อยากทราบเรื่องชีวิตนิรันดร

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
tyransiam
โพสต์: 92
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 5:06 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 23, 2010 5:17 pm

ผมอยากทราบว่า การไปมีชีวิตนิรันดรบนสวรรค์ จะไม่เบื่อเหรอครับ? แล้วในช่วงเวลานั้น จะมีงานอะไรทำบ้าง

ป.ล.อย่าเข้าใจผิดว่าลบหลู่นะครับ คืออยากทราบจริงๆ
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

พฤหัสฯ. ธ.ค. 23, 2010 5:34 pm

เคยคิดเรื่องนี้เล่นๆเหมือนกันครับ แต่สุดท้ายก็ตอบตัวเองว่า....


"ก่อนจะคิดว่า 'ได้รับชีวิตนิรันดร์แล้วจะทำอะไรดี' สู้พยามให้ตัวเอง 'คู่ควรกับชีวิตนิรนดร์' ก่อนดีกว่า" ::010:: (แค่นี้ก็งานงอกแล้ว)


เคยฟังตำนานสวรรค์ของหลายๆศาสนาหลายๆความเชื่อมา บอกยากครับว่าสวรรค์มันเป็นอย่างไร....แต่ถ้าพระเจ้าประสงค์ให้ผู้ที่เชื่อพระองค์ไปอยู่ ผมว่าไม่น่าจะมีคำว่าน่าเบื่อหรอกครับ


(แต่ในตำนานของพวกไวกิ้งค์ สวรรค์ของนักรบจะเรียกว่า "วัลฮาลา" เป็นที่ๆนักรบที่ตายในสนามรบทุกคนจะได้ไป โดยจะอาศัยอยู่รวมกันในปราสาทหลังใหญ่หรูหรา ตอนเช้าทุกคนจะออกไปสู้รบเข่นฆ่ากันอย่างสนุกสนาน(ย้ำ ไม่ได้เขียนประชด ชาวไวกิ้งค์เชื่อว่าการได้ต่อสู้ทุกวันเป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับพวกเขาครับ) พอตกเย็นทุกคนก็จะกลับปราสาท แม้แต่พวกที่ตายก็จะฟื้นขึ้นมาด้วย จากนั้นทุกคนจะกินเลี้ยงฉลองด้วยอาหารชั้นดีมากมาย พอตอนเช้าก็จะออกไปสู้กันใหม่ เป็นอย่างนี้ไปจนวันสิ้นโลกหรือแร๊กนาร๊อกมาถึงครับ)

(ระบบคล้ายๆเกมส์ออนไลน์สมัยนี้นิดๆเนอะ?)
tyransiam
โพสต์: 92
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 5:06 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 23, 2010 6:17 pm

แล้วที่เขาพูดกันว่า "วันพิพากษา " ล่ะครับ?...วันพิพากษาคืออะไร จะเกิดอะไร และหลังจากนั้นจะมีเหตุการณ์อะไรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 24, 2010 12:13 am

ชีวิตนิรันดร เป็นชีวิตที่เรียกง่าย ๆ ว่า ดีพร้อมสมบูรณ์แบบ
อย่าเปรียบเทียบกับชีวิต ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ดีพร้อม แบบโลกนี้ค่ะ
โลกนี้มีทั้งสุข และ ทุกข์ ปน ๆ กัน แบบสุข ๆ ดิบ ๆ
และสุขบนโลกนี้ ก็ยังไม่ใช่สุขแท้ สุขสมบูรณ์แบบ
ดังนั้น เมื่อเทียบกับสุขแท้ ที่จะมีตอนมีชีวิตนิรันดร
รับรองไม่มีวันเบื่อค่ะ


ส่วนเรื่องวันพิพากษา ก็พูดถึงวันสุดท้ายของโลกแหละค่ะ
วันที่พระเจ้าจะทรงตัดสินทั้งคนที่ตายไปแล้ว ทั้งคนที่มีชีวิตอยู่
เป็นการพิพากษาสุดท้าย ว่าใครได้มีชีวิตนิรันดร และ ใครอดแบบนิรันดร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ธ.ค. 24, 2010 3:31 am

