พระพรที่เราได้รับเมื่อสวดสายประคำ (1)

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 16, 2012 9:31 am

ได้รับใบชีตที่แจกวันฉลองวัดฟาติมา ดินแดง เลยเอามาแบ่งปัน

พระพรที่เราได้รับเมื่อสวดสายประคำ
1.คนบาปจะได้รับการอภัย และได้คืนดีกับพระเป็นเจ้า
2.วิญญานที่กระหายหาพระเป็นเจ้าจะได้รับความบรรเทา
3.คนที่ถูกจองจำด้วยโซ่ตรวนจะได้รับการปลดปล่อย
4.คนที่ร้องไห้จะได้ความสุขคืนมา
5.คนที่ถูกทดลองจะได้รับสันติสุข
6.คนยากจนได้รับการเลี้ยงดู
7.พระสงฆ์และนักบวชจะได้รับการฟื้นฟูจิตใจ
8.คนโง่เขลาจะได้รับการอบรมที่ถูกต้อง
9.คนที่หยิ่งยะโส จะได้รับบทเรียนให้เป็นคนสุภาพถ่อมตน
10.คนตายจะรอดพ้นจากการทนทุกข์ทรมาน
............. :s005: :s005: :s005: ........
คำสัญญา15ข้อสำหรับคนที่สวดสายประคำ
1.ความศรัทธาต่อการสวดสายประคำเป็นเครื่องหมายกำหนดความรอดโลกหน้า
2.ผู้ใดสวดสายประคำอย่างศรัทธาและพรากเพียร จะได้รับผลตามคำวิงวอนของตน
3.ผู้เผยแพร่การสวดสายประคำ จะได้รับความช่วยเหลือให้พ้นภัยต่างๆ
4.จงยึดมั่นในการสวดสายประคำเสมอ และท่านจะได้รับความคุ้มครองทั้งฝ่ายกายและวิญญาน
5.ผู้สวดสายประคำอย่างศรัทธา และรำพึงตามที่กำหนดไว้ จะกลับใจถ้าเป็นคนบาป
6.ผู้สวดสายประคำจะได้ รับความสว่างและพละกำลังตลอดชีวิตโดยเฉพาะเวลาก่อนตาย
7.ผู้ที่มอบตัวแด่พระแม่เจ้าด้วยการสวดสายประคำจะไม่มีวันพินาศ
8.พระแม่เจ้าสัญญาจะคุ้มครองเป็นพิเศษแก่ผู้ที่สวดสายประคำ
9.จงประกาศการสวดสายประคำ เพราะสายประคำเป็นอาวุธทรงประสิทธิ์ภาพสู้นรก
...และเป็นโล่ป้องกันศัตรู
10.คนชอบธรรมที่สวดสายประคำ จะได้รับพระหรรษทานทวีขึ้นและสมจะได้รับชีวิตนิรันดร
11.พระแม่เจ้าสัญญาจะประทานพระหรรษทานพิเศษ แก่ผู้ที่ศรัทธาต่อการสวดสายประคำ
12.พระแม่เจ้าพอใจผู้ที่สวดสายประคำ จะได้รับความสว่าง พ้นจากการเป็นทาสของผีปิศาจ
....และเต็มไปด้วยพระหรรษาทาน
13.ผู้ที่ศรัทธาต่อการสวดสายประคำ จะได้รับศิลศักดิ์สิทธิ์ก่อนตาย และจะตายในศิลในพร
....ของพระเป็นเจ้า
14.พระแม่เจ้าจะช่วยวิญญานของผู้ที่สวดสายประคำเป็นประจำ ให้พ้นไฟชำระโดยเร็ว
15.ผู้สวดสายประคำด้วยดี จะได้รับสิริมงคลในสวรรค์
......... :s005: :s005: :s005: .............
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ พุธ พ.ค. 23, 2012 7:18 pm, แก้ไขไปแล้ว 4 ครั้ง.
kokology
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 29, 2012 8:52 am

พุธ พ.ค. 16, 2012 10:08 am

ผมก็ไปมา อิิอิ :s012: ตอนที่สวดสายประคำเป็นภาษาจีนนี่น่าจะมีบทสวดสะกดเป็นตัวคาราโอเกะให้นะครับ แบบว่าอยากมีส่วนร่วมอ่ะ เห็นอากงอาม่าข้างๆนี่สวดกันเพลินเลย ผมได้แต่นั่งนิ่ง :s008:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

