Belong to the Truth Jesus Christ

พบคัมภีร์ไบเบิลที่แจ้งข่าวดีถึงการมาของท่านศาสดาของอิสลาม

อ่านจากลิงค์นี้ครับ

http://www.sahibzaman.com/index.php?opt ... &Itemid=55

ตกลงมันยังไงกันแน่

ครับผมก็เคยทราบข่าวนี้

ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล อ่านจบเล่มแล้ว ไม่เห็นมีกล่าวถึงเรื่องนี้เลย....

อย่าสับสนค่ะ ขอให้มีความเชื่อที่มั่นคง เป็นพระเยซูเจ้าเองที่จะเสด็จมาครั้งที่ 2
ที่ว่าจะมาหลังข้าพเจ้าเป็นคำพูดของนักบุญยวงบัสติสตาที่พูดหมายถึงพระเยซูเจ้าเท่านั้น

.... ...

เคยมีพูดในพันทิพย์นะ โดนท่าน Ezra ชำแหละไปแล้ว เช่น

- มีความสับสนระหว่างคำว่า Messiah และ Christ
มีตอนหนึ่งเขาบอกว่า "พระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมเรา โดยส่งพระเยซูคริสต์" (หน้า 2)
แต่อีกตอนหนึ่ง พระเยซูตรัสว่า "เราไม่ใช่ Messiah" (บทที่ 42)
...เขามีความสับสนว่า Messiah และ Christ เป็นคนละคำ
แต่ที่จริงแล้วเป็นคำเดียวกัน
เพราะ Messiah เป็นภาษาฮีบรู ... Christ เป็นภาษากรีก ซึ่งแปลว่า "ผู้ที่ถูกเจิม"
ถ้าหากบารนาบัสตัวจริงเป็นผู้เขียน...ย่อมไม่มีการสับสนแบบนี้แน่นอน

- บันทึกเกี่ยวกับผู้ปกครองแคว้นในสมัย ศต.1 ผิดพลาด
ในบทที่ 3 เขียนไว่ว่า "ปีลาต กับเฮโรด ปกครองแคว้นยูเดียในเวลาเดียวกัน"
ซึ่งเหตุการณ์นี้ ผิดประวัติศาสตร์ เพราะทั้งสอง ไม่เคยปกรองในเวลาเดียวกัน

- เขียนเกี่ยวกับภูมิศาสตร์อิสราเอลผิดพลาด
ในบทที่ 20-21 ได้กล่าวว่า "พระเยซูได้นั่งเรือไปยังนาซาเร็ธ และมีกะลาสีของเมืองนั้น มาต้อนรับพระองค์" (chaps. 20-21).
นี่เป็นข้อผิดพลาดอย่างมาก เพราะนาซาเร็ธไม่ใช่หมู่บ้านที่มีการประมง และนาซาเร็ธไม่มีทะเล ...ดังนั้นพระเยซูจะนั่งเรือไปที่นาซาเร็ธได้อย่างไร ?
นาซาเร็ธอยู่ห่างไกลจากทะเลกาลิลีถึง 14 กิโลเมตร
ดังนั้น คนเขียนจึงไม่ใช่บารนาบัส ...เพราะเขาไม่รู้จักสภาพภูมิศาสตร์ของอิสราเอล

อย่างว่าแต่ขัดกับทางคริสต์ยังขัดกับของมุสลิมบางอย่างด้วย

Gospel ของบารนาบัส และ มุสลิม

- อัลกุรอานบอกอย่างชัดเจนว่า พระเยซูคือ Mesiah (อัลมะซี) -- Qur'an 3:45
แต่ Gospel บารนาบัส ปฏิเสธ การเป็น Mesiah ของพระเยซู
และกลับบอกว่า นบีมูฮัมหมัด เป็น Messiah แทน (ข้อ 42,97)

- อัลกุรอานเขียนการดำเนิดของพระเยซูไม่เหมือนกับอัลกุอาน
อัลกุรอานบอกว่า มารีย์คลอดลูกใต้ต้นไม้ด้วยความเจ็บปวด Qur'an 19:22-23
gospel บารนาบัสกล่าวว่า มาีรีย์คลอดลูกโดยปราศจากความเจ็บปวด (ข้อ 3 )
- อัลกุรอานสอนว่า มีสวรรค์ 7 ชั้น Qur'an 17:44
แต่ Gospel BNB สอนว่า มี 9 ชั้น (ข้อ 178)

