ท่านรู้สึกอย่างไร ชาวพุทธบางกลุ่มระบุพระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Thai
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 12:13 am

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 10:11 am

เมื่อไม่นาน ได้คุยกับชาวพุทธท่านหนึ่ง เขาได้อธิบายให้ฟังว่า

ชาวพุทธบางกลุ่มกล่าวว่า พระเยซูทรงเป็นพระโพธิสัตว์ท่านหนึ่ง

ศาสนาพุทธมีคติว่า พระโพธิสัตว์ก็คือจะเป็นพระพุทธเ้จ้าในอนาคตกาล

แม้ความเชื่อเขาไม่ได้เชื่อเรื่องพระบิดาเหมือนกับคริสตชนเรา
แต่เขาก็พูดในเชิงยกย่องนะครับ

ผมมีสองความคิดอยู่นะครับ

1. ศาสนาคริสต์และพระศาสนจักรก็มีหลักการทุกอย่างชัดเจน
คงไม่ใช่่ว่าคริสตชนจะต้องเชื่อเช่นนั้น :s023:

2. ผมว่าศาสนาอื่นๆ ก็มีสิทธิยกย่องพระเยซูในบริบทของศาสนาของเขาได้
ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่นั่นอีกเรื่อง
เพราะถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว พระเยซูก็ทรงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวโลกทั้งมวล
ไม่ใช่เฉพาะแต่คริตชนเท่านั้น
อย่างมุสลิม เขาก็ยอมรับว่าท่านทรงเป็นนบีท่านหนึ่ง :s012:



จึงอยากทราบว่าถ้าท่านอื่นๆ หากได้รับทราบเรื่องแบบนี้
รู้สึกอย่างไรกันบ้าง ในสิ่งที่ไม่ตรงกับแนวทางของคริสตชน
อยากทราบความรู้สึกจริงๆ นะ ไม่อ้างตำรามาขัดแย้งกันนะ :s030:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 11:58 am

มานับถือไหว้พระเยซูกันเยอะๆก็ดีครับ ผมรู้สึกดีนะครับ สิ่งที่ดีล้วนเป็นผลงานจากพระครับ
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 12:09 pm

ถ้าถามความรู้สึก ก็ดีใจที่เค้าให้เกียรติ ยกย่อง พระเยซูเจ้า ในบริบทของเค้า
(ดีกว่าเจอพวกที่ลบหลู่ เหยียดหยามพระองค์แรงๆ)

แต่ถามว่า เชื่อมั้ย? ว่าพระองค์เป็นแค่พระโพธิสัตว์ ไม่ใช่พระเจ้า

คำตอบคือ ผมจะเชื่อ ถ้าพระโพธิสัตว์ในบริบทของเค้า สามารถฟื้นคืนชีพจากความตายได้, ชุบชีวิตคนตายได้ และยอมตายอย่างทุกข์ทรมานที่สุดเพราะความรักได้ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 4:27 pm

รู้สึกว่า
พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องในบริบทของเค้าจริงๆ

พระองค์ทรงยิ่งใหญ่นัก
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 6:25 pm

มันเป็นการยกใครใหญ่กว่าใครอย่างหนึ่ง เหมือนทาง
พราหมณ์ก็บอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นอวตารที่ 8 ของพระนารายณ์
เพื่อไม่ให้ผู้ศรัทธาเดิมออกจากศาสนาของตนเมื่อรู้ว่าศาสนาอื่นดีกว่า
แต่กลืนศาสนาอื่นเข้ามาหาตัวเองเสีย ผู้ศรัทธาเดิมจะได้รู้สึกว่า
ของตนดีที่สุด
ข้า-พระ-เจ้า
โพสต์: 407
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 28, 2010 12:03 am

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 10:55 pm

littleseal เขียน:มันเป็นการยกใครใหญ่กว่าใครอย่างหนึ่ง เหมือนทาง
พราหมณ์ก็บอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นอวตารที่ 8 ของพระนารายณ์
เพื่อไม่ให้ผู้ศรัทธาเดิมออกจากศาสนาของตนเมื่อรู้ว่าศาสนาอื่นดีกว่า
แต่กลืนศาสนาอื่นเข้ามาหาตัวเองเสีย ผู้ศรัทธาเดิมจะได้รู้สึกว่า
ของตนดีที่สุด
ตามแมวน้ำครับ
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อังคาร มิ.ย. 14, 2011 11:05 am

