ยังไม่ล้างบาป ไปโบสถ์รับแผ่นศีลได้ไหมคะ...
-
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 21, 2012 12:27 am
สวัสดีค่ะ อาจจะดูไร้สาระ แต่อยากรบกวนถามสักหน่อยค่ะ
เชื่อพระนานแล้ว รักแม่พระนานแล้ว แต่ว่าเพิ่งมีโอกาสได้ไปโบสถ์
ไม่รู้เลยค่ะว่าควรทำอะไรบ้าง... แค่พอจะรู้บ้างจากที่เคยอ่าน
แน่นอนว่ายังไม่เคยเรียนคำสอน จึงยังไม่เคยล้างบาป
แต่ไปโบสถ์ก็ไปรับแผ่นศีลไปทำอะไรกับเขาหมดเลยค่ะ
ถึงจะไม่แน่ใจ แต่ส่วนนึง... เพราะว่าฝันมานานแล้วว่าอยากจะรับศีลน่ะค่ะ...
ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรมั้ย กลุ้มใจเลยมาถามค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่เป็นคำถามแปลกๆ
ขอบคุณค่ะ
เชื่อพระนานแล้ว รักแม่พระนานแล้ว แต่ว่าเพิ่งมีโอกาสได้ไปโบสถ์
ไม่รู้เลยค่ะว่าควรทำอะไรบ้าง... แค่พอจะรู้บ้างจากที่เคยอ่าน
แน่นอนว่ายังไม่เคยเรียนคำสอน จึงยังไม่เคยล้างบาป
แต่ไปโบสถ์ก็ไปรับแผ่นศีลไปทำอะไรกับเขาหมดเลยค่ะ
ถึงจะไม่แน่ใจ แต่ส่วนนึง... เพราะว่าฝันมานานแล้วว่าอยากจะรับศีลน่ะค่ะ...
ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรมั้ย กลุ้มใจเลยมาถามค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่เป็นคำถามแปลกๆ
ขอบคุณค่ะ
-
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 21, 2012 12:27 am
โอยตายแล้ว..... แล้วจะเป็นไรมั้ยคะเนี่ย.....
-
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 21, 2012 12:27 am
.___. แล้วที่รับไปแล้ว...ทำยังไงดีคะ...?
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
สวัสดีครับ คุณNoel_and_INoel_and_I เขียน:.___. แล้วที่รับไปแล้ว...ทำยังไงดีคะ...?
คาทอลิกเรียก "ทุรจารศีล" ถือเป็นบาป และต้องแก้บาป (คงมีคำถามต่อว่า
แล้วยังไม่ได้ล้างบาป จะแก้บาปอย่างไร...ล้างไปพร้อมกับล้างบาปนั่นแหละครับ
แต่ต้องปรึกษาพระสงฆ์ก่อน)
ผมไม่รู้นะครับว่าคุณNoel_and_I ไม่เข้าใจศาสนา ไม่ได้ฟัง หรือจงใจละเมิด
แต่ผมขอเตือนด้วยความบริสุทธิ์ใจนะครับ เล่น อะไร เล่นได้ แต่อย่าล้อเล่นกับ พระ
โดยเฉพาะคาทอลิก ก่อนที่จะมีพิธีรับศีล มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง อย่าง
ชัดเจนว่า "พิธีกรรมนี้สงวนสำหรับ คาทอลิก ที่เตรียมตัวมาดีแล้วเท่านั้น"
ซึ่งวิญญูชน(คนดี) หรือปัญญาชน(คนมีการศึกษา) น่าจะฟังแล้ว เข้าใจ โดยไม่ต้องตี
ความ นะครับ...
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
บางวัดเขาไม่ประกาศทุกมิสซาหรอกครับ ประกาศเฉพาะมิสซาวันสำคัญ คนไม่ทราบจริงๆก็มีครับpeopletribune เขียน:สวัสดีครับ คุณNoel_and_INoel_and_I เขียน:.___. แล้วที่รับไปแล้ว...ทำยังไงดีคะ...?
คาทอลิกเรียก "ทุรจารศีล" ถือเป็นบาป และต้องแก้บาป (คงมีคำถามต่อว่า
แล้วยังไม่ได้ล้างบาป จะแก้บาปอย่างไร...ล้างไปพร้อมกับล้างบาปนั่นแหละครับ
แต่ต้องปรึกษาพระสงฆ์ก่อน)
ผมไม่รู้นะครับว่าคุณNoel_and_I ไม่เข้าใจศาสนา ไม่ได้ฟัง หรือจงใจละเมิด
แต่ผมขอเตือนด้วยความบริสุทธิ์ใจนะครับ เล่น อะไร เล่นได้ แต่อย่าล้อเล่นกับ พระ
โดยเฉพาะคาทอลิก ก่อนที่จะมีพิธีรับศีล มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง อย่าง
ชัดเจนว่า "พิธีกรรมนี้สงวนสำหรับ คาทอลิก ที่เตรียมตัวมาดีแล้วเท่านั้น"
ซึ่งวิญญูชน(คนดี) หรือปัญญาชน(คนมีการศึกษา) น่าจะฟังแล้ว เข้าใจ โดยไม่ต้องตี
ความ นะครับ...
