อีกหนึ่งหนทางในการต่อสู้ บาปอุลามก (คำพยาน)

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.ค. 18, 2011 3:23 am

สวดสายประคำ เรื่องน่าเบื่อ ???
โดย ไบรแอน เปสซาโร เทมเปิ้ล เทอร์เรส รัฐฟลอริด้า
ก.ครุวรรณ แปล

ผมเคยคิดว่าการสวดสายประคำเป็นเรื่องทรมานและน่าเบื่อ อัครสังฆราชฟุลตัน ชีน กล่าวว่า การสวดสายประคำ 1 สาย ใช้เวลา 19 นาที ถือเป็นการสวดภาวนาที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะสอดคล้องกับช่วงเวลาที่คนเราสามารถรักษาสมาธิของตนไว้ได้นานที่สุดพอดี

เป็นความจริงทีเดียวที่การสวดสายประคำเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่ออย่างหนึ่ง นักบุญเทเรซา “ดอกไม้น้อย” ยอมรับตามตรงว่า “ดิฉันรู้สึกอายที่จะสารภาพว่า การสวดสายประคำเป็นงานหนักยิ่งกว่าการใช้เครื่องทรมานกายเสียอีก ดิฉันรู้ดีว่าดิฉันกำลังพูดถึงสายประคำในทางที่ไม่ดี ลองสวดอย่างที่ดิฉันสวด คือสวดพร้อมกับรำพึงถึงรหัสธรรมข้อใดข้อหนึ่ง ดิฉันยอมรับว่าไม่เคยมีสมาธิกับรหัสธรรมที่สวดอยู่เลย” ผมเห็นด้วย กระนั้นก็ดี ผมก็ปฏิบัติตนเช่นเดียวกับนักบุญเทเรซาคือ ผมไม่ยอมแลกการสวดสายประคำกับสิ่งใด ไม่ว่าใครจะเอาอะไรมาแลกก็ตาม

รูปภาพ

ผมยอมรับว่าผมมิได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ที่จัดลำดับให้สายประคำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอไป บ่อยครั้ง เมื่อผมเข้านอนดึกมากและสอดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม พร้อมที่จะหลับอย่างเป็นสุข แล้วฉุกคิดได้ว่าวันนั้นทั้งวัน ผมยังไม่ได้สวดสายประคำเลย จากนั้นผมก็จะบ่นพึมพำขณะที่พยายามลากสังขารออกมานอกผ้าห่มและคว้าสายประคำที่แขวนอยู่ข้างๆ มาไว้ในมือ อัครสังฆราชชีนอธิบายว่า ช่วงเวลา 19 นาทีของผมในลักษณะนี้ คงอยู่ห่างไกลมากทีเดียวจาก “วิธีการสวดภาวนาที่ถูกต้อง”

ผมแทบจะลืมตาไม่ขึ้นและไม่สามารถตั้งสมาธิกับการสวดได้เลย สารภาพตามตรงว่า แม้แต่ตอนที่ผมไม่ง่วงและตื่นอยู่ ก็ใช่ว่าผมจะมีสมาธิดีกว่า ผมไม่ชอบการสวดสายประคำตามข้อรำพึงเลย สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดคือพยายามนึกถึงภาพที่มีอยู่ในหนังสือเรื่องการสวดสายประคำเล่มเล็ก หรือไม่ก็นึกถึงภาพพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า

รูปภาพ


แล้วเรื่องการวักแวกล่ะ คิดดูสิ ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ผมมีเรื่องร้อยแปดที่ต้องคิด ยกเว้นเรื่องรหัสธรรมตามข้อรำพึง ตอนนี้ผมคิดว่าจะต้องซื้ออะไรที่ร้านขายของนั้นนะ เอ๊ะ ตอนนี้ผมกำลังสวดบทวันทามารีย์เม็ดที่ 9 หรือ 10 กันแน่? แย่แล้ว ผมเพิ่งขับฝ่าไฟแดง! “ขอโทษด้วยนะ พระแม่มารีย์”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.ค. 18, 2011 3:29 am