รู้จักต้นไม้ด้วยผลของมัน
ท่านทั้งหลาย จงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ
ที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ แต่ภายในเขาร้ายกาจดุจหมาป่า
ท่านจะรู้จักเขาได้ด้วยผลของเขา
ผลองุ่นนั้นเก็บได้จากต้นไม้มีหนามหรือ หรือว่าผลมะเดื่อนั้นเก็บได้จากพืชหนาม
ต้นไม้ดีย่อมให้แต่ผลดี ต้นไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว
ต้นไม่ดีจะเกิดผลเลวไม่ได้ หรืต้นไม้เลวจะเกิดผลดีก็ไม่ได้
ต้นไม้ซึ่งไม่เกิดผลดีย่อมต้องถูกฟันลงและทิ้งเสียในไฟ
เหตุฉะนั้นท่านจะรู้จักเขาได้ เพราะผลของเขา

(มธ 7:15-20)
:s015:
ยังมั่นคงในความรักที่มีต่อองค์พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นพระเป็นเจ้าแท้และมนุษย์แท้ ทรงเป็นพระเจ้าร่วมกับพระบิดาและพระจิต ตลอดนิรันดร
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

อังคาร มิ.ย. 14, 2011 2:17 pm

ต้องระวังความเชื่อแบบนี้ให้ดี เพราะไม่ใช่ศาสนาอื่นความเชื่ออื่นเท่านั้น แต่เข้าข่ายเป็นความเชื่อเทียมเท็จ ลัทธิสอนผิดอีกด้วย ต้องระวังการยอมรับเรื่องนี้ให้ดี แม้ว่าจะเป็นการยกย่องพระเยซู แต่เป็นการยกย่องไม่ตรงกับความเป็นจริง อะไรที่ไม่ใช่เราก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่
เหมือนคุณ littleseal บอก ศาสนาพราหมณ์เคยใช้วิธีนี้ในกรณีพระพุทธเจ้ามาแล้ว ผลคือ ทำให้พระพุทธศาสนาหมดไปจากอินเดีย เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่าความคิดแนวนี้ เป็นอันตรายต่อพระศาสนจักร มากกว่าการปฏิเสธพระคริสต์ตรง ๆ เสียอีก
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 4:00 am

รู้สึกว่า เป็นความเข้าใจผิดครับ ^^
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 8:55 pm

francisco xavier เขียน:ต้องระวังความเชื่อแบบนี้ให้ดี เพราะไม่ใช่ศาสนาอื่นความเชื่ออื่นเท่านั้น แต่เข้าข่ายเป็นความเชื่อเทียมเท็จ ลัทธิสอนผิดอีกด้วย ต้องระวังการยอมรับเรื่องนี้ให้ดี แม้ว่าจะเป็นการยกย่องพระเยซู แต่เป็นการยกย่องไม่ตรงกับความเป็นจริง อะไรที่ไม่ใช่เราก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่
เหมือนคุณ littleseal บอก ศาสนาพราหมณ์เคยใช้วิธีนี้ในกรณีพระพุทธเจ้ามาแล้ว ผลคือ ทำให้พระพุทธศาสนาหมดไปจากอินเดีย เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่าความคิดแนวนี้ เป็นอันตรายต่อพระศาสนจักร มากกว่าการปฏิเสธพระคริสต์ตรง ๆ เสียอีก
amenครับ

(มธ5:37)แต่ให้ถ้อยคำของท่านเป็นคำตรงเถิด จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ ซึ่งพูดเกินนี้ไปก็มาจากความชั่ว