วว 21:1-8 นครเยรูซาเล็มในสวรรค์
แล้วข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิม สูญหายไป ไม่มีทะเลอีกต่อไป ข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระบัลลังก์ว่า “นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์ พระองค์จะทรงพำนักอยู่ในหมู่เขา เขาจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าของเขา ทรงเป็น “พระเจ้าสถิตกับเขา” พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขา จะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์ตรัสว่า “ดูซิ เราทำทุกสิ่งขึ้นใหม่ และทรงเสริมว่า จงบันทึกลงไปว่า “ถ้อยคำเหล่านี้สัตย์จริง เชื่อถือได้” แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า “สำเร็จแล้ว เราคืออัลฟาและโอเมก้า เป็นปฐมเหตุและอวสาน ผู้ใดกระหายเราจะให้ผู้นั้นดื่มจากธารน้ำแห่งชีวิตโดยไม่คิดราคา” ผู้ใดมีชัยชนะจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา เขาจะเป็นบุตรของเรา ส่วน คนขลาด คนไม่มีความเชื่อ คนที่ประพฤติเสื่อมทราม ฆาตกร คนล่วงประเวณี คนใช้เวทมนตร์คาถา คนกราบไหว้รูปเคารพ และคนพูดเท็จทั้งหลาย มรดกของเขาอยู่ในทะเลที่ลุกเป็นไฟ มีกำมะถันเป็นเชื้อเพลิง นี่คือความตายครั้งที่สอง”



--สุดท้ายแล้วโลกชั่วคราวนี้จะจบลงอย่างแน่นอน และเราจะมีทางเลือกแค่2ทางคือ มีชีวิตนิรนดร กับตายนิรันดร


1คร 2:9
แต่ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น และหูไม่เคยได้ยิน และจิตใจของมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์”


--ยังไม่มีใครรู้ว่าชีวิตหน้าเป็นอย่างไรแน่ และสมองเราไม่มีวันคาดคิดถึงได้ แต่เรารู้วิธีไปได้ โดยทางพระเยซู
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ศุกร์ ธ.ค. 31, 2010 6:09 pm

พูดถึงชีวิตนิรันดร ก็จะนึกถึงพระวาจาของพระเยซูคริสต์ ตอนนี้นะคะ

John 17:2-3
"ดังที่พระองค์ได้ทรงโปรดให้พระบุตรมีอำนาจเหนือเนื้อหนังทั้งสิ้น เพื่อให้พระบุตรประทานชีวิตนิรันดร์แก่คนทั้งปวงที่พระองค์ทรงมอบแก่พระบุตรนั้น
และนี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา"


(อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)
เปรียบเทียบก็คือ เราจะได้รับความอบอุ่นเมื่อสวมเสื้อกันหนาว (งงแมะ)
คือ ... ชีวิตนิรันดร = ความอบอุ่น
และ ... พระเยซูคริสต์ = เสื้อกันหนาว
ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ชีวิตนิรันดร แต่อยู่ที่พระเยซูคริสต์ ต่างหาก
หากเราสวมใส่เสื้อกันหนาว เราก็ได้รับความอบอุ่น
คือ หากเราสวมใส่พระเยซูคริสต์ เราก็ได้รับชีวิตนิรันดร
การสวมใส่พระเยซูคริสต์ ก็คือการดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระองค์

ขอพระเยซูคริสตเจ้าโปรดอวยพระพรและประทานความเข้าใจในเรื่องนี้แด่ คุณTyransiam ค่ะ
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

เสาร์ ม.ค. 01, 2011 11:42 pm

อย่าเข้าใจผิดกันนะครับ
........คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า..........“นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์............"
พระองค์จะทรงลงมาหาเราครับ เราไม่ต้องขึ้นไปบนสวรรค์นะ สวรรค์ลงมาเองเลย ดีจัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
My Hope
โพสต์: 735
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 8:42 am
ติดต่อ:

อาทิตย์ ม.ค. 02, 2011 7:02 am

aqua-alta เขียน:อย่าเข้าใจผิดกันนะครับ
........คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า..........“นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์............"
พระองค์จะทรงลงมาหาเราครับ เราไม่ต้องขึ้นไปบนสวรรค์นะ สวรรค์ลงมาเองเลย ดีจัง
พูดง่ายๆก็คือ สวรรค์บนดินนั้นแหละครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
†ผู้แบกพระคริสต์
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ธ.ค. 05, 2009 2:19 pm
ที่อยู่: Bangkok,Thailand

พฤหัสฯ. ม.ค. 06, 2011 9:50 am

tyransiam เขียน:ผมอยากทราบว่า การไปมีชีวิตนิรันดรบนสวรรค์ จะไม่เบื่อเหรอครับ? แล้วในช่วงเวลานั้น จะมีงานอะไรทำบ้าง

ป.ล.อย่าเข้าใจผิดว่าลบหลู่นะครับ คืออยากทราบจริงๆ
+กราบสวัสดีพี่น้องร่วมโลกทั้งหลายและสหายในพระคริสต์ทุกท่าน+
ข้าพเจ้าจะขอตอบตามหัวข้อก็แล้วกัน ที่ว่า "อยากทราบเรื่องชีวิตนิรันดร"
ชีวิตนิรันดร
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ชีวิตนิรันดรคือการรู้จักพระองค์พระเจ้าแท้จริงแต่พระองค์เดียว และรู้จักผู้ที่พระองค์ทรงส่งมาคือพระเยซูคริสตเจ้า” (ยอห์น 17:3)

นี่คือคำจำกัดความของชีวิตนิรันดร !

