หน้า 1 จากทั้งหมด 1
มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 2:46 pm
โดย roseofshalon
ถ้าเราภาวนาประคำวันละหนึ่งร้อยจบ ทุกวันติดต่อกันเป็นเวลาสามปีโดยมิได้ขาด พระแม่มารีย์ พระเยซูคริสต์ จักเสด็จมาประสิทธิ์ให้ ถ้าตัวคนสวดสายประคำยังได้รับการประสิทธิ์ถึงขนาดนี้ แล้วประคำบริสุทธิ์เส้นนี้(ที่สวดจนครบตามนี้)จักยังความบริสุทธิ์ และชำระให้แก่ผู้ที่ได้ถือครองขนาดไหน

ของใช้นักบุญดีมิเทรียส (St. Demetrius) ที่มหาวิหาร Thessalonika, ประเทศกรีซ
ในต่างประเทศนิยมนำของใช้นักบุญมาเก็บรักษาสำหรับรำลึกเพราะเชื่อพลังศักสิทธิ์บริสุทธิ์เชื่อว่าช่วยให้โชคดีเนื่องจาก มีอำนาจในการป้องกันสิ่งชั่วร้าย ของใช้นักบุญจึงยังมีความนิยมและความสำคัญทางคริสต์ศาสนา ความศักดิ์สิทธิ์อันนี้อาจครอบคลุมไปถึงบริเวณที่มีวัตถุมงคลตั้งอยู่เช่นตัวเมือง เมื่อนักบุญมาร์ตินแห่งทัวร์เสียชีวิตเมื่อ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 397 หมู่บ้านระหว่างเมืองทัวร์ไปจนถึงปัวตีเย ต่างหวังได้ร่างของท่านมาเป็นสมบัติแต่เมืองทัวร์เป็นผู้ได้ไป บางครั้งความที่อยากเป็นเจ้าของทำให้มีการโขมยกันเช่นร่างของนักบุญนิโคลัสแห่งไมรา (St Nicholas of Myra) ตำนานหนึ่งว่ากลาสีจากอิตาลีไปเอามาจากบาทหลวงออร์ทอดอกซ์ที่อาร์มีเนียหลังศึกแมนซิเคิท (Battle of Manzikert) เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่าวัตถุมงคลของท่านเกือบทั้งหมดถูกนำไปไว้ที่เมืองเวนิส หรือความชื่อที่ว่าของใช้ที่เรียกว่า “รูปเอเดสสา” (Image of Edessa) ซึ่งเป็นผืนผ้าที่มีรูปพระพักตร์ของพระเยซู สามารถปกป้องเมืองไม่ให้ศัตรูเข้าเมืองได้
หลักฐานแรกที่กล่าวถึงปรากฏใน “คัมภีร์ไบเบิลฉบับคิงเจมส์” (King James' Bible) กล่าวถึงปาฏิหาริย์ว่า “เอลิชา (Elisha) ตายและถูกฝัง ปัจจุบันมีโจรเข้ามาทุกฤดูใบไม้ผลิ ครั้งหนึ่งขณะที่ชาวยิวกำลังฝังศพอยู่ เห็นโจรกลุ่มหนึ่ง ชาวยิวจึงจับโจรโยนลงไปในที่ฝังศพของเอลิชา เมื่อร่างของโจรถูกกระดูกของเอลิชา โจรฟื้นชึวิตขึ้นมาและยืนบนขาของตัวเอง”
เอกสารอีกฉบับหนึ่งที่เขียนไว้ใน “การเป็นมรณสักขีของโพลิคาร์ป” (Martyrdom of Polycarp) เมื่อระหว่างปี ค.ศ. 150 ถึงปี ค.ศ. 160 กล่าวถึงของใช้ของนักบุญโพลิคาร์ป (Polycarp) ตามเอกสาร กิจการของอัครทูต 19:11-12 กล่าวถึงผ้าเช็ดหน้าของนักบุญโพลิคาร์พว่า ได้รับอำนาจจากพระเยโฮวาห์ทำให้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
ตำนานปาฏิหาริย์เกื่ยวกับของใช้เริ่มมีกันมาตั้งแต่เริ่มมีมาตั้งแต่ยุคต้นของคริสต์ศาสนา แล้วนิยมแพร่หลายกันมากในยุคกลาง มีการรวบรวมเป็นหนังสือแบบที่เรียกว่า “วิทยานักบุญ” เช่น “ตำนานทอง” หรืองานเขียนโดยซีซาร์แห่งไฮสเตอร์บาค (Caesar of Heisterbach) หนังสีอเหล่านี้เป็นที่นิยมและเสาะหากันมากในสมัยยุคกลาง
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ได้ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 2:47 pm
โดย roseofshalon
ของใช้ของพระเยซูมีหลายอย่าง โดยชิ้นที่มีชื่อเสียงรู้จักกันแพร่หลายมาก เช่น
ผ้าห่อพระศพแห่งตูริน (Shroud of Turin) เชื่อกันว่าเป็นผ้าที่ใช้ห่อพระศพของพระเยซูเมื่อนำร่างลงมาจากกางเขน แต่เป็นที่ถกเถียงกันมาก เก็บรักษาที่ มหาวิหารเซนต์จอห์นแบพทิสต์ เมืองตูริน ประเทศอิตาลี
กางเขนจริง (True Cross) เชื่อกันว่าเป็นชิ้นไม้จากไม้กางเขนที่พระเยซูถูกตรึง ชิ้นไม้นี้เป็นที่เสาะหากันมากและมีการทำปลอมมากจนจอห์น คาลวิน (John Calvin) กล่าวเยาะว่าชิ้นไม้จากไม้กางเขนที่มีกันอยู่สมัยนั้นสามารถเอาไปสร้างเรือได้ทั้งลำ อย่างไรก็ตาม เมื่อเอาชิ้นไม้จากไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่มีอยู่ขณะนั้นมารวมกัน หนักเพียง 1.7 กิโลกรัม มีเนี้อที่ 0.04 ตารางเมตรเท่านั้น ถึงกระนั้น บางชิ้นเมื่อวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว กลับพบว่ามาจาก ค.ศ. 1870
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 2:53 pm
โดย roseofshalon
การจัดระดับและการประกาศห้ามมีวัตถุมงคลในนิกายโรมันคาทอลิก

