พระวาจาทรงชีวิต "กรกฎาคม 2012

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
salvation7
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 522
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
ติดต่อ:

พุธ ก.ค. 18, 2012 1:16 pm

พระวาจาทรงชีวิต
กรกฎาคม 2012
"คนที่มีจะได้รับอีก และจะมีอย่าอุดม ใครที่ไม่มี แม้สิ่งที่มีก็จะถูกริบเอาไป"
พระวาจาตอนนี้เป็นคำตอบที่พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาอัครสาวกที่ถามพระองค์ว่า ทำไมจึงเล่านิทานเปรียบเทียบ พระองค์ทรงอธิบายว่ามิใช่ทุกคนที่จะเข้าใจรหัสธรรมแห่งพระราชัยสวรรค์ แต่คนที่เปิดใจกว้างและคนที่ยอมรับพระวาจาของพระองค์ และนำไปปฏิบัติจะสามารถเข้าใจได้

บางคนที่ได้ยินถึงพระองค์ แต่เลือกที่จะปิดหูปิดตา จะเป็นดังเช่นที่กล่าวในพระวรสาร "เขาดูแต่ไม่เห็น ได้ยินแต่ไม่ได้ฟังหรือเข้าใจ" (มธ. 13: 13)

บุคคลเหล่านี้ได้เห็นได้ยินถึงพระเยซูเจ้า แต่เพราะเขาคิดว่า เขารู้จักความเที่ยงแท้แล้ว เขาไม่เชื่อในพระวาจาของพระองค์ หรือกิจการของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่เชื่อ ดังนั้น ในที่สุด พวกเขาก็สูญเสียสิ่งเล็กน้อยที่พวกเขามีด้วย

"คนที่มีจะได้รับอีก และจะมีอย่างอุดม ใครที่ไม่มี แม้สิ่งที่มีก็จะถูกริบเอาไป"

ด้งนั้น พระวาจาเหล่านี้ของพระเยซูเจ้ามีความหมายอย่างไร พระองค์ทรงเชิญเราให้เปิดหัวใจ สำหรับพระวาจาที่ว่า พระองค์เสด็จมาเพื่อป่าวประกาศแก่เรา และในบั้นปลายชีวิตของเรา พระองค์จะทรงถามว่า เราได้เจริญชีวิตตามพระวาจาอย่างไร

ผู้เขียนพระวรสารชี้ให้เราเห็นแล้วว่า การประกาศพระวาจาเป็นความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ เป็นงานหลักของพระเยซูเจ้า พระองค์ดำเนินไปตามหมู่บ้านนี้หมู่บ้านนั้น ไปตามถนนหนทาง สวนสาธารณะ ไปตามทุ่งนา ไปตามบ้าน ในโรงธรรม เพื่อประกาศข่าวสารแห่งความรอด ทรงประกาศแก่ทุกคน แต่เป็นพิเศษสำหรับคนยากจน คนต่ำต้อย คนที่ถูกดีกีดกัน พระองค์เปรียบเทียงพระวาจาของพระองค์ว่า เป็นแสงสว่าง เป็นเกลือ เป็นเถาองุ่น เป็นอวนที่หย่อนลงในทะเล เป็นเมล็ดข้าวที่หว่านในทุ่งนา และจะให้ชีวิต เพราะว่าไฟซึ่งพระวาจาบรรลุอยู่จะลุกลามออกไป

"คนที่มีจะได้รับอีก และจะมีอย่างอุดม ใครที่ไม่มี แม้สิ่งที่มีก็จะถูกริบเอาไป"

ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระเยซูเจ้าทรงคาดหวังพระวาจาที่ทรงประกาศนั้น จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโลก เหตุนี้ เมื่อประกาศพระวาจาไปแล้ว พระเยซูเจ้าไม่ทรงรับผู้ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว หรือไม่สนใจ ไม่ทรงยอมรับว่าพระพรที่ยิ่งใหญ่นี้เมื่อใครได้รับแล้วไม่ทำให้เกิดผล

เพื่อจะเน้นให้เห็นถึงการเรียกร้องของพระองค์ พระเยซูเจ้าจึงยืนยัน ณ ที่นี่ถึงกฎพื้นฐานอย่างหนึ่งของชีวิตภายในว่า ใครที่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ พระองค์จะนำเขายิ่งทียิ่งเข้าถึงความร่ำรวย และเข้าถึงความยินดีอันเปรียบมิได้แห่งพระอาณาจักรของพระองค์ ตรงกันข้าม ใครที่ละเลยพระวาจา พระเยซูเจ้าก็จะริบไปจากเขา และจะทรงให้กับคนอื่นเพื่อทำให้เกิดผลได้

"คนที่มีจะได้รับอีก และจะมีอย่างอุดม ใคที่ไม่มี แม้สิ่งที่มีก็จะถูกริบเอาไป"

พระวาจานี้ทำให้เราต้องระวังตัว เพราะความละเลยของเรา นั้นคือ เรารับพระวรสาร บางทีก็เพียงนำมาศึกษา ยกย่องชมเชย หรือนำมาพูดคุยถกเถียง แต่หาได้นำมาปฏิบัติไม่