ชีวิตนิรันดรคือ “การรู้จักพระเจ้า”

ในพระธรรมเก่า การรู้จักพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งดังตัวอย่างที่ยกมาเช่น “ปัญญาเป็นต้นไม้แห่งชีวิตแก่ผู้ที่ยึดเธอไว้” (สภษ 3:18) “จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น” (สภษ 3:6) “คนชอบธรรมได้รับการช่วยให้พ้นด้วยอาศัยความรู้” (สภษ 11:9) “ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้” (ฮชย 4:6)

เมื่อการรู้จักพระเจ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมีชีวิตที่แท้จริง ปัญหาคือการรู้จักพระเจ้าหมายความว่าอะไร ?
.......1. สิ่งแรกสุดเป็นเรื่องของสติปัญญาคือ “รู้ว่าพระเจ้าเป็นเช่นใด” และความรู้เช่นนี้ย่อมทำให้วิถีดำเนินชีวิตของเราแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ตั้งแต่โบราณ มนุษย์เชื่อว่ามีเทพเจ้ามากมาย ต้นไม้ทุกต้น ลำธาร แม่น้ำ เนินเขา ภูเขา หรือแม้แต่ก้อนหินทุกก้อนล้วนมีวิญญาณของเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ วิญญาณเหล่านี้เป็นศัตรูและชอบหลอกหลอนมนุษย์ให้เกรงกลัว จะได้ไม่กล้าขัดขืนเทพเจ้า

มิชชันนารี่จำนวนมากเล่าถึงความยินดีปรีดาของมนุษย์มากมายหลายเผ่าพันธุ์ที่ทราบข่าวดีว่ามีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว แถมยังไม่เกรี้ยวกราดดุร้าย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเราไม่มีทางทราบได้เลยหากพระเยซูเจ้าไม่เสด็จมาบอกเรา

อนึ่งคำ “นิรันดร” ตรงกับภาษากรีก “aionis(ไอโยนิส)” ซึ่งมีความหมายเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ กล่าวคือชีวิตนิรันดรไม่ใช่ชีวิตที่ยืนยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด แต่หมายถึงชีวิตที่มีคุณภาพสูงสุด และมีเพียงผู้เดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับคำนี้ นั่นคือ “พระเจ้า”

เพราะฉะนั้น ชีวิตนิรันดรจึงได้แก่ชีวิตแบบพระเจ้า ผู้ที่มีชีวิตนิรันดรคือผู้ที่ได้ลิ้มรสความรุ่งเรือง ความยิ่งใหญ่ ความร่าเริงยินดี ความสุขสันติ และความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคุณลักษณะของชีวิตแบบพระเจ้า

อาศัยพระเยซูเจ้า นอกจากเราจะรู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นเช่นใดแล้ว พระองค์ยังช่วยให้เราเริ่มมีส่วนในชีวิตแบบพระองค์ตั้งแต่ในโลกนี้ และจะสมบูรณ์แบบในโลกหน้า

ชีวิตนิรันดรจึงได้แก่ การรู้จักและการดำเนินชีวิตแบบพระเจ้า ด้วยประการฉะนี้

.......2. ในพระธรรมเก่า ความรู้ยังบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งดังเช่น “อาดัมรู้จักเอวาภรรยาของตน แล้วนางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดกาอิน” (ปฐก 4:1)

จะเห็นว่าความรู้ระหว่างสามีและภรรยาก่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวสูงสุดทั้งทางความคิด สติปัญญา จิตใจ และร่างกาย

การรู้จักพระเจ้าจึงไม่ใช่เพียงรู้ว่าพระองค์เป็นเช่นใดเท่านั้น แต่ยังต้องมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอันใกล้ชิดเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เหมือนกับที่เรามีต่อคนที่ใกล้ชิดและเรารักมากที่สุด

และเช่นเดิม หากปราศจากพระเยซูเจ้า ความเป็นหนึ่งเดียวนี้ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่จะคิด เป็นพระองค์เองที่ทรงสอนเราว่าพระเจ้ามิได้อยู่ห่างไกล แต่เป็นบิดาที่อยู่ใกล้ชิดและทรงรักเรามนุษย์ทุกคน..
ภาพประจำตัวสมาชิก
†ผู้แบกพระคริสต์
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ธ.ค. 05, 2009 2:19 pm
ที่อยู่: Bangkok,Thailand