อยากฝากถามเหมือนกันว่าชาวพุทธรู้สึกยังไงที่โดนแบบนั้น
แต่พอดีคริสตชนเรามีพระเป็นเจ้ารักษาดูแลเอาใจใส่อย่างดี คงเป็นการยากซักหน่อยที่มารจะใช้วิธีนี้ทำให้คริสตชนไปเป็นพุทธ และคงเป็นการยากที่จะทำให้คริสตชนเกือบล้นโลกกลับกลายเป็นเกือบหมดโลกแบบที่เค้าเคยโดนชาวฮินดูทำมาแล้ว
Thai เขียน:อย่างมุสลิม เขาก็ยอมรับว่าท่านทรงเป็นนบีท่านหนึ่ง
ผมว่าอันนี้คนละกรณีนะครับ พี่น้องมุสลิมเค้ามีพระเจ้าองค์เดียวกับเรานะครับ เค้าก็ลูกหลานอับราฮัมเหมือนๆกับเรา ในบางกรณีบางเรื่องอาจเห็นต่างไปบ้าง อย่างน้อยเค้าก็ยังเห็นว่าองค์พระเยซูเป็นคนของพระเจ้า อย่างน้อยเค้าก็ไม่ใช่ลัทธิอเทวนิยม ปฏิเสธพระเจ้าพระผู้สร้างผู้ทรงพระชนม์นิจนิรันดร์นะครับ
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

จันทร์ มิ.ย. 20, 2011 9:03 am

พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:รู้สึกว่า เป็นความเข้าใจผิดครับ ^^
อ๋อ ครับ หลงแสดงความคิดเห็นไปตั้งเยอะ :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มิ.ย. 20, 2011 12:01 pm

ไม่ใช่ค่ะเป็น คนละองค์กัน ::013::
พระเยซูเป็นพระบุตร เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อไถ่บาปมนุษย์
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ ก.ย. 17, 2012 9:32 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
magicgreen
โพสต์: 361
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm

จันทร์ ก.ย. 17, 2012 8:00 pm

ว่าตามบนๆเลยฮะ มันจะเป็นการบิดเบือนเพื่อไม่ให้ชาวพุทธที่ว่าจะเปลี่ยนเป็นคริสต์มาคิดว่า เอ๊ ถ้างี้ก็นับถือพุทธต่อดีกว่า ไรงี้แน่เลย โดยตัวผมไม่เชื่อแน่นอน เพราะพระองค์คือพระคริสตเจ้าพระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นมนุษย์แท้และพระเจ้าแท้ และพระองค์คือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด (แต่ว่าแต่ละศาสนาก็มีกลไกการปกป้องศาสนาตัวเองล่ะนะ ต้องสรุปได้ว่าแม้จะเป็นคนต่างศาสนาพระองค์ก็ยังทรงพระสิริรุ่งโรจน์เหนือจิตใจทุกคนในโลกแน่นอนคั๊ บบ)

((ปล.เป็นความเห็นส่วนตัวแท้ๆ ถ้าก้าวร้าวหรือผิด หรือ หรือ....ประการใดขออภัยเป็นอย่างยิ่งคับ :s008: )
แก้ไขล่าสุดโดย magicgreen เมื่อ จันทร์ ก.ย. 17, 2012 8:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

จันทร์ ก.ย. 17, 2012 8:06 pm

:s005:
ภาพประจำตัวสมาชิก
dark-kanita
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 12:29 pm

คำว่าโพธิสัตว์ คือ คือผู้รู้ ผู้แนะนำให้ สัตว์นรก สัตว์โลก รวมทั้งมนุษย์ ให้รอดพ้นจากบาปและความทุกข์นะครับท่าน :s012:


ดังนั้นชาวพุทธบางคนจะจิ้นจิ๊กพระเยซูไปแจมไว้มันก็ไม่น่าจะเป็นไร ที่ตกใจคือปกติแล้วชาวพุทธไม่มีไครคิดว่าพระเยซูเป็นโพธิสัตว์นะครับ มันไม่มีบันทึกในไตรปิฎก ด้วย แต่มั่วระวัง ให้ดี ไปผิดกับหลักพุทธและหลักคริสมันจะวุ่น 55555 :s013:
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 2:07 pm

ส่วนตัวไม่คิดว่าการที่ชาวพุทธบางกลุ่มเชื่ออย่างนั้นแล้วจะทำให้ชาวคริสต์ในไทยเขวได้เท่าไรนะครับ

เรื่องศาสนาฮินดูกลืนศาสนาพุทธในอินเดียมันมีเรื่องการเมืองและผลประโยชน์มาเกี่ยวมากครับ ความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธทำให้พวกพราหมณ์เสียผลประโยชน์ และส่งผลสะเทือนถึงระบบวรรณะในอินเดียอีกด้วย

