบเลย แหะๆ)

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 09, 2010 10:01 pm
โดย Holy
ไม่ต้องรีบร้อนครับ ค่อยๆอ่านค่อยๆเข้าใจและค่อยๆปฎิบัติ เริ่มจากง่ายๆก่อนครับ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 12, 2010 12:28 am
โดย littleseal
เคยอ่านเจอจากที่หนึ่งเขาว่า มีการแฝงคำสอนในการสวดสายประคำจากบทรำพึงต่าง ๆ ที่อ่านเขายกตัวอย่างมีแค่ข้อเดียวคือ บทรำพึงทูตสวรรค์แจ้งข่าวแก่พระนางมารี หมายถึง การสอนความสมถะ, เรียบง่ายและถ่อมตน

ลองหาจากหลายที่แล้วส่วนใหญ่จะมีแต่สอนสวดแต่ไม่มีการอธิบายคำสอนที่แฝงอยู่ไม่ทราบว่าจะหาอ่านจากที่ไหนได้บ้างคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 13, 2010 11:39 pm
โดย littleseal
ขออนุญาตถามที่กระทู้เดิมตลอดนะคะ เพราะกะจะเซฟเก็บเป็นคู่มือของตัวเองเลยไม่อยากให้กระจัดกระจายหลาย ๆ กระทู้ค่ะ

อ่านต่อไปอีกนิดได้ขอซักถามมาเพิ่มค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยชี้ทางสว่างค่ะ

- ช่วงเวลา 3 วันที่พระเยซูเสด็จสู่แดนมรณะ พระองค์ไปทำอะไรเหรอคะ? เอาชนะเหล่าบาปและซาตานเพื่อชนะความตายเหรอคะ?

กจ 5:1-11 อานาเนียและสัปฟีราผู้ไม่ซื่อตรง

- เหตุที่ท่านเปโตรลงโทษทั้งคู่อย่างรุนแรงถึงความตายเพราะความโลภและการโกหกต่อพระจิตที่สถิตอยู่กับท่านเปโตรเท่านั้นเหรอคะ? ทำไมต้องถึงตายด้วยคะ? หรือเพราะตอนพระเยซูอยู่ดำรงอยู่ท่านเคยกล่าวว่าจะไม่ให้อภัยคนที่ดูหมิ่นพระจิต ท่านเปโตรจึงต้องกระทำให้เป็นแบบอย่างเพราะไม่มีพระเยซูที่จะให้อภัยคนทั้งคู่ได้อีกแล้วเพื่อให้คนกลัวเกรง?

กจ 7:1-54 คำปราศรัยของสเทเฟน

43เปล่าเลย ท่านแบกกระโจมของพระโมลอคและดาวของพระเรฟานซึ่งเป็นรูปเคารพที่เจ้าปั้นขึ้นเพื่อนมัสการดังนั้น


-พระโมลอคและดาวของพระเรฟานคืออะไร?

กจ 15:13-21 คำปราศรัยของยากอบ

20ควรเขียนจดหมายไปบอกเขาให้งดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายแก่รูปเคารพแล้วt ให้งดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายu และงดเว้นการกินเลือดและเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอให้ตาย

- ก่อนหน้านี้พระเยซูเคยสั่งสอนว่าสิ่งที่มนุษย์นำเข้าปากไม่ได้มีมลทิน แต่สิ่งที่มนุษย์นำออกมาต่างหากที่เป็นมลทิน แล้วเช่นนี้ควรจะเชื่อประโยคไหนคะ?

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 14, 2010 12:26 am
โดย Holy
littleseal เขียน:ขออนุญาตถามที่กระทู้เดิมตลอดนะคะ เพราะกะจะเซฟเก็บเป็นคู่มือของตัวเองเลยไม่อยากให้กระจัดกระจายหลาย ๆ กระทู้ค่ะ

อ่านต่อไปอีกนิดได้ขอซักถามมาเพิ่มค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยชี้ทางสว่างค่ะ

