โดย... พระสังฆราชพเยาว์ มณีทรัพย์
(จากสารคำสอน ฉบับ 14 ส.ค. 2537)
พระนางมารีย์เป็นรองพระบุตรของพระเจ้า แต่พระนางก็เป็นมารดาพระบุตรของพระเจ้า และเป็นมารดาพระเจ้าด้วย

ในยุคที่คนจำนวนมากเรียกร้องสิทธิเสมอภาคสำหรับสตรี เรียกร้องให้สตรีรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ได้ และอ้างว่าชายที่จะบวชเป็นพระสงฆ์กำลังขาดแคลนลงทุกวัน ทางคริสตจักรแองกลีกัน ก็ยังบวชหญิงเป็นพระสงฆ์ เป็นพระสังฆราชกันไปมากแล้ว พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเราจะว่าอย่างไร
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ของเราทรงตัดสินชี้ขาดไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ว่า “เราขอประกาศว่า พะศาสนจักรไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะโปรดศีลบวชเป็นพระสงฆ์ (เป็นพระสังฆราช) ให้แก่สตรี และขอยืนยันว่า คำตัดสินนี้ ให้ถือเป็นข้อยุติ ซึ่งจะต้องปฏิบัติโดยทั่วกันในพระศาสนจักร”
ด้วยเหตุผลพื้นฐานคือ พระคริสตเจ้าทรงเลือกอัครสาวกของพระองค์จากบุรุษเท่านั้น พระศาสนจักรก็ปฏิบัติตามพระคริสตเจ้าเช่นนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มพระศาสนจักรจนถึงทุกวันนี้ โดยไม่เคยยอมให้สตรีบวชเป็นพระสงฆ์เลย
ทั้งมิได้หมายความว่า พระศาสนจักรไม่ให้เกียรติหรือไม่ยกย่องสตรีหามิได้ ตรงกันข้าม พระศาสนจักรของเรา ส่งเสริมบทบาทของสตรี ให้เกียรติยกย่องสตรีเสมอมา โดยเฉพาะในระยะ 25 ปี หลัง ๆ มานี้ สตรีไม่