Belong to the Truth Jesus Christ

ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนนิกาย หรือศาสนาไปเป็นศาสนิกอื่น
ผมยังเชื่อในพระเยซูเจ้าเหมือนเดิม รักในพระมารดาเหมือนเดิม

แต่ผมชอบในคำสอน "บางส่วน" ของอิสลาม และ "ไม่ทั้งหมด"
ผมผิดมั้ยครับ คำสอนนี้ก็ไม่ขัดกับใบเบิ้ลด้วย ทั้งยังตรงกับใบเบิ้ลอีกด้วย

จะศึกษาไปบ้างก็ได้ครับ
เพราะพระศาสนจักรก็ไม่ได้แอนตี้คำสอนอันเป็นจริงในศาสนาอื่น

อย่างไรก็ดี...เมื่อเรารู้จักความเชื่อที่เราเชื่อว่า "เที่ยงแท้จริง"แล้ว
ถ้าเราจะเน้นศึกษาคำสอนของคริสต์คาทอลิกเอง ก็จะดีที่สุดครับ

ผมเห็นด้วยกับน้องยศว่า เราควรศึกษาเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ คาทอลิก ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และลึกซึ้งด้วย ไม่เช่นนั้น หากความเชื่อของเรายังไม่หยั่งรากลึก ก็อาจจะถูกศาสนิกหรือข้อคำสอนของศาสนาอื่นทำให้ไขว้เขวไปได้ ชีวิตแบบคาทอลิกไม่ได้มีเพียงการท่องบทสวดต่าง ๆ อ่านพระคัมภีร์และไปวัดฟังมิสซาเท่านั้น แต่ยังมีการดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติแห่งความรัก การอธิษฐานภาวนาในขั้นที่สูงขึ้นไปตามที่นักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ได้ค้นพบและถ่ายทอดเป็นมรดกล้ำค่าของพระศาสนจักร ในการอธิษฐานนี้จะทำให้เราสามารถสัมผัสกับพระเจ้าในฐานะพระบิดาผู้ทรงพระทัยดี ซึ่งไม่มีศาสนาใดในตระกูลศาสนาของอับราฮัมสะท้อนให้เห็นภาพลักษณ์แบบนี้ นอกจากในศาสนาคริสต์เท่านั้น

Cherval เขียน:ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนนิกาย หรือศาสนาไปเป็นศาสนิกอื่น
ผมยังเชื่อในพระเยซูเจ้าเหมือนเดิม รักในพระมารดาเหมือนเดิม

แต่ผมชอบในคำสอน "บางส่วน" ของอิสลาม และ "ไม่ทั้งหมด"
ผมผิดมั้ยครับ คำสอนนี้ก็ไม่ขัดกับใบเบิ้ลด้วย ทั้งยังตรงกับใบเบิ้ลอีกด้วย

สวัสดีครับ คุณCherval



ในโลกยุคใหม่ศาสนาเป็นศาสตร์หนึ่งที่เราควรทำความเข้าใจ ยิ่งรู้เยอะก็ยิ่งเข้าใจศาสนา
ของตนเองมากขึ้น มีความสุขุมคัมภีรภาพ และเข้าใจเพื่อนร่วมโลก ร่วมศาสนิกมากขึ้น
ผมยกตัวอย่างเช่น ท่านเป็นนักบัญชี หากท่านศึกษานิติศาตร์ และการบริหาร มากขึ้น
ท่านก็จะมีความรอบรู้ และมีโลกทัศน์ หรือวิสัยทัศน์มากขึ้น ยุคก่อนใครจบวิศวะมัก
เรียนต่อ ป.โทวิศวะ ใครจบหมอ ก็มักจะต่อโท หมอ หรือ จบนิเทศฯ ก็มักจะเรียน
โท วิชานั้น ๆ แต่ปัจจุบันเราเห็น ท่านเหล่านี้นิยมเรียก MBA กัน เพราะรู้ว่าบางครั้ง
วิชาชีพอย่างเดียว เมื่อตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้น การบริหารจัดการนั้นเป็นสิ่ง
สำคัญ