ภาพเขียนของผ้าซับพระพักตร์ของพระเยซู โดยฟรานซิสโก เดอ เซอบาราน
คริสต์ศาสนิกชนคาทอลิกชาวไทยเรียกของใช้ว่าพระธาตุ และแบ่งของใช้เป็นสามชั้น
ของใช้ชั้นหนึ่ง คือวัตถุที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตของพระเยซู (รางหญ้า, กางเขน, อื่นๆ) หรือชิ้นส่วนจากร่างของนักบุญ (กระดูก, ผม, แขน, อื่นๆ)
ตามธรรมดาแล้ววัตถุมงคลจากนักบุญที่พลีชีพมีค่ากว่านักบุญที่มิได้พลีชีพ และส่วนของร่างกายแต่ละส่วนมีค่ามากน้อยต่างกัน เช่น แขนขวาของนักบุญสตีเฟนแห่งฮังการี (King St. Stephen of Hungary) มีความสำคัญมากกว่าส่วนอื่นของร่างกายเพราะเป็นสัญลักษณ์ของฐานะการปกครองของพระองค์ หัวของนักศาสนวิทยามีค่ามากที่สุดในบรรดาร่างกายส่วนอื่น เช่น หัวของนักบูญทอมัสอควินาถูกแยกจากร่างโดยพระที่สำนักสงฆ์ที่ฟอสซาโนวาเมื่อท่านสิ้นชีวิต หรือถ้านักบุญเดินทางบ่อยกระดูกเท้าอาจสำคัญ (ตามกฏสถาบันคาทอลิกในปัจจุบันห้ามแบ่งวัตถุมงคลที่ใช้ในคริสต์ศาสนพิธีจนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นส่วนใดของร่างกาย)
ของใช้ชั้นสอง คือ วัตถุที่นักบุญสวมใส่ (เช่นถุงเท้า ถุงมือ หรือ เสื้อ) รวมทั้งสิ่งที่เป็นของนักบุญหรือสิ่งที่นักบุญใช้บ่อย เช่นกางเขน หรือ หนังสือ สิ่งที่สำคัญเป็นพิเศษต่อนักบุญมีค่ามากกว่าสิ่งอื่น
ของใช้ชั้นสาม คือ วัตถุที่เคยสัมผัสของใช้ชั้นหนึ่งและสองมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีประกาศห้ามซื้อขายหรือเคลื่อนย้ายตามประมวลกฎหมายพระศาสนจักรระบุไว้ว่า
§1190 §1 - ห้ามการซื้อขายของใช้ศักดิ์สิทธิ์โดยเด็ดขาด
§1190 §2 - ห้ามย้ายของใช้ที่มีความสำคัญและวัตถุมงคลอื่นๆที่เป็นที่สักการะโดยมิได้มีการอนุญาตจากเขตมิสซัง
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 2:56 pm
โดย roseofshalon