- ช่วงเวลา 3 วันที่พระเยซูเสด็จสู่แดนมรณะ พระองค์ไปทำอะไรเหรอคะ? เอาชนะเหล่าบาปและซาตานเพื่อชนะความตายเหรอคะ?
1ปต 3:18-22 การเสด็จสู่แดนผู้ตายและการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า
(18)พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพียงครั้งเดียวเพราะบาป พระองค์ผู้ทรงชอบธรรมสิ้นพระชนม์เพื่อคนอธรรม พระองค์จะทรงนำเราไปเฝ้าพระเจ้า พระองค์ทรงถูกประหารในสภาพมนุษย์ แต่พระจิตเจ้าประทานชีวิตให้พระองค์อีก (19)พระจิตเจ้ายังทรงนำพระองค์ไปประกาศความรอดพ้นแก่จิตที่ถูกจองจำ (20)ในกาลก่อน จิตเหล่านี้ไม่ยอมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงอดทนรอคอย ขณะที่โนอาห์กำลังต่อเรือ ซึ่งช่วยชีวิตคนจำนวนน้อย นั่นคือเพียงแปดชีวิตให้รอดพ้นจากน้ำวินาศ (21)น้ำนั้นเป็นรูปแบบของศีลล้างบาปที่ช่วยท่านให้รอดพ้นในเวลานี้ มิใช่เป็นการชำระล้างมลทินทางร่างกาย แต่เป็นการวอนขอต่อพระเจ้าด้วยมโนธรรมบริสุทธิ์เดชะการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า (22)ผู้เสด็จสู่สวรรค์และประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าโดยมีทูตสวรรค์ทั้งศักดิเทพและอิทธิเทพทั้งหลายอยู่ใต้พระอำนาจของพระองค์



กจ 5:1-11 อานาเนียและสัปฟีราผู้ไม่ซื่อตรง

- เหตุที่ท่านเปโตรลงโทษทั้งคู่อย่างรุนแรงถึงความตายเพราะความโลภและการโกหกต่อพระจิตที่สถิตอยู่กับท่านเปโตรเท่านั้นเหรอคะ? ทำไมต้องถึงตายด้วยคะ? หรือเพราะตอนพระเยซูอยู่ดำรงอยู่ท่านเคยกล่าวว่าจะไม่ให้อภัยคนที่ดูหมิ่นพระจิต ท่านเปโตรจึงต้องกระทำให้เป็นแบบอย่างเพราะไม่มีพระเยซูที่จะให้อภัยคนทั้งคู่ได้อีกแล้วเพื่อให้คนกลัวเกรง?
พระจิตเจ้าลงโทษครับไม่ใช่เปโตร เปโตรแค่เป็นคนสอบสวนและพยายามให้เขาสารภาพกันเพื่อจะไม่ต้องตาย แต่เขาเลือกที่จะโกหกกัน

กจ 7:1-54 คำปราศรัยของสเทเฟน

43เปล่าเลย ท่านแบกกระโจมของพระโมลอคและดาวของพระเรฟานซึ่งเป็นรูปเคารพที่เจ้าปั้นขึ้นเพื่อนมัสการดังนั้น


-พระโมลอคและดาวของพระเรฟานคืออะไร?
เป็นพวกเทพในศาสนาโบราณของชนชาติเพื่อนบ้านชาวยิวครับ
กจ 15:13-21 คำปราศรัยของยากอบ

20ควรเขียนจดหมายไปบอกเขาให้งดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายแก่รูปเคารพแล้วt ให้งดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายu และงดเว้นการกินเลือดและเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอให้ตาย

