พระเยซูถูกเฆี่ยนด้วย
แส้ธรรมดา หลายครั้งนับไม่ถ้วน
แต่ถูกเฆี่ยนด้วย
แส้ปลายตะขอ(มั้งนะ) แค่ 39 ครั้ง
ตามข้อมูลที่ได้รับมา คือ ตามกฏหมายโรมันโบราณ จะไม่เฆี่ยนนักโทษ
ด้วยแส้ปลายตะขอ ----->
http://www.youtube.com/watch?v=_vF9mOwp0v4
ดูในคลิปเอานะครับ
ตามกฏหมายโรมันโบราณจะไม่เฆี่ยนด้วยแส้ชนิดนี้กับนักโทษเกิน 40 ครั้ง
นั่นหมายความว่าจะเฆี่ยนแค่ 39 ครั้ง เพราะว่าในอดีตเคยมีการลงโทษด้วยแส้ชนิดนี้
แล้วพอฟาดครั้งที่ 41 นักโทษตายก่อนไปตรึงกางเขน เพราะเสียเลือดมาก ตั้งแต่นั้นมา
กฏหมายจึงให้เฆี่ยนแค่ 39 ครั้งครับ พระองค์ถูกเฆี่ยนด้วยแส้ธรรมดาๆ ก่อน
แล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นแส้ปลายตะขอเกี่ยวแบบในคลิป
*************************************************
พระองค์ตายเพราะถูกตรึงกางเขนครับ การตรึงกางเขนเป็นการประหารที่ทรมานที่สุด
ทำให้ผู้คนที่เห็นฝังใจไปนานเลยล่ะครับ เพราะว่าการตรึงกางเขน มือที่ถูกตอกตะปูอยู่
จะต้องรับน้ำหนักตัวทั้งหมดที่หย่อนลงมา ทำให้เสียเลือดมากเลยทีเดียว และด้วยสภาพแดดจัด
ขาดน้ำ แบบนั้นพระองค์จึงสิ้นพระชนครับ ส่วนกฏหมายโรมันนั้น หากนักโทษยังไม่ยอมตายซักที
(ประมาณว่าจะเอานักโทษลงไปฝัง หรือเอาศพไปทิ้งแล้ว) ตามกฏหมาย จะให้เอาหินทุบกระดูกจนแตก ให้ตาย แต่พระเยซูตายก่อนหน้าโจรสองคนที่ตรึงอยู่ด้วยกันแล้ว ทหารจึงทดสอบด้วยการแทงสีข้างของพระองค์ แล้วน้ำกับโลหิตก็ไหลออกมา
****************************************************
การคืนพระชน พระเยซูคืนพระชนแล้ว แต่พวกปุโรหิตกลับไปแจ้งปิลาตว่าศพถูกขโมย
แล้วบอกทหารโรมันว่า จะแก้ต่างหน้าให้ เพราะอะไร? เพราะตามกฏหมายโรมัน ทหารที่ทิ้งหน้าที่
กลางคัน ทหารที่อู้งาน ทหารที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งหรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย มีโทษเพียงสถานเดียวคือ ประหารชีวิต ครับ เพราะฉะนั้นไม่ว่าทหารโรมัน(บางคน)จะอยากแทงสีข้างพระองค์หรือไม่ หรืออยากช่วยพระองค์มั้ย? ก็ทำไม่ได้ด้วยกฏการประหารเมื่อทิ้งหน้าที่นี่ล่ะครับ
*******************************************************
ปล.ข้อมูลนี้เก่าแล้ว จำไม่ได้ว่าได้รับมาจากไหน แต่เป็นในหนังสือเสริมศรัทธา