God's Plan, Our Plan
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 3:27 pm
แผนการของพระเจ้า VS แผนการของเรา
“ผมอยากบอกกับคุณว่า การปรนนิบัติพระเจ้าด้วยการแบกกางเขนตามพระเยซูเจ้าไป มีความสุขกว่าการรับใช้โลกที่ไม่รู้จักพอ” อ้างอิงจากนักบุญยอห์น เวียนเนย์
แผนการของพระเจ้าต่อชีวิตของเรานั้นเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะมันก็แค่ เรารู้จักท่าน เรารักท่าน และเรารับใช้ท่าน แล้วเราจะได้รับความสุขนิรันดร์กับพระองค์ในสวรรค์ ลองพิจารณาภาพข้างบน แล้วดูว่าแผนการของเราต่างจากแผนของท่านอย่างไร
คุณจะเห็นว่าเส้นเฉียงสีแดงในภาพแสดงถึงแผนการของพระเจ้าเพื่อเรา มันดูสูงชันและขึ้นไปได้ยากยิ่ง แต่จะเห็นว่าพระองค์ประทานพระพรช่วยเหลือเราให้มากพอที่จะผ่านมันขึ้นไปได้ ผิดกับเส้นสีน้ำเงินที่บอกถึงแผนการของเราที่จะทำให้พระเจ้า มันดูวกวนไปมาตลอดทาง คดเคี้ยวงดงอไม่เป็นระเบียบ และจุดที่วนเป็นวงกลมแต่ละจุดล้วนสื่อถึงการตกอยู่ในบาปประเภทต่าง ๆ และคุณคิดว่าใครเล่าที่สร้างหลุมพรางดักเราไว้ คนที่วนเวียนอยู่ในเปลวเพลิงไม่รู้ดับ ใช่แล้ว ซาตาน นั่นเอง และคุณอาจสังเกตเห็นว่าวงกลมบางวงดูใหญ่กว่าอันอื่น ๆ ตรงจุดนี้จะชี้ให้เห็นว่าแต่ละคนล้วนมีข้อผิดพลาดมากน้อยไม่เท่ากัน ที่ซาตานจะใช้ล่อลวงเรา มันจะหลอกให้เรามองเห็นบาปเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม แต่เมื่อเรารู้ตัวก็ทำบาปลงไปเสียแล้ว ถ้าเราต้องตายในบาปเหล่านี้โดยไม่สำนึกผิดในสิ่งที่ทำ โอกาสที่จะขึ้นสวรรค์ก็แทบไม่มีเหลือ แต่ขอบคุณพระเจ้า ที่เตรียมแผนการขั้นสุดท้ายไว้เหนือความตายเพื่อเราทั้งหลาย และจงจำไว้เสมอว่า “พระเจ้าวาดเส้นตรงทับเส้นที่คดเคี้ยว” หมายถึง ไม่ว่าเราจะหลงทางขนาดไหน พระองค์ก็ยังคงรอคอยเสมอจนกว่าเราจะหันกลับมาใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงตามคำสอนของพระองค์ และอย่าลืมด้วยว่า ธรรมชาติของมนุษย์คือบาปและลงนรก พระเจ้ารู้จึงส่งสิ่งที่เหนือกว่าธรรมชาตินั้นผ่านทางพระศาสนจักร มีเพียงการที่เราต้องเข้าหาพระพรที่เปี่ยมด้วยพระคุณ ศึกษาคำสอนของพระองค์และนำไปใช้ในชีวิต เพื่อเอาชนะบาปให้ได้ และยิ่งเราพยายามดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับบาป และยอมรับพระคุณของพระเจ้ามากเท่าใด ก็ยิ่งยกระดับจิตวิญญาณของเราได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรายอมให้บาปครองครองชีวิตและปฏิเสธพระคุณของพระเจ้า แน่นอนว่าก็ทำให้เราง่ายต่อการตกลงสู่ความเสื่อมทรามเช่นกัน
