บอกไว้ก่อนนะ เบื่อคนนะ แต่ไม่ได้เบื่อพระหรือเลิกเชื่อนะ
ใครทำงานที่วัด มีประสบการณ์ มาช่วยแชร์กัน
เราเบื่อคนมาก ทุกคนทำตัวเป็นเจ้าของวัด รู้ดีไปหมด ก้าวก่ายหน้าที่ เอาหน้า
ตอนนี้รู้ท้อใจ เบื่อหน่าย ไม่อยากทำแล้ว เราควรจะทำยังไงดี คิดไม่ออก
ใจนึงก็อยากทำต่อ อีกใจก็ไม่อยากทำแล้ว
ใครทำงานที่วัดบ้างมาคุยกัน เรารู้สึกเบื่องานที่วัด
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
สวัสดีครัับ คุณmarchmarch เขียน:บอกไว้ก่อนนะ เบื่อคนนะ แต่ไม่ได้เบื่อพระหรือเลิกเชื่อนะ
ใครทำงานที่วัด มีประสบการณ์ มาช่วยแชร์กัน
เราเบื่อคนมาก ทุกคนทำตัวเป็นเจ้าของวัด รู้ดีไปหมด ก้าวก่ายหน้าที่ เอาหน้า
ตอนนี้รู้ท้อใจ เบื่อหน่าย ไม่อยากทำแล้ว เราควรจะทำยังไงดี คิดไม่ออก
ใจนึงก็อยากทำต่อ อีกใจก็ไม่อยากทำแล้ว
จริง ๆ คราแรกผมกะไม่ตอบกระทู้นี้ เนื่องจากว่าเป็นคำถามเชิงอารมณ์ ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็น
นานาจิตตัง และที่สำคัญคำว่า เบื่อคน นั้น ถึงไม่ได้ทำงานกับวัด ก็ต้องพบเจอเรื่องนี้
อยู่ดี หากคิดมุมกลับ วัด น่าจะเป็นสถานที่ ๆ มีคนดี ๆ หรือคนจิตใจดี ๆ มารวมกันมาก
ที่สุดแล้ว(ผมพูดตามหลักการนะครับ) ยังมีปัญหา แล้วถ้าสังคมภายนอกใน Office หรือ
โรงงาน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมคนจาก 100บิดา 1,000มารดา จะไม่หนักกว่าหรือครับ?
สิ่งหนึ่งที่ผมมักพูดเสมอ เมื่อได้รับเชิญไปบรรยาย หรือสอน ที่ไหน ว่าหากเบื่องาน หรือ
เบื่อคน 3 สิ่งที่เราสามารถยึดถือเป็นสรณะ ได้ คือ
1. ความคิดเชิงบวก (Positive Thinking) คือ การมองโลกในแง่ดีอย่างมีสติ
2. การคิดแบบข้างในออกข้างนอก(Inside-out Thinking) คือ ปรับเปลี่ยนที่ตัวเราง่ายกว่า
3. มีจิตสาธารณะ(Public Consciousness) เพราะเมื่อเรามี จิตสาธารณะ แล้วเราจะไม่รู้สึกว่า
ถูกเอาเปรียบ เพราะทุกสิ่งที่เราทำไป เราจะทำถวายพระ
ซึ่งทั้งสิ้นทั้งปวงที่ผมกล่าวข้างตน คุณคุณmarch สามารถหาอ่านจากหนังสือตามร้าน
หรือหาอ่านผ่านอินเตอร์เน็ต ได้...ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ถ้าใครไปวัดในวันอาทิตย์เราจะได้
ฟังผ่าน บทอ่าน และพระวาจาของพระเจ้า รวมถึง...การเทศน์จากบาทหลวง ซึ่งจะทำให้เรา
มีจิตใจที่ "นิ่ง" และมองโลก เชิงเหตุ เชิงผล มากกว่าอารมณ์
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์
-
- โพสต์: 954
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 12, 2011 11:04 pm
เราต้องเปลี่ยนเป็นว่าทำงานให้พระเจ้าดีกว่าคับ
-
- โพสต์: 124
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
- ที่อยู่: ขอนแก่น
