นิทานหลอกเด็กเรื่องพระเยซูไปอินเดีย

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ พ.ค. 07, 2011 2:08 pm

ทำไมบรรดาผู้นิพนธ์พระวรสารจึงไม่กล่าวถึงชีวิตวัยเด็กของพระเยซูเจ้า

เห็นได้ชัดเจนจากเนื้อหาของพระวรสารเองว่า บรรดาผู้นิพนธ์พระวรสารมิได้ตั้งใจเขียนชีวประวัติของพระเยซูเจ้าให้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ละท่านมีจุดประสงค์พิเศษเฉพาะ แต่โดยทั่วไปแล้วทุกท่านต้องการเล่าเรื่องพระเยซูแห่งนาซาเร็ธให้ผู้อ่านรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ และได้ทรงกระทำพันธกิจแห่งการไถ่กู้ของพระองค์สำเร็จลง ดังนั้น งานของพวกเขาจึงอยู่บนพื้นฐานการสอนของพระคริสตเจ้า และเล่าเหตุการณ์ซึ่งเชื่อมโยงกับพันธกิจของพระองค์ในช่วงบั้นปลายชีวิตของพระองค์ที่เราเรียกว่าชีวิตสาธารณะนั้น (เพียง 3 ปี) พระเยซูเจ้าได้ทรงรวบรวมบรรดาศิษย์ ทรงสอนพวกเขา และทรงกระทำพันธกิจของพระองค์สำเร็จลงด้วยการรับทรมาน การสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์ชีพ บรรดาผู้นิพนธ์พระวรสารทุกท่านเล่าเรื่องดังกล่าวนี้ให้เราฟัง

หลังจากเล่าเรื่องชีวิตบางอย่างในวัยเด็กของพระเยซูเจ้าเหตุการณ์สุดท้ายคือทรงพลัดหลงจากบิดามารดาตอนอายุ 12 พรรษา นักบุญลูกาเล่าให้เราฟังว่า หลังจากนั้นทรงดำเนินชีวิตอยู่กับบิดามารดาที่เมืองนาซาเร็ธ “พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดา และเชื่อฟังท่านทั้งสอง... พระเยซูเจ้าทรงเจริญขึ้นทั้งในพระปรีชาญาณ พระชนมายุและพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์” (ลก 2 : 51-52) ถ้อยคำเหล่านี้สรุปชีวิตซ่อนเร้นทั้งหมดของพระเยซูเจ้า

ตั้งแต่อายุ 12 พรรษาจนเริ่มชีวิตสาธารณะนั้น พระเยซูเจ้าคงดำเนินชีวิตแบบเด็กชาวยิวอื่น ๆ และในวัยรุ่นด้วย จึงเห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรในชีวิตของพระองค์จะเทียบเท่าบทบาทพระเมสสิยาห์ของพระองค์ ยกเว้นว่าพระองค์ทรงอยู่เงียบ ๆ และทรงเตรียมภายในส่วนตัวของพระองค์ บรรดาผู้นิพนธ์พระวรสารจึงไม่มีอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซูเจ้าก่อนชีวิตสาธารณะของพระองค์ ไม่มีความจำเป็นจะต้องเล่าถึงชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดาทั่ว ๆ ไป

อย่างไรก็ตาม การที่บรรดาผู้นิพนธ์พระวรสารมิได้เอ่ยถึงชีวิตวัยเด็กของพระพระเยซูเจ้าก็ทำให้เกิดตำนานว่าพระเยซูเจ้าทรงไปอยู่ในประเทศอินเดีย ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น

ตำนานเหล่านี้ปรากฏว่า บางครั้งถูกนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือแม้จะมีการปฏิเสธ แต่ก็ยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก บางทีอาจเป็นเพราะธรรมชาติอันเพ้อฝัน

