Belong to the Truth Jesus Christ

ขอเชิญจิตตาภิบาล ผู้ที่ทำงานเยาวชน และน้อง ๆ เยาวชนที่สนใจ
เข้าร่วมงาน “Jesus Youth Jubilee International Conference”
ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2010 ถึง 1 มกราคม 2011
ที่เมืองโคชี รัฐเคราลา ประเทศอินเดีย



รายละเอียดเพิ่มเิติมเกี่ยวกับกลุ่ม Jesus Youth สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Website : http://www.jesusyouth.org

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 15,000บาท / คน

สมัครส่งรายชื่อก่อนวันที่ 8 กันยายน

เพื่อดำเนินการลงทะเบียนเข้าร่วมงานรวมในนามของประเทศไทย

เยาวชนและผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่

1. คุณเอ็มม่า แดงสว่าง โทร 081-830-2454 E-mail : m_ejd@yahoo.co.uk
2. แผนกเยาวชน คณะกรรมฯ เพื่อคริสตชนฆราวาส โทร 02-681-3900 ต่อ 1505 E-mail : cyctforever@hotmail.com
3. คุณมนฑิรา ฮกเจริญ (ยุ้ย) โทร 081-444-0537 E-mail : chollatiyoui@hotmail.com



ประวัติกลุ่ม Jesus Youth : A missionary movement at the service of the Church (ขบวนการธรรมทูตรับใช้พระศาสนจักร)

กลุ่ม Jesus Youth คือกลุ่มเยาวชนคาทอลิกนานาชาติที่ได้รับแรงขับเคลื่อนและจิตตารมณ์จากพระจิต เจ้า Jesus Youth ก่อตั้งครั้งแรกที่รัฐเคราลา ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้สุด ของประเทศอินเดียที่เปี่ยมด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรม ประกอบกับการมีขนบธรรมเนียมปฏิบัติของคริสตศาสนา ซึ่งรวมถึงรูปแบบพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ 3 แบบ มาช้านาน ในปี 1970 กลุ่มฟื้นฟูคาทอลิกในพระจิตเจ้า (Catholic Charismatic Renewal) ได้ทำให้หลายๆคนสัมผัสใกล้ชิดกับพระเจ้า เยาวชนที่ได้รับประสบการณ์นี้ ได้มารวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มเยาวชนหลายกลุ่มซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา จนกระทั่งในปี 1985 กลุ่มเยาวชนเหล่านี้ได้มารวมตัวกันในนาม Jesus Youth เป็นครั้งแรก เพื่อแสวงหา วิสัยทัศน์ให้ตนเองและเยาวชนคนหนุ่มสาวอื่นๆ ในพระศาสนจักร จากจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ รัฐเคราลานี้ Jesus Youth ได้เติบโตและมีสมาชิกอยู่ในทุกๆรัฐของประเทศอินเดีย และในเกือบ 25 ประเทศทั่วโลก

จุดเด่นของ Jesus Youth อยู่ที่การเน้นให้พระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางชีวิตโดยเริ่มต้นจากการมี ประสบการณ์สัมผัสพระเจ้าซึ่งได้รับการหล่อเลี้ยง อาศัยการภาวนา การอ่านและ พิจารณาพระวาจาพระเจ้า การดำเนินชีวิตด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ การพบปะสังสรรค์ฉันท์พี่น้อง และการแบ่งปันข่าวดีของพระเยซูคริสต์กับผู้อื่นโดยเฉพาะกับผู้ที่ยากจน โดยแท้จริงแล้ว Jesus Youth เป็นมากกว่าการเป็นกลุ่มแต่เป็นเครือข่ายของงานสร้างสรรค์ กลุ่มย่อยและบุคคลที่ช่วยให้เยาวชนคนหนุ่มสาวฟื้นฟูความเชื่อคาทอลิกของตน ในบริบทของสังคมปัจจุบัน

Jesus Youth ตระหนักถึงสิ่งที่ท้าทายฆราวาสในสังคมปัจจุบันจึงเน้นการส่งเสริมการดำเนิน ชีวิตแบบ คริสตชน สมาชิกมีความปรารถนาที่จะเติบโต เป็นสาวกที่ซื่อสัตย์ของพระคริสต์