พฤหัสฯ. ม.ค. 06, 2011 10:50 am

tyransiam เขียน:แล้วที่เขาพูดกันว่า "วันพิพากษา " ล่ะครับ?...วันพิพากษาคืออะไร จะเกิดอะไร และหลังจากนั้นจะมีเหตุการณ์อะไรครับ
+กราบสวัสดีพี่น้องร่วมโลกทั้งหลายและสหายในพระคริสต์ทุกท่านอีกครั้ง+

ข้าพเจ้าจะขอแยกเป็นข้อๆที่พี่น้องท่านนี้ได้ถามมาคือ..
1.วันพิพากษาคืออะไร ?
2.จะเกิดอะไร(ขึ้นในวันพิพากษา)?
3.หลังจาก(วันพิพากษา)นั้นจะมีเหตุการณ์อะไร?
ตอบ..ข้อ 1:จากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 675 ถึง 677 และ 680 บอกได้ว่า..
หลังความวุ่นวายสุดท้ายของโลกนี้ผ่านไปแล้ว พระตริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอย่างรุ่งโรจน์และมาพร้อมกับชัยชนะอย่างเด็ดขาดของพระเป็นเจ้า และจะทรงเป็นพระตุลาการในการพิพากษาครั้งสุดท้าย

ตอบ..ข้อ 2:จากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 678 ถึง 679 และ 681 ถึง 682 บอกได้ว่า..
พระคริสตเจ้าจะทรงพิพากษาด้วยอำนาจที่ทรงได้รับในฐานะพระผู้ไถ่กู้ของโลก ผู้เสด็จมาเพื่อทรงช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น ความลับต่างๆ ของจิตใจจะถูกเปิดเผย เช่นเดียวกับการกระทำของแต่ละคนต่อพระเป็นเจ้าและต่อเพื่อนพี่น้อง มนุษย์แต่ละคนจะได้รับชีวิตหรือการตัดสินลงโทษตลอดนิรันดรสำหรับการกระทำของเขา และดังนี้ "ความสมบูรณ์ของพระคริสตเจ้า" (อฟ 4:13) ก็จะเป็นจริงขึ้นมา ณ ที่ซึ่ง "พระเป็นเจ้าจะได้ทรงเป็นทุกสิ่งในทุกคน" (1คร 15:28)

และจากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 1038 ถึง 1041 และ 1058 ถึง 1059 บอกได้ว่า..
การพิพากษาครั้งสุดท้ายหรือสากล ประกอบด้วยการพิพากษาให้ได้รับความสุขหรือมีการตัดสินลงโทษตลอดนิรันดร ซึ่งพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเมื่อเสด็จกลับมาในฐานะผู้พิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย จะทรงพิพากษา "ทั้งผู้ชอบธรรมและคนอธรรม" (กจ 24:15) ที่มารวมกันเฉพาะพระพักตร์(ต่อหน้า)ของพระองค์ หลังจากการพิจารณาสุดท้ายแล้ว ร่างกายก็จะกลับคืนชีวิตมามีส่วนร่วมในผลกรรมที่วิญญาณได้รับ ในการพิพากษาทีละคน..

ตอบ..ข้อ 3:จากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 1042 ถึง 1050 และ 1060 บอกได้ว่า..หลังจากการพิพากษาสุดท้ายแล้ว จักรวาลได้รับการปลดปล่อย จากการเป็นทาสของความเปื่อยเน่า จะมีส่วนร่วมในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า พร้อมกับการเปิดของ "ฟ้าใหม่" และ "แผ่นดินใหม่" (2ปต 3:13) ความเต็มเปี่ยมของพระอาณาจักรของพระเจ้าจะเกิดขึ้น หรือการทำให้เป็นจริงขึ้นมาอย่างเด็ดขาด ของแผนการแห่งการช่วยให้รอดพ้นของพระเป็นเจ้า "โดยทรงนำทุกสิ่ง ทั้งที่อยู่บนสวรรค์ และบนแผ่นดิน ให้มารวมกันอยู่ใต้การปกครองของพระคริสตเจ้า พระประมุขแต่เพียงพระองค์เดียว" (อฟ 1:10) พระเป็นเจ้าจะทรงเป็น "ทุกสิ่งในทุกคน" (1คร 15:28) ในชีวิตนิรันดร
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 3:51 pm

อ่านแล้วดีจังเข้าใจมากขี้น :s007: :s007:
ตอบกลับโพส