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
ดังนั้นเมื่อรู้มากผิดมาก รู้น้อยผิดน้อย และบาปไม่เจตนาคือบาปเบา เมื่อยังไม่ได้ลล้างบาปก็ให้อธิษฐานขออภัยบาป พระเยซูเจ้าไม่เคยถือโทษคนไม่รู้ครับ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
เป็นค่ะ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากนะคะเมจิ เขียน:_ม่เป็นอาไรหรอกค่ะ
การรับศีลคือการรับพระกาย พระโลหิตพระคริสตเจ้า
คือการรับความเชื่อของเรา รับพระผู้ไถ่ให้รอดของเรา
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยค่ะ อย่าใช้คำว่า "ไม่เป็นอะไร" เลยค่ะ
หากเป็นคนที่ไม่รู้ต่างศาสนาเราได้แต่เตือนหรือห้ามเขา
แต่คนที่เข้าใจว่าคืออะไรแล้วกระทำเป็นเรื่องไม่สมควรมาก ๆ ค่ะ
สำหรับเจ้าของกระทู้ก็อย่าทำอีกค่ะ เรียนคำสอนให้จบแล้วล้างบาป
คราวนี้เดินออกไปรับอยากภาคภูมิดีกว่าระแวงหลบ ๆ ซ่อน ๆ รับค่ะ
ใช่ครับlittleseal เขียน:เป็นค่ะ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากนะคะเมจิ เขียน:_ม่เป็นอาไรหรอกค่ะ
การรับศีลคือการรับพระกาย พระโลหิตพระคริสตเจ้า
คือการรับความเชื่อของเรา รับพระผู้ไถ่ให้รอดของเรา
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยค่ะ อย่าใช้คำว่า "ไม่เป็นอะไร" เลยค่ะ
หากเป็นคนที่ไม่รู้ต่างศาสนาเราได้แต่เตือนหรือห้ามเขา
แต่คนที่เข้าใจว่าคืออะไรแล้วกระทำเป็นเรื่องไม่สมควรมาก ๆ ค่ะ
สำหรับเจ้าของกระทู้ก็อย่าทำอีกค่ะ เรียนคำสอนให้จบแล้วล้างบาป
คราวนี้เดินออกไปรับอยากภาคภูมิดีกว่าระแวงหลบ ๆ ซ่อน ๆ รับค่ะ
-
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 21, 2012 12:27 am
คุณ peopletribune ใจร้ายจังค่ะ....
เราไม่ได้ตั้งใจล้อเล่นกับพระ และไม่มีวันทำด้วยโบสถ์ที่เราไปเขามิสซาเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
เราก็ว่าเราตั้งใจฟังดีแล้ว แต่ก็พลาดแบบนี้
ไม่เห็นต้องว่าอ้อมๆเราเป็นคนเลวหรือไร้การศึกษาเลยนี่คะ
แล้วเราจะจงใจละเมิดทำไมคะ เรารักพระไม่ใช่เหรอเราถึงเข้าวัด
อ่านความเห็นของคุณแล้วอยากร้องไห้มากๆค่ะ
ขอบคุณคำแนะนำจากท่านอื่นๆค่ะ จะสวดขอโทษพระ และไปเรียนคำสอนเตรียมล้างบาปค่ะ
เราไม่ได้ตั้งใจล้อเล่นกับพระ และไม่มีวันทำด้วยโบสถ์ที่เราไปเขามิสซาเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
เราก็ว่าเราตั้งใจฟังดีแล้ว แต่ก็พลาดแบบนี้
ไม่เห็นต้องว่าอ้อมๆเราเป็นคนเลวหรือไร้การศึกษาเลยนี่คะ
แล้วเราจะจงใจละเมิดทำไมคะ เรารักพระไม่ใช่เหรอเราถึงเข้าวัด
อ่านความเห็นของคุณแล้วอยากร้องไห้มากๆค่ะ
ขอบคุณคำแนะนำจากท่านอื่นๆค่ะ จะสวดขอโทษพระ และไปเรียนคำสอนเตรียมล้างบาปค่ะ
-
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 21, 2012 12:27 am
ขอบคุณค่า (T/\T)sunofgod เขียน:ใจเย็นๆนะครับ อย่าคิดมากน่ะครับ ตั้งใจเรียนคำสอนและเป็นคริสตชนที่ดีเร็วๆนะครับ
จะรอฟังข่าวดี พระเจ้าอวยพร
ไม่ต้องคิดมากนะครับ พระเป็นเจ้าทรงรักลูกๆทุกคนเสมอ พระองค์เท่านั้นที่ล่วงรู้จิตใจเราดี
ถึงแม้ว่าน้องจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาป และเผลอรับศีลไปแล้ว เพราะความไม่รู้
แต่ถ้าเป็นการรับด้วย ความรัก ที่มีต่อพระองค์ และด้วย ความเชื่อ ว่าพระองค์ทรงประทับอยู่ในแผ่นศีลนั้นจริงๆ
รู้ไหมครับว่า พระเยซูเจ้าทรงพอพระทัยมากกว่า ผู้ที่ล้างบาปเป็นคริสตชนแล้ว แต่รับศีลมหาสนิทด้วยความเฉยเมย และสงสัยเสียอีก