ภาพการเคลื่อนย้ายวัตถุมงคลของนักบุญคอร์บิเนียนจากเมราโนในอิตาลีไปยังไฟรซิงในเยอรมนี (ภาพเขียนในคริพท์ของมหาวิหารไฟรซิง)
การเคลื่อนย้ายวัตถุมงคล (อังกฤษ: Translation of relics) ในคริสต์ศาสนา "การเคลื่อนย้ายวัตถุมงคล" คือการโยกย้ายสิ่งของศักสิทธิ์ (เช่นการโยกย้ายอัฐิ หรือ มงคลวัตถุที่เป็นของนักบุญ) จากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่งที่อาจจะเป็นคริสต์ศาสนสถานอื่น หรือ มหาวิหาร การโยกย้าย หรือ "Translation" ทำได้หลายวิธีที่รวมทั้งการทำสนธยารำลึกตลอดคืน หรือ การแบกมงคลวัตถุอันมีค่าในหีบที่ทำด้วยเงินหรือทอง ภายใต้กลดคล้ายไหม
การเคลื่อนย้ายอันเป็นพิธีรีตอง (อังกฤษ: elevatio corporis) ของมงคลวัตถุถือกันว่าเป็นพิธีที่เป็นการแสดงความยกย่องในความศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่ถูกเคลื่อนย้าย ที่เท่าเทียมกับการรับการแต่งตั้งให้เป็นนักบุญในสถาบันออร์ธอด็อกซ์ พิธีเคลื่อนย้ายในนิกายโรมันคาทอลิกมีจุดประสงค์เดียวกันจนกระทั่งมามีพิธีประกาศการเป็นนักบุญกันขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นมาตรฐานและตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปา
วันเคลื่อนย้ายมงคลวัตถุของนักบุญเป็นวันที่จะฉลองแยกจากวันสมโภชน์ เช่นวันที่ 27 มกราคมเป็นวันฉลองการเคลื่อนย้ายมงคลวัตถุของนักบุญจอห์น คริสซอสตอมจากหมู่บ้านโคมานาในอาร์เมเนียที่ทรงเสียชีวิตในปี ค.ศ. 407 ไปยังคอนสแตนติโนเปิล
การเคลื่อนย้ายบางครั้งก็จะเป็นการเคลื่อนย้ายทางไกล เช่นการย้ายมงคลวัตถุของนักบุญไธร์ซัสจากโซโซโพลิสในอานาโตเลียไปยังคอนสแตนติโนเปิล และ ต่อมาสเปน ลัทธินิยมนักบุญไธร์ซัสเป็นที่นิยมกันในคาบสมุทรไอบีเรียที่เป็นที่รู้จักกันในนามของนักบุญเทอร์โซ มงคลวัตถุของนักบุญไธร์ซัสบางส่วนก็ถูกนำไปยังฝรั่งเศส นักบุญไธร์ซัสจึงเป็นนักบุญของมหาวิหารซิสเตอรองในบาสอัลป์ ที่ได้รับชื่อว่ามหาวิหารโนเทรอดามเซนต์ไธร์ซัส ฉะนั้นจึงถือกันว่าทรงเป็นนักบุญผู้พิทักษ์ของซิสเตอรอง ส่วนนักบุญลิโบเรียสแห่งเลอมองส์ก็กลายเป็นนักบุญผู้พิทักษ์ของพาเดอร์บอร์นในเยอรมนีหลังจากที่มงคลวัตถุของท่านได้รับการเคลื่อนย้ายมาในปี ค.ศ. 836
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 2:59 pm
โดย roseofshalon

