พระคาร์ดินัลเทารันกระตุ้นคริสตังไทยให้เป็นกลุ่มน้อยมีคุณภาพ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 29, 2010 9:03 pm
พระคาร์ดินัลเทารันกระตุ้นคริสตังไทยให้เป็นคนกลุ่มน้อยแต่ไม่ด้อยคุณภาพ
(22 ก.ค. 2010 - RV) คาร์ดินัล ยีน ลูอิส เทารัน ผู้นำคณะกรรมการศาสนสัมพันธ์ของวาติกันเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทย ที่ซึ่งท่านได้มีส่วนรวมในการจัดสัมมนาโดยคณะกรรมการของพระสันตปาปาเกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ที่ศูนย์ปศุสัตว์บ้านภูว่านที่สามแพร่ง ใกล้กับกรุงเทพนครหลวงของไทย
จากการสำรวจประชากรครั้งล่าสุดเมื่อปี 2000 พบว่า 94.7% ของคนไทยเป็นชาวพุทธนิกายเถรวาท โดยมุสลิมถือเป็นอันดับสอง คือ 4.6%
แต่คริสตชนเองก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานในประเทศไทย เริ่มจากมิชชันนารีชาวยุโรปนำเข้ามาเผยแพร่ในช่วงต้นของปี 1550 และมีบทบาทสำคัญต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านสังคมและการศึกษา แม้ว่าวันนี้จะพบว่ามีคริสตชนในประเทศเพียง 0.8% เท่านั้นก็ตาม
พูดถึงการประชุมสัมมนา พระคาร์ดินัลเทารันกล่าวว่า ถึงแม้ชนคาทอลิกหรือที่เรียกกันในประเทศไทยว่าคริสตังนั้นจะมีจำนวนน้อยมาก แต่ต้องเป็นคนกลุ่มน้อยที่มีคุณภาพ เป็นแบบอย่างที่ดี “เอกลักษณ์ของความเชื่อพวกเราคืออย่างนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระพักตร์ และพระองค์ทรงใกล้ชิดกับมนุษย์”
ท่านยังตรัสต่ออีกว่า “ภาพลักษณ์ของชาวคาทอลิกปรากฏเด่นชัดในโรงเรียน แต่ที่จริงแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นปัจจุบัน และใกล้ชิดกับเราเสมอทุก ๆ วัน”
“นี่เป็นสมบัติที่เราต้องแบ่งให้ทุกคน” ท่านเพิ่มเติม “ไม่ใช่แค่เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของศาสนาดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับชีวิตบุคคลโดยทั่วไปทั้งชายและหญิง เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข”
อ้างอิงถึงพระสันตะปาปาเบเนดิกท์ที่ 16 พระคาร์ดินัลเทารันกล่าวทิ้งท้ายว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะรวมจิตใจของผู้เชื่อทุกคนทั้งชายและหญิงอันเปี่ยมด้วยจิตใจที่ดีเพื่อที่จะทำให้แผนการณ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำเร็จ คือ สร้างครอบครัวที่อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีในสายพระเนตรของพระองค์”
ที่มา http://www.radiovaticana.org/en1/Articolo.asp?c=410369
งานแปลชิ้นที่สองของวาลจังหมายเลขศูนย์ก็ผ่านพ้นไปแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านในที่นี้(รวมถึงตัวเราเองด้วย)นะคะ
(22 ก.ค. 2010 - RV) คาร์ดินัล ยีน ลูอิส เทารัน ผู้นำคณะกรรมการศาสนสัมพันธ์ของวาติกันเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทย ที่ซึ่งท่านได้มีส่วนรวมในการจัดสัมมนาโดยคณะกรรมการของพระสันตปาปาเกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ที่ศูนย์ปศุสัตว์บ้านภูว่านที่สามแพร่ง ใกล้กับกรุงเทพนครหลวงของไทย
จากการสำรวจประชากรครั้งล่าสุดเมื่อปี 2000 พบว่า 94.7% ของคนไทยเป็นชาวพุทธนิกายเถรวาท โดยมุสลิมถือเป็นอันดับสอง คือ 4.6%
แต่คริสตชนเองก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานในประเทศไทย เริ่มจากมิชชันนารีชาวยุโรปนำเข้ามาเผยแพร่ในช่วงต้นของปี 1550 และมีบทบาทสำคัญต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านสังคมและการศึกษา แม้ว่าวันนี้จะพบว่ามีคริสตชนในประเทศเพียง 0.8% เท่านั้นก็ตาม
พูดถึงการประชุมสัมมนา พระคาร์ดินัลเทารันกล่าวว่า ถึงแม้ชนคาทอลิกหรือที่เรียกกันในประเทศไทยว่าคริสตังนั้นจะมีจำนวนน้อยมาก แต่ต้องเป็นคนกลุ่มน้อยที่มีคุณภาพ เป็นแบบอย่างที่ดี “เอกลักษณ์ของความเชื่อพวกเราคืออย่างนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระพักตร์ และพระองค์ทรงใกล้ชิดกับมนุษย์”
ท่านยังตรัสต่ออีกว่า “ภาพลักษณ์ของชาวคาทอลิกปรากฏเด่นชัดในโรงเรียน แต่ที่จริงแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นปัจจุบัน และใกล้ชิดกับเราเสมอทุก ๆ วัน”
“นี่เป็นสมบัติที่เราต้องแบ่งให้ทุกคน” ท่านเพิ่มเติม “ไม่ใช่แค่เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของศาสนาดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับชีวิตบุคคลโดยทั่วไปทั้งชายและหญิง เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข”
อ้างอิงถึงพระสันตะปาปาเบเนดิกท์ที่ 16 พระคาร์ดินัลเทารันกล่าวทิ้งท้ายว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะรวมจิตใจของผู้เชื่อทุกคนทั้งชายและหญิงอันเปี่ยมด้วยจิตใจที่ดีเพื่อที่จะทำให้แผนการณ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำเร็จ คือ สร้างครอบครัวที่อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีในสายพระเนตรของพระองค์”
ที่มา http://www.radiovaticana.org/en1/Articolo.asp?c=410369
งานแปลชิ้นที่สองของวาลจังหมายเลขศูนย์ก็ผ่านพ้นไปแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านในที่นี้(รวมถึงตัวเราเองด้วย)นะคะ