ผมทำงานเยาวชนครับ และตอนนี้ก็ประสบปัญหาคล้ายๆ กัน นอกจากจะเป็นคนอื่นๆ ในกลุ่มแล้ว ยังรวมถึงพ่อเจ้าวัดที่เพิ่งย้ายมาใหม่กลางปีที่แล้ว พ่อองค์นี้ไม่ค่อยสนับสนุนงานเยาวชนสักเท่าไหร่ ทำให้เสียงของเยาวชในสภาวัดที่เดิมไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วมาตอนนี้แทบไม่เหลือ คนอื่นๆ ในกลุ่มยังพอคุยกันได้ เพราะยังไงก็เพื่อน พี่ น้องกัน แต่กับพ่อนี่สิ พูดยาก ทั้งเกรงใจทั้งอยากจะพูด มีโครงการอะไรทีนี่ถูกยกเลิกเสียส่วนใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ในสภาวัดเองก็แบ่งฝักแบ่งฝ่าย งานจะล่มมาหลายงานแล้ว คือเข้าประชุมสภาทีนี่ไม่เหมือนบรรยากาศของการแบ่งปันความเห็นเพื่อรับใช้พระเลย แต่เป็นเวทีสำหรับโต้วาทีเสียมากกว่า
อย่างที่บอกครับ เสียงของเยาวชนแทบไม่มีเลย ก็เลยได้แต่พูดกันในกลุ่ม เพราะผู้ใหญ่เขาไม่ฟัง ผมก็ได้แต่สวด สวดให้สามารถไม่รู้สึกโกรธจนกลายเป็นเกลียดต่อใครหลายๆ คนได้ ยังไงก็ขอคำภาวนาจากพี่น้องด้วยนะครับ
ผมก็จะเข้มแข็งและรับใช้พระต่อไป ต้องขอบคุณพระที่เสริมกำลังให้ผมสามารถผ่านทุกอย่างมาได้จนถึงทุกวันนี้ และผมก็จะสวดเพื่อพี่น้องที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้ทุกคนด้วยครับ ขอพระอวยพร
อย่างที่บอกครับ เสียงของเยาวชนแทบไม่มีเลย ก็เลยได้แต่พูดกันในกลุ่ม เพราะผู้ใหญ่เขาไม่ฟัง ผมก็ได้แต่สวด สวดให้สามารถไม่รู้สึกโกรธจนกลายเป็นเกลียดต่อใครหลายๆ คนได้ ยังไงก็ขอคำภาวนาจากพี่น้องด้วยนะครับ
ผมก็จะเข้มแข็งและรับใช้พระต่อไป ต้องขอบคุณพระที่เสริมกำลังให้ผมสามารถผ่านทุกอย่างมาได้จนถึงทุกวันนี้ และผมก็จะสวดเพื่อพี่น้องที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้ทุกคนด้วยครับ ขอพระอวยพร
บางครั้ง ก็ต้องสวดให้กับ คุณพ่อ พระสงฆ์ ด้วย เพื่อให้พระจิตเจ้าได้นำทาง
จะสวดให้นะคะ เพราะ คุณพ่อ ก็เป็นเพียงมนุษย์ คนนึงเท่านั้น คงมีแต่คำภาวนาจากพวกเรา
ที่จะ่พอจะช่วยได้
และขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ สำหรับคนที่อยากทำดี ทำเพื่อพระ
ที่วัดเรามีอบรม เลยนะ ดูน่ารักดีมีเด็กๆ เต็มพระแท่น
ลูกสาวเราเคยได้อ่าน คำภาวนาเพื่อมวลชน อยู่เป็นเดือนอยู่นะ
แต่ เจอ ผู้ใหญ่ ใจปิด มาชี้ มองหน้าตาดุๆ เสีย self ไปเลย
เราก็หาคำตอบให้ลูกสาวไม่ได้ ตอนนั้เค้า ประถม 4 ทำได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว
แต่เพราะคนใจปิด คนนั้น ทำให้ลูกสาวเรา "หมดกำลังใจ" เสีย "ความตั้งใจ"
และไ่ม่อยากทำ เพราะจะทำหน้าเหมือนจับผิดเด็ก
ก็คงต้องรอกระแสเรียกอีกครั้ง ไม่เข้าใจคนนั้นการเข้าไปวัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เราไปมิสซา ไปช่วยวัด ทำไม๊ ยังเอานิสัยจับผิด แล้วไปทำกับเด็ก เบื่อเลย
กว่าจะปั้น เชียร์ได้ ตั้งนานนนนน เฮ้ออออ
จะสวดให้นะคะ เพราะ คุณพ่อ ก็เป็นเพียงมนุษย์ คนนึงเท่านั้น คงมีแต่คำภาวนาจากพวกเรา
ที่จะ่พอจะช่วยได้
และขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ สำหรับคนที่อยากทำดี ทำเพื่อพระ
ที่วัดเรามีอบรม เลยนะ ดูน่ารักดีมีเด็กๆ เต็มพระแท่น
ลูกสาวเราเคยได้อ่าน คำภาวนาเพื่อมวลชน อยู่เป็นเดือนอยู่นะ