พุธ พ.ค. 16, 2012 12:19 pm

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้สวดเลย ต้องสวดให้มากๆเสียล่ะ
แต่มีบางครั้งที่ไม่สบายใจ ผมสวดสองสายเลย สวดปกติ กับพระเมตตา
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 16, 2012 1:02 pm

เรื่องตัวอย่างเกียรติคุณแห่งสายประคำ
เรื่องที่1 ตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพ
....ใครๆก็รู้จักแอมแปร ปราชญ์ผู้ค้นพบแม่เหล็กไฟฟ้า แห่งเมืองลีอองประเทศฝรั่งเศส
ท่านปราชญ์ผู้นี้ นอกจากเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์แล้วยังมีความศรัทธามากต่อการสวด
สายประคำด้วย
....ครั้งหนึ่งท่านมาที่กรุงปารีสและเข้าไปสวดสายประคำในวัด มีหนุ่มคนหนึ่งชื่อ
เฟรเดริก โอซานัมซึ่งเลื่อมใสในสติปัญญา อัฉริยะของท่านแอมแปรมาก แต่
เฟรเดริกไม่ค่อยศรัทธาเท่าไร ใจเย็นใจเฉย ความเชื่อของเขากำลังถอยลง
......เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่า จอมปราชญ์ของเขาจะเอาใจใส่ต่อศาสนาหรือเปล่า ขณะที่
กำลังคุกเข่าอยู่ ก็เหลือบไปเห็นบุรุษอาวุโสคนหนึ่งกำลังสวดสายประคำอย่างศรัทธา
อยู่ที่มุมในวัด เขาขยับเข้าไปใกล้ก็เห็นว่า ผู้อาวุโสท่านนั้นคือ แอมแปรนั่นเอง
......เขารู้สึกตื้นตันใจมากจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว เกิดสำนึกตัวทันที ความเชื่อน้อยๆของเขา
ได้กลับเร่าร้อนกลายเป็นความรัก ต่อพระองค์มากขึ้น ต่อมาเฟรเดริก โอซานัม
ได้ก่อตั้ง สมาคมนักบุญวินเซนต์เดอปอลขึ้นมา
.... :s002: ....
เรื่องที่2 มงกูฎพรหมจารี แดงด้วยเลือด
.....เรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคปฏิวัตินองเลือดในฝรั่งเศส มี Sr.คณะเมตตาธรรม (Charity) 5ท่าน
นักบุญวินเซนต์ปอล เป็นผู้ก่อตั้งคณะนี้ ซิสเตอร์ดังกล่าวถูกจับที่เมืองอารราส์ ( Arras )
และถูกนำตัวมาที่กังเบร (Cambrai) เหมือนนักโทษฉกรรจ์ ความผิดของซิสเตอร์คือไม่ยอม
ทิ้งศาสนาคริสต์ หันไปสาบานตนตามลัทธิใหม่...
( แบบสาธารณรัฐที่หันหลังให้พระเป็นเจ้าคล้ายลัทธิคอมมิวนิตย์)
....ต่อหน้าผู้พิพากษา ซิสเตอร์ทั้งหมดก็ไม่ยอมสาบานอีก
....".ความจริง" ผู้พิพากษาคนหนึ่งกล่าว "การปฎิญานตนนี้ก็เพื่อความรอดปลอดภัย
แห่งสาธารณรัฐมิใช่หรือ"
....."ถูกแล้ว" ซิสเตอร์ย้ำหนักแน่น "แต่มโนธรรมของเราห้ามเราเช่นนี้"
....."ถ้าเช่นนั้นก็พอแล้ว" ประธานศาลตัดบท ซิสเตอร์ผู้กล้าหาญต้องคำพิพากษาให้
ประหารชีวิตทั้งหมด ซิสเตอร์ได้สวดวอนขอพระเป็นเจ้า และกล่าวแก่ประชาชนว่า
...."ขอให้เราเป็นยัญบูชาสุดท้ายเถิด"
เมื่อซิสเตอร์กำลังเดินไปที่ประหาร (สมัยนั้นตัดคอด้วยกีโยติน) พลางสวดสายประคำ
วันทามารีอา....
....ประชาชนผู้เป็นโจทย์จึงพูดว่า เมื่อซิสเตอร์ยึดมั่นในสายประคำก็จงเอาสายประคำ
ทำเป็นมงกุฎเถิด"
.....ดังนั้นซิสเตอร์ทั้ง5 จึงมีสายประคำเป็นมงกุฎย่างเข้าสู่นิรันดรภาพ พร้อมด้วยรังสี
แห่งความเป็นพรหมจรรย์ และการเป็นมรณะสักขี
....ความจริงต่อมา ปรากฎว่า พระแม่เจ้าทรงฟังคำภาวนาของซิสเตอร์ใจศรัทธากล้าหาญ
ทั้ง5ท่าน กล่าวคือ ซิสเตอร์ทั้ง5 ได้เป็นยัญบูชา (Victim) รุ่นสุดท้ายของสมัยนองเลือด
ที่เมืองกังเบรจริงๆ
.... :s005: :s005: :s005: ......
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 7:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 16, 2012 2:02 pm

