เมื่อเราเจริญชีวิตเช่นนี้ ทุกสิ่งในชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงไป แทนจะไปหาแต่คนที่เราชอบและรักเท่านั้น เราจะไปกับทุกคนที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้มาใกล้ชิดเรา หรือแทนที่เราจะทำเฉพาะสิ่งที่เราชอบ เรากลับพร้อมจะกระทำทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงพระประสงค์ให้เราปฏิบัติมากกว่า"อย่าให้เป็นไปตามน้ำใจข้าพเจ้า แต่เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เถิด"
หากเราตั้งใจทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าในแต่ละขณะ สิ่งที่ตามมาก็คือ เราเองจะตัดสละจากสิ่งของและไม่ผูกใจติดกับการเป็นเจ้าของ แต่จะแสวงหาพระเจ้าเท่านั้น เราจะพบความยินดีบริบูรณ์ ขอเพียงให้เราเจริญชีวิตขณะปัจจุบันอย่างดี ครบถ้วน และปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในช่วงเวลานั้น
(ส่วนหนึ่งจากเคียร่า ลูบิค)
เจอเอกสารฉบับหนึ่งเลยนำมาแบ่งปันกัน
ทำให้มองชีวิตประจำวันแต่ละวันต่าง ๆๆ น้ำใจเรา หรือน้ำใจตรู บางครั้งเราเอาน้ำใจเรา (น้ำใจตรู) ไปยัดใส่สมองคนอื่น เพื่อสนองความต้องการของเรา อันนี้น่ากลัวจริงๆๆ
ประโยคหนึ่งที่จำขึ้นใจ ตอนที่อยู่กับเด็ก ๆ ผู้ซึ้งไร้เดียงสา นั้นคือ เราจะเป็นแบบอย่างให้คนอื่น เราต้องดีก่อนถึงจะสอนผู้อื่นได้ และจะต้องกระทำด้วยความประพฤติ มิใช่ด้วยวาจา ไม่เช่นนั้นเด็กจะสอนผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ใหญ่อายไปเลย และถ้าผู้ใหญ่ ยังยืนกร้านว่าถูก ผู้ใหญ่ผู้นี้ก็ไม่ได้เป็นผู้ที่รักพระ เพราะผู้ที่รักพระ จะต้องแสดงต้นในความสุภาพน้อมรับความผิด ความจองหองอวดตัวได้เขามาแทนที่ความรักที่พระมอบให้ไปเสียแล้ว....
ขณะที่เราอยู่นี้เราเป็นเพียงเครืองมือของพระองค์เท่านั้น ดำเนินชีวิต แบ่งปันพระวาจา ในสิ่งที่ถูกต้องครองธรรม มิเช่นนั้น มันจะกลายเป็นตรงกันข้าม สว่างกลายเป็นมืด