แต่ เจอ ผู้ใหญ่ ใจปิด มาชี้ มองหน้าตาดุๆ เสีย self ไปเลย
เราก็หาคำตอบให้ลูกสาวไม่ได้ ตอนนั้เค้า ประถม 4 ทำได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว
แต่เพราะคนใจปิด คนนั้น ทำให้ลูกสาวเรา "หมดกำลังใจ" เสีย "ความตั้งใจ"
และไ่ม่อยากทำ เพราะจะทำหน้าเหมือนจับผิดเด็ก
ก็คงต้องรอกระแสเรียกอีกครั้ง ไม่เข้าใจคนนั้นการเข้าไปวัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เราไปมิสซา ไปช่วยวัด ทำไม๊ ยังเอานิสัยจับผิด แล้วไปทำกับเด็ก เบื่อเลย
กว่าจะปั้น เชียร์ได้ ตั้งนานนนนน เฮ้ออออ
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
ว่าแล้วไม่อยากจะตอบกระทู้นี้สักเท่าไหร่ เจอข้อความนี้เข้า เลย 55+ ซักหน่อยtuztiz เขียน:บางครั้ง ก็ต้องสวดให้กับ คุณพ่อ พระสงฆ์ ด้วย เพื่อให้พระจิตเจ้าได้นำทาง
จะสวดให้นะคะ เพราะ คุณพ่อ ก็เป็นเพียงมนุษย์ คนนึงเท่านั้น คงมีแต่คำภาวนาจากพวกเรา
ที่จะ่พอจะช่วยได้
และขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ สำหรับคนที่อยากทำดี ทำเพื่อพระ
ที่วัดเรามีอบรม เลยนะ ดูน่ารักดีมีเด็กๆ เต็มพระแท่น
ลูกสาวเราเคยได้อ่าน คำภาวนาเพื่อมวลชน อยู่เป็นเดือนอยู่นะ
แต่ เจอ ผู้ใหญ่ ใจปิด มาชี้ มองหน้าตาดุๆ เสีย self ไปเลย
เราก็หาคำตอบให้ลูกสาวไม่ได้ ตอนนั้เค้า ประถม 4 ทำได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว
แต่เพราะคนใจปิด คนนั้น ทำให้ลูกสาวเรา "หมดกำลังใจ" เสีย "ความตั้งใจ"
และไ่ม่อยากทำ เพราะจะทำหน้าเหมือนจับผิดเด็ก
ก็คงต้องรอกระแสเรียกอีกครั้ง ไม่เข้าใจคนนั้นการเข้าไปวัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เราไปมิสซา ไปช่วยวัด ทำไม๊ ยังเอานิสัยจับผิด แล้วไปทำกับเด็ก เบื่อเลย
กว่าจะปั้น เชียร์ได้ ตั้งนานนนนน เฮ้ออออ
ใครอ่านแล้ว ไม่ถูกใจใครก็แล้วแต่ แต่ที่จะพูดถึงคือ ความจริง อ่านแล้วจะยอมรับความจริง ได้หรือไม่ ก็แล้วแต่ดุลพินิจแต่ละท่าน.....
ที่บอกว่าผู้ใหญ่ ใจปิด ขออธิบายตามสภาพที่วิเคราะห์ คือ
1. ผู้ใหญ่ ดุเด็กเพราะต้องการให้เป็นคนดี เด็กอาจจะไม่รู้...
2. ถ้าผู้ใหญ่ สอนไม่เป็น ใช้ คำว่า "อารมณ์ ตนเอง" นั้น ผิด แน่ เพราะความรักของพระ จะต้อง สอนด้วยความรัก ไม่ใช่สอนด้วย "อารมณ์" ตนเอง.... บวกกับอำนาจเบ็ดเสร็จ (ไม่รู้บวช ผ่านมาได้อย่างไร ความรัก เมตตา หายไป... ต้องสวดให้พระเยซู ตามหา และนำกลับมา....)
ที่กล่าวว่า เพราะ คุณพ่อ ก็เป็นเพียงมนุษย์ คนนึงเท่านั้น --- คำนี้ ฟังแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีน๊ะ
ไม่ค่อยอยากสนับสนุนการใช้คำนี้ เพราะมีโอกาส ช่วงโหว่ ให้ทำผิด (ไม่ได้คิดจำผิดน๊ะ) เพราะถ้า "สำนึก" ตระหนักว่าตนเป็น นักบวช คงไม่กระทำกันเช่นนี้
ส่วนที่กระทำ และ "ไม่สำนึก" ก็ไม่รู้จะเรียกอะไร หรือหาอาชีพอื่นไม่ได้ เลยขออยู่ก่อนน๊ะ (วิเคราะห์มองตามสภาพ)
ในฐานะ นักบวช หน้าที่ของคุณคืออะไร???
