+++บทข้าแต่นักบุญมีคาเอล อัครทูตสวรรค์+++
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 26, 2011 2:12 pm
เมื่อค.ศ.1884 พระสันตะปาปาเลโอที่13

ได้ประกาศใช้บทภาวนานี้
โดยให้สวดหลังทุกมิสซาส่วนตัว (Low mass /มิสซาจารีตละติน)
_____________________________________
ข้าแต่นักบุญมีคาเอล อัครทูตสวรรค์ โปรดปกป้องเราในการรบ
โปรดพิทักษ์เราในยุทธนาการกับความชั่ว และกลอุบายของปีศาจ
เราวิงวอนขอพระเป็นเจ้าทรงบังคับมันไว้
ข้าแต่จอมทัพสวรรค์ จงอาศัยฤทธิ์ของพระเป็นเจ้า
กักกันปีศาจและจิตชั่วร้ายอื่นๆ ที่กำลังสัญจรเที่ยวรังควานวิญญาณในโลกนี้
โปรดขังมันไว้ในขุมนรกเถิด อาแมน

ภาพโดย สินาด จารุอรรจนภัทร์ วาดให้บริษัท เซนต์แมกนัส ประเทศไทย จำกัด
______________________________________
ความเป็นมาของบทภาวนา
นิตยสารฉบับหนึ่งของกรุงโรม Ephemerides Liturgicae (ฉบับ79 LXIX, หน้า 54–60) ค.ศ. 1955
ได้อ้างอิงบทความในนิตยสารอิตาลี La Settimana del Clero ค.ศ. 1947
โดยคุณพ่อ Domenico Pechenino ผู้อยู่ร่วมสมณะสมัยของพระสันตะปาปาเลโอ
"พ่อจำปึที่เกิดขึ้นไม่ได้ เช้าวันนั้นเมื่อพระสันตะปาปาเลโอกำลังจะเสร็จพิธีมิสซา
ขณะนั้นเองเราเห็นพระองค์เงยพระเศียร และเพ่งบางสิ่งเหนือหัวผู้ร่วมมิสซา
ท่าทีพระองค์ดูตกพระทัยและหวั่งเกรง พระพักตร์เปลี่ยนสี
มีบางสิ่งที่ไม่ปกติและดูเป็นอันตรายเกิดขึ้น แล้วพระองค์ก็ล้มลงกับพื้น
บรรดาผู้ติดตามรีบเข้ามาช่วยเหลือและจะนำพระองค์ส่งโรงพยาบาล
แต่พระองค์บอกว่าทรงสบายดี และบอกให้บรรดาพระพระคาร์ดินัลมาประชุมที่สำนักงานส่วนพระองค์
ในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
พระองค์เรียกเลขาธิการของคณะกรรมการเพื่อพิธีกรรม ( Congregation of Rites )
พระองค์มอบกระดาษแผ่นหนึ่งพร้อมรับสั่งให้จัดพิมพ์และกระจายแก่ทุกองค์กรทั่วโลก
นั่นคือบทวิงวอนพระแม่มารีย์ พร้อมด้วยบทข้าแต่อัครเทวดามีคาเอล
ช่วยวิงวอนพระเจ้าให้ส่งซาตานกลับไปยังนรก”

ในนิตยสาร Ephemerides Liturgicae ฉบับเดียวกัน
พระคาร์ดินัล Giovanni Nasalli Rocca di Corneliano
ยังเขียนในจดหมายอภิบาลเทศกาลมหาพรต ว่า
“ประโยคที่ว่า ‘จิตชั่วร้ายอื่นๆ ที่กำลังสัญจรเที่ยวรังควานวิญญาณในโลกนี้’
มีประวัติความเป็นมาที่ถูกเล่าซ้ำหลายครั้งโดย มงซินญอร์ Rinaldo Angeli เลขาธิการส่วนพระองค์
พระสันตะปาปาเลโอที่13ทรงเห็นภาพนิมิตว่า บรรดาปีศาจได้มาชุมนุมที่นครวาติกัน
บทภาวนาที่พระองค์ได้วอนขอให้ทั่วพระศาสนจักรสวดนั้น เป็นผลมาจากประสบการณ์นี้
พระองค์เองได้สวดบทนี้ด้วยพระสุรเสียงที่ทรงพลัง
ดังที่เราจะได้ยินหลายต่อหลายครั้งในมหาวิหารที่วาติกัน”
ค.ศ. 1964 เมื่อสังคายนาวาติกันครั้งที่2 เสร็จสิ้น มิสซาจารีตละตินได้ถูกยกเลิกไป
การบังคับใช้บทภาวนาบทนี้ก็ถูกยกเลิกไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่2 ได้กล่าวย้ำถึงบทภาวนาบทนี้
ในการเทศน์หลังการสวดบทราชินีแห่งสวรรค์ ประจำวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1994