ทุกเรื่องเล่าเกี่ยวกับการพักแรมของพระเยซูเจ้าในประเทศอินเดีย มีรากฐานมาจากนักประพันธ์สองท่าน คนแรกชื่อ กูลัมอามัด (ค.ศ. 1839-1908) ผู้ก่อตั้งศาสนาอิสลาม นิกายอามาดียะ เป็นผู้ยืนยันว่าพระเยซูเจ้ามิได้ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แต่ทรงสิ้นพระชนม์เมื่ออายุ 120 ปีที่เมืองศรีนาคาร์ เมืองหลวงของแคชเมียร์

บรรดาคนยุคใหม่ที่เชื่อเรื่องพระเยซูประทับอยู่ในอินเดียนั้นเวลานี้ไม่ค่อยกล่าวถึงตำนานของกูลัมอามัดเท่าใดนัก เพราะเขาเปรียบพระเยซูเหมือนกับยูซาฟัตที่ชาวมุสลิมเคารพนับถือ และที่ฝังศพเขาก็อยู่ในเมืองศรีนาคาร์ แต่ทว่าเรื่องเหล่านี้เกิดจากข้อสมมุติฐาน

ยูซาฟัตมิใช่พระเยซูเจ้า จริง ๆ แล้วยูซาฟัตเป็นชื่อภาษาสันสกฤตที่ว่า โพธิสัตว์ ที่มาจากภาษาอิหร่านว่า Bodisaf และเพี้ยนมาจากภาษาอาหรับว่า Badasaf คำโพธิสัตว์ถูกนำไปใช้ในวรรณคดียุโรปจึงกลายเป็นตำนานเรื่องโยซาฟัต ที่มีระบุอยู่ในปฏิทินนักบุญของคริสตชน (หมายเหตุ : นักบุญสององค์ในเรื่องบาร์ลาอัมกับโยซาฟัตนั้นไม่เคยมีอยู่จริง มีแต่เรื่องนักบุญบาร์ลาอัมแห่งอันทิโอก มรณสักขีของศตวรรษที่ 4 และเรื่องนักบุญโยซาฟัต พระสังฆราชและมรณสักขีของศตวรรษที่ 17)

ผู้เขียนเล่าเรื่องพระเยซูประทับอยู่ในอินเดียอีกท่านหนึ่งนั้นเป็นนักหนังสือพิมพ์ชาวรัสเซีย ชื่อ นิโคลาส อเล็กซานโดรวิค โนโตวิค (ค.ศ. 1858-1915) เขาสร้างความเกรียวกราว เพราะหนังสือเรื่อง Lavie inconnu de jesus-Christ ซึ่งปรากฏอยู่ในกรุงปารีส ปี ค.ศ. 1894 (ฉบับภาษาเยอรมันมีชื่ออังกฤษว่า The Gap in the life of jesus ตีพิมพ์ที่ Stuttgart ปี ค.ศ. 1894)

ในหนังสือของเขาอ้างว่า ระหว่างการเดินทางผ่านเมืองลาดักห์ในปี ค.ศ. 1887 นั้น เจ้าอธิการอารามฤาษี Himis (i.e He-mis dGon-pa) ได้อ่านให้เขาฟังข้อความตอนที่มีชีวประวัติของพระเยซูเจ้าเรื่องที่พระองค์ได้ทรงเดินทางไปอินเดียตอนอายุได้ 14 ปี

หลังจากหนังสือของโนโตวิคตีพิมพ์ออกมาได้ไม่นานนัก เจอาร์คีบาล ดักลาส และ เฟรดริค แมกซ์ มูลเลอร์ ก็ได้เขียนวิจารณ์โนโตวิกว่าเป็นคนโกง พวกเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าในโตวิกไม่เคยไปเยี่ยมอารามแห่งนั้นเลย โดยถามท่านเจ้าอธิการอาราม และก็ไม่มีหนังสือเรื่องพระเยซูเจ้าอยู่ที่อารามนั้นด้วย

วรรณกรรมทันสมัยชิ้นหนึ่งภาษาเยอรมัน ได้เขียนหักล้างนิยายเรื่องพระเยซูในประเทศอินเดียโดยสิ้นเชิง แม้นิยายเรื่องนี้จะปรากฏออกมาอีกในบางครั้ง