ต้องปฏิบัติหน้าที่ ทางธรรมให้ดีใช่ไหม เพื่อเป็นผู้นำฝูงแกะ ตามหาลูกแกะที่พลัดหลง
ซึ่งต่างกับ...บุคคลธรรมดา ที่ทำมาหากิน เลี้ยงชีพ เวลาจำกัด ดีไม่ดีศรัทธา มากกว่าสักด้วยซ้ำ (ถึงแม้ไม่ต้องรับศีลบวช ก็มีเยอะแยะไป ..... ทำดี กิจการดี ทั้งกาย วาจา ใจ)
ไม่ใช่ถือสิทธิว่าได้รับ ศีลบวช --- ผิดไม่ได้ ตักเตือนแล้ว ไม่พอใจ โมโห ฉุนเฉียว ฯลฯ
หน้าที่ ทำดีพร้อม พร้อมที่จะรับใช้ ก่อนที่เป็นเณร พร้อมที่จะบวช ไฟแรงพอควร.... เวลาผ่านไป ไม่ว่าสื่อทางโลก ตามวัฒนธรรม ที่ถูกบ่ม ทำให้เปลี่ยนไป.... รู้ว่าทุกคนอยากจะสบาย แต่ไม่รู้ว่า จิตสำนึก ไปไหน... เลยสงสัยเหมือนกัน ว่าบวชแล้วแปลงร่างกันสนุกสนานเลยห่ะๆๆๆ (พระเจ้าก็แปลก ตามพระองค์ไม่ทันเหมือนกัน.... สอนอะไรแปลกๆ )
พอจะเข้าใจว่า เหตุผลหนึ่งที่ คนทิ้งวัด ทิ้งพระ เพราะสาเหตุใด ก็คงเหมือนกับต่างประเทศ ที่ว่า
คนทิ้งวัดจำนวนหนึ่ง อีกมุมก็มีคนเปลี่ยนมาเพื่อจะนับถือคริสต์ เปรียบเทียบสัดส่วน คนทิ้งวัดมากกว่า
ก็ต้องมาดู มูลเหตุที่ พฤติกรรมที่กระทำกันนี่หล่ะ
เคยพาเพื่อนพุทธมาวัด พระสงฆ์บอกว่า ฝากคำภาวนาให้พวกเราด้วย
ออกจากวัด เพื่อนถามกลับ (ขำ ขำ น๊ะ)
- นักบวช ทำหน้าที่ทางธรรมไม่ใช่หรือ จะให้คนไปหาสวดทำไม และจะไปหาเพื่อ??? อะไร งันถ้าอย่างนี้ใครอยู่ที่ไหนก็สวดได้หมด ไม่ต้องมาวัด อยู่ที่จิตใจหล่ะกัน... (น่าน เพื่อนตรู พุทธ น๊ะเนี่ย แรง แรงซ์ ไหมเนี่ย...)
เล่าสู่กันฟัง รับได้ ไม่ได้ ก็มองคนละมุม หละกัน ....