อาศัยเสาหลัก 6 ประการของ Jesus Youth ซึ่งคือการอ่าน พิจารณาและศึกษาพระวาจาพระเป็นเจ้า ความซื่อสัตย์ต่อการสวดภาวนาส่วนตัวและการร่วมพิธีมิสซาฯและรับศีลอภัยบาป สม่ำเสมอ นอกจากนี้การพบปะสังสรรค์ฉันท์พี่น้อง การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ยากไร้ขัดสน และการแพร่ธรรมก็เป็นส่วนสำคัญของการดำเนินชีวิตแบบ Jesus Youth ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตทางความเชื่ออย่างลึกซึ้งและมั่นคง พร้อมกันนี้ Jesus Youth มีโปรแกรมสัมมนา การเข้าเงียบ กลุ่มเซลย่อยและกลุ่มเล็ก กลุ่มภาวนา และการให้คำปรึกษารายบุคคลซึ่งช่วยสนับสนุนให้เป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วยความศักดิ์สิทธิ์เป็นสาวกที่ซื่อสัตย์ของพระเยซู

การที่ Jesus Youth มีวิสัยทัศน์ที่เน้นการแบ่งปันความเชื่อและสร้างกลุ่มพยานทางความเชื่อ ทำให้เกิดกิจกรรมการรับใช้หลายรูปแบบ หลายๆ ครั้งกิจกรรมการรับใช้จะมีจุดเริ่มต้น จากบุคคลหรือกลุ่มย่อยที่ปรารถนาที่จะแบ่งปันพระเยซูให้ผู้อื่นในสภาพแวด ล้อมของตน อาศัยทักษะความสามารถและพระพรที่ตนได้รับมา เมื่อกิจกรรมนี้ค่อยๆพัฒนาขึ้นจะกลายเป็น กิจกรรมการรับใช้แบบเต็มรูปแบบของ Jesus Youth กิจกรรมการรับใช้ของ Jesus Youth จะไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้เยาวชนคนหนุ่มสาวรวมตัวกันเพื่อเติบโตและพัฒนาร่วม กันฉันท์พี่น้อง แต่จะเป็นพื้นฐานเตรียมให้เขาต้อนรับพระวรสารในชีวิตประจำวันและประกาศ ข่าวดีนี้แก่ผู้อื่นด้วย



กิจกรรมการรับใช้ โปรแกรมต่างๆ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น และวิธีการเข้าหาเยาวชนคนหนุ่มสาวที่มีความหลากหลายของวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิต ได้เกิดและพัฒนาขึ้น จากการที่เยาวชนเองเป็นผู้ริเริ่มและทดลองทำ กิจกรรมการรับใช้อย่างเช่น กิจกรรมการรับใช้ในมหาวิทยาลัย (Campus Ministry) กิจกรรมการรับใช้ในวัด (Parish Ministry) กิจกรรมการรับใช้สำหรับคนทำงาน (Professionals Ministry) กิจกรรมการรับใช้สำหรับพยาบาล (Nurses Ministry) และกิจกรรมการรับใช้สำหรับวัยรุ่น (Teens Ministry) เป็นตัวอย่างของกิจกรรมการรับใช้แบบเฉพาะทาง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการรับใช้แบบเน้น ให้ความช่วยเหลือสังคม เช่น Angels’ Army ซึ่งเป็นงานส่งเสริมช่วยเหลือเด็กตั้งแต่ เป็นทารกในครรภ์มารดาจนกระทั่งอายุ 12 ปี Outreach Ministry คืองานออกเยี่ยมผู้ที่อยู่ในเรือนจำ โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ สลัม บ้านพักผู้สูงอายุ และเด็กเร่ร่อนข้างถนน เป็นต้น Prolife Ministry จะสอนเยาวชนให้รู้จักต่อต้านวัฒนธรรมแห่งความตาย และยังมีกิจกรรมการรับใช้แบบเน้นพัฒนาทักษะความสามารถเฉพาะทางเป็นต้นเช่น

ด้านการดนตรี (Music Ministry) ด้านสื่อเสียงและภาพ (Audio-Visual Ministry) ด้านการสื่อสาร (Media Ministry) และด้านการจัดนิทรรศการ (Exhibition Ministry)

ซึ่งเป็นการแสดงถึงความหลากหลายของพระพรที่เกิดขึ้นและมีพลังขับเคลื่อนในกลุ่ม Jesus Youth