แล้วทำไมผมยังดึงดันที่จะสวดต่อไป ทั้งที่เป็นเรื่องน่าเบื่อจะตาย คำตอบง่ายมาก เพราะผมคงไม่มีวันนี้อย่างแน่นอน หากพระแม่มารีย์ไม่ช่วยเสนอคำภาวนาของผม


ผมขอเล่าเรื่องเมื่อตอนผมอายุ 11 ขวบ ผมเป็นโรคติดการดูหนังสือโป๊ เรื่องมันง่ายมากผมเพียงแต่แอบเข้าไปในห้องเพื่อของผมคนหนึ่งที่พ่อของเขาเก็บหนังสือ “เพลย์บอย” ไว้

รูปภาพ

และตอนที่ผมอายุ 25 ปี ผมก็ติดดูภาพโป๊ในอินเทอร์เน็ตมากจนผมต้องหาเรื่องให้ภรรยาของผมออกไปทำธุระนอกบ้าน เพื่อที่ผมจะได้รีบเข้าอินเทอร์เน็ต และดูภาพเหล่านั้นได้ตามลำพัง ผมพยายามเลิกนิสัยนี้อยู่หลายปี แต่ทุกครั้งนอกจากจะเลิกไม่ได้แล้ว ผมกลับติดมันมากขึ้น จนเลิกคิดที่จะเลิก และในวันหนึ่ง จู่ๆ ก็มีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งไม่ทราบเรื่องอาการทางจิตของผมเลย เขาให้ผมยืมหนังสือเรื่อง พระนางมารีย์และการประจักษ์ที่เมดจูกอร์จ ผมยังไม่เชื่อว่าการประจักษ์เหล่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผมยกให้เป็นเรื่องของพระศาสนจักรเป็นผู้ชี้ขาด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.ค. 18, 2011 3:37 am

แต่สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เกิดกับผมจริงคือ หนังสือเล่มนั้นฉุดผมออกมาจากการดูภาพโป๊ทางอินเตอร์เน็ตได้

เรื่องเกิดขึ้นคล้ายกับว่า พระนางมารีย์โผล่ออกมาจากหนังสือที่ผมอ่านแต่ละหน้า และคว้าคอเสื้อของผมไว้ ผมรู้สึกเหมือนได้ยินพระนางกล่าวตำหนิอย่างแข็งกร้าวว่า “ไบรแอน เธอต้องเลิกดูภาพที่น่าขยะแขยงนี้นะ ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ด้วย!”

รูปภาพ

คิดดูสิ คุณแม่ของผมเองยังแทบไม่เคยตำหนิผม ผมเป็น “ลูกรัก” ของท่านเสมอ แต่ตอนเกิดเรื่องนี้ผมอายุ 30 ปี และถูกแม่พระตำหนิอย่างที่ผมไม่เคยโดนมาก่อน ผมถามพระแม่อย่างยอมจำนนว่า “แล้วผมต้องทำอย่างไรครับ”

จากนั้นผมก็พลิกหนังสือหน้าต่อไป ซึ่งมีข้อความว่า “จงสวดสายประคำ และสวมสายจำพวก” ผมพึมพำว่า “สายประคำหรือ ผมลองแล้วนะครับ มันน่าเบื่อจะตาย มันใช้ไม่ได้เลยกับผม”

รูปภาพ

แต่พระแม่มารีย์ไม่ฟังคำโต้แย้งใดๆ ของผม พระนางกล่าวย้ำว่า “ลองสวดดูอีก” แล้วสายจำพวกคืออะไร ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “การโกนผม” คล้ายกับพวกนักพรตในสมัยกลาง (ผมสับสนกับคำว่า “scap” ของคำว่า “scapular” ซึ่งแปลว่า “สายจำพวก” กับคำว่า “scalp” ซึ่งแปลว่า “ศีรษะ”) ดังนั้นผมจึงตอบไปว่า “ผมไม่ยอมโกนผมหรอกครับ พระแม่” หลังจากนั้น ผมก็อ่านต่อไปและรู้สึกอายเมื่อเข้าใจความหมายที่แท้จริงของสายจำพวก ผมตอบรับว่า “ตกลงครับ พระแม่ ผมจะสวมสายจำพวก”