เรื่องที่3 ลูกประคำ กับดอกกุหลาบ
....นักประพันธ์ใจศรัทธาผู้หนึ่งกล่าวว่า "ไม่มีอะไรแสดงความดีเลิศ ของลูกประคำ
และ ข้อรำพึงต่างๆแห่งลูกประคำได้ดีเท่าดอกกุหลาบ"
....ความจริงก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะดอกกุหลาบมีสีแดงดั่งเปลวไฟ ใบของมันเป็น
รูปทรงหัวใจ และมีเมล็ดเล็กๆเป็นพวง เหล่านี้เป็นเครื่องหมายเตือนใจบรรดาใจศรัทธา
ต่อการสวดสายประคำให้รักร้อนรนต่อพระเป็นเจ้า ให้เข้าเป็นสมาคมเดียวกัน เพื่อสรรเสริญ
และรักพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีอา ทั้งฝ่ายจิตใจและคำภาวนา
...ใบสีเขียวของต้นกุหลาบ แสดงถึงข้อรำพึง ภาคชื่นชมยินดี
...หนามกุหลาบแสดงถึงภาคเศร้าโศกหรือภาคพระมหาทรมาน
...ดอกกุหลาบแสดงถึงภาคสิริมงคล
.....ดอกกุหลาบบางดอกตูมอยู่เป็นรูปหมายถึง พระเยซูเจ้าในปฐมวัย บางดอกเริ่มบานออก
หมายถึงชีวิตตอนพระมหาทรมาน บางดอกก็บานสะพรั่งแล้ว เปรียบได้กับพระสิริมงคลของพระองค์
.....ดอกกุหลาบ ทำให้เราชื่นชมเพราะความงาม ก็เช่นเดียวกัน พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์
ในข้อรำพึงภาคชื่นชมยินดีก็เป็นที่บรรเทาใจคนบาปผู้น่าสงสาร หนามกุหลาบที่ทิ่มเราเจ็บได้
ฉันใด พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ ในข้อรำพึงภาคเศร้าโศก (ภาคพระมหาทรมาน) ก็เตือนใจ
ให้เป็นทุกข์ถึงบาปฉันนั้น ดอกกุหลาบส่งกลี่นหอมระรื่นชื่นใจเรา ก็มิใช่พระเยซูเจ้าและ
พระแม่มารีย์ ในข้อรำพึงภาครุ่งเรืองดอกหรือ ที่เร้าเตือนวิญญานของเรา ให้ใฝ่ใจปรารถนา
อย่างแรงกล้า ถึงสมบัติสวรรค์นิรันดร
...ดอกกุหลาบเจริญเติบโตด้วยน้ำค้างในเวหา และบานแย้มรับแสงแดด ลูกประคำก็เป็น
เหมือนดอกไม้ที่อัครเทวดานำมาสู่พื้นโลก เป็นสิ่งที่สวรรค์ทรงผลิต และชุบเลี้ยงให้เจริญ
เติบโตด้วยพระพรต่างๆ
...เราจงระลึกถึงกลิ่นกุหลาบบ่อยๆ เพื่อเตือนใจเราให้ระลึกถึงบรรยากาศสวรรค์
ปิติภูมิ บ้านเที่ยงแท้ของเรา ที่พระองค์เตรียมไว้ให้เรา
... :s005: :s005: :s005: ....
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 7:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 16, 2012 2:13 pm