เคยอ่านเจอมีคนอ้างว่าพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ซึ่งได้มรณภาพไปแล้วได้เล่าให้ฟังว่าท่านเคยเข้าณาณไปพบกับพระเยซู และพระเยซูได้บอกว่าพระองค์มาจากสวรรค์ชั้นดุสิต (ในความเชื่อเรื่องภพภูมิของทางพุทธจะถือเป็นสวรรค์ชั้นที่ 4 จากสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น) และพระอาจารย์ท่านนั้นก็ยังได้สอบถามข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องการยกบาปแก้บาปจากพระเยซูอีกด้วย เพราะทางทางพุทธไม่เชื่อว่าใครจะแก้กรรมให้ใครได้

ผมคิดว่าถ้าเจอใครให้ความเห็นแบบนี้ก็ไม่ต้องไปทุ่มเถียงเอาเป็นเอาตายกับเค้าหรอกครับเพราะว่าเค้าไม่ได้มีความเชื่อเหมือนกับเรา เราบอกแค่ว่าจุดยืนที่เราเชื่อจริงๆเป็นอย่างไรให้เค้าเข้าใจก็พอแล้วครับ
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

อังคาร ก.ย. 18, 2012 10:21 pm

สวัสดีครับ คุณThai และ ทุกท่าน

ผมเคยกล่าวในที่นี้ว่า "ศาสนา" เป็นเรื่อง สุขุมคัมภีรภาพ (สุขุม ลุ่มลึก)
แม้พระพุทธองค์เอง ภายหลังตรัสรู้แล้ว พระองค์ได้พิจารณาธรรมอยู่ 7 สัปดาห์
ทรงเห็นว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อน สุขุมคัมภีรภาพ
ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้ ทรงเกิดความท้อพระทัยว่าจะไม่แสดงธรรม
เพื่อโปรดมหาชน ต่อมาพระองค์ได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้ง แล้วทรงเห็นว่าบุคคล
ในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ จึงเป็นที่มาของ บัวสี่เหล่า คือ อุปมา
เปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก

ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542
โพธิสัตว์ น. ท่านผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า. (ส. โพธิสตฺตฺว; ป. โพธิสตฺต)

:s021:
1. ทั้งพระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ เป็นมนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า

2. พระเยซูประสูติ หลังพระพุทธองค์ ปรินิพพาน 543 ปี
ณ เวลานี้เราอยู่ที่ พ.ศ. 2555 แต่ ค.ศ. 2012

3. พระเยซู คือ พระเจ้าแท้ และมนุษย์แท้ พระโพธิสัตว์ คือ มนุษย์ ที่
บำเพ็ญบารมีหรือกระทำความดีต่าง ๆ เพื่อให้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็น
พระพุทธเจ้าในอนาคตกาล (คือ ชาติหน้า หรือชาติต่อ ๆ ไป) ...

**ในศาสนาคริสต์ ไม่มีชาติหน้า มีชาติเดียว และชีวิตนิรันด์**

4. พระโพธิสัตว์ มีหลายองค์ พระเยซู มีพระองค์เดียว ...ทรงเป็นหนึ่งในทาง
คริสต์เราเรียก "พระตรีเอกานุภาพ" หรือ "พระตรีเอกภาพ" คือ พระบิดาพระบุตร
และพระจิต

:s015:
ศาสนา เป็นเรื่องของ ความเชื่อ และ หลักการ หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง
ก็ไม่ได้ เปรียบเหมือนเรือไม่มีหางเสือ ขับไปก็เบ้ซ้ายทีขวาที ชนตลิ่ง ชนสะพาน
ชนเรือลำอื่น มั่วไปหมด...ลังแต่จะทำให้เรือตนเอง และเรือผู้อื่นเสียหาย

ศาสนา ไม่ทำความเข้าใจ แล้ว จับ แพะ ชนแกะ เลือด สาด ไม่เพียงแต่ไม่เกิด
คุณ กับเป็นโทษมหันต์ หากตนเองซึ่งเป็นศาสนิกศาสนานั้น ๆ นอกจากไม่แตกฉาน
ในศาสนาตัวเอง แล้วยังมั่วศาสนาอื่นอีก...