มธ 12:1-8
ครั้งหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านนาข้าวสาลีในวันสับบาโต บรรดาศิษย์รู้สึกหิว จึงเด็ดรวงข้าวมากิน เมื่อชาวฟาริสีสังเกตเห็นดังนั้น จึงทูลพระองค์ว่า “ดูซิ ศิษย์ของท่านกำลังทำสิ่งต้องห้ามในวันสับบาโต”
พระองค์ตรัสตอบว่า “ท่านไม่ได้อ่านในพระคัมภีร์หรือว่ากษัตริย์ดาวิดและผู้ติดตามได้ทำสิ่งใดเมื่อหิวโหย พระองค์เสด็จเข้าไปในพระนิเวศน์ของพระเจ้า เสวยขนมปังที่ตั้งถวายพร้อมกับบรรดาผู้ติดตาม ขนมปังนั้นผู้ใดจะกินไม่ได้ นอกจากบรรดาสมณะเท่านั้น ท่านไม่ได้อ่านในธรรมบัญญัติหรือว่า ในวันสับบาโตนั้น บรรดาสมณะในพระวิหารย่อมละเมิดวันสับบาโตได้โดยไม่มีความผิด เราบอกท่านทั้งหลายว่า ที่นี่มีสิ่งยิ่งใหญ่กว่าพระวิหารเสียอีก ถ้าท่านเข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’ ท่านคงจะไม่กล่าวโทษผู้ไม่มีความผิด เพราะบุตรแห่งมนุษย์เป็นนายเหนือวันสับบาโต”
-----------------
ขอให้น้องเป็นคริสตชนไวๆ นะครับ จะได้รับพระองค์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ถึงแม้ว่าน้องจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาป และเผลอรับศีลไปแล้ว เพราะความไม่รู้
แต่ถ้าเป็นการรับด้วย ความรัก ที่มีต่อพระองค์ และด้วย ความเชื่อ ว่าพระองค์ทรงประทับอยู่ในแผ่นศีลนั้นจริงๆ
รู้ไหมครับว่า พระเยซูเจ้าทรงพอพระทัยมากกว่า ผู้ที่ล้างบาปเป็นคริสตชนแล้ว แต่รับศีลมหาสนิทด้วยความเฉยเมย และสงสัยเสียอีก
มธ 12:1-8
ครั้งหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านนาข้าวสาลีในวันสับบาโต บรรดาศิษย์รู้สึกหิว จึงเด็ดรวงข้าวมากิน เมื่อชาวฟาริสีสังเกตเห็นดังนั้น จึงทูลพระองค์ว่า “ดูซิ ศิษย์ของท่านกำลังทำสิ่งต้องห้ามในวันสับบาโต”
พระองค์ตรัสตอบว่า “ท่านไม่ได้อ่านในพระคัมภีร์หรือว่ากษัตริย์ดาวิดและผู้ติดตามได้ทำสิ่งใดเมื่อหิวโหย พระองค์เสด็จเข้าไปในพระนิเวศน์ของพระเจ้า เสวยขนมปังที่ตั้งถวายพร้อมกับบรรดาผู้ติดตาม ขนมปังนั้นผู้ใดจะกินไม่ได้ นอกจากบรรดาสมณะเท่านั้น ท่านไม่ได้อ่านในธรรมบัญญัติหรือว่า ในวันสับบาโตนั้น บรรดาสมณะในพระวิหารย่อมละเมิดวันสับบาโตได้โดยไม่มีความผิด เราบอกท่านทั้งหลายว่า ที่นี่มีสิ่งยิ่งใหญ่กว่าพระวิหารเสียอีก ถ้าท่านเข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’ ท่านคงจะไม่กล่าวโทษผู้ไม่มีความผิด เพราะบุตรแห่งมนุษย์เป็นนายเหนือวันสับบาโต”
-----------------
ขอให้น้องเป็นคริสตชนไวๆ นะครับ จะได้รับพระองค์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
คุณ Noel_and_I อย่าตีความ ความปรารถนาดีของผมไปในทางใจร้ายสิครับNoel_and_I เขียน:คุณ peopletribune ใจร้ายจังค่ะ....
เราไม่ได้ตั้งใจล้อเล่นกับพระ และไม่มีวันทำด้วยโบสถ์ที่เราไปเขามิสซาเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
เราก็ว่าเราตั้งใจฟังดีแล้ว แต่ก็พลาดแบบนี้
ไม่เห็นต้องว่าอ้อมๆเราเป็นคนเลวหรือไร้การศึกษาเลยนี่คะ
แล้วเราจะจงใจละเมิดทำไมคะ เรารักพระไม่ใช่เหรอเราถึงเข้าวัด
อ่านความเห็นของคุณแล้วอยากร้องไห้มากๆค่ะ
ขอบคุณคำแนะนำจากท่านอื่นๆค่ะ จะสวดขอโทษพระ และไปเรียนคำสอนเตรียมล้างบาปค่ะ
ถ้าคุณNoel_and_I อ่านระหว่างบรรทัด ด้วยใจ และวิจารณญาณ จะทราบ
ถึงความหวังดี อย่างยิ่งยวด เชียวครับ...