จงระวังการล่อลวงนะครับ เรากำลังดำเนินชีวิตในช่วงวิวรณ์ยิ่งต้องระวัง

ผมไม่ได้เชื่อหรอกครับ เพียงแต่อยากได้ความกระจ่างเรื่องนี้และสงสัยอยู่ว่ามันน่าจะมีอะไรลับลมคมในหรือเปล่า ก็เลยมาถามเพื่อนๆในบอร์ดน่ะครับ

อะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริง คนก็จะลืมกันไปเองครับ

พระคัมภีร์ฉบับที่อ้างว่าเขียนโดยนักบุญ บาราบัสนี้ เขียนช่วงศาสนาอิสลามเผยแพร่ คือหลัง น.บาราบัสตายไปราว500ปีครับ ดังนั้นไม่ใช่เขียนโดยคนที่โดนอ้างชื่อแน่นอน นักประวัติิศาสตร์เชื่อว่าแต่งโดยมุสลิมชาวสเปน เพื่อให้ชาวคริสต์เดิมหันมารับอิสลามครับ


สรุปมันไม่ใช่ไบเบิ้ลครับ

ไม่ได้อ่านจนครบ

"ปีลาต กับเฮโรด ปกครองแคว้นยูเดียในเวลาเดียวกัน"
ปกครองเวลาเดียวกันค่ะ ถ้าไปไล่ประวัติศาสตร์ก่อนคริสต์กาล (ช่วงโรมัน)
จะพบว่า "เฮโรด" ไม่ได้มีคนเดียว มีกษัตริย์ที่ใช้ชื่อนี้ 2 คนในช่วงเวลานั้น

ไม่ใช่อย่างนี้เหรอ

อันทิปาเตอร์ เป็นผู้ว่าราชการแคว้นยูเดีย แบ่งอำนาจให้ลูกชายสองคน คนโตดูแลแคว้นยูเดีย คือ
ฟาซาเอล คนรองดูแลแคว้น กาลิลี ก็คือ เฮโรด

In all four gospel accounts, Pilate avoids responsibility for the death of Jesus. In the Gospel of Matthew, Pilate washes his hands to show that he was not responsible for the execution of Jesus and reluctantly sends him to his death.[5] The Gospel of Mark, depicting Jesus as innocent of plotting against the Roman Empire, portrays Pilate as reluctant to execute Jesus.[5] In the Gospel of Luke, Pilate not only agrees that Jesus did not conspire against Rome, but Herod Antipas, the Tetrarch of Galilee, also finds nothing treasonable in Jesus' actions.[5] We find in the Gospel of John, Pilate states “I find no guilt in him [Jesus]” and he asks the Jews if Jesus should be released from custody.[6]
http://en.wikipedia.org/wiki/Pontius_Pi ... _of_Pilate

ในปี 40 ก.ค.ศ. ทางโรมได้แต่งตั้งให้เฮโรด เป็นผู้ครอบครองยูเดียและสะมาเรียในตำแหน่งกษัตริย์ แต่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายทำให้เฮโรดไม่ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ เพราะชาวปาเธีย (Parthians) ที่มาจากเปอร์เซียได้เข้าโจมตีปาเลสไตน์ และได้จับตัวเฮอร์คานุชที่ 2 ไปเป็นเชลยที่บาบิโลน และฟาซาเอลก็ฆ่าตัวตาย ส่วนเฮโรดได้หนีไปพึ่งอำนาจของโรม

ชาวปาเธียได้แต่งตั้งให้อันทิโกนุช บุตรของอลิสโตบูลูสที่ 2 ขึ้นครองราชย์ปกครองกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งประชาชนก็ยอมรับพระองค์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ที่มาจากเชื้อสายของแมคคาบีย์ ซึ่งพระองค์ก็ปกครองได้ 3 ปี (40-37 ก.ค.ศ.)

ในปี 37 ก.ค.ศ.มาร์ค แอนโทนีและอ็อคตาเวียน ได้ช่วยเหลือเฮโรดในการรบเพื่อช่วงชิงเอาดินแดนยูเดียกลับมา และเฮโรดจึงได้เป็นกษัตริย์ปกครองเหนือยูเดีย และยังได้ครอบครองอาณาเขตอื่น ๆ ด้วย ท่านได้ปกครองจนถึงปี 4 ก.ค.ศ
**********************************************************************************
อันนี้คือเฮโรด คนที่ครองแคว้น ยูเดีย ครับ แต่คนละสมัย ก่อนพระเยซูเกิดครับ
**********************************************************************************

2. เฮโรด อันทิพา (Herod Antipa, 4 ก.ค.ศ.-ค.ศ.39) ได้ตำแหน่งเททาร์ค (Tetrach) เพื่อครอบครองกาลิลีและเพอเรีย (ลูกา 3:1, 19, 9:8) พวกโรมนับถือว่าปกครองดีแต่พวกยิวเกลียดมาก และในรัชกาลนี้นี่เองที่พระเยซูและยอห์น ผู้ให้บัพติศมา ได้ออกทำการสั่งสอน และยอห์นได้เสียชีวิต เพราะเทศนาสั่งสอนท่านว่า ทำผิดที่ไปแย่งภรรยาของน้องชายมาเป็นของตน (มัทธิว 14:1-12)

พระเยซูทรงเจริญวัยที่กาลิลีในสมัยที่เฮโรดปกครอง ดังนั้นในการตัดสินคดีของพระเยซู ปีลาตจึงส่งเรื่องของพระองค์ไปให้เฮโรด อันทิพาไต่สวนความผิด (ลูกา 23:6-12) ในปีค.ศ. 39 เฮโรดได้เดินทางไปยังกรุงโรม เพื่อขอให้ซีซาร์ กาลิกูล่า แต่งตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์ ทำให้เฮโรดไม่เป็นที่ไว้ใจของซีซาร์ จึงถูกเนรเทศออกจากดินแดนที่ปกครอง
*********************************************************************************
อันนี้คือ เฮโรด อีกคน สมัยพระเยซูครับ แต่ไม่ได้ครองแคว้นยูเดีย แต่ครองแคว้นกาลิลีครับ
*********************************************************************************

ดังนี้ เฮโรด ครองแคว้นยูเดียวช่วงเดียวกับ ปิลาต ในสมัยพระเยซู มันจึงไม่ตรงกับปรวัติศาสตร์ครับ เพราะที่จริง เฮโรด สมัยพระเยซูครอง แคว้นกาลิลี ต่างหาก ไม่ใช่ แคว้น ยูเดีย

ละเอียดดี อ่านแล้วได้ความรู้มากขึ้น ขอบคุณค่ะ...

เรื่องอื่นไม่รู้เรื่องเลยค่ะ รู้อย่างเดียวคือ จะไม่มีหนังสืออะไรเข้ามาเพิ่มในสารบบพระคัมภีร์เเน่นอน
ถึงเเม้จะกล่าวถึงพระเยซูถูกต้องทุกประการก็ตาม

เพราะหนังสือพระคัมภีร์จะต้องมีการใช้สืบเนื่องกันมาตลอดตั้งเเต่สมัยเริ่มเเรก
เเต่อันนี้ถูกค้นพบภายหลัง เเสดงว่ามันอาจจะเป็นของปลอมหรือไม่ได้รับการยอมรับก็เป็นได้

ไม่ต้องสับสนสิ่งใดเลยครับ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นและที่กำลังจะเกิดขึ้นมีบันทึกไว้ในไบเบิ้ลทั้งหมด ไม่มีอะไรมาเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน เชื่อในพระคัมภีร์ของเราเพียงพอครับ ^^
(รู้สึกเหมือนอัลกุรอ่านนี่ เค้าแต่งขึ้นมาทั้งหมดเลยเนอะ เอาเรื่องราวในไบเบิ้ลของเราไปแต่ง ฟังเรื่องราวแล้วรับไม่ได้เลย )