- ก่อนหน้านี้พระเยซูเคยสั่งสอนว่าสิ่งที่มนุษย์นำเข้าปากไม่ได้มีมลทิน แต่สิ่งที่มนุษย์นำออกมาต่างหากที่เป็นมลทิน แล้วเช่นนี้ควรจะเชื่อประโยคไหนคะ?
จริงๆแล้วในบทนั้น พระเยซูไม่ได้ตรัสอย่างเจาะจงว่าให้ยกเลิกกฎการห้ามรับประทานทุกข้อที่อยู่ในพระธรรมเดิม เพียงแต่บอกว่ามลทินมาจากไหนมากกว่า ดังนั้น ในยุคสมัยถัดมา อัครสาวกที่เป็นชาวยิวยังคงไม่รับประทานอาหารที่ต้องห้ามต่างๆที่อยู่ในบทเลวีนิติ แต่กฎการห้ามกินเลือดนั้นอยู่ในบทปฐมกาลเลย ดังนั้น เมื่อมีคนต่างชาติต่างศาสนามารับเชื่อเกิดคำถามว่าพวกเขาต้องมาถือกฎการกินหรือเข้าสุหนัตก่อนแบบชาวยิวไหม ท่านนักบุญเปาโลเป้นคนเอาเรื่องนี้เข้าเสนอที่ประชุม เพราะชาวยิวที่สืบทอดกันมาอยู่ในสังคมยิวเกิดมากินอะไรไม่กินอะไรเป้นธรรมเนี่ยมกันตั้งแต่จำความได้ แต่คนต่างชาติไม่เคยมาใช้ชีวิตแบบนี้พอมาเชื่อพระเยซูเกิดเหตุขัดแย้งขึ้นคือ ฝ่ายนักบุญเปาโลที่มองว่าสาระสำคัญของความรอดอยู่ที่การเชื่อพระเยซูไม่ใช่อยู่ที่การทำตามธรรมบัญญัติอย่างการเข้าสุหนัตหรือห้ามกินโน่นนี่ แต่ชาวยิวอื่นๆที่มาเชื่อพระเยซู(ซึ่งปฎิบัติการห้ามกินและเข้าสุหนัตกันตั้งแต่เด็ก)มองว่าคริสตชนใหม่ที่มาจากคนต่างชาติก็ควรทำแบบชาวยิวคือทำตามกฎข้ออื่นๆด้วย ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ที่คนต่างชาติมากมายไม่สามรถมารับทำกฏยิบย่อยและโดยเฉพาะเรื่องการขลิบอวัยวะเพศตอนโต(สุหนัต)พาลให้ไม่กล้ารับเชื่อกัน จึงเกิดการสังคยานาครั้งแรกนี้ขึ้น โดย น.เปโตรผู้เป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกเมื่อรับทราบปัญหาที่น.เปาโลแจ้งแล้ว ก็เรียกประชุม และใช้สิทธิของพระสันตะปาปา(ผู้นำพระศาสนจักร)ที่พระเยซูประทานให้คือ

มธ 16:17
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเราประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”


โดยทำการยกเลิกการทำตามบัญญัติในพระะรรมเดิมต่างๆสำหรับคนต่างชาติเพราะถือว่ามารับความรอดโดยทางความเชื่อ ไม่ใช่ทางธรรมบัญญัติ และผ่อนผันเพื่อไม่ให้ชาวต่างชาติเกิดปัญหาในการมารับเชื่อโดยเหลือแค่อย่ากินเลือดสัตว์(สัตว์โดนรัดคอเลือดจะคั่งในตัว)กับอย่าผิดประเวณีมา

ผ่านมาหลายร้อยหลายพันปี พวกตะวันตกและชาวตะวันออกกลางเขาไม่ทานเลือดกันอยู่แล้ว กฎเรื่องนี้ก็เลยเหมือนไม่ได้ถูกจดจำระมัดระวังอะไร ไม่ได้ถูกพูดถึงอีก

ปัจจุบันเรื่องตรงนี้ในทางปฏิบัติ อาจจะมีปัญหาขึ้นมาสำหรับชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทานเลือด สำหรับพระศาสนจักรไม่มีกฏห้ามหรือเคร่งครัดเรื่องนี้ คริสตชนในไทยส่วนมากจึงยังทานเลือดต้มกันอยู่ แต่ยังมีคริสตชนบางกลุ่มบางคนที่เคร่งครัดมากไม่ทานเลือด ส่วนตัวผมเองพออ่านมาถึงบทนี้ก็เลิกทานไปเหมือนกัน แต่็เป็นการเลิกส่วนตัวพระศาสนจักรไม่ได้บังคับครับ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 14, 2010 6:42 am
โดย littleseal
ขอบคุณคุณ Holy ค่ะ ช่วยหาคำตอบและอธิบายข้อสงสัยมาตลอดเลย

: xemo026 :

แบบนี้อาหารฝรั่งเศสที่มีใช้เลือดเป็ดราดลงไปก็ถือว่าไม่ควรด้วยใช่มั้ยคะ
(ดูจากรายการทำอาหาร) เห็นฝรั่งเศสมีอาหารแบบนี้เลยนึกว่าข้อกำหนด
จะยกเลิกหมดแล้ว

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 19, 2010 6:15 am
โดย littleseal
- ช่วงนักบุญเปาโลประกาศความเชื่อทำไมพระเป็นเจ้าถึงไม่ให้อัครสาวกเดินทางข้ามมาถึงอินเดียคะ? หรือเพราะพุทธศาสนากำเนิดขึ้น 600 ปีเป็นการยากที่จะให้คนเอเชียเข้าถึงพระเป็นเจ้า?

