Belong to the Truth Jesus Christ

ตั้งแต่กลับมาจากเนเธอร์แลนด์ผมรู้สึกแอนตี้โปรแตสแตนท์มากกว่าเดิม ขอคำภาวนาให้ผมเลิกคิดอคติกับพวกเขาด้วยนะครับ แต่มันก็น่าจริงๆ ที่เห็นโบสถ์ที่เคยเป็นคาทอลิก พระแท่น พระรูป รัศมีศีล ตู้ศีล แม้แต่พระธาตุถูกทำลายโดยพวกนั้น บางโบสถ์ดีหน่อยไม่เหลือซาก บางโบสถ์เหลือซากไว้ให้ชอกช้ำระกำใจ (รูปแม่พระนักบุญถูกทุบ ใบหน้า-มือ) ศิลปะที่แสนงดงาม ถูกทำลายสิ้น กระจกสีถูกทุบทำลาย แทนที่ด้วยกระจกธรรมดา สลักรูปคาลวิน ขนาดมีรูปวาดแม่พระ นักบุญต่างๆอยู่ ก็ยังยึดเป็นโบสถ์ตัวเองอีก เศร้าใจ เฟลือแต่โบสถ์ที่ว่างเปล่า(โล่งจริงๆครับ)
รูปตัวอย่าง

จะภาวนาเผื่อนะครับ

ผมเข้าใจคุณนะครับ ไปเห็นสถานที่ต่างๆที่ถูกทำลายแล้วยิ่งทำให้มีอารมณ์โมโหและโกรธมาก
จะช่วยสวดให้คุณนะครับ อย่าไปคิดเรื่องนี้จนมากเกินไป
มันมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ และจะทำให้คุณโกรธพี่น้องต่างนิกายอยู่อย่างนั้นครับ
สู้ๆครับเป็นกำลังใจให้ครับ คุณลองสวดบทข้าแต่พระบิดาสิครับ
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น

คนทำตายไปหมดแล้ว คนที่มีชีวิตอยู่ตอนนี้ไม่ได้เป็นคนทำ

วัตถุ คือ สิ่งสร้างของโลก สำหรับระลึกถึงคุณงามความดีที่สร้างไว้ ตรึงใจ
สิ่งสำคัญคือไม่ได้อยู่ที่วัตถุ แก่นที่สำคัญ คือ อยู่ที่จิตใจ สิ่งที่พระองค์ สอนคืออะไร ความรัก ใช่หรือไม่

วัตถุ สร้างมาเวลาผ่านไปย่อมมีสูญสลาย เสื่อมตามสภาพ (ขนาดรถยนต์ ของใช้ในบ้าน ยังมีอายุการใช้งานเลย จริงไหมหล่ะ)

เมื่อใดที่ใจเราไปยึดติดกับวัตถุ เมื่อนั้นเราก็ยังไม่ได้ออกจากตัวเอง
ถ้าเมื่อใดเรานำคำสอนของพระเยซู แจกจ่ายแก่ผู้ที่ขาดโอกาส คุณได้เดินตามพระเยซู
แต่ถ้าคุณฉวยโอกาส คุณได้เดินตามซาตาน

เมื่อใดเราเติมเต็มสิ่งที่คนในโลกนั้นหาไม่ได้ คุณได้เดินตามพระเยซู
แต่ถ้าคุณแสวงหาสิ่งทางโลก เมื่อนั้นคุณได้เดินตามซาตาน

เมื่อใดเรานำความรัก ที่ไม่หวังผลตอบแทน คุณได้เดินตามพระเยซู
แต่ถ้าคุณหวังสิ่งตอบแทน แม้อยู่ในจิตใจห้วงลึก ๆ คุณได้เดินตามใจตนเองและเข้าสู่กับดักของซาตาน

เมื่อใดเรามองคนใกล้ตัว มอบโอกาส นำความรัก เมตตา คุณได้เดินตามพระเยซู
แต่ถ้าคุณได้เหยียบ เหยียดหยาม คนที่ด้อยกว่าคุณ คุณไม่ได้มีความสุภาพ คุณได้เดินตามความจองหอง ซาตานเปิดประตูรับด้วยความยิ้มหวาน