รูปภาพ

คืนนั้น ผมต่อสายเข้าอินเทอร์เน็ต เพื่อสั่งซื้อสายจำพวกสีน้ำตาล จากนั้นผมก็เดินไปที่ตู้ในห้องนอน และหยิบสายประคำเก่าๆ ของคุณยายไว้ในมือ เป็นสายประคำที่วางทิ้งอยู่ที่นั่นมาปีแล้วปีเล่า เพราะเป็นมรดกตกทอดมาถึงผมชิ้นหนึ่ง ผมคุกเข่าและเริ่มสวด คืนต่อมา ผมก็สวดเช่นเดิมอีก และจากสองคืนก็เป็นสามคืน แล้วก็สี่คืน พอนึกได้อีกทีผมก็สวดสายประคำอยู่ทุกคืนจนครบ 1 สัปดาห์

แล้วตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว 7 ปี ผมยังยืนหยัดอย่างมั่นคงกับการสวดสายประคำอยู่ ผมนับจำนวนคืนที่ผมขาดสวดได้เลยว่าไม่เกิน 10 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.ค. 18, 2011 3:45 am

ใช่แล้วครับ ตอนนี้ผมสวดสายประคำทุกวัน และผมก็เลิกนิสัยดูภาพต้องห้ามไปนานแล้ว

คุณคิดว่าการเลิกดูภาพต้องห้ามของผมเป็นเรื่องใหญ่ไหม แน่นอนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมมาก ผมขอเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมถึงวิธีการเลิกของผมด้วย คือผมเลิกในลักษณะของ “การหักดิบ” คือเลิกทันทีตั้งแต่คืนแรกเลย คล้ายกับมีใครสักคนที่ลงไปในเบื้องลึกในสมองของผม และเอื้อมมือไปปิดสวิทช์ภาพต้องห้าม

รูปภาพ

ผมอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ากลไกนั้นทำงานอย่างไร เพราะผมไม่ได้เป็นหมอบำบัดเรื่องเพศ แต่ผมรู้ว่าไม่น่าจะเป็นวิธีที่หมอนำมาใช้กัน คิดดูสิ ผมดูภาพต้องห้ามมา 19 ปีเต็ม แล้วจู่ๆ จะให้ผมเลิกเหมือนโยนหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อวานทิ้งอย่างนั้นหรือ เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับฮอร์โมนที่เรียกว่า “เอปิเนฟรีน” (epinephrine) ที่หลั่งเข้าสู่สมองทุกครั้งที่เราดูภาพต้องห้าม เป็นฮอร์โมนที่คล้ายกับการเสพโคเคน ฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกตลอดเวลา จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อผมอายุย่างเข้า 30 ปีแล้ว ยังคงดูภาพต้องห้ามอยู่เหมือนตอนอายุ 11 ขวบ ราวกับเป็นภาพใหม่ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้เอง แต่ตอนนี้ภาพเหล่านี้ไม่อยู่ในสมองของผมแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.ค. 18, 2011 3:50 am

นี่แหละคือการที่ผมกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง และเป็นเหตุผลที่ผมสวดสายประคำทุกวัน ผมขอแนะนำว่าทุกคนควรจะทำเช่นเดียวกันเพราะเป็น พระแม่มารีย์เองที่ขอให้เราสวดสายประคำ

เมื่อแม่ขอให้เราทำอะไรแล้ว ไม่สำคัญหรอกว่า หากเราทำแล้วไม่เห็น “ได้” อะไร และไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องทำความเข้าใจด้วยว่าการสวดสายประคำ “ทำงาน” ในตัวเราอย่างไร

สิ่งสำคัญเพียงสิ่งเดียวคือพระแม่มารีย์เองเป็นผู้บอกให้เราทำ


พระแม่บอกเราว่าพระแม่ต้องการความช่วยเหลือของเรา และวิธีที่เราจะช่วยพระนางได้ก็คือการสวดสายประคำ ดังนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระแม่ในการใช้กลไกการทำงานเถิด