เรื่องที่4 นักบุญฟิโลมีนาเป็นองค์อุปถัมย์ของการสวดสายประคำ
....พอดีไปเจอกระทู้ของน้อง princessann ที่อยากรู้จักประวัติของท่านในห้องสนทนา
ของ"พู่กันของน.ลูกา" ซึ่งเราก็ไม่รู้ประวัติของท่าน พอดีเมื่อคืนเปิดเข้าไปชมดู
เห็นมี คุณ MarioAntonio ได้หาเอาประวัติของท่านมาให้อ่าน ซึ่งเป็นคนแปลด้วย
เป็นกระทู้เก่า แต่พวกเราสมาชิก2-3ปี บางคนสมาชิกใหม่ยังหาไม่พบ ขอบคุณมากค่ะ
ได้อ่าน ประวัติท่าน อายุแค่ 13ปีเองได้เป็นมรณะสักขี ยอดเยื่ยมมากในความรักมั่นคง
ที่ท่านมีต่อพระเป็นเจ้า และพระศาสนาจักรได้แต่งตั้งท่านเป็นองค์อุปถัมย์ของการสวด
สายประคำด้วย ซึ่งวันฉลองท่านคือ วันที่11สิงหาคม ของทุกปี ฉลองวันเดียวกับน.คลารา
ลองเข้าไปอ่านประวัติของท่านได้ ในคลิปข้างล่างค่ะ

viewtopic.php?t=4598
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2012 11:49 am

เรื่องที่5 เดชะบุญ เข้าบ้านผิด
....ที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของฝรั่งเศส มีคนมาเชิญพระสงฆ์ไปโปรดศิลเจิมคนป่วยเป็น
หญิงชราคนหนึ่ง พระสงฆ์ถามชื่อที่อยู่ เลขที่บ้าน ถนนเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวเสร็จจะตามไป
...ครั้นไปถึงบ้านนั้น ไม่มีใครรู้จักชี่อดังกล่าวเลย แต่มีคนบอกว่าชั้น3 มีหญิงป่วยหนักจวนจะตาย
อยู่แล้ว คุณพ่อจึงรีบขึ้นไปเยื่ยม แต่พอเข้าประตูห้อง ก็ถูกสามีของหญิงผู้นั้นขับไล่ ไสส่ง
ส่วนภรรยาที่นอนเจ็บอยู่ที่มุมห้องได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือว่า " คุณพ่อ กรุณาลูกด้วย
อย่าทิ้งลูก อย่าปล่อยให้ลูกตายโดยมิได้แก้บาปเสียก่อน" สามีของหญิงนั้นแทนที่จะช่วย
กลับไล่พระสงฆ์ให้ไปจากที่นั่นอย่างเดียว คุณพ่อจึงต้องใช้ไม้ตาย ขึ้นเสียงแข็งกับเขาว่า
....."ในนามของพระเป็นเจ้า ซึ่งสักวันจะต้องพิพากษาคุณ ขอให้คุณเลิกขัดขวางความประสงค์
ของภรรยาคุณเสียที"
...เห็นท่าทางขึงขังของพระสงฆ์ พร้อมกับได้ยินคำพูดเช่นนั้น ชายคนนั้นท่าทีเปลื่ยนไป
เขาหลบไปในห้องใกล้ๆและให้ภรรยาได้แก้บาปรับศิล โปรดศิลเจิมโดยสะดวก
.......ก่อนที่คุณพ่อจะกลับไป สตรีผู้นั้นได้เผยความในใจให้คุณพ่อฟังว่า" เป็นเวลา10ปีแล้ว
ที่สามีได้ขัดขวาง ไม่ยอมให้ไปวัด แก้บาป แต่ลูกได้สวดสายประคำอยู่เสมอ วิงวอนขอแม่พระ
อย่าปล่อยให้ลูกตายโดยมิได้รับศิลศักสิทธิ์ต่างๆให้เรียบร้อยก่อน และบัดนี้ลูกก็เห็นชัดแล้วว่าคำ
ภาวนาของลูกได้เกิดผลแล้ว" พระสงฆ์จึงถามว่า "แล้วลูกมีวิธีใดส่งคนไปตามพ่อมาได้อย่างไร"
สตรีผู้นั้นตอบว่า "ลูกมิได้ส่งใครไปตามคุณพ่อเลย เพราะสามีของลูกเขาไม่ยอม และลูกแน่ใจว่า
เขาก็ไม่ทำเช่นนี้"
.....ต่อมาจึงทราบว่า พระสงฆ์องค์นั้นเข้าบ้านผิด ท่านเห็นเลขที่บ้าน 30เป็น 50 เมื่อเสร็จธุระ
ที่บ้านเลขที่30แล้ว ท่านจึงไปโปรดศิลเจิมให้หญิงชราบ้านเลขที่50ต่อไป
......ทุกคนพอได้ทราบเรื่องนี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นอัศจรรย์ของแม่พระแท้ๆ แม่พระเป็น
ผู้มีใจอารีต่อผู้ที่วอนขอเสมอ จึงได้รับฟังคำภาวนาของสตรีผู้นั้น..
..... :s005: :s005: :s005: ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2012 12:40 pm