วรรณกรรมของกุนเตอร์ กรอนโบลด์ เรื่องอวสานของนิยายเรื่องพระเยซูในอินเดีย (Jesus in India : Das End einer Legende) ผู้พิมพ์ผู้โฆษณาคือโกเซล เวอร์ลัง พิมพ์ที่มุนเชนปี ค.ศ. 1985 จำนวน 152 หน้า

-------------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง (บาทหลวงวีระ อาภรณ์รัตน์, 2008, น.15-18)
บรรณานุกรม บาทหลวงวีระ อาภรณ์รัตน์. (2008). 50 คำถามเกี่ยวกับศาสนาคริสต์คาทอลิก. กรุงเทพฯ : อัสสัมชัญ.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

เสาร์ พ.ค. 07, 2011 2:18 pm

เหอๆ พระเยซูไปอินเดีย
โกหก พระเยซุไม่เคยไปอินเดีย
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

เสาร์ พ.ค. 07, 2011 4:23 pm

A : Jesus in india!! :s013:
B : Sure. Next you'll tell me that Hitler used to be a Pharaoh :s023: And may be Julius Caesar is a japanese!!!!!
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อาทิตย์ พ.ค. 08, 2011 5:54 pm

เคยได้อ่านนิทานเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เมื่อ 2-3 ปีก่อนมั๊งค่ะ ไม่ได้เอามาใส่ใจ เค้าแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะยาว...ว...ว หลายหน้ากระดาษเลยค่ะ อ่านแล้วปวดหัวค่ะ คนไม่รู้เรื่องรู้ราวก็อาจงง และหลงเชื่อไปบ้าง คนพวกนี้จับแพะชนไก่ไปเรื่อยค่ะ น่าเหนื่อยใจกับพวกนี้เหมือนกันค่ะ

หวังว่าเมื่อเวลาในโลกนี้ของเขาสิ้นสุดลง พระบิดาเจ้าสวรรค์จะทรงเมตตากับพวกเขาด้วย
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

จันทร์ พ.ค. 09, 2011 11:55 pm

เคยอ่านเหมือนกันครับ เมื่อนานมาแล้ว ถ้าจําไม่ผิดรู้สึกว่าจากเว็ปชื่อพลังจิตหรืออะไรซักอย่าง
แต่ไม่คิดจะเก็บเนื้อหาไว้ในหัวหรอกครับ เปลืองเมโมรี่เปล่าๆ เป็นนิทานหลอกเด็กจริงๆหละครับ
กรอกสมบูรณ์ เขียน: หวังว่าเมื่อเวลาในโลกนี้ของเขาสิ้นสุดลง พระบิดาเจ้าสวรรค์จะทรงเมตตากับพวกเขาด้วย
Amen
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6094
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 4:38 pm

นานมาแล้วเคยเปิดTVช่องหนึ่งจำไม่ได้มีพระภิกษุท่านหนึ่งกำลังพูดสอนให้พระภิกษุมากมายฟัง
เปิดมาเจอกำลังจะเปลี่ยนช่องพอดีได้ยินพูดถึงพระเยซู ก็เลยหยุดดูว่าพูดอะไรทำไมพูดถึงพระเยซู
เขาพูดว่าพระเยซูไม่ได้ตายบนกางเขน พระเยซูหนีไปอยู่ที่อินเดีย อาตมายังไปที่หลุมศพเลยอะไรทำนองนี้ เราฟังแล้วโมโหมาก เขาไม่รู้ข้อเท็จจริงแล้วมาพูดสอนได้อย่างไร ออกTVด้วย
ตอนนั้นเราได้แต่บ่นไม่รู้จะทำยังไง สงสัยเขาคงอ่านนิทานหลอกเด็กเรื่องพระเยซูไปอินเดีย
ไม่รู้เล่มเดียวกันหรือเปล่า น่าจะศึกษาหรือถามข้อสงสัยก่อนที่จะเอาข้อมูลต่างๆไปสอน :s030:
ตอบกลับโพส