คุณคิดว่าด้านล่างของภาพ รูปคนมีสีดำนั้นเป็นแค่รูปการ์ตูนธรรมดาหรือ หาใช่แค่นั้นไม่ แต่นั่นสะท้อนถึงจิตวิญญาณของบุคคลที่เป็นสีดำ คือเต็มไปด้วยบาปตามธรรมชาติ เขาถือกระเป๋าใบใหญ่ ที่มีทั้งคำว่า รักตัวเอง, เงินทอง , รักในวัตถุสิ่งของ และราคะตัณหา ลองเทียบกับเมื่อตอนที่เขาไปถึงสวรรค์ สังเกตว่าเขาดูเล็กลง และกลายเป็นสีขาว เหตุที่เขาดูเล็กลง เป็นไปตามที่นักบุญยอห์นบัพติสได้กล่าวเอาไว้ว่า “ท่านจะต้องสูงขึ้น และข้าต้องด้อยลง” (ท่านในที่นี้คือพระเยซู และที่ต้องด้อยลงก็คือยอห์น รวมถึงมนุษย์ทุกคนเมื่ออยู่ต่อหน้าพระเจ้า) เมื่อเราตื่นเช้าและเริ่มปฏิบัติตนตามหลักของคริสตชน เราเริ่มที่จะกำจัดความหยิ่งทระนงและความถือตัวออกไป และเริ่มที่จะให้พระเยซูเจ้าจัดการทุกอย่างในชีวิต ทำให้เราดูเล็กน้อยลงในสายตาของโลก แต่จิตวิญญาณกลับถูกชะล้างจนกลายเป็นสีขาว เพราะเขาเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเลิกที่จะทำบาป อธิษฐานมากขึ้น และได้รับพระพรอันเปี่ยมคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากเรามองที่ในมือเขา จะเห็นว่าเขาทิ้งกระเป๋าอันหนักอึ้งและเลือกที่จะรับกางเขน พระวจนะ และความสัมพันธ์กับพระเจ้า นอกจากนี้ลองสังเกตดูเส้นสีน้ำเงินที่คอยพาดผ่านเส้นสีแดงหลายต่อหลายครั้ง ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าประทานโอกาสที่ดี และเพื่อนคริสตชนด้วยกันคอยช่วยเหลือเราให้พ้นจากทางเสื่อม กลับมาสู่ทางแห่งชีวิต คือทางแห่งกางเขนของพระเจ้า อย่ามัวเสียเวลาหรือผ่อนผัน “จงทำเสียตอนนี้” ทำไมหรือ? เพราะว่าเราจะต้องเสียใจและเจ็บปวดอย่างหนักกับบาปที่เราได้กระทำ ไม่ว่าในชีวิตนี้หรือในไฟชำระหลังจากที่เราตายไปแล้ว จำไว้ว่า ยังคงมีการให้อภัยเสมอเมื่อเราสารภาพ แต่การพิพากษาลงโทษบาปนั้นจะถูกนำออกไปได้โดยการสำนึกเสียใจ หรือการยอมรับพระเมตตาอย่างเหลือล้นเท่านั้น
แล้วคุณล่ะ จะเลือกทางไหน ระหว่างเลือกทางสีน้ำเงินที่คดเคี้ยวและดูไร้จุดหมาย หรือเลือกจะตรงไปตามเส้นทางสีแดงสู่สวรรค์ นี่เป็นโอกาสของคุณแล้ว เลือกซะก่อนที่จะสายเกินไป!
ถ้าคุณอุทิศตัวให้กับพระเจ้า เท่ากับว่าคุณต้องการพระองค์และเลือกจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในโลก จงดำเนินชีวิตไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เสมอในทุกกรณี จำไว้ว่าบาปทุกอย่างในอดีตอันเลวร้ายของคุณเกิดขึ้นเพราะคุณหนีออกจากทางของพระเจ้า จากนี้ไป จงรับความปรารถนาดีของพระองค์และกล่าวกับพระองค์ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “ใช่แล้ว พระบิดา เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีแล้วในสายพระเนตรพระองค์”
St Alphonsus de Liguori
(ปล.ขอบคุณพี่ Holy ที่ช่วยแปลที่ขีดเส้นใต้อันสุดท้ายให้ค่ะ)
ที่มา : http://www.catholicbible101.com/godsplanourplan.htm
[Don't misunderstand, Translator should never distort the content for his/her own will.]