“ขอการภาวนาเสริมกำลังเราสำหรับสงครามฝ่ายจิต ตามจดหมายถึงชาวเอเฟซัสที่ว่า
‘จงเป็นผู้เข้มแข็งในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงตักตวงพลังจากพระพลานุภาพของพระองค์
(เอเฟซัส 6:10)’
หนังสือวิวรณ์ก็ได้กล่าวถึงสงครามนี้เช่นเดียวกัน
ทั้งยังเผยภาพลักษณ์ของอัครเทวดามีคาเอล เป็นที่ประจักษ์สายตาของเราทั้งหลาย
(อ้างอิงวิวรณ์ 12:7)
พระสันตะปาปาเลโอที่13 ได้เห็นภาพดังกล่าวในความคิดของพระองค์ท่านเมื่อปลายศตวรรษที่แล้ว
พระองค์ได้ประทาน “บทข้าแต่อัครเทวดามีคาเอล” แก่พระศาสนจักร
แม้บทภาวนาบทนี้จะไม่ได้ถูกกำหนดให้สวดหลังมิสซาแล้ว
ข้าพเจ้าก็ขอให้พวกท่านทุกคนไม่ลืมบทภาวนาบทนี้
และยังคงสวดต่อไปเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือในสงครามต่อสู้กับอำนาจมืดและจิตของโลกนี้”

ได้ประกาศใช้บทภาวนานี้
โดยให้สวดหลังทุกมิสซาส่วนตัว (Low mass /มิสซาจารีตละติน)
_____________________________________
ข้าแต่นักบุญมีคาเอล อัครทูตสวรรค์ โปรดปกป้องเราในการรบ
โปรดพิทักษ์เราในยุทธนาการกับความชั่ว และกลอุบายของปีศาจ
เราวิงวอนขอพระเป็นเจ้าทรงบังคับมันไว้
ข้าแต่จอมทัพสวรรค์ จงอาศัยฤทธิ์ของพระเป็นเจ้า
กักกันปีศาจและจิตชั่วร้ายอื่นๆ ที่กำลังสัญจรเที่ยวรังควานวิญญาณในโลกนี้
โปรดขังมันไว้ในขุมนรกเถิด อาแมน