rosa-lee เขียน:เรื่องที่5 เดชะบุญ เข้าบ้านผิด
....ที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของฝรั่งเศส มีคนมาเชิญพระสงฆ์ไปโปรดศิลเจิมคนป่วยเป็น
หญิงชราคนหนึ่ง พระสงฆ์ถามชื่อที่อยู่ เลขที่บ้าน ถนนเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวเสร็จจะตามไป
...ครั้นไปถึงบ้านนั้น ไม่มีใครรู้จักชี่อดังกล่าวเลย แต่มีคนบอกว่าชั้น3 มีหญิงป่วยหนักจวนจะตาย
อยู่แล้ว คุณพ่อจึงรีบขึ้นไปเยื่ยม แต่พอเข้าประตูห้อง ก็ถูกสามีของหญิงผู้นั้นขับไล่ ไสส่ง
ส่วนภรรยาที่นอนเจ็บอยู่ที่มุมห้องได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือว่า " คุณพ่อ กรุณาลูกด้วย
อย่าทิ้งลูก อย่าปล่อยให้ลูกตายโดยมิได้แก้บาปเสียก่อน" สามีของหญิงนั้นแทนที่จะช่วย
กลับไล่พระสงฆ์ให้ไปจากที่นั่นอย่างเดียว คุณพ่อจึงต้องใช้ไม้ตาย ขึ้นเสียงแข็งกับเขาว่า
....."ในนามของพระเป็นเจ้า ซึ่งสักวันจะต้องพิพากษาคุณ ขอให้คุณเลิกขัดขวางความประสงค์
ของภรรยาคุณเสียที"
...เห็นท่าทางขึงขังของพระสงฆ์ พร้อมกับได้ยินคำพูดเช่นนั้น ชายคนนั้นท่าทีเปลื่ยนไป
เขาหลบไปในห้องใกล้ๆและให้ภรรยาได้แก้บาปรับศิล โปรดศิลเจิมโดยสะดวก
.......ก่อนที่คุณพ่อจะกลับไป สตรีผู้นั้นได้เผยความในใจให้คุณพ่อฟังว่า" เป็นเวลา10ปีแล้ว
ที่สามีได้ขัดขวาง ไม่ยอมให้ไปวัด แก้บาป แต่ลูกได้สวดสายประคำอยู่เสมอ วิงวอนขอแม่พระ
อย่าปล่อยให้ลูกตายโดยมิได้รับศิลศักสิทธิ์ต่างๆให้เรียบร้อยก่อน และบัดนี้ลูกก็เห็นชัดแล้วว่าคำ
ภาวนาของลูกได้เกิดผลแล้ว" พระสงฆ์จึงถามว่า "แล้วลูกมีวิธีใดส่งคนไปตามพ่อมาได้อย่างไร"
สตรีผู้นั้นตอบว่า "ลูกมิได้ส่งใครไปตามคุณพ่อเลย เพราะสามีของลูกเขาไม่ยอม และลูกแน่ใจว่า
เขาก็ไม่ทำเช่นนี้"
.....ต่อมาจึงทราบว่า พระสงฆ์องค์นั้นเข้าบ้านผิด ท่านเห็นเลขที่บ้าน 30เป็น 50 เมื่อเสร็จธุระ
ที่บ้านเลขที่30แล้ว ท่านจึงไปโปรดศิลเจิมให้หญิงชราบ้านเลขที่50ต่อไป
......ทุกคนพอได้ทราบเรื่องนี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นอัศจรรย์ของแม่พระแท้ๆ แม่พระเป็น
ผู้มีใจอารีต่อผู้ที่วอนขอเสมอ จึงได้รับฟังคำภาวนาของสตรีผู้นั้น..
..... :s005: :s005: :s005: ...
บางอย่าง สิ่งที่พระเจ้าทำเราอาจนึกไม่ถึงได้เสมอครับ หุหุ อย่างเรื่องเล็กน้อยในชีวิตเรา
พระเจ้ามีแผนการหมดครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2012 1:18 pm