รูปภาพ


คนใช้ในงานแต่งงานที่หมู่บ้านคานาเข้าใจอะไรบ้าง ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงกำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหาเหล้าองุ่นหมด เพียงแต่ทำตามที่พระนางมารีย์บอกเท่านั้น ผมคิดว่าพระนางมารีย์คงจะไม่ว่าอะไร หากผมจะขอยืมเรื่องของพระนางมาใช้ในเรื่องการสวดสายประคำว่า “จงทำทุกอย่างตามที่พระนางบอกให้ทำ”



แม่พระยุคใหม่ : นิตยสารราย 2 เดือน ฉบับที่ 178 ปีที่ 31 กรกฎาคม – สิงหาคม 2011/2554 หน้า 4-5
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 08, 2011 4:47 pm

ขอบคุณพระแม่ อาเวมารีอา.แม่ที่น่ารักของลูก........ :s005:
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

อังคาร เม.ย. 17, 2012 11:41 pm

ดีใจค่ะ ที่ได้มาอ่าน
สุดยอดดด จริงๆ บาปนี้ เข้าใจยาก เลิกยาก
ยังหาใครให้คำตอบของคำว่า อุลามกไม่ได้โดนๆ เลย
ใจนึง ก็กลัวว่า แล้วถ้ารู้หล่ะ จะทำยังไง ถ้าเราเลิกไม่ได้
เดี๋ยวนี้ อะไร ๆ มันใกล้ตัวไปหมด และความอยากรู้ก็มี
จะสวดให้มากๆๆๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ เม.ย. 18, 2012 9:49 am

เลิกยาก......จริง ๆ นั่นแหละ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. เม.ย. 19, 2012 9:26 am

ในบ้านเณร เขาเชื่อกันว่า การเล่นกีฬาจะช่วยลดความต้องการทางเพศได้ จึงส่งเสริมให้เณรเตะฟุตบอล เล่นบาส ฯลฯ แต่ในปัจจุบันปรากฏว่ามีการวิจัยที่บอกว่า "การเตะบอลไม่ช่วยข่มความต้องการทางเพศเสียแล้ว! ผลวิจัยชี้ยิ่งเตะยิ่งหื่นกามยิ่งขึ้น" แบบนี้จึงไม่ควรส่งเสริมให้เณรเล่นกีฬานะครับ แต่ควรส่งเสริมการสวดภาวนาและพลีกรรมมากขึ้น ก็ดูผลพวงของการส่งเสริมให้เณรเล่นกีฬาสิครับ โดยเฉพาะในยุโรป อเมริกาที่มีเรื่องพระสงฆ์ละเมิดทางเพศต่อผู้อื่นเกิดขึ้นนับไม่ถ้วน

ไปเตะบอลอาจไม่ช่วยข่มความต้องการทางเพศเสียแล้ว! ผลวิจัยจากฝีมือนักวิทยาศาสตร์เมืองผู้ดีชี้ชัดลงสนามโม่แข้งเกมลูกหนัง ส่งผลฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนพุ่งกระฉูดมากกว่ายามปกติถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แถมนักเตะตำแหน่งกองหน้ายังซู่ซ่ากว่าบทบาทอื่นๆ อีกต่างหาก ระบุอาจเป็นคำตอบของเหตุผลที่ว่า ทำไมเหล่าบรรดาแข้งดัง อาทิ ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์, จอห์น เทอร์รี่ หรือ แอชลี่ย์ โคล ถึงได้หื่นกามผิดมนุษย์ มนา

นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษค้นพบว่า การเล่นฟุตบอลจะช่วยกระตุ้นให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายของผู้ชายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มพลังทางเพศไปด้วยในตัว โดยผลการวิจัยชี้ชัดว่า นักฟุตบอลจะมีฮอร์โมนเพศพุ่งกระฉูดมากกว่าเดิมถึง 30 เปอร์เซ็นต์ในทันที หลังจากที่เสร็จสิ้นการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแม้จะผ่านพ้นไปแล้วถึง 1 ชั่วโมง ระดับเทสโทสเตอโรนของนักเตะทั้งหลายก็จะยังคงมีมากกว่าปกติถึง 15 เปอร์เซ็นต์อีกอยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงชวนตะลึงอีกประการก็คือผู้เล่นที่มีบทบาทการเล่นเป็นกองหน้าในระหว่างการแข่งขัน ยังมีแนวโน้มที่จะมีระดับฮอร์โมนดังกล่าวสูงล้ำเหนือกว่าผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ อีกด้วย โดยอายุของนักเตะไม่มีผลในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

เดลี่ เมล์ หนังสือพิมพ์ดังเมืองผู้ดี รายงานข่าวเมื่อวันพุธที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า นักวิทยาศาสตร์ได้เลือกเดินทางไกลไปศึกษาชาวนาเผ่าชิมาเน่ในประเทศโบลิเวียเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากผู้ชายที่นั่นโดยทั่วไปแล้วมีเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าผู้ชายเชื้อชาติอื่นๆ
โดยมีปริมาณเทสโทสเตอโรนคงที่ตลอดอายุขัย และมีอัตราการเป็นโรคอ้วน, โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความชราภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของเทสโทสเตอโรนยังแสดงให้เห็นในหมู่ผู้ชายที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และชาติอุตสาหกรรมอื่นๆ ภายหลังการลงสนามแข่งขันกีฬา เช่นเดียวกัน

ผลวิจัยดังกล่าวอาจจะนำมาใช้เป็นคำตอบของการอธิบายสาเหตุว่า ทำไมนักฟุตบอลชื่อดังทั้งหลายมักจะตกเป็นข่าวอื้อฉาวคาวโลกีย์อยู่เนืองๆ อาทิ ไรอัน กิ๊กส์ ดาวเตะระดับตำนานที่ยังไม่เลิกค้าแข้งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วัย 38 ปี ที่โดนแฉว่า แอบมีสัมพันธ์สวาทกับอิโมเจน โธมัส อดีตนางงามเวลส์ 2003 วัย 29 ปี และ นาตาชา กิ๊กส์ น้องสะใภ้ วัย 29 ปี ของตัวเอง ทั้งๆ ที่มีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่ทนโท่, แอชลี่ย์ โคล กองหลัง เชลซี วัย 31 ปี ที่นอกใจ เชอรีล อดีตภรรยา วัย 28 ปี กับ 5 สาวคู่ขา, จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม "สิงห์บลูส์" วัย 31 ปี แอบร่วมหลับนอนกับ วาเนสซ่า แปร์รงแซล วัย 30 ปี อดีตหวานใจ เวย์น บริดจ์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง, เวย์น รูนี่ย์ หัวหอก "ปีศาจแดง" ที่แอบไปใช้บริการโสเภณีลับหลัง คอลีน ภรรยาของตัวเอง เป็นต้น

สำหรับงานวิจัยดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพและการพัฒนาเด็กแห่งชาติ (National Institute of Child Health & Development)
และสถาบันศึกษาการเปลี่ยนแปลงตามวัยแห่งชาติ (National Institute on Aging)
และดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการ ยูดับเบิ้ลยู มานุษยวิทยาทางชีววิทยา และชีวประชากรศาสตร์ (UW Biological Anthropology and Biodemography Lab)

เครดิต : http://www.siamsport.co.th/football/...e=120328224717
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ เม.ย. 25, 2012 6:43 am

อ้าวแบบนี้ที่ข้อสอบบอกว่าเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศให้ชวนเพื่อนเตะบอลก็ผิดน่ะสิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ เม.ย. 25, 2012 10:51 am

Holy เขียน:อ้าวแบบนี้ที่ข้อสอบบอกว่าเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศให้ชวนเพื่อนเตะบอลก็ผิดน่ะสิ
ข้อสอบพรรค์นั้นมันผิดตั้งแต่มาอยู่ในข้อสอบชี้ชะตาเด็กนักเรียนไทยแล้วค่ะ =*=
ตอบกลับโพส