กจ 18:18-23 เปาโลกลับมาที่เมืองอันทิโอกและออกเดินทางธรรมทูตครั้งที่สาม

18เปาโลพักอยู่ในเมืองโครินธ์อีกหลายวัน แล้วลาบรรดาพี่น้องแล่นเรือไปยังแคว้นซีเรียmพร้อมกับปริสซิลลาและอาควิลา ก่อนออกเรือที่เมืองเคนเครียเปาโลโกนศีรษะ เพราะได้บนขอไว้n

กจ 21:15-26 เปาโลเดินทางถึงกรุงเยรูซาเล็ม

24จงพาคนเหล่านี้ไปร่วมพิธีชำระตนพร้อมกัน จงออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เขาเพื่อทำพิธีโกนผม

k ผู้บนบานเป็นนาศีร์จะพ้นจากสภาพเช่นนี้ได้ก็ต้องถวายเครื่องบูชาราคาแพง กดว 6:14-15


- ทางคริสต์อนุญาตให้บนบาทกับพระเป็นเจ้าได้เหรอคะ? ไม่ใช่ให้ขอพระเมตตาอย่างเดียวเหรอคะ? แล้วนาศีร์คืออะไรคะ?

กจ 20:7-12 เปาโลปลุกให้คนตายกลับคืนชีวิตที่เมืองโตรอัส

10เปาโลจึงลงมาข้างล่างก้มลงกอดร่างของเขาไว้ พูดว่า "อย่าวุ่นวายไปเลย เขายังมีชีวิตอยู่"


- อัครสาวกสามารถขอพระพรให้คนตายฟื้นได้ แล้วในปัจจุบันยังมีคุณพ่อที่สามารถได้ความสามารถนี้อยู่หรือเปล่าคะ? หรือตรงนี้เป็นแค่การเปรียบเทียบว่าชายหนุ่มคนนั้นยังมีชีวิตในอาณาจักรของพระเจ้า?

กจ 20:17-38 เปาโลอำลาบรรดาผู้อาวุโสแห่งเมืองเอเฟซัส

22บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังจะไปกรุงเยรูซาเล็มตามพระบัญชาของพระจิตเจ้า


- ทำไมพระเจ้าจะต้องให้ท่านเปาโลไปเยรูซาเล็มอีกแม้ว่าเมืองนั้นจะปฏิเสธพระองค์จนถึงทุกวันนี้

กจ 21:27-40 เปาโลถูกจับกุม

39เปาโลตอบว่า "ข้าพเจ้าเป็นชาวยิว เกิดที่เมืองทาร์ซัสซึ่งเป็นเมืองสำคัญพอสมควรในแคว้นซีลีเซีย โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าพูดกับประชาชนเถิด"

กจ 22:22-29 เปาโลยืนยันว่ามีสัญชาติโรมัน

27ผู้บัญชาการกองพันจึงมาพบและถามเปาโลว่า "ท่านมีสัญชาติโรมันหรือ" เปาโลตอบว่า "ใช่"28ผู้บัญชาการกองพันจึงพูดว่า "ข้าพเจ้าต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อสัญชาติโรมัน" เปาโลตอบว่า "แต่ ข้าพเจ้ามีสัญชาติโรมันโดยกำเนิด"

กจ 22:30 และ 23:1-11 เปาโลต่อหน้าสภาซันเฮดริน

6เปาโลรู้ว่า สมาชิกส่วนหนึ่งของที่ประชุมเป็นชาวสะดูสีและอีกส่วนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี จึงตะโกนขึ้นในสภาว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นชาวฟาริสี เป็นบุตรของชาวฟาริสี ข้าพเจ้าถูกสอบสวนก็เพราะเรื่องความหวังในการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย"


- สงสัยเรื่องสัญชาติโรมัน ชาวยิว ชาวฟาริสี ค่ะ เปาโลเชื้อสายยิวเกิดแคว้นซีลีเซียจึงได้สัญชาติโรมันใช่มั้ยคะ? ทำไมชาวยิวถึงได้สัญชาติโรมันคะ? แล้วทำไมถึงบอกว่าเป็นฟาริสีด้วยคะ?