แต่หากคำพูดอะไร ดูแข็งกร้าวและไม่สวยงาม ก็ถือว่าถูกทิ่มตำด้วยหนามกุหลาบ
แม้จะเจ็บคัน แต่มันก็สวยงาม....และจริง ๆ แล้ว ถ้าจะว่าไป
"ผมได้ซ่อนปริศนาธรรม" ไว้ในคำตอบ ด้านบนนั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าคุณNoel_and_I
ซึ่งมีจิตใจรักพระเจ้า จะเข้าถึงหรือเปล่า แต่ถ้ารัก "พระ" จริง ต้องเข้าถึงแก่นของ
ศาสนาคริสต์...นะครับ >>> ใครตบแก้มซ้ายท่าน....ให้หันแก้มขวาให้เค้าด้วย
ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปในสถานที่ ๆ เป็นที่ของพระเจ้า แม้จะเป็นคนละภาษา เราควร
มีความรู้พื้นฐานมาบ้าง ไม่ใช่ไม่มีมาเลย ผมถามหน่อย อิสลามใช้ภาษาอาหรับ พุทธใช้
ภาษาบาลี...อย่างนี้ถ้าต่างคนศาสนิก ไม่เรียนรู้และทำความเข้าใจในศาสนา และ
เคารพซึ่งกันและกัน....แล้วอ้างว่า "ฟังภาษา ไม่ออก" มันไม่พังวายป่วงจนฆ่ากัน
ตายเหรอครับ....
ถ้าไปกินหมู ในหมู่ พี่น้องมุสลิม
สุภาพสตรี ไปจับตัวพระสงฆ์ ในหมู่พี่น้องพุทธ
มีคนเตะวัว ในหมู่พี่น้อง ฮินดู
แล้วผมบอกว่า "ฟังภาษาไม่ออก" ผมถามคุณNoel_and_I และเพื่อน ๆ NMN
อย่างใช้เหตุใช้ผล และสติ >>>> มันฟังขึ้น หรือครับ?
ศาสนาเป็นเรื่องสุขุม คัมภีรภาพ(สุขุม ลุ่มลึก) และละเอียดอ่อน การทำอะไรทีเอาแต่
ความคิดตนเอง .... อาจจะทำให้ศาสนิก นั้น ๆ เค้าไม่พอใจก็ได้นะครับ...ซึ่งมันไม่เกี่ยว
กับพระเจ้า....แต่เป็นเรื่อง มารยาท สังคมด้วย พูดภาษาสวย เค้าเรียก กาละ เทศะ
น้อง Noel-and-I คะ
การรับศิลเป็นการรับพระเยซูเข้ามาอยู่ในตัวเราเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาน
เป็นศิลศักดิ์สิทธิ์ สงวนไว้ให้คริสตชนที่เตรียมตัวมาอย่างดี
น้องในเมื่อรักพระ อยากรับศิลน้องต้องไปเรียนคำสอน ได้ล้างบาป เตรียมตัวดีไปรับศิลได้
ที่ผ่านมาก็สวดขอโทษพระองค์ พระองค์อภัยให้เสมอค่ะ พระองค์พระทัยดี
แต่มีวิธีหนึ่งที่จะรับศิลได้ เรียกว่ารับศิลด้วยความปรารถนา บอกกับพระองค์ในใจ
ว่าลูกอยากรับพระองค์มาอยู่กับลูกสิ้นสุดจิตใจ แต่ไม่ต้องเดินออกไปรับศิลนะคะ
คริสตชนหลายๆคนบางทีเตรียมตัวไม่พร้อม แต่มีความปราถนารับพระองค์
ก็เรียกว่ารับศิลด้วยความปรารถนาค่ะ
ขอพระอวยพรน้องมากๆนะคะที่จะมาเป็นลูกของพระองค์
.... ...
การรับศิลเป็นการรับพระเยซูเข้ามาอยู่ในตัวเราเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาน
เป็นศิลศักดิ์สิทธิ์ สงวนไว้ให้คริสตชนที่เตรียมตัวมาอย่างดี
น้องในเมื่อรักพระ อยากรับศิลน้องต้องไปเรียนคำสอน ได้ล้างบาป เตรียมตัวดีไปรับศิลได้
ที่ผ่านมาก็สวดขอโทษพระองค์ พระองค์อภัยให้เสมอค่ะ พระองค์พระทัยดี
แต่มีวิธีหนึ่งที่จะรับศิลได้ เรียกว่ารับศิลด้วยความปรารถนา บอกกับพระองค์ในใจ
ว่าลูกอยากรับพระองค์มาอยู่กับลูกสิ้นสุดจิตใจ แต่ไม่ต้องเดินออกไปรับศิลนะคะ
คริสตชนหลายๆคนบางทีเตรียมตัวไม่พร้อม แต่มีความปราถนารับพระองค์
ก็เรียกว่ารับศิลด้วยความปรารถนาค่ะ
ขอพระอวยพรน้องมากๆนะคะที่จะมาเป็นลูกของพระองค์
.... ...
เมจิไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นนนคะเมจิหมายความว่าถ้าเราเชื่อในพระจริงๆเเล้วไม่รู้พระคงให้อภัยค่ะเเต่ก็ต้องเรียนคำสอนล้างบาปก่อนค่ะlittleseal เขียน:เป็นค่ะ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากนะคะเมจิ เขียน:_ม่เป็นอาไรหรอกค่ะ
การรับศีลคือการรับพระกาย พระโลหิตพระคริสตเจ้า
คือการรับความเชื่อของเรา รับพระผู้ไถ่ให้รอดของเรา
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยค่ะ อย่าใช้คำว่า "ไม่เป็นอะไร" เลยค่ะ
หากเป็นคนที่ไม่รู้ต่างศาสนาเราได้แต่เตือนหรือห้ามเขา
แต่คนที่เข้าใจว่าคืออะไรแล้วกระทำเป็นเรื่องไม่สมควรมาก ๆ ค่ะ
สำหรับเจ้าของกระทู้ก็อย่าทำอีกค่ะ เรียนคำสอนให้จบแล้วล้างบาป
คราวนี้เดินออกไปรับอยากภาคภูมิดีกว่าระแวงหลบ ๆ ซ่อน ๆ รับค่ะ
-
- โพสต์: 286
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
- ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.
1 คร 11
23.ด้วยว่าข้าพเจ้าได้รับเรื่องพิธีศีลระลึกจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้มอบเรื่องนี้ไว้กับท่านทั้งหลายแล้ว คือในกลางคืนวันนั้นเมื่อเขาทรยศขายพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงหยิบขนมปัง.
24.ครั้นขอบพระคุณแล้ว จึงทรงหักเสียตรัสว่า นี่เป็นกายของเราซึ่งทรงประทานให้ท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา.
25.เมื่อรับประทานขนมปังแล้ว พระองค์จึงทรงหยิบจอกด้วยอาการอย่างเดียวกันตรัสว่า จอกนี้คือคำสัญญาใหม่ด้วยโลหิตของเรา เมื่อท่านดื่มจากจอกนี้เวลาใด จงดื่มเป็นที่ระลึกถึงเรา.
26.เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายกินขนมปังนี้และดื่มจากจอกนี้เวลาใด ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ากว่าพระองค์จะเสด็จมา.
27.เหตุฉะนั้นถ้าคนหนึ่งคนใดมากินขนมปังนี้ และดื่มจากจอกขององค์พระผู้เป็นเจ้าตามอย่างไม่สมควร คนนั้นก็ผิดต่อพระกายและต่อพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า.
28.จงให้ทุกคนพินิจดูใจของตนเสียก่อน แล้วจึงกินขนมปังนี้และดื่มจากจอกนี้.
29.ด้วยว่าคนที่กินและดื่มตามอย่างไม่สมควร ก็กินและดื่มให้เป็นที่ปรับโทษแก่ตนเอง เพราะมิได้สังเกตพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า.
30.เหตุฉะนั้นในพวกท่านจึงมีหลายคนอ่อนกำลังและป่วยอยู่ และที่ล่วงหลับไปแล้วก็มีมาก.
31.ถ้าเราพิจารณาดูและเห็นความบกพร่องของตัวเราเอง เราคงไม่ต้องถูกตำหนิอย่างนี้.
32.แต่เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตำหนิเรานั้น พระองค์ได้ทรงตีสอนเรา เพื่อมิให้เราถูกปรับโทษด้วยกันกับโลก.
33.เหตุฉะนั้นดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประชุมกันรับประทานอาหารนั้น จงคอยซึ่งกันและกัน.
ผมหรือใครก็ตาม ถ้าจะบอกว่า"ไม่เป็นไร" แต่พระวจนะพระเจ้าบอกว่า"เป็น"ครับ ใครจะไปเถียงกับพระองค์ก็เชิญครับ แต่ตัวผมมิบังอาจ
ไม่ว่าคริสตชนนิกายใด หากยังไม่ได้รับศีลล้างบาป ก็มิอาจอนุญาตให้รับศีลได้ ไม่ใช่คนไม่อนุญาต แต่พระเจ้าไม่อนุญาต ยังรวมถึงผู้ที่มโนธรรมฟ้องร้องว่ามิบังควรรับพระกายและพระโลหิต ตนเองก็ควรงดรับศีลในครั้งนั้นด้วย
การรับศีลโดยไม่สมควร โทษหนักนะครับ จากพระวจนะข้างต้น คุณอ่านแล้วพินิจดูเองเถิดครับ
ส่วนในกรณีที่ไม่รู้ ไม่เจตนาจริงๆ พระเจ้าก็ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม เมื่อเราสำนึกและสารภาพความผิดของเรา พระองค์ก็ทรงยกโทษให้นะครับ และก็มิใช่ธุระของผมหรือใครก็ตามที่จะไปคาดโทษคนที่พระเจ้าทรงโปรดให้อภัยแล้ว
ปล.วันหลังระวังหน่อยนะครับ
อิมมานูเอล
23.ด้วยว่าข้าพเจ้าได้รับเรื่องพิธีศีลระลึกจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้มอบเรื่องนี้ไว้กับท่านทั้งหลายแล้ว คือในกลางคืนวันนั้นเมื่อเขาทรยศขายพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงหยิบขนมปัง.
24.ครั้นขอบพระคุณแล้ว จึงทรงหักเสียตรัสว่า นี่เป็นกายของเราซึ่งทรงประทานให้ท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา.
25.เมื่อรับประทานขนมปังแล้ว พระองค์จึงทรงหยิบจอกด้วยอาการอย่างเดียวกันตรัสว่า จอกนี้คือคำสัญญาใหม่ด้วยโลหิตของเรา เมื่อท่านดื่มจากจอกนี้เวลาใด จงดื่มเป็นที่ระลึกถึงเรา.