จริง ๆ เรื่องพวกนี้ผมมีรูปและ Link ด้วยแต่ไม่อยากนำมาเสนอในนี้ มัน สุแปรติซัง
ท่านใดต้องการอ่านเรื่องพวกนี้ให้ Search ใน google ว่า "โพธิสัตว์ปรมัตถบารมี"
เป็นแนวคิดของสายหลวงพ่อองค์นึง(ผมไม่กล่าวชื่อแล้วกัน)

ดังพระเยซูเคยตรัสไว้ ...
"ให้เขี่ยท่อนซุงในตาตนเอง ก่อนเขี่ยผงทุลีดินในตาชาวบ้าน"

คนนำมาเผยแพร่ต่อ จากหวังดี กลายเป็นเครื่องมือโดยปริยาย...แบบทำงานผ่านเน็ต
ได้เดือนละแสน...ยิ่งแชร์ ยิ่งสร้างความบอบช้ำให้ สังคม

:s012:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
Serafina
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 08, 2012 6:07 pm

อาทิตย์ ม.ค. 27, 2013 4:42 pm

ความหมายของคำว่าพุทธะ

ในพระพุทธศาสนา พุทธะ (ภาษาบาลี พุทฺธ แปลว่า "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน")
ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนที่มนุษย์คู่แรกจะทำบาป ในพระคัมภีร์กล่าวว่า “พวกเขาเปลือยกายแต่ก็ไม่อายต่อกัน” มันบอกถึงว่าจิตของเด็ก (the spirt of the child) ของอาดัมและเอวาตื่นอยู่เสมอ เบิกบานใจตลอดเวลา คล้ายทูตสวรรค์เซราฟิม ที่บินวนเวียนแวกว่ายอยู่รัศมีแห่งพระสิริของพระเจ้า อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย ตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา หลังจากที่พวกท่านทั้งสองได้ทำบาปโดยกินผลไม้จากต้นไม้แห่งปัญญาที่มีแต่ความรู้ดีและรู้ชั่วเท่านั้น จิตของเด็กของท่านทั้งสองจึงเข้าสู่สภาวะหลับใหล มนุษย์จึงแสดงความเป็นปัจเจกบุคคลโดยพึ่งแต่วิญญาณ(soul)และร่างกาย(flesh body)เท่านั้น
ในหนังสือ La vita interna di Gesù Cristo พระเยซูเจ้าทรงเผยแสดงชีวิตภายในของพระองค์ให้แก่ซิสเตอร์มารีอา เชชีลีอา บายอี พระเยซูทรงตรัสถึงพระองค์เองขณะอยู่ในพระอุทรของพระมารดาของพระองค์ พระองค์ทรงรู้สึกทรมานพระทัยที่ต้องอยู่ในกายเนื้อ จะไปไหนก็ไม่ได้ ลิ้มรสแต่อาหารที่ไร้รสชาติ ผ่านทางอวัยวะของกายเนื้อ พระองค์ได้ถวายความทรมานพระทัยนี้แด่พระบิดา ในฐานะบุตร เพื่อชดเชยความผิดทุกอย่างที่น้องทั้งหลายได้กระทำผิดต่อพระองค์ด้วยอวัยวะต่างๆของร่างกาย แต่พระองค์ก็ทรงรู้สึกยินดีที่ได้รับอาหารอันบริสุทธิ์เหมาะสมจากพระมารดาผู้บริสุทธิ์และปราศจากมลทินของพระองค์ ในเวลากลางคืนเมื่อพระวิญญาณของพระองค์ถอนตัวจากอวัยวะต่างๆ ของกายเนื้อ พระวิญญาณได้แนบสนิทกับพระวจนาตถ์ เพื่อร่วมกันสรรเสริญ ถวายพระพร และโมทนาคุณในพระกรุณา และความรักอันหาขอบเขตมิได้ของพระบิดา
Serafina
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 08, 2012 6:07 pm

อาทิตย์ ม.ค. 27, 2013 4:44 pm

ในเทววิทยามีคำถามหนึ่งถามว่า พระเยซูเจ้าทรงทำบาปได้หรือไม่ หรือมีบาปกำเนิดได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ ถ้าพระองค์ทำบาปก็เท่ากับพระองค์ปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของตนเอง บาปคือความแตกแยก พระกายและพระวิญญาณของพระองค์ไม่อาจจะแตกแยกกันได้