:s005: ขอบคุณที่ให้ปัญญาค่ะ ขอพระเป็นเจ้าอวยพรค่ะ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 19, 2010 11:23 am
โดย Holy
littleseal เขียน:- ช่วงนักบุญเปาโลประกาศความเชื่อทำไมพระเป็นเจ้าถึงไม่ให้อัครสาวกเดินทางข้ามมาถึงอินเดียคะ? หรือเพราะพุทธศาสนากำเนิดขึ้น 600 ปีเป็นการยากที่จะให้คนเอเชียเข้าถึงพระเป็นเจ้า?
----นักบุญโทมัธอัครสาวก ไปประกาศที่อินเดียแล้วครับ และต่อมาโดนฆ่าตายเป็นมรณสักขีที่นั่นครับ

กจ 18:18-23 เปาโลกลับมาที่เมืองอันทิโอกและออกเดินทางธรรมทูตครั้งที่สาม

18เปาโลพักอยู่ในเมืองโครินธ์อีกหลายวัน แล้วลาบรรดาพี่น้องแล่นเรือไปยังแคว้นซีเรียmพร้อมกับปริสซิลลาและอาควิลา ก่อนออกเรือที่เมืองเคนเครียเปาโลโกนศีรษะ เพราะได้บนขอไว้n

กจ 21:15-26 เปาโลเดินทางถึงกรุงเยรูซาเล็ม

24จงพาคนเหล่านี้ไปร่วมพิธีชำระตนพร้อมกัน จงออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เขาเพื่อทำพิธีโกนผม

k ผู้บนบานเป็นนาศีร์จะพ้นจากสภาพเช่นนี้ได้ก็ต้องถวายเครื่องบูชาราคาแพง กดว 6:14-15


- ทางคริสต์อนุญาตให้บนบาทกับพระเป็นเจ้าได้เหรอคะ? ไม่ใช่ให้ขอพระเมตตาอย่างเดียวเหรอคะ? แล้วนาศีร์คืออะไรคะ?
นาศีร์คือรูปแบบการถือศีลเพื่อวอนขอ แนวเดียวกับการถือศีลอดอาหาร แต่นาศีร์จะมีรายละเอียดในเรื่องการงดดื่มเหล้า และไม่ตัดผมด้วย โดยในบทกันดารวิถี (กดว) มีระบุไว้ครับ แต่ปัจจุบันแทบไม่มีใครทำแบบนั้นแล้ว
กจ 20:7-12 เปาโลปลุกให้คนตายกลับคืนชีวิตที่เมืองโตรอัส

10เปาโลจึงลงมาข้างล่างก้มลงกอดร่างของเขาไว้ พูดว่า "อย่าวุ่นวายไปเลย เขายังมีชีวิตอยู่"


- อัครสาวกสามารถขอพระพรให้คนตายฟื้นได้ แล้วในปัจจุบันยังมีคุณพ่อที่สามารถได้ความสามารถนี้อยู่หรือเปล่าคะ? หรือตรงนี้เป็นแค่การเปรียบเทียบว่าชายหนุ่มคนนั้นยังมีชีวิตในอาณาจักรของพระเจ้า?
ขึ้นกับความเชื่อของพระสงฆ์ครับ จนถึงปัจจุบันยังมีนักบุญอีกมากมายแม้ไม่ใช่พระสงฆ์ ที่ปลุกคนตายให้ฟื้นได้ มีหลายร้อยกรณีที่บันทึกไว้ในพระศาสนจักรครับ

กจ 20:17-38 เปาโลอำลาบรรดาผู้อาวุโสแห่งเมืองเอเฟซัส

22บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังจะไปกรุงเยรูซาเล็มตามพระบัญชาของพระจิตเจ้า


- ทำไมพระเจ้าจะต้องให้ท่านเปาโลไปเยรูซาเล็มอีกแม้ว่าเมืองนั้นจะปฏิเสธพระองค์จนถึงทุกวันนี้
ไม่ใช่ทุกคนที่ปฎิเสธนี่ครับ

กจ 21:27-40 เปาโลถูกจับกุม

39เปาโลตอบว่า "ข้าพเจ้าเป็นชาวยิว เกิดที่เมืองทาร์ซัสซึ่งเป็นเมืองสำคัญพอสมควรในแคว้นซีลีเซีย โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าพูดกับประชาชนเถิด"