เมื่อใดเราคิดว่าตนเองไร้คุณค่า ไม่มีอะไรดีในตัวเอง พระเยซูจะมาหาเขา
แต่เมื่อใดเราเห่อ ยศศักดิ์ ไร้คุณธรรมแท้ คุณได้เลือกซาตาน

ฯลฯ

ทุกสิ่งที่เห็น ผ่านมาแล้วผ่านไป จงอย่าได้ยึดติด
ขอให้อารมณ์ผ่านไป และให้ลงไว ๆ น๊ะ (เราก็คงเหมือนกัน บางสิ่งที่คิดไว้ อยากให้ดี แต่เราต้องยอมรับสภาพนั้น ๆๆ และเราไม่สามารถแก้อะไรได้ นอกจากพระเจ้าเท่านั้น....ต้องใช้เวลา...)

ขอพระนำทาง

น้องไม่เป็นไรหรอก คนทำก็ต้องรับผิดชอบ ถึงแม้นจะตายไปแล้ว ก็ต้องรับกรรม
เมื่อทุกคนได้มาเห็นผลงานที่พวกนั้นทำลาย ก็สลดใจ บางคนโมโห เหมือนน้องเนี่ย
แล้วก็คนที่ทำลายถึงแม้นจะตายไปแล้ว ก็จะถูกขุดขึ้นมาด่า ถูกสาปแช่งในใจ-นอกใจชั่วกาลนาน
โดยคนที่มาพบเห็น แล้วพวกที่ทำเนี่ยจะตายตาหลับไหม บาปกรรมจะตกถึงลูกหลานด้วย....
น้องไม่ต้องเครียด สวดให้พวกกระนั้นด้วยค่ะ....
...... ....

มีรูปอีกเยอะเลยครับแต่ไม่อยากลงแล้วช้ำใจ

ที่ผมไปเนเธอร์แลนด์เพื่อไปแสดงคอนเสิร์ตประสานเสียงคริสมาส ประกาศข่าวประเสริฐ แต่สถานที่ๆไปร้องแต่ละโบสถ์เป็นแบบนี้ทั้งนั้นเลย ผมรู้สึกโมโหและโกรธมากๆๆ แต่คิดไปคิดมาก็คิดว่าเรา ก็ทำผิดจริงในอดีตถ้าเราไม่ทำอย่างนั้นเขาก็คงไม่ทำแบบนี้ จึงพยายามปล่อยวางอยู่บ้าง แต่โบสถ์ไหนที่เหลือเศษซากรูปปั้นหรือ กระจกไว้นี่วีนแตกเลยครับ ไม่ไหวจริงๆ
แบบบางโบสถ์มีพวกรูปแม่พระ พระเยซู นักบุญ อายุ 6-7ร้อยปี ถูกขูดออก แบบเหลือซากไว้อันนี้หดหู่มากๆ หรือเหลือช่องหรือแท่นวางรูปปั้นที่ว่างเปล่าไว้ (บางอันเท้านักบุญยังติดอยู่เลย บางอันหัวหาย อะไรประมาณนี้อ่ะครับผมเลยไม่ชอบพวกคริสเตียนหัวรุนแรงเลยครับ)
โปรแตสแตนท์ในความคิดผมมี2แบบ
แบบรักสงบไม่ไปพังโบสถ์ใคร - แองกลิกัน ลูเธอแรน
แบบป่าเถื่อน ไร้อารยธรรม - คริสตจักรรีฟอร์ม ของ สวิงลี หรือ คาลวิน (ปัจจุบันแยกเป็น เพรซไบทีเรียน หรือ แบพติสม์ ของสภาคริสตจักรนี่ไงครับ) แล้วก็พวกอณาแบพติสม์ แต่พี่น้องคริสเตียนโปรแตสแตนท์บางคนก็ดีมากๆนะครับ