ทีนี้ถ้าจะมาเล่นบริบทเกี่ยวกับพุทธะ ก็อาจจะกล่าวได้ว่าสภาวะพุทธะเป็นส่วนหนึ่งของพระองค์มาแต่นิรันดร พระองค์ไม่ใช่ผู้หลับใหลจึงไม่ต้องเป็นผู้ตื่น

Enlightenment การตรัสรู้ การรู้แจ้ง มันเป็นพลังที่พุ่งจากที่ต่ำสู่ที่สูง พลังนี้ไม่จำเป็นต้องวอนขอจากพระเจ้า แต่สามารถอาศัยความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ชั้นบรรยากาศได้ พระพุทธเจ้าจึงพูดได้เต็มพระโอษฐ์ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เหมือนกับคุณธรรมขึ้นพื้นฐาน 4 ประการของมนุษย์ ความรอบคอบ ความยุติธรรม ความกล้าหาญ และความมัธยัสถ์ ที่ไม่จำเป็นต้องวอนขอแต่พระเจ้าก็จะทรงประทานให้เอง พลังของการตรัสรู้สามารถทะลุทะลวงถึงสวรรค์ชั้นบรรยากาศได้ ไม่ว่าสวรรค์ชั้นบรรยากาศจะมีกี่ชั้นก็ตาม แต่ไม่อาจก้าวผ่านแดนนิรวาณ(ช่องว่างระหว่างสวรรค์สูงกับสวรรค์ชั้นบรรยากาศ) ในหนังสือโยบได้พูดถึงบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้ามาประชุมกันในสวรรค์ และซาตานก็เข้าร่วมประชุมด้วย (เวลาที่เราเรียนคำสอน ครูจะถามว่าพระเจ้าสถิตอยู่ที่ไหน เด็กๆก็จะตอบว่าอยู่ทุกหนทุกแห่ง แล้วในสวรรค์แต่ละชั้นพระที่นั่งของพระเจ้าสถิตอยู่ที่ไหน เราก็ต้องตอบว่าอยู่ทุกชั้น พระเจ้าพระองค์เดียวสามารถปรากฏพระองค์ได้พร้อมกันทุกสถานที่ในเวลาเดียวกัน)

Illumination การส่องสว่าง เป็นพลังที่มาจากสวรรค์สูง มนุษย์จึงต้องวอนขอต่อพระเจ้าเท่านั้น สวรรค์สูงเป็นสถานที่ที่ซาตาน หรือมนุษย์คนใดก็ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ยกเว้นแต่พระบุตรผู้มาจากสวรรค์สูง ผู้ที่รู้ทางที่จะกลับไปสู่สวรรค์สูงนั้นก็มีเพียงแต่พระบุตร ทางกลับสู่สวรรค์สูงพระเยซูทรงเรียกว่าทางแห่งกางเขน มันเล็กแคบเหมือนรูเข็ม และผู้ที่จะกลับสู่สวรรค์สูงได้ก็จะต้องตื่นจากหลับใหล จิตของเด็กจะต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จะต้องแสดงความบุตรออกมาให้พระบิดาได้ทรงเห็นความน่ารักน่าเอ็นดูเยี่ยงบุตร ธรรมชาติของเด็กจะอ่อนน้อมถ่อมตน ขอความช่วยเหลือ เชื่อฟังและปฏิบัติตามโดยไม่คิดหาเหตุผลมาต่อต้าน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 27, 2013 7:22 pm

ดูสับสนและย้อนแย้งในตัวเองนะครับ ใช้ความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ แต่พูดได้ว่าพึ่งตนเอง

และยังย้อนแย้งว่า ไม่ต้องขอพระเจ้า แต่ให้ทูตสวรรค์ช่วย

คือเทวศาสตร์สอนชัดว่า ทูตสวรรค์คือจิตที่พระเจ้าสร้างเพื่อรับใช้พระเจ้านะครับ ถ้าพระองค์ไม่อนุญาตทูตสวรรค์ก็ทำให้ไม่ได้หรอกครับ
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2013 8:42 pm

:s007: :s007:
ตอบกลับโพส