กจ 22:22-29 เปาโลยืนยันว่ามีสัญชาติโรมัน

27ผู้บัญชาการกองพันจึงมาพบและถามเปาโลว่า "ท่านมีสัญชาติโรมันหรือ" เปาโลตอบว่า "ใช่"28ผู้บัญชาการกองพันจึงพูดว่า "ข้าพเจ้าต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อสัญชาติโรมัน" เปาโลตอบว่า "แต่ ข้าพเจ้ามีสัญชาติโรมันโดยกำเนิด"

กจ 22:30 และ 23:1-11 เปาโลต่อหน้าสภาซันเฮดริน

6เปาโลรู้ว่า สมาชิกส่วนหนึ่งของที่ประชุมเป็นชาวสะดูสีและอีกส่วนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี จึงตะโกนขึ้นในสภาว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นชาวฟาริสี เป็นบุตรของชาวฟาริสี ข้าพเจ้าถูกสอบสวนก็เพราะเรื่องความหวังในการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย"


- สงสัยเรื่องสัญชาติโรมัน ชาวยิว ชาวฟาริสี ค่ะ เปาโลเชื้อสายยิวเกิดแคว้นซีลีเซียจึงได้สัญชาติโรมันใช่มั้ยคะ? ทำไมชาวยิวถึงได้สัญชาติโรมันคะ? แล้วทำไมถึงบอกว่าเป็นฟาริสีด้วยคะ?

:s005: ขอบคุณที่ให้ปัญญาค่ะ ขอพระเป็นเจ้าอวยพรค่ะ
ฟาริสีไม่ใช่เชื้อชาติหรือสัญชาติ แต่เป็นชื่อของกลุ่มคนที่เคร่งศาสนายิวมาก ในสมัยพระเยซูคนกลุ่มนี้มีมาก ที่จริงอาจจะเรียกว่าเป็นสมาคมก็น่าจะได้ เป็นการเรียกกลุ่มเคร่งมากๆแบบ กลุ่มเสื้อแดง กลุ่มเสื้อเหลือง แต่เสื้องแดงเหลืองของไทยเป็นกลุ่มทางการเมือง แต่ฟาริสีคือกลุ่มทางศาสนา ส่วนการเป็นยิวนั้นคือเชื้อชาติ แต่สัญชาติของท่านคือโรมันครับ ปรกติสัญชาติยึดตามสถานที่เกิดอยู่แล้ว

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 19, 2010 11:48 am
โดย littleseal
:s004:

ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ
(แอบอายเหมือนหลายคำถามเรายังอ่านไม่ถึง
แล้วสงสัยแล้ว >.<)

ขอบคุณนะคะ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 19, 2010 11:58 am
โดย Holy
ยินดีรับใช้ครับ

ปล.เปลี่ยนชื่อหัวข้อเป็นรวมคำถามอะไรแบบนี้ก้ดีนะครับ

Re: การสวดภาวนา

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 19, 2010 1:10 pm
โดย littleseal
อยากเปลี่ยนเหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะเปลี่ยนอย่างไรดี
มันไม่มีให้ Edit หัวกระทู้ค่ะ :s008:

Re: รวมคำถามจากพระคัมภีร์

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 21, 2010 11:07 am
โดย littleseal
ขอบคุณที่เปลี่ยนหัวข้อให้ค่ะ :s007:

มีคำถามมาสอบถามอีกแล้ว

รม 7:14-25 การต่อสู้ภายใน

25ขอขอบพระคุณพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ดังนั้น ในส่วนลึกของจิตใจm ข้าพเจ้ารับใช้ธรรมบัญญัติของพระเจ้า แต่ในธรรมชาติที่บกพร่อง ข้าพเจ้ากลับรับใช้กฎของบาปn


- หมายถึงจิตใจเป็นของพระเจ้า แต่ร่างกายยังคงต้องตายเพราะบาปแรกที่อาดัมนำมาเหรอคะ?

รม 8:1-13 ชีวิตฝ่ายจิต

9ส่วนท่านทั้งหลาย ท่านไม่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ แต่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า เพราะพระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวท่าน ถ้าผู้ใดไม่มีพระจิตของพระคริสตเจ้าผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์


- หมายถึงผู้ที่รับศีลแล้วเหรอคะ? หรือว่าแค่มีความเชื่อในพระเจ้าก็จะมีพระจิตแล้ว?

ขอบคุณค่ะ