Belong to the Truth Jesus Christ

Joseph เขียน: น้องseraphim รู้จักคณะของวัดพี่ดีจังเลยคุณพ่อวิญญาณพี่ก็อยู่คณะนี้ ที่น้องพูดมาพี่เคยถูกคุณพ่อนำเข้าเงียบแบบนี้บ่อยมาก ถ้ายังไงน้องseraphim ไปเข้าเงียบกับพี่ดีไหมจ๊ะ เดือนหน้านี่แหละ ใกล้ๆ แล้วพี่จะขวน ใครสนใจบ้างเข้าเงียบแบบคณะเยสุอิต ติดต่อพี่ได้นะครับ

ที่พี่เคยเข้า คุณพ่อจะแจกพระคัมภีร์ให้ไปนั่งอ่านเอาตามมุมธรรมชาติที่เราชอบ วันนั้นทั้งวันห้ามพูดกับใครทั้งนั้นแล้วพ่อจะนัดเวลาบ่ายๆ ให้ไปคุยกับคุณพ่อตัวต่อตัวใครจองเวลาไหนก็ไปเวลานั้น เข้าเงียบอย่างนี้สามวัน ถ้าใครสนใจก็ลองดูนะครับเดียวพี่จะบอกวันและเวลามาอีกทีหนึ่ง

ด้วยรักในพระคริสต์

Joseph เขียน: แจ้งข่าว

คุณพ่อเรียนการฝึกจิตภาวนามาจากศรีลังกา ซึ่งเป็นเมื่องพุธที่เก่งเรื่องพวกนี้มาก เสร็จแล้วคุณพ่อจะกลับไปที่ศรีลังกาเหมือนเดิม สมาชิกตอนนี้มีไม่มากนะครับถ้าพี่น้องสนใจก็เชิญนะครับ

Buddy. เขียน: P'Joe,

Have you read her article? You may find the answer ka... :)

http://www.issara.com/article/retreat-ex.html

Joseph เขียน:
ขอบใจนะจ๊ะน้องBuddy น้องพีพีเคยเขาเงียบแบบเยสุอิตที่บ้านฟื้นฟูจิตใจสวนเจ็ดรินนี่เอง ถึงได้รู้จักคุณพ่อคณะเยสุอิตดี ;)

ด้วยรักในพระคริสต์

Joseph เขียน: น้องพีพี ไปอบรมกับคณะเยสุอิตบ่อยนี้เอง พี่ก็เคยไปอบรมเรื่องศาสนสัมพันธ์ที่ศรีราชาครั้งหนึ่งกับคุณพ่อเกรียงยศแต่คงไม่ได้เจอน้อง ยินดีครับถ้าน้องมีโอกาสแวะไปบ้านเซเวียร์พี่จะรอน้องไปทัก

ด้วยรักในพระคริสต์

:+: seraphim :+: เขียน: :-* การภาวนาแบบพระคัมภีร์ตามแบบของนักบุญอิกญาซีโอ (ผู้ก่อตั้งคณะเยสุอิต)  :-*

การภาวนาตามแบบนักบุญอิกญาซีโอ เป็นการภาวนาโดยอาศัยพระคัมภีร์ ผู้ภาวนาจะเลือกข้อความตอนใดตอนหนึ่งจากพระคัมภีร์ และปล่อยตัวเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ตามที่ผู้ภาวนาได้รำพึง และฟังดูว่าพระบอกอะไร หรือรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์นั้น การภาวนาเช่นนี้เป็นการเอาตัวเองเข้าไปในเหตุการณ์นั้น หรือเรียกว่า Projection การภาวนาแบบนักบุญอิกญาซีโอเรียกว่า Kataphatic Contemplation หรือการภาวนาพิศเพ่งแบบ KATAPHATIC

:D ขั้นตอนของการภาวนาแบบนี้ คือ..............

1) เลือกข้อความตอนใดตอนหนึ่งจากพระวรสาร และอ่านพระวรสารนั้นสักครั้งหนึ่ง

2) เลือกท่าทางใดท่าทางหนึ่งที่ท่านรู้สึกว่าสบายเป็นท่าทางที่จะนำท่านไปสู่การฟังพระเป็นเจ้าอย่างสงบ

3) ใช้เวลาสัก 2-3 นาที เพื่อพักผ่อน มอบความกังวลและสิ่งที่ท่านต้องรับผิดชอบไว้ในพระหัตถ์ของพระ
    เป็นเจ้า ให้พระองค์เป็นผู้ดูแลในขณะที่ท่านใช้เวลานี้กับพระองค์