จะมีก็แต่คนแปลนี่แหละที่กำลังแย่ ช่วงนี้เข้าสู่โหมดวิกฤติ บ้ามากไปหน่อย จนโดนหวัดถามหาเข้าให้ซะแล้ว แค่ลุกมาโพสยังเหนื่อย (สงสัยสุดท้ายก็โดนพระองค์ทำโทษจริง ๆ สินะ แค่ลุกเดินยังระโหยโรยแรงเลย)
ถึงจะบอกให้ปลด ego ออก แต่ตอนนี้ไม่รู้จะปลดออกยังไง โดยไม่ทำให้ความหวังพังทลายนี่สิคะ
“ผมอยากบอกกับคุณว่า การปรนนิบัติพระเจ้าด้วยการแบกกางเขนตามพระเยซูเจ้าไป มีความสุขกว่าการรับใช้โลกที่ไม่รู้จักพอ” อ้างอิงจากนักบุญยอห์น เวียนเนย์
แผนการของพระเจ้าต่อชีวิตของเรานั้นเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะมันก็แค่ เรารู้จักท่าน เรารักท่าน และเรารับใช้ท่าน แล้วเราจะได้รับความสุขนิรันดร์กับพระองค์ในสวรรค์ ลองพิจารณาภาพข้างบน แล้วดูว่าแผนการของเราต่างจากแผนของท่านอย่างไร
คุณจะเห็นว่าเส้นเฉียงสีแดงในภาพแสดงถึงแผนการของพระเจ้าเพื่อเรา มันดูสูงชันและขึ้นไปได้ยากยิ่ง แต่จะเห็นว่าพระองค์ประทานพระพรช่วยเหลือเราให้มากพอที่จะผ่านมันขึ้นไปได้ ผิดกับเส้นสีน้ำเงินที่บอกถึงแผนการของเราที่จะทำให้พระเจ้า มันดูวกวนไปมาตลอดทาง คดเคี้ยวงดงอไม่เป็นระเบียบ และจุดที่วนเป็นวงกลมแต่ละจุดล้วนสื่อถึงการตกอยู่ในบาปประเภทต่าง ๆ และคุณคิดว่าใครเล่าที่สร้างหลุมพรางดักเราไว้ คนที่วนเวียนอยู่ในเปลวเพลิงไม่รู้ดับ ใช่แล้ว ซาตาน นั่นเอง และคุณอาจสังเกตเห็นว่าวงกลมบางวงดูใหญ่กว่าอันอื่น ๆ ตรงจุดนี้จะชี้ให้เห็นว่าแต่ละคนล้วนมีข้อผิดพลาดมากน้อยไม่เท่ากัน ที่ซาตานจะใช้ล่อลวงเรา มันจะหลอกให้เรามองเห็นบาปเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม แต่เมื่อเรารู้ตัวก็ทำบาปลงไปเสียแล้ว ถ้าเราต้องตายในบาปเหล่านี้โดยไม่สำนึกผิดในสิ่งที่ทำ โอกาสที่จะขึ้นสวรรค์ก็แทบไม่มีเหลือ แต่ขอบคุณพระเจ้า ที่เตรียมแผนการขั้นสุดท้ายไว้เหนือความตายเพื่อเราทั้งหลาย และจงจำไว้เสมอว่า “พระเจ้าวาดเส้นตรงทับเส้นที่คดเคี้ยว” หมายถึง ไม่ว่าเราจะหลงทางขนาดไหน พระองค์ก็ยังคงรอคอยเสมอจนกว่าเราจะหันกลับมาใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงตามคำสอนของพระองค์ และอย่าลืมด้วยว่า ธรรมชาติของมนุษย์คือบาปและลงนรก พระเจ้ารู้จึงส่งสิ่งที่เหนือกว่าธรรมชาตินั้นผ่านทางพระศาสนจักร มีเพียงการที่เราต้องเข้าหาพระพรที่เปี่ยมด้วยพระคุณ ศึกษาคำสอนของพระองค์และนำไปใช้ในชีวิต เพื่อเอาชนะบาปให้ได้ และยิ่งเราพยายามดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับบาป และยอมรับพระคุณของพระเจ้ามากเท่าใด ก็ยิ่งยกระดับจิตวิญญาณของเราได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรายอมให้บาปครองครองชีวิตและปฏิเสธพระคุณของพระเจ้า แน่นอนว่าก็ทำให้เราง่ายต่อการตกลงสู่ความเสื่อมทรามเช่นกัน