26.เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายกินขนมปังนี้และดื่มจากจอกนี้เวลาใด ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ากว่าพระองค์จะเสด็จมา.
27.เหตุฉะนั้นถ้าคนหนึ่งคนใดมากินขนมปังนี้ และดื่มจากจอกขององค์พระผู้เป็นเจ้าตามอย่างไม่สมควร คนนั้นก็ผิดต่อพระกายและต่อพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า.
28.จงให้ทุกคนพินิจดูใจของตนเสียก่อน แล้วจึงกินขนมปังนี้และดื่มจากจอกนี้.
29.ด้วยว่าคนที่กินและดื่มตามอย่างไม่สมควร ก็กินและดื่มให้เป็นที่ปรับโทษแก่ตนเอง เพราะมิได้สังเกตพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า.
30.เหตุฉะนั้นในพวกท่านจึงมีหลายคนอ่อนกำลังและป่วยอยู่ และที่ล่วงหลับไปแล้วก็มีมาก.
31.ถ้าเราพิจารณาดูและเห็นความบกพร่องของตัวเราเอง เราคงไม่ต้องถูกตำหนิอย่างนี้.
32.แต่เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตำหนิเรานั้น พระองค์ได้ทรงตีสอนเรา เพื่อมิให้เราถูกปรับโทษด้วยกันกับโลก.
33.เหตุฉะนั้นดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประชุมกันรับประทานอาหารนั้น จงคอยซึ่งกันและกัน.
ผมหรือใครก็ตาม ถ้าจะบอกว่า"ไม่เป็นไร" แต่พระวจนะพระเจ้าบอกว่า"เป็น"ครับ ใครจะไปเถียงกับพระองค์ก็เชิญครับ แต่ตัวผมมิบังอาจ
ไม่ว่าคริสตชนนิกายใด หากยังไม่ได้รับศีลล้างบาป ก็มิอาจอนุญาตให้รับศีลได้ ไม่ใช่คนไม่อนุญาต แต่พระเจ้าไม่อนุญาต ยังรวมถึงผู้ที่มโนธรรมฟ้องร้องว่ามิบังควรรับพระกายและพระโลหิต ตนเองก็ควรงดรับศีลในครั้งนั้นด้วย
การรับศีลโดยไม่สมควร โทษหนักนะครับ จากพระวจนะข้างต้น คุณอ่านแล้วพินิจดูเองเถิดครับ
ส่วนในกรณีที่ไม่รู้ ไม่เจตนาจริงๆ พระเจ้าก็ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม เมื่อเราสำนึกและสารภาพความผิดของเรา พระองค์ก็ทรงยกโทษให้นะครับ และก็มิใช่ธุระของผมหรือใครก็ตามที่จะไปคาดโทษคนที่พระเจ้าทรงโปรดให้อภัยแล้ว
ปล.วันหลังระวังหน่อยนะครับ
อิมมานูเอล
ผมสรุปให้คุณ Noel_and_I แบบนี้นะครับ
ถึงที่สุด การจะเข้าใจข้อความเชื่อทุกอย่างในคริสตศาสนา วิธีที่ดีที่สุดคือ
ใช้ความสัมพันธ์แบบ พ่อ และ ลูก มาตีความครับ
มีกฎต่างๆมากมายในพระศาสนจักร ที่มาจากการตีความจากพระคัมภีร์อีกที
ประเด็นการทุราจารศีลมหาสนิทนั้น จุดประสงค์หลักคือห้ามการลบหลู่หรือไม่ให้ความสำคัญต่อศีลมหาสนิท โดยหลักใหญ่เล็งไปที่ตัวคริสตชนเองที่มีความรู้แต่ละเลยไม่ให้ความสำคัญต่อศีลมหาสนิท
แต่สำหรับกรณีของคุณ Noel_and_I ไม่ใช่เจตนาลบหลู่ และไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ แต่เพราะมีความต้องการสนิทสัมพันธ์พิเศษกับพระเยซูคริสต์ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าอาจจะมีพิธีบางสิ่งที่ห้ามบุคคลภายนอกร่วม
ยกตัวอย่างเช่น การละเมิดวันสะบาโตของพระเยซู กฎวันสะบาโต ห้ามทำงาน เจตนาคือไม่อยากให้คนเอาแต่ทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาไปวัดไปโบสถ์ แต่ให้ยกวันหนึ่งให้พระเจ้า ต่อมา พระเยซูเห็นคนป่วยในวันนั้น ทรงสงสาร และทรงช่วยเหลือ ก็ถูกฟาริสีในสมัยนั้น โจมตีว่าละเมิดวันสะบาโตเพราะการรักษาคนถือเป็นงานอย่างหนึ่ง พระเยซูจึงถามพวกเขากลับว่า วันสะบาโตควรทำชั่วหรือทำดี และชี้ว่าพระองค์ทรงทำดี และทรงทำด้วยเจตนาดีที่จะช่วยเหลือคน ไม่ได้เจตนาละเมิดเพื่อจะได้ทำงานโดยไม่ต้องไปวัดไปโบสถ์อันเป็นจุดประสงค์ของการมีกฎข้อนี้