เรลิกจาก มงกุฎหนาม

ที่ปิดเปิดจากกล่องที่บรรจุหินจากที่บรรจุพระศพของพระเยซู
เรลิกแห่งแซ็งต์-ชาแปล (อังกฤษ: Relics of Sainte-Chapelle) คือเรลิกที่เป็นของพระเยซูที่ได้มาโดยพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสในยุคกลางที่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของอัครมุขมณฑลปารีส เดิมเรลิกหล่านี้เก็บรักษาไว้ที่แซ็งต์-ชาแปลในปารีส แต่ในปัจจุบันเป็นสมบัติของมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส
สมัยกลางและสมัยใหม่ตอนต้น
นักบุญหลุยส์หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศสทรงสร้างแซ็งต์-ชาแปลขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษา "มงกุฎศักดิ์สิทธิ์", ชิ้นส่วนจากกางเขนแท้ (True Cross) และเรลิกอื่นๆ ที่ทรงซื้อจากบอลด์วินที่ 2 แห่งคอนสแตนติโนเปิล ซึ่งทำให้ชาเปลที่สถานที่สำคัญในการเก็บรักษาเรลิกต่างๆ ที่รวมทั้งเรลิกของพระแม่มารีย์, หอกศักดิ์สิทธิ์, ฟองน้ำศักดิ์สิทธิ์ และภาพเอเดสซา (Image of Edessa) ที่เชื่อกันว่าเป็นภาพของพระเยซู[1] เมื่อมาถึงสมัยใหม่ตอนต้นพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสก็ทรงใช้เงินในท้องพระคลังจนแทบไม่เหลือหรอ ซึ่งทำให้ต้องขายเพชรพลอย หลอมทองเพื่อใช้ในการบำรุงกองทัพ และใช้ทรัพย์สมบัติทางศาสนาเป็นทุนสำรองในยามที่ต้องการเงิน ซึ่งเมื่อมาถึงสมัยพระเจ้าอองรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ทรัพย์สมบัติของชาเปลก็เหลือเพียงเท่าที่มีอยู่เมื่อมาถึงสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส
การปฏิวัติและปัจจุบัน
การปฏิวัติหมายถึงการยุติความจำเป็นในการการรักษาเรลิก และสิ่งที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ เรลิกเหล่านี้ถูกมอบให้อาร์ชบิชอปแห่งปารีสในปี ค.ศ. 1804 และยังคงเป็นสมบัติของมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส โดยมีอัศวินคณะพระคูหาศักดิ์สิทธิ์ (Order of the Holy Sepulchre) เป็นผู้ดูแลรักษา ทุกวันพุธแรกของเดือนก็จะมีการนำออกมาให้สักการะที่แท่นบูชาเอก ยกเว้นในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่อนุญาตให้ทำการสักการะได้ตลอดวัน
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 8:34 pm
โดย sunofgod
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 10, 2012 8:35 pm
โดย เมจิ
ขอบคุณที่เเบ่งปันค่า

Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 11, 2012 6:16 pm
โดย ohmmiez
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 11, 2012 6:23 pm
โดย เมจิ
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 12, 2012 12:42 pm
โดย rosa-lee
เกี่ยวกับพระธาตุรูปพระต่างๆเราไม่เรียกวัตถุมงคล
viewtopic.php?f=1&t=18191
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 12, 2012 3:27 pm
โดย sunofgod
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 12, 2012 5:25 pm
โดย เมจิ
ถ้าเรียกวัตถุมงคลคนพุญจะบอกว่าเราเลียดเเบบคำพูดค่ะ สัตบุรุษอะไรประมาณนั้น

Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 12, 2012 11:23 pm
โดย littleseal
คือก็เข้าใจนะคะว่าเป็นความเชื่อในแต่ละบุคคล
ส่วนตัวหงุดหงิดทุกครั้งกับเรื่อง "วัตถุมงคล วัตถุศักดิ์สิทธิ์ พระธาตุ" มากค่ะ
ไหน ๆ ก็เป็นผู้ที่เชื่อและติดตามพระคริสตเจ้าแล้ว
ทำไมแทนที่จะยึดติดกับสิ่งของทางโลกพวกนี้
ไปยึดติดกับพระวาจาแล้วนำพระวาจาให้บังเกิดผลในชีวิตดีกว่ามั้ยคะ
สวดสายประคำทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมวางสายประคำเลยจนตาย
แต่ไม่เคยสนใจถึงสิ่งที่พระเยซูสอนและให้ปฏิบัิติตาม
กับทำความดี มอบความรัก เสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น
การปฏิบัิติอย่างไรที่จะได้เห็นพระเป็นเจ้า
ไม่อยากให้มีความเชื่อเรื่องพระธาตุของนักบุญ
กลายเป็นความงมงายเรื่องเครื่องราง ของขลังค่ะ
ขอพระเจ้าทรงอวยพรค่ะ
Re: มาทำสายประคำให้ศักสิทธิ์ด้วยตนเอง กันเถอะครับ!
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 13, 2012 11:04 am
โดย roseofshalon