คุณคิดว่าด้านล่างของภาพ รูปคนมีสีดำนั้นเป็นแค่รูปการ์ตูนธรรมดาหรือ หาใช่แค่นั้นไม่ แต่นั่นสะท้อนถึงจิตวิญญาณของบุคคลที่เป็นสีดำ คือเต็มไปด้วยบาปตามธรรมชาติ เขาถือกระเป๋าใบใหญ่ ที่มีทั้งคำว่า รักตัวเอง, เงินทอง , รักในวัตถุสิ่งของ และราคะตัณหา ลองเทียบกับเมื่อตอนที่เขาไปถึงสวรรค์ สังเกตว่าเขาดูเล็กลง และกลายเป็นสีขาว เหตุที่เขาดูเล็กลง เป็นไปตามที่นักบุญยอห์นบัพติสได้กล่าวเอาไว้ว่า “ท่านจะต้องสูงขึ้น และข้าต้องด้อยลง” (ท่านในที่นี้คือพระเยซู และที่ต้องด้อยลงก็คือยอห์น รวมถึงมนุษย์ทุกคนเมื่ออยู่ต่อหน้าพระเจ้า) เมื่อเราตื่นเช้าและเริ่มปฏิบัติตนตามหลักของคริสตชน เราเริ่มที่จะกำจัดความหยิ่งทระนงและความถือตัวออกไป และเริ่มที่จะให้พระเยซูเจ้าจัดการทุกอย่างในชีวิต ทำให้เราดูเล็กน้อยลงในสายตาของโลก แต่จิตวิญญาณกลับถูกชะล้างจนกลายเป็นสีขาว เพราะเขาเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเลิกที่จะทำบาป อธิษฐานมากขึ้น และได้รับพระพรอันเปี่ยมคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากเรามองที่ในมือเขา จะเห็นว่าเขาทิ้งกระเป๋าอันหนักอึ้งและเลือกที่จะรับกางเขน พระวจนะ และความสัมพันธ์กับพระเจ้า นอกจากนี้ลองสังเกตดูเส้นสีน้ำเงินที่คอยพาดผ่านเส้นสีแดงหลายต่อหลายครั้ง ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าประทานโอกาสที่ดี และเพื่อนคริสตชนด้วยกันคอยช่วยเหลือเราให้พ้นจากทางเสื่อม กลับมาสู่ทางแห่งชีวิต คือทางแห่งกางเขนของพระเจ้า อย่ามัวเสียเวลาหรือผ่อนผัน “จงทำเสียตอนนี้” ทำไมหรือ? เพราะว่าเราจะต้องเสียใจและเจ็บปวดอย่างหนักกับบาปที่เราได้กระทำ ไม่ว่าในชีวิตนี้หรือในไฟชำระหลังจากที่เราตายไปแล้ว จำไว้ว่า ยังคงมีการให้อภัยเสมอเมื่อเราสารภาพ แต่การพิพากษาลงโทษบาปนั้นจะถูกนำออกไปได้โดยการสำนึกเสียใจ หรือการยอมรับพระเมตตาอย่างเหลือล้นเท่านั้น
แล้วคุณล่ะ จะเลือกทางไหน ระหว่างเลือกทางสีน้ำเงินที่คดเคี้ยวและดูไร้จุดหมาย หรือเลือกจะตรงไปตามเส้นทางสีแดงสู่สวรรค์ นี่เป็นโอกาสของคุณแล้ว เลือกซะก่อนที่จะสายเกินไป!
ถ้าคุณอุทิศตัวให้กับพระเจ้า เท่ากับว่าคุณต้องการพระองค์และเลือกจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในโลก จงดำเนินชีวิตไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เสมอในทุกกรณี จำไว้ว่าบาปทุกอย่างในอดีตอันเลวร้ายของคุณเกิดขึ้นเพราะคุณหนีออกจากทางของพระเจ้า จากนี้ไป จงรับความปรารถนาดีของพระองค์และกล่าวกับพระองค์ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “ใช่แล้ว พระบิดา เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีแล้วในสายพระเนตรพระองค์”
St Alphonsus de Liguori
(ปล.ขอบคุณพี่ Holy ที่ช่วยแปลที่ขีดเส้นใต้อันสุดท้ายให้ค่ะ)
ที่มา : http://www.catholicbible101.com/godsplanourplan.htm
[Don't misunderstand, Translator should never distort the content for his/her own will.]
จะมีก็แต่คนแปลนี่แหละที่กำลังแย่ ช่วงนี้เข้าสู่โหมดวิกฤติ บ้ามากไปหน่อย จนโดนหวัดถามหาเข้าให้ซะแล้ว แค่ลุกมาโพสยังเหนื่อย (สงสัยสุดท้ายก็โดนพระองค์ทำโทษจริง ๆ สินะ แค่ลุกเดินยังระโหยโรยแรงเลย)
ถึงจะบอกให้ปลด ego ออก แต่ตอนนี้ไม่รู้จะปลดออกยังไง โดยไม่ทำให้ความหวังพังทลายนี่สิคะ