ดังนั้น ประเด็นการเผลอไปรับศีลเพราะอยากทำตามความฝันที่จะเป็นคริสตชนเป็นลูกของพระเจ้าให้มากที่สุดของคุณ Noel_and_I ไม่ใช่เจตนาจะลบหลู่ หรือไม่เห็นคุณค่า อันเป็นเหตุที่กฎข้อนี้ตั้งมาเพื่อป้องกัน ตรงข้ามเพราะคิดว่ามันมีคุณค่าถึงอยากไปรับ
ดังนั้นขอให้คุณ Noel_and_I ใช้ความรู้สึกของลูกและพ่อในเรื่องนี้ สมมุติว่า มีงานวันพ่อ โดยมีพิธีที่ทุกคนไปกอดพ่อ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมาลงชื่อก่อน และต้องแต่งชุดนักเรียน แต่พอดีมีเด็กคนหนึ่ง เธอรู้สึกอยากร่วมทำบ้างแต่ไม่รู้ว่าต้องแต่งชุดนักเรียนและต้องลงชื่อก่อน เธอได้ขึ้นไปกอดพ่อบ้างทั้งที่ใส่ชุดไปรเวท และลัดคิวคนอื่นเพราะไม่ได้ลงชื่อไว้ คนอื่นที่เห็นก็ย่อมจะตำหนิติเตียน แต่กับตัวพ่อเอง เมื่อมีลูกที่เข้ามาแสดงความรักต่อตนแต่ผิดระเบียบ ในเมื่อเด็กคนนั้นได้กอดพ่ออยู่ พ่อจะทำอย่างไร
พ่อจะรับอ้อมกอดอันนั้น แม้จะรู้อยู่ว่ามันผิดระเบียบ หรือจะไล่ให้ไปแต่งตัวใหม่แล้วไปรอลงชื่อปีหน้าซะก่อนค่อยมากอด
พระเยซูจะเป็นพ่อแบบไหนคุณทราบดีแม้ยังไม่ใช่คริสตชน คุณคงเคยได้ยินหรือได้อ่านเรื่องลูกล้างผลาญ ลูกที่ขอแบ่งสมบัติพ่อ ผลาญสมบัติพ่อ ทิ้งพ่อ ไปเสเพลคบคนชั่ว เมื่อต้องการกลับมาคืนดี ยังไม่ทันได้ทำพิธีรีตรองที่ตั้งใจจะทำ พ่อเองชิงเข้ามากอดซะก่อน โดยไม่รังเกียจชุดโสโครกที่ใส่เลี้ยงหมูซะด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้สนับสนุนให้ใครที่คิดจะละเมิดระเบียบก็ทำ เพราะถ้าคนที่รักจริงเขาพร้อมจะทำตามระเบียบทุกอย่างเพื่อใกล้ชิดผู้ที่ตนรัก ไม่ว่าระเบียบจะยุ่งยากแค่ไหน เว้นแต่จะไม่ทราบระเบียบมาก่อน
วันนี้ถ้าคุณ Noel_and_I ยังไม่สบายใจ ขอให้อธิษฐาน โดยคิดว่าพระเยซูอยู่ตรงหน้าคุณ ในฐานะพ่อที่รักคุณมาก แล้วคุณก็จงบอกเล่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บอกเจตนาจากใจของคุณว่าคุณทำลงไปด้วยเหตุผลใด และขอโทษพระองค์ พระจิตเจ้าจะทรงประทานพระพรให้จิตวิญญาณของคุณรับรู้ได้ว่าพระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานขออภัยของคุณอย่างไร
จำไว้ว่า คนรอบข้างสามารถเตือนคุณได้ อาจด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หรืออ่อนโยน หรือห่วงใย หรือเข้มงวดแค่ไหน แต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสิน และทรงตัดสินด้วยความรักอย่างที่บิดาคนใดก็เทียบไม่ได้
(ยน 6:37)
ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา
และผู้ที่มาหาเรา
เราจะไม่ผลักไสไปเลย
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ถึงที่สุด การจะเข้าใจข้อความเชื่อทุกอย่างในคริสตศาสนา วิธีที่ดีที่สุดคือ
ใช้ความสัมพันธ์แบบ พ่อ และ ลูก มาตีความครับ
มีกฎต่างๆมากมายในพระศาสนจักร ที่มาจากการตีความจากพระคัมภีร์อีกที
ประเด็นการทุราจารศีลมหาสนิทนั้น จุดประสงค์หลักคือห้ามการลบหลู่หรือไม่ให้ความสำคัญต่อศีลมหาสนิท โดยหลักใหญ่เล็งไปที่ตัวคริสตชนเองที่มีความรู้แต่ละเลยไม่ให้ความสำคัญต่อศีลมหาสนิท
แต่สำหรับกรณีของคุณ Noel_and_I ไม่ใช่เจตนาลบหลู่ และไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ แต่เพราะมีความต้องการสนิทสัมพันธ์พิเศษกับพระเยซูคริสต์ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าอาจจะมีพิธีบางสิ่งที่ห้ามบุคคลภายนอกร่วม