เรื่องที่6 ความฝันของกษัตริย์ อัลฟองส์
.....พระเจ้าอัลฟองส์ กษัตริย์แห่ง เลอองและกาลีชีอา (Roide Leon and de Galicia)
ในประเทศสเปน ทรงมีความปรารถนาที่จะให้ข้าราชบริพารของพระองค์ แสดงคาราวะต่อพระแม่
ด้วยการสวดสายประคำวันละ3สาย เพื่อให้ความประสงค์นี้สำเร็จลงด้วยดี จึงแสดงองค์เป็นตัวอย่าง
โดยทรงสวมสายประคำไว้ที่พระศอ เมื่อข้าราชบริพารเห็นดังนั้นต่างก็เกิดความเลื่อมใส
จึงพากันสวดสายประคำ วันละ3สายถวายแด่พระแม่เจ้า
...ต่อมา กษัตริย์อัลฟองส์ประชวรอย่างหนัก จนคาดกันว่าจะเสียพระชนม์ชีพ พระองค์ทรง
พระสุบินว่า วิญญานของพระองค์ทรงไปปรากฎอยู่ฉะเพาะพระพักตร์พระตุลาการเจ้า
ทรงเห็นเหล่าผีปีศาจพากันมากล่าวโทษในอาชญากรรม ที่ได้ทรงกระทำ การพิจารณา
ดำเนินไปจนกษัตริย์จวนจะถูกส่งไปสู่นรกอยู่แล้ว พระมารดาได้ประจักษ์พระวรกายขึ้นต่อ
หน้าพระบุตรพระตุลาการ
...ขณะที่เข็มเครื่องชั่งความดีความชั่ว กำลังเอนชี้ไปทางบาป เพราะถูกถ่วงด้วยน้ำหนักความชั่ว
พระแม่ได้หยิบสายประคำที่กษัตริย์เคยสวมพระศอ วางบนจานชั่งอีกข้างหนึ่ง ด้วยน้ำหนัก
ของสายประคำนั้น บันดาลให้เข็มเครื่องหมุนเวียนกลับไปทางการกุศล แล้วพระแม่ทรงมอง
มาที่กษัตริย์ผู้น่าสงสารด้วยความปรานี พลางตรัสว่า " อาศัยพระบารมีของพระบุตร เราจะโปรด
ให้ท่านมีอายุยืนยาวไปอีกหลายปี แต่ท่านต้องใช้เวลาที่ยืดไปนี้ ประกอบคุณธรรมความดี
และชำระมลทินโทษบาปของท่านเถิด"
....กษัตริย์อัลฟองส์ทรงตกพระทัยตื่นพลางอุทานว่า "โอ้สายประคำศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่เจ้า
สิ่งนี้เองที่ช่วยฉัน ให้รอดพ้นจากมหันตทุกข์นิรันดร"
.....หลังจากหายประชวรแล้ว กษัตริย์อัลฟองส์ทรงใช้วันเวลา ในการสวดสายประคำมากขึ้น
ทุกวันโดยมิได้ว่างเว้น
......ผู้ที่รักพระแม่ พึงสวดสายประคำด้วยใจศรัทธาเถิด ตัวอย่างเรื่องนี้ สอนใจเราได้อย่างดี
...... :s002: :s002: :s002: ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 18, 2012 2:00 pm