- billa-bong
- ~@
- โพสต์: 668
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
- ที่อยู่: thailand
เห็นด้วยครับ และเป็นกำลังใจให้นะครับ พระเยซูเจ้าเองก็ถูกคนที่ได้ชื่อว่าใกล้ชิดพระเจ้าในสมัยที่พระองค์พระชมน์อยู่ ไม่ยอมรับ คนที่ทำตัวเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาที่พระองค์เลือกสรร ไม่ยอมรับ ไม่มีนักบุญคนไหนไม่พบเจอความยากลำบาก ในชีวิตประจำวัน คนรอบข้าง หรือบางครั้งก็กับพระศาสนาจักรเองตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่มาก และสุดท้ายพวกเค้าก็ได้รับความชอบธรรมที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้ ซึ่งผมอาจจะไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรมากมายในการช่วยงานวัด แต่ก็เห็นด้วยกับคุณ Holy ที่ว่าถ้าเราไม่ไหว ก็พักก่อนก็ได้ ปัญหาต่างๆ ในวัด ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่สมัยของพระเยซูเจ้า และ พระองค์ได้เป็นแบบอย่างให้เรา ว่าเราควรทำตัวอย่างไร ซึ่ง ตรงกับ บทอ่านในวันนี้อีกด้วยครับ ขอพระเจ้าอวยพร ขอบคุณครับHoly เขียน:จริงๆถ้าขาดสันติสุขจริงๆจะพักก่อนก็ได้นะครับ หรือไปก็ปรึกษาพ่อเจ้าวัดว่าเบื่อคน นอกจากว่าคนนั้นจเป็นพ่อเจ้าวัดเอง ให้ลองปรึกษาพ่อปลัดแทน
พระวรสาร มธ 5:17-20
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงอย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้างธรรมบัญญัติหรือคำสอนของบรรดาประกาศก เรามิได้มาเพื่อลบล้าง แต่มาเพื่อปรับปรุงให้สมบูรณ์ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ตราบใดที่ฟ้าและดินยังไม่สูญสิ้นไป แม้แต่ตัวอักษรหรือจุดเดียวจะไม่ขาดหายไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จไป
ดังนั้น ผู้ใดละเมิดธรรมบัญญัติเพียงข้อเดียว แม้เล็กน้อยที่สุดและสอนผู้อื่นให้ละเมิดด้วย จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติและสอนผู้อื่นให้ปฏิบัติด้วย จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์
เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ดีไปกว่าความชอบธรรมของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีแล้วท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย”
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ให้ถือซะว่า เป็นบททดสอบเล็ก ๆ ของพระที่ต้องการให้เราเข้มแข็งขึ้นนะครับ
ผมเชื่อว่า ทุกวัดเป็นแบบนี้ (รวมทั้งวัดที่ผมอยู่ด้วย)
ผมเคยคิดแบบคุณเหมือนกันครับ ว่าเราเบื่อคน อยากเลิกทำงานที่วัด
แต่สุดท้าย ผมก็ต้องถามตัวเราเองว่า เราทำทุกอย่างเพื่อพระ หรือไม่
การทำทุกอย่างเพื่อพระ ก็ต้องใช้วิธีของพระในการเอาชนะ
ผมว่า "วิถีทางที่พระสอนเรา" เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะปัญหาต่าง ๆ เป็นสำคัญครับ
แต่ขอให้ภูมิใจเถอะครับ ว่าพระองค์ทรงเลือกเราให้ช่วยงานของพระ
ถามว่า เลือกที่จะ "เลิก" ได้มั๊ย ผมตอบเลยว่า "ได้" ครับ
เพราะถึงอย่างไร พระองค์ก็ทรงมอบอำเภอใจให้เราอยู่แล้ว
อย่างที่พี่ Holy บอกนะครับ ทำแล้วให้มีสันติสุข ดีกว่า ทำไปแล้วก็บาปตามมา
ตัวผมเอง เลิกทำงานวัดตั้งแต่มาทำงานต่างจังหวัดครับ
พระญาณสอดส่อง จะช่วยในการจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีที่สุด
ดังนั้น ไม่ต้องกลัวอะไร ขอบคุณพระในทุกอย่าง แล้วจะดีขึ้นครับ
ผมเชื่อว่า ทุกวัดเป็นแบบนี้ (รวมทั้งวัดที่ผมอยู่ด้วย)
ผมเคยคิดแบบคุณเหมือนกันครับ ว่าเราเบื่อคน อยากเลิกทำงานที่วัด
แต่สุดท้าย ผมก็ต้องถามตัวเราเองว่า เราทำทุกอย่างเพื่อพระ หรือไม่
การทำทุกอย่างเพื่อพระ ก็ต้องใช้วิธีของพระในการเอาชนะ
ผมว่า "วิถีทางที่พระสอนเรา" เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะปัญหาต่าง ๆ เป็นสำคัญครับ
แต่ขอให้ภูมิใจเถอะครับ ว่าพระองค์ทรงเลือกเราให้ช่วยงานของพระ
ถามว่า เลือกที่จะ "เลิก" ได้มั๊ย ผมตอบเลยว่า "ได้" ครับ
เพราะถึงอย่างไร พระองค์ก็ทรงมอบอำเภอใจให้เราอยู่แล้ว
อย่างที่พี่ Holy บอกนะครับ ทำแล้วให้มีสันติสุข ดีกว่า ทำไปแล้วก็บาปตามมา
ตัวผมเอง เลิกทำงานวัดตั้งแต่มาทำงานต่างจังหวัดครับ
พระญาณสอดส่อง จะช่วยในการจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีที่สุด
ดังนั้น ไม่ต้องกลัวอะไร ขอบคุณพระในทุกอย่าง แล้วจะดีขึ้นครับ