ภาพโดย สินาด จารุอรรจนภัทร์ วาดให้บริษัท เซนต์แมกนัส ประเทศไทย จำกัด
______________________________________
ความเป็นมาของบทภาวนา
นิตยสารฉบับหนึ่งของกรุงโรม Ephemerides Liturgicae (ฉบับ79 LXIX, หน้า 54–60) ค.ศ. 1955
ได้อ้างอิงบทความในนิตยสารอิตาลี La Settimana del Clero ค.ศ. 1947
โดยคุณพ่อ Domenico Pechenino ผู้อยู่ร่วมสมณะสมัยของพระสันตะปาปาเลโอ
"พ่อจำปึที่เกิดขึ้นไม่ได้ เช้าวันนั้นเมื่อพระสันตะปาปาเลโอกำลังจะเสร็จพิธีมิสซา
ขณะนั้นเองเราเห็นพระองค์เงยพระเศียร และเพ่งบางสิ่งเหนือหัวผู้ร่วมมิสซา
ท่าทีพระองค์ดูตกพระทัยและหวั่งเกรง พระพักตร์เปลี่ยนสี
มีบางสิ่งที่ไม่ปกติและดูเป็นอันตรายเกิดขึ้น แล้วพระองค์ก็ล้มลงกับพื้น
บรรดาผู้ติดตามรีบเข้ามาช่วยเหลือและจะนำพระองค์ส่งโรงพยาบาล
แต่พระองค์บอกว่าทรงสบายดี และบอกให้บรรดาพระพระคาร์ดินัลมาประชุมที่สำนักงานส่วนพระองค์
ในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
พระองค์เรียกเลขาธิการของคณะกรรมการเพื่อพิธีกรรม ( Congregation of Rites )
พระองค์มอบกระดาษแผ่นหนึ่งพร้อมรับสั่งให้จัดพิมพ์และกระจายแก่ทุกองค์กรทั่วโลก
นั่นคือบทวิงวอนพระแม่มารีย์ พร้อมด้วยบทข้าแต่อัครเทวดามีคาเอล
ช่วยวิงวอนพระเจ้าให้ส่งซาตานกลับไปยังนรก”

ในนิตยสาร Ephemerides Liturgicae ฉบับเดียวกัน
พระคาร์ดินัล Giovanni Nasalli Rocca di Corneliano
ยังเขียนในจดหมายอภิบาลเทศกาลมหาพรต ว่า
“ประโยคที่ว่า ‘จิตชั่วร้ายอื่นๆ ที่กำลังสัญจรเที่ยวรังควานวิญญาณในโลกนี้’
มีประวัติความเป็นมาที่ถูกเล่าซ้ำหลายครั้งโดย มงซินญอร์ Rinaldo Angeli เลขาธิการส่วนพระองค์
พระสันตะปาปาเลโอที่13ทรงเห็นภาพนิมิตว่า บรรดาปีศาจได้มาชุมนุมที่นครวาติกัน
บทภาวนาที่พระองค์ได้วอนขอให้ทั่วพระศาสนจักรสวดนั้น เป็นผลมาจากประสบการณ์นี้
พระองค์เองได้สวดบทนี้ด้วยพระสุรเสียงที่ทรงพลัง
ดังที่เราจะได้ยินหลายต่อหลายครั้งในมหาวิหารที่วาติกัน”
ค.ศ. 1964 เมื่อสังคายนาวาติกันครั้งที่2 เสร็จสิ้น มิสซาจารีตละตินได้ถูกยกเลิกไป
การบังคับใช้บทภาวนาบทนี้ก็ถูกยกเลิกไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่2 ได้กล่าวย้ำถึงบทภาวนาบทนี้
ในการเทศน์หลังการสวดบทราชินีแห่งสวรรค์ ประจำวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1994

“ขอการภาวนาเสริมกำลังเราสำหรับสงครามฝ่ายจิต ตามจดหมายถึงชาวเอเฟซัสที่ว่า
‘จงเป็นผู้เข้มแข็งในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงตักตวงพลังจากพระพลานุภาพของพระองค์
(เอเฟซัส 6:10)’
หนังสือวิวรณ์ก็ได้กล่าวถึงสงครามนี้เช่นเดียวกัน
ทั้งยังเผยภาพลักษณ์ของอัครเทวดามีคาเอล เป็นที่ประจักษ์สายตาของเราทั้งหลาย
(อ้างอิงวิวรณ์ 12:7)
พระสันตะปาปาเลโอที่13 ได้เห็นภาพดังกล่าวในความคิดของพระองค์ท่านเมื่อปลายศตวรรษที่แล้ว
พระองค์ได้ประทาน “บทข้าแต่อัครเทวดามีคาเอล” แก่พระศาสนจักร
แม้บทภาวนาบทนี้จะไม่ได้ถูกกำหนดให้สวดหลังมิสซาแล้ว
ข้าพเจ้าก็ขอให้พวกท่านทุกคนไม่ลืมบทภาวนาบทนี้
และยังคงสวดต่อไปเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือในสงครามต่อสู้กับอำนาจมืดและจิตของโลกนี้”