เรื่องที่7 การหว่านอันมีผล
....ที่ฝรั่งเศสพระสงฆ์นักเทศผู้หนึ่ง ได้รับเชิญให้ไปเทศน์ในวัดที่มีสัตบุรุษใจแข็งกระด้าง
ท่านจึงถามคุณพ่อเจ้าวัดว่า "ในวัดของคุณพ่อ มีคริสตังที่ใจศรัทธา แต่ยากจนสักคนไหม?"
....คุณพ่อเจ้าวัดตอบว่า "เห็นมีอยู่คนหนึ่ง เป็นหญิงชรานั่งขอทานอยู่ที่ข้างประตูวัด
ทำอะไรไม่เป็น นอกจากสวดสายประคำอย่างเดียว แกมีความสุขเพราะมีความไว้วางใจพระมาก"
.....คุณพ่อนักเทศน์ จึงเรียกหญิงชรามาหา และพูดว่า "นี่แน่น ยายจงเข้าไปในวัด และขณะที่
พ่อเทศน์ จงคุกเข่าข้างๆเสาต้นนี้ และสวดสายประคำขอให้สำเร็จผลตามที่พ่อตั้งใจขอ" ..
......หญิงชราขอทานทำตามคำสั่ง และทุกเย็นขณะที่คุณพ่อเทศน์ ก็รู้สึกมีพลังบรรเทาใจ
ที่เห็นหญิงชราช่วยวิงวอนอีกแรงหนึ่ง ปรากฎว่าการเทศน์แต่ละครั้งบังเกิดผลดีเกินคาดหมาย
......"โอ การที่บังเกิดผลดีนี้" คุณพ่อนักเทศน์กล่าวกับคุณพ่อเจ้าวัด "คุณพ่อไม่ต้องขอบคุณผม
หรอก แต่ควรขอบคุณหญิงชราที่น่ารักนั่นตะหาก เพราะขณะที่ผมเทศน์ คำภาวนาของหญิงชรา
ได้ช่วยเปิดหัวใจอันแข็งกระด้างของสัตบุรุตษด้วย บทวันทามารีอา ทำให้พระหรรษทาน
และคำเทศน์ของผมบังเกิดผล"
....ท่านผู้อ่านเล่า ลองหว่าน บทวันทามารีอา มากๆเถิด แล้วท่านจะเก็บเกี่ยวผล
อันพิสดารเกินคาด
.... :s005: :s005: :s005: ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 18, 2012 2:22 pm