4) จงระลึกว่าท่านกำลังอยู่ต่อหน้าพระองค์ และพระองค์ทรงรักท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข พระองค์คิดถึงท่าน
   และอยู่กับท่านเสมอ

5) อ่านพระวรสารที่ท่านเลือกอย่างช้าๆ จงเชื่อว่าพระวรสารนั้นเป็นพระวาจาของพระเป็นเจ้าที่ตรัสแก่
   ท่าน...เดี๋ยวนี้....และที่นี่

6) เลือกข้อความใดข้อความหนึ่งจากบทพระวรสารที่ซึ่งกินใจท่าน รำพึงและคิดถึงข้อความนั้นซ้ำแล้วซ้ำ
    เล่าในความเงียบอยู่ในข้อความนั้นตลอดเวลาการภาวนา

7) กุญแจดอกสำคัญของการภาวนาแบบเข้าญาณ ( KATAPHATIC  CONTEMPLATIVE )  กับพระเยซู
   คริสตเจ้าตามพระวรสารคือ

               ก.อยู่ที่นั่นกับพระองค์ และเพื่อพระองค์

               ข.มีความต้องการพระองค์ กระหายพระองค์ เตรียมต้อนรับพระองค์ราวกับว่าท่านกำลังรอคอยบุคคลที่ท่านรักอย่างมากที่สุด เชื้อเชิญพระองค์ให้ไขแสดงเองแก่ท่าน และสอนท่านให้รู้จักพึ่งพระองค์อย่างลึกซึ้ง

               ค.ฟังพระองค์ ฟังพระองค์ด้วยความเชื่อและความเคารพ ฟังด้วยความไว้ใจ และด้วยความกระหายที่จะดำเนินชีวิตตามพระวาจา ฟังด้วยความกตัญญู แด้วยความสงบ โดยปราศจากการแสวงหาความซ่อนเร้น จงทำตัวเหมือนเด็กที่กำลังนั่งบนตัก และฟังนิทานจากบิดา

               ง.ตามพระองค์ ตามพระองค์ไปไม่ว่าพระองค์จะปรารถนาให้เป็นอะไร ปล่อยให้พระองค์สนทนากับท่าน ปล่อยให้พระองค์รักและปลอบโยนท่าน ยอมให้พระองค์นำท่านผ่านความแห้งแล้งและมืดมน ถ้าพระองค์ทรงปรารถนาอะไรก็ตามพระเยซูทรงปรารถนา พระองค์สมควรจะได้รับ จงวางใจในพระองค์

               จ.ตอบรับพระองค์ ตอบรับพระองค์ไม่ว่าจะเป็นแนวทางใดที่พระองค์ทรงสัมผัสชีวิตท่าน จงมีความจริงใจต่อตนเอง และตอนรับอย่างซื่อสัตย์อย่างมีอิสรภาพและด้วยความเคารพ จงกล่าวจากดวงใจและตามความรู้สึกของท่าน แม้ว่าท่านอยากจะบ่นต่อว่าพระองค์ก็ตาม จงจำไว้ว่าเมื่อท่านไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไร พระจิตเจ้าจะภาวนาในตัวท่านและเพื่อตัวท่าน จงออกชื่อพระเยซูคริสตเจ้าตามจังหวะลมหายใจเข้าออกของท่าน หรือจะกล่าวคำสรรเสริญหรือโมทนาคุณซ้ำๆ ก็ได้ นั่นเป็นการภาวนาตอบรับที่ดียิ่ง

8) พิจารณาดูว่ามีผลปฏิบัติอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของตน

9) เสวนากับพระบิดา พระบุตร และพระมารดา

10) ปิดท้ายด้วยการสวดบทข้าแต่พระบิดา

   :-*  ตัวอย่างการภาวนา (ลก 10: 38-42)    :-*

จงจินตนาการว่าท่านเป็นเพื่อนของมารีหรือมาร์ธา หรือลาซารัส ท่านได้พบกับใครคนใดคนหนึ่งในสามคน และได้รับคำบอกเล่าว่า พระเยซูเจ้าจะเสด็จมาที่เมืองเบธานี ท่านได้แสดงว่าท่านมีความปรารถนาจะพบพระองค์ และท่านก็ได้รับการเชื้อเชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับพระองค์ ปิดตาของท่านและปล่อยตัวท่านเองเข้าไปกับการรับประทานอาหารกับพระองค์ และพยายามมองดูรายละเอียดต่างๆที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้น และพิจารณาดูว่าท่านรู้สึกอย่างไร และมีผลอะไรเกิดขึ้นกับท่าน

Jeab Agape เขียน: เจอนี้แล้ว เดี๋ยวจะอ่าน