การเติบโตและพัฒนาของ Jesus Youth จนกระทั่งไปสู่หลายๆประเทศทั่วโลกนั้นมีส่วนมาจากการที่สมาชิก Jesus Youthได้เดินทางไปศึกษาต่อและทำงานในต่างประเทศ อาศัยความร้อนรนที่จะประกาศพระวาจาสมาชิก Jesus Youth เหล่านี้ได้ช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากที่ประเทศอินเดียแล้วนั้น Jesus Youth ยังมีสมาชิกในทวีปเอเชียคือในประเทศสิงค์โปร ประเทศไทย ศรีลังกา มาเลเซีย กัมพูชา บังคลาเทศ ปากีสถาน คูเวธ โอมาน สหภาพอาหรับ บาห์เรน และกะตาร์ และในทวีปอื่นในประเทศ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย อิตาลี ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เป็นต้น

งานฉลอง 25 ปี Jesus Youth (Jubilee 2010)

ปี 2010 เป็นปีที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Jesus Youth เพราะเป็นปีที่ Jesus Youth ฉลองครบรอบ 25 ปี จึงเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกทุกคนจะสำรวจตนและสรรเสริญโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระเมตตาและความรักของพระองค์ที่หาที่สิ้นสุดมิได้ ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ Jesus Youth จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆมากมาย อาทิเช่น กิจการส่งเสริมศรัทธา ให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น การร่วมใจสวดอ้อนวอนเสนอคำวิงวอนพร้อมกันทั่วโลก และส่งเสริมการถวายตัวเป็นธรรมทูตของสมาชิกอย่างเป็นพิเศษ เป็นต้น นอกจากนี้ได้จัดโครงการพิเศษคือโครงการ Outreach- Child Support ซึ่งตั้งเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือทางทุนทรัพย์และทุนการศึกษาแก่เด็ก ๆ อย่างน้อย 2,500 คน จากภูมิภาคเอเชียใต้

งาน “Jesus Youth Jubilee International Conference” ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2010 ถึง 1 มกราคม 2011 จะเป็นการรวมพลัง ครั้งสำคัญของบรรดาสมาชิก Jesus Youth รวมทั้งพระสงฆ์ นักบวช ครอบครัว เยาวชนคนหนุ่มสาวจากทั่วโลกกว่า 15,000 คน ที่เมืองโคชี รัฐเคราลา ประเทศอินเดีย

ในงานครั้งนี้นอกจากจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมฟื้นฟู ความเชื่อและเป็นพยานทางความเชื่อร่วมกันแล้วนั้น ยังนับเป็นโอกาสสำคัญที่สมาชิก Jesus Youth จะมารวมกันในฐานะ ครอบครัวเดียวกันเพื่อสรรเสริญโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า เป็นเสียงเดียวกัน พร้อมวิงวอนขอพระพรในการนำพาจากพระเจ้าในการกระทำกิจการด้านงานเยาวชนของ พระองค์ต่อไป

http://youth.cbct.net/Jesus_Youth/jesus_youth.html

งานนี้ใครอยากร่วมงานคาทอลิกที่มีแนวเหมือนกลุ่มคาริสมาติกโปรแตสแตนท์ก็ลองไปร่่วมได้นะครับ ติดต่อคุณเอ็มม่าได้เลย

คริสเตียน โปรเตสแตนต์ ก็น่าจะไปได้ นะครับ

เอ่ ปกติ คำว่า Jubilee น่าจะฉลอง 50 ปี ใช่ไหม มาจากภาษายิว

The Jubilee (Hebrew Yovel יובל) year is the year at the end of seven cycles of Sabbatical years (Hebrew Shmita), and according to Biblical regulations had a special impact on the ownership and management of land in the territory of the kingdoms of Israel and of Judah; there is some debate whether it was the 49th year (the last year of seven sabbatical cycles, referred to as the Sabbath's Sabbath), or whether it was the following 50th year. The English term Jubilee derives from the Hebrew term yobel (via Latin Jubilaeus), which in turn derives from yobhel, meaning ram;[1] the Jubilee year was announced by a blast on an instrument made from a ram's horn, during that year's Yom Kippur.[2] J.P.Mallory and D.Q. Adams proposed an alternative etymology of the Latin jubilo (meaning shout, as well as Middle Irish ilach victory cry, New English yowl, Greek iuzo shout), being derived from the Proto-Indo-European root *yu- shout for joy [3], effectively making the Hebrew term a mere borrowing from neighboring Indo-European languages. The biblical rules concerning Sabbatical years (shmita) are still observed by many religious Jews in the State of Israel, but the regulations for the Jubilee year have not been observed for many centuries.

สนใจอ่านต่อครับ
http://webcache.googleusercontent.com/s ... clnk&gl=th

เราจะไปพร้อมกับเยาวชนวัดอยู่ หวังว่าประเทศไทยจะมีตัวแทนไปเยอะๆ ครับ