คือตอนแรกที่ลูเธอร์ออกมาใหม่ เวลาพวกประเภทที่ 2 นี้ ไปพังโบสถ์ มาร์ติน ลูเธอร์ ไปชี้หน้าด่าเลยครับว่า "ทำอย่างนี้พวกท่านยังมีหน้าเรียกตัวเองว่าคริสตชนอยู่อีกเหรอ" ฉะนั้นมาร์ตินลูเธอร์ จึงไม่ค่อยเน้นการพังโบสถ์แบบพวกที่ 2 สักเท่าไร และมีโบสถ์หนึ่ง มีสำเนาโบราณ ที่เกี่ยวกับแม่พระ (ปัจจุบันถูกพวกนรกนั่นเผาทำลายไปแล้ว) อายุกว่า 2000 ปี ที่พูดเกี่ยวกับการขึ้นสวรรค์ของพระนาง และความเป็นพรหมจารีย์ของพระนาง ที่พวกคริสเตียนชอบเถียงกับพระศาสนจักรตะวันตกและออก อยู่เสมอ ถ้าฉบับนี้ยังอยู่เราคงรู้อะไรมากขึ้น เสียดายพวกนั้นมันคงวางแผนไว้ ผมก็พยายามไม่อคติอะไรมากนะครับแต่มันอดไม่ได้จริงๆ

....มีครั้งหนึ่งพี่ไปฉลองวัดที่สองคอน และตอนนั้นพระคุณเจ้าคาย แสนพลอ่อน
ได้เทศน์ถึงสมัยที่ท่านยังเด็กและ มีการเบียดเบียนศาสนา มีวัดนักบุญยอแซฟที่สกลนคร
ถูกเผาและรูปปั้นนักบุญยอแซฟที่อยู่บนพนังหน้าพระแท่น ถูกคนเป็นราชการและพวกบางคน
เอาตะขอเหล็กยาวๆ ขึ้นไปเกี่ยวคอรูปนักบุญยอแซฟ เพื่อให้ล้มตกลงมา แต่รูปใหญ่คงหนักไม่
ตกลงมาแต่เกี่ยวคอรูปท่านหักห้อยอยู่อย่างนั้น เลยทิ้งไว้อย่างนั้น ต่อมาคนที่เอาตะขอเกี่ยวคอ
รูปท่านนักบุญ ก็เป็นอะไรไม่รู้ คอเบี้ยวหัวห้อยลงมาข้างๆ เจ็บปวดทรมาน เหมือนรูปท่านนักบุญเลย
เป็นอย่างนั้นจนตาย...
คนที่ลบหลู่พระสักวันเขาต้องรับกรรมเอง...ถ้าไม่สำนึกผิดขอโทษ....

ในประวัติศาสตร์ คาทอลิกใช่ว่าจะเบาๆที่ไหนละครับ
ผมไม่อยากจะร่ายให้ยาวไปมากกว่าคําพูดสั้นๆที่ว่า
"ภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเถอะครับ"
ปล. ที่จริงผมก็ไม่อยากโพสกระทู้นี้ แต่เดี๋ยวจะหาว่า พอมีหัวข้อแบบนี้ทีไร จะมีแต่คาทอลิกที่โพสตอบ
อย่างไรก็ดี ขอพระเจ้าทรงปลอบประโลมทุกคนครับ อิมมานูเอล

ครับผมเข้าใจ คาทอลิกก็ทำผิดจริงๆ แค่ให้ดูเพื่อเป็นอุทาหรณ์เท่านั้นละครับ

เห็นแล้วก็น่าเศร้าใจนะครับ แต่ถึงอย่างไรประวัติศาสตร์ก็ปล่อยให้มันเป็นประวัติศาสตร์นะครับ อย่าไปคิดมาก เดี๋ยวผมจะสวดให้นะครับ

สังเกตอ่ะครับ พวกที่ทำลายรูปพระ ทำไมชอบทำลายบริเวณใบหน้าอ่ะครับ เป็นสัญลักษณ์อะไรหรือป่าวครับ