ซึ่งในยุคปัจจุบัน ปราชญ์ทางศาสนา ก็เริ่มมีการศึกษาศาสนาของกันและกันมากขึ้น คือ
โลก และ ศาสนา เปิดมากขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ไม่คุยกัน บางยุคมีสงครามระหว่างกัน
ด้วยซ้ำ ศาสนา ยิว คริสต์ และอิสลาม มีราก และประวัติมาจากแหล่งเดียวกัน ในคัมภีร์
อัลกุรอาน ของอิสลาม นั้นเรียก เรียกโมเสส ว่า "บีมูซา" เรียก นักบุญยอแซฟ ว่า "ยูซุฟ"
เรียก พระเยซู ว่า นบีอีซา แต่ในทางอิสลามเชื่อว่าพระเยซูเป็น ศาสนดา เทียบเท่ากับ
ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ใช่พระเจ้า แต่ทางคริสต์ จะเชื่อว่า
พระเยซู คือ พระเป็นเจ้าแท้ และมนุษย์แท้

ตามผมมาช้า ๆ อ่านให้จบ แล้วคุณCherval จะเข้าใจ "อิสลาม"ครับ

ผมเคยเขียนเรื่องที่เกี่ยวข้องระหว่าง คริสต์ กับ อิสลาม ไว้ อ่านได้ตาม Link นะครับ
เรื่อง ฮีบรู – เบดูอิน อิรัก ลิเบีย เมโสโปเตเมียและอับบราฮัม
http://www.wutkatefanclub.com/webboard/ ... f=4&t=2197





ทำไมพี่น้อง มุสลิม ไม่ทานหมู


และหนึ่งที่เราต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ในพี่น้อง มุสลิม คือ คำว่า ญิฮาด
(ญิฮาด คือ การต่อสู้เพื่อปกป้องศาสนา ไม่ใช่ การก่อการร้าย)




อิสลาม :
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8% ... 2%E0%B8%A1

อัลกุรอ่าน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD% ... 2%E0%B8%99

อาซาน(คล้ายบัญญัติ 10 ประการ)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD% ... 2%E0%B8%99

นบีอีซา(พระเยซู)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD% ... B%E0%B8%B2

การเปิดกว้างศึกษาหลักคำสอนของศาสนาอื่น ความเชื่อ หลักธรรม ที่แตกต่างกัน จะทำให้
เราเข้าใจศาสนาตนเองมากขึ้น และทำให้เราเข้าใจเพื่อนร่วมศาสนาอื่นมากขึ้น และสำคัญ
ทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมชาติ ร่วมประชาคมอาเซียน และร่วมโลก ได้อย่าง
สันติสุข ซึ่ง ก็คือแก่นของทุกศาสนา ที่มุ่งให้ศาสนิกทุกคนเป็น "สัตบุรุษ" และ
อยู่ร่วมกับสังคมที่แตกต่างอย่างสงบสุข


โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์

ไปศึกษาเถอะค่ะ ไปอ่านอัลกุรอานให้จบทั้งเล่มแล้วจะได้เห็นอะไรเพิ่มขึ้นมากมาย
หรือจะอ่านฉบับวิเคราะห์ควบคู่ด้วยก็ดีค่ะ ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย
(โดยเฉพาะสำหรับผู้ชาย)

ขอพระเจ้าทรงอวยพร

ศึกษาเพื่อเป็นความรู้ เป็นศาสนสัมพันธ์ได้ครับ ไม่ผิด

ถ้าตรงกับไบร์เบิ้ล แล้วทำไมไม่ศึกษาไบร์เบิ้ลล่ะคะ ศึกษาศาสนาอื่นได้ แต่ต้องระวังอย่าหลงทาง ถ้าไม่อยากหลงทางเพราะอาจถูกลับลวงพลาง ก็ศึกษาไบร์เบิ้ลโดยตรงให้ถ่องแท้ดีกว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าคำสอนเที่ยงแท้ของพระเจ้าอีกแล้วค่ะ