ตรงข้าม พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เราใช้พระวาจาให้เกิดประโยชน์ ให้เราเรับเข้ามาในตัวเรา ทำให้กลับกลายเป็นพลังบันดาลให้เกิดกิจการงานทุกอย่างของเรา และเช่นนี้ ด้วยการเป็นพยายนด้วยชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่าง เป็นเกลือเป็นเชื้อแป้ง ทีละเล็กทีละน้อยก็จะเปลี่ยนแปลงสังคม

ตลอดเดือนนี้ เราจงนำพระวาจาที่มีมากมายในพระวรสารมาสักตอนหนึ่งและเน้นเป็นพิเศษด้วยการนำมาสู่ภาคปฏิบัติ และความยินดีของเราก็จะเพิ่มทวีขึ้น

เคียร่า ลูบิค
=======================================

บุคคลผู้น่าสงสัย
ครอบครัวของเราจำเป็นต้องย้ายมาอยู่อีกเมืองหนึ่งเพราะงานใหม่ ในเมืองนั้นเราไม่รู้จักใครเลย เพื่อนร่วมงานของดิฉันเตือนว่า "อย่าเชื่อใจใครที่คุณไม่รู้จัก เมื่อไม่นานมานี้เอง ที่แถวชานเมืองมีผู้คนที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไรนัก" สามีของดิฉันไม่ค่อยระมัดระวังเรื่องนี้ โดยธรรมชาติแล้วเขาเป็นคนพูดเก่ง มักพูดคุยกับผู้คนที่พบเห็น มีผู้ชายคนหนึ่งที่เขาพบเป็นประจำเมื่อซื้อหนังสือพิมพ์ เพื่อนร่วมงานบอกกับดิฉันว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจเลย ในอดีตที่ผ่านมาเขามักมีปัญหามากมายกับตำรวจ

เมื่อดิฉันกลับไปบ้าน ได้คุยถึงเรื่องนี้กับสามี ดิฉันบอกเขาว่า เขาน่าจะระมัดระวังมากกว่า และไม่ควรไปพูดคุยอะไรกับคนที่เพิ่งจะพบกัน เขาฟังดิฉันและกล่าวว่า "ผมไม่อยากคิดในทางลบหรอกนะในิ่งที่คุณบอกผม แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้เรารับทุกคน"

สองสามวันต่อมา ลูกคนเล็กของเราไม่สบาย อาการของลูกไม่ดีขึ้นเลย
สถานการณ์ดูจะเลวร้ายลงทุกที ดิฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมาก เพราะเราไม่รู้จักใครเลย สักครู่สามีของดิฉันจำได้ว่า วันหนึ่ง ผู้ชายที่เขาพบที่ร้านขายหนังสือพิมพ์ได้ให้แผนที่ของเมืองพร้อมกับข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานที่สำคัญต่าง ๆ พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ รวมทั้งโรงพยาบาล ที่ที่สามารถติดต่อกับแพทย์ และร้านขายยา

สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาเรื่องลูกที่ไม่สบาย เราติดต่อแพทย์ให้มาที่บ้านและสามารถซื้อยาได้ทันท่วงที ทุกอย่างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ขอบคุณผู้ชายน่าสงสัยคนนั้นที่ได้ให้แผนที่ของเมืองกับสามีของดิฉัน

ประสบการณ์นี้สำคัญมากสำหรับดิฉัน เพราะไม่เพียงแต่ลูกที่ได้รับการรักษา แต่ได้เข้าใจว่าอะไรคือคำพูดแท้จริงที่ควรรับฟัง แน่นอนว่าเราควรเห็นค่าคำแนะนำของคนอื่นด้วย แต่ความรักต่อเพื่อนพี่น้องนั้นมีธรรมชาติที่แตกต่างไป และเราก็ได้รับการตอบแทนหากได้รับการนำทางจากวาจาแห่งความจริง

ล.ส.โคลัมเบีย
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ค. 18, 2012 5:03 pm

:s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ค. 19, 2012 10:41 pm

แบ่งปันได้ดี
เรื่องบุคคลที่น่าสงสัย บางครั้งคนที่เราคิดว่าไม่ดี ไม่น่าไว้ใจ สักวันหนึ่งเราอาจต้องขอ
ความช่วยเหลือจากเขาก็ได้ ในส่วนลึกของจิตใจทุกคนอยากเป็นคนดีทั้งนั้น แต่ภายนอก
ดู แล้วไม่น่าไว้ใจ บางทีคนเห็นก็พูดตามที่เห็น เลยเข้าใจผิดกันคิดในทางที่ไม่ดีไว้ก่อน
สมัยนี้คนส่วนมากมักไม่ค่อยไว้ใจกัน ยิ่งคนแปลกหน้าต้องระวังมาก แต่ในเรื่องนี้ คิดว่า
เป็นพระญานสอดส่อง ที่ให้ผ่านทางชายแปลกหน้า.....
:s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 13, 2012 2:32 pm

หรืออาจเป็นเทวดารักษาตัวก็ได้ค่ะ ที่จัดให้... ที่เราเข้าใจว่า บังเอิญ.. :s015:
ตอบกลับโพส