เรื่องที่8 ของขวัญที่มีประโยชน์
....เรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคที่กรุงปารีส ถูกเยอรมันล้อม เมื่อปี ค.ศ.1870 คือระหว่างที่รบกันนั้น
กระจกหน้าต่างของอารามซิสเตอร์สงเคราะห์คนยากจน บนถนนนอสเตอร์ดาม เดส์ขัมป์เกิดแตก
....ทางอารามจึงไปเรียกนายช่างมาใส่กระจก ซิสเตอร์ท่านหนึ่งถือโอกาส ที่นายช่างกำลังใส่
กระจก พูดอธิบายพระวาจาให้เขาฟัง แต่เขาสนใจใส่กระจก มากกว่าฟังคำอธิบาย
....เมื่อซิสเตอร์ท่านนั้นเห็นว่า คำพูดไม่บังเกิดผลแล้ว จึงมอบสายประคำ1สายให้กับนายช่าง
พลางพูดว่า "เพื่อนรักจงรับสายประคำนี้ไว้ในกระเป๋าเถิด สายประคำนี้จะนำโชคมาให้ เป็นต้น
ในยามตกทุกข์ได้ยาก...และถ้าท่านจะสวดสายประคำบ้าง แม่พระจะฟังคำภาวนาของท่าน"
....นายช่างผู้นั้นก็รับสายประคำมาใส่กระเป๋าอย่างเสียมิได้ ต่อมาไม่นานสงครามสงบ นายช่าง
ผู้นี้ได้หนังสือเดินทาง และไปหางานอีกเมืองหนึ่ง คือเมือง Villeneuve-Saint Georges
เมื่อถึงเมืองแล้ว เขารู้สึกกระหายน้ำ จึงแวะไปที่ร้านเครื่องดื่ม ดื่มของมึนเมาจนรู้สึกเมา
เขาเมาก็เลยพูดจาตำหนิพวกเยอรมัน พูดถึงพระเจ้าวิลเลี่ยม ด่าผู้ปกครองเยอรมัน และคนอื่นๆ
ว่ามารุกรานประเทศฝรั่งเศส เขากล่าวว่า "น่าจะจับพวกรุกรานแขวนคอซะใ้ห้หมด"
....ที่นั่นมีชาวเยอรมันอยู่ด้วย มิช้าเขาก็ถูกจับเข้าคุก หลังจากสร่างเมาแล้ว และเห็นว่า
เราไม่ควรแกว่งปากหาเรื่องเลย "นี่จะเป็นอย่างไร ถ้าพวกเยอรมันจับเราไปประเทศของเขา
คงแย่มาก" เขาคิดในใจ และรู้สึกหิว จึงล้วงมือลงในกระเป๋าว่ามีเศษขนมปังอะไรเหลือไหม
แต่ไม่พบอะไรเลย นอกจากสายประคำที่ซิสเตอร์ให้ไว้นานแล้ว ซึ่งเขาไม่สนใจที่จะสวดเลย
...."อ่า" ...เขาอุทานขึ้น "นี่เป็นสายประคำของซิสเตอร์ ซึ่งสัญญาไว้กับเรา ถ้าเรารักษาไว้
จะมีโชคดี และจะช่วยเราในยามทุกข์ยาก และตอนนี้เรากำลังแย่จะออกจากคุกได้อย่างไร"
ไม่ได้..." เราจะต้องสวดสายประคำนี่แหละ แต่จะสวดอย่างไร เพราะฉันไม่รู้วิธีสวด ลืมหมด"
ขณะที่นายช่างที่น่าสงสารกำลังหาวิธีสวดสายประคำ เขาก็เริ่มต้น วันทามารีอา ๆๆ
..พอดีนายทหารเยอรมันคนหนึ่งโผล่เข้ามา รู้สึกแปลกใจที่เห็นนักโทษผู้นั้นนั่งอยู่บน
กองหญ้าแห้ง มือถือสายประคำ
..."เอ๊ะ!" นายทหารทักขึ้น "นี่แกมิใช่นักปฎิวัติ (พวกเปลื่ยนแปลงการปกครอง ไม่เอาศาสนา)
หรอกหรือ?"....
...".เปล่าครับ" นักโทษตอบเร็วปรื่อ...."
..."อย่างนั้น แกก็เป็นคริสตัง น่ะซี่ "....
..".ครับ ผมเป็นคริสตัง และกำลังสวดสายประคำอยู่ ตามที่ท่านเห็น.."
..."ยังงั้น แกออกไปได้ เพราะฉันก็เป็นคริสตังด้วย และต่อไประวังปากคอด้วย
อย่าพูดอะไรพล่อยๆอีก "..
.....นายช่างของเราไม่รอช้า เขารีบออกจากคุกไปด้วยอาการสงบ
.....รุ่งเช้าเขารีบเดินทางไปขอบคุณซิสเตอร์ที่ให้สายประคำแก่เขา พร้อมทั้งสัญญาว่า
จะรักษาสายประคำไว้ตลอดชีวิต และจะสวดสายประคำเสมอ เป็นต้นในยามทุกข์ยาก
ดังที่เขาได้ประสพมาด้วยตัวเอง...
..... :s002: :s002: :s002: ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 21, 2012 8:25 pm

เป็นอีกหนึ่งเสียงที่สนับสนุนการสวดสายประคำค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6046
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 7:33 pm

วันนี้คุณสวดสายประคำหรือยังคะ
..... :s005: ....
wiccaner
โพสต์: 26
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 01, 2012 7:36 pm

จันทร์ พ.ค. 28, 2012 7:07 pm

ผมสวดเกือบทุกคืนเลย มีความสุขจนน้ำตาจะไหล ทุกครั้งที่สวด
ตอบกลับโพส