ยกตัวอย่างเช่น การละเมิดวันสะบาโตของพระเยซู กฎวันสะบาโต ห้ามทำงาน เจตนาคือไม่อยากให้คนเอาแต่ทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาไปวัดไปโบสถ์ แต่ให้ยกวันหนึ่งให้พระเจ้า ต่อมา พระเยซูเห็นคนป่วยในวันนั้น ทรงสงสาร และทรงช่วยเหลือ ก็ถูกฟาริสีในสมัยนั้น โจมตีว่าละเมิดวันสะบาโตเพราะการรักษาคนถือเป็นงานอย่างหนึ่ง พระเยซูจึงถามพวกเขากลับว่า วันสะบาโตควรทำชั่วหรือทำดี และชี้ว่าพระองค์ทรงทำดี และทรงทำด้วยเจตนาดีที่จะช่วยเหลือคน ไม่ได้เจตนาละเมิดเพื่อจะได้ทำงานโดยไม่ต้องไปวัดไปโบสถ์อันเป็นจุดประสงค์ของการมีกฎข้อนี้
ดังนั้น ประเด็นการเผลอไปรับศีลเพราะอยากทำตามความฝันที่จะเป็นคริสตชนเป็นลูกของพระเจ้าให้มากที่สุดของคุณ Noel_and_I ไม่ใช่เจตนาจะลบหลู่ หรือไม่เห็นคุณค่า อันเป็นเหตุที่กฎข้อนี้ตั้งมาเพื่อป้องกัน ตรงข้ามเพราะคิดว่ามันมีคุณค่าถึงอยากไปรับ
ดังนั้นขอให้คุณ Noel_and_I ใช้ความรู้สึกของลูกและพ่อในเรื่องนี้ สมมุติว่า มีงานวันพ่อ โดยมีพิธีที่ทุกคนไปกอดพ่อ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมาลงชื่อก่อน และต้องแต่งชุดนักเรียน แต่พอดีมีเด็กคนหนึ่ง เธอรู้สึกอยากร่วมทำบ้างแต่ไม่รู้ว่าต้องแต่งชุดนักเรียนและต้องลงชื่อก่อน เธอได้ขึ้นไปกอดพ่อบ้างทั้งที่ใส่ชุดไปรเวท และลัดคิวคนอื่นเพราะไม่ได้ลงชื่อไว้ คนอื่นที่เห็นก็ย่อมจะตำหนิติเตียน แต่กับตัวพ่อเอง เมื่อมีลูกที่เข้ามาแสดงความรักต่อตนแต่ผิดระเบียบ ในเมื่อเด็กคนนั้นได้กอดพ่ออยู่ พ่อจะทำอย่างไร
พ่อจะรับอ้อมกอดอันนั้น แม้จะรู้อยู่ว่ามันผิดระเบียบ หรือจะไล่ให้ไปแต่งตัวใหม่แล้วไปรอลงชื่อปีหน้าซะก่อนค่อยมากอด
พระเยซูจะเป็นพ่อแบบไหนคุณทราบดีแม้ยังไม่ใช่คริสตชน คุณคงเคยได้ยินหรือได้อ่านเรื่องลูกล้างผลาญ ลูกที่ขอแบ่งสมบัติพ่อ ผลาญสมบัติพ่อ ทิ้งพ่อ ไปเสเพลคบคนชั่ว เมื่อต้องการกลับมาคืนดี ยังไม่ทันได้ทำพิธีรีตรองที่ตั้งใจจะทำ พ่อเองชิงเข้ามากอดซะก่อน โดยไม่รังเกียจชุดโสโครกที่ใส่เลี้ยงหมูซะด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้สนับสนุนให้ใครที่คิดจะละเมิดระเบียบก็ทำ เพราะถ้าคนที่รักจริงเขาพร้อมจะทำตามระเบียบทุกอย่างเพื่อใกล้ชิดผู้ที่ตนรัก ไม่ว่าระเบียบจะยุ่งยากแค่ไหน เว้นแต่จะไม่ทราบระเบียบมาก่อน
วันนี้ถ้าคุณ Noel_and_I ยังไม่สบายใจ ขอให้อธิษฐาน โดยคิดว่าพระเยซูอยู่ตรงหน้าคุณ ในฐานะพ่อที่รักคุณมาก แล้วคุณก็จงบอกเล่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บอกเจตนาจากใจของคุณว่าคุณทำลงไปด้วยเหตุผลใด และขอโทษพระองค์ พระจิตเจ้าจะทรงประทานพระพรให้จิตวิญญาณของคุณรับรู้ได้ว่าพระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานขออภัยของคุณอย่างไร
จำไว้ว่า คนรอบข้างสามารถเตือนคุณได้ อาจด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หรืออ่อนโยน หรือห่วงใย หรือเข้มงวดแค่ไหน แต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสิน และทรงตัดสินด้วยความรักอย่างที่บิดาคนใดก็เทียบไม่ได้
(ยน 6:37)
ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา
และผู้ที่มาหาเรา
เราจะไม่ผลักไสไปเลย
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- Ecclēsia
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
เราเรียนคำสอนปีครึ่งเเน่ะกว่าจะได้รับศีลมหาสนิทครั้งเเรก
อดทนรอหน่อยเนอะ ที่พลาดไปเพราะความไม่รู้ ไม่ได้มีเจตนา ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นเเล้ว คงไม่ทำอีก
"ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" ค่ะ
อดทนรอหน่อยเนอะ ที่พลาดไปเพราะความไม่รู้ ไม่ได้มีเจตนา ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นเเล้ว คงไม่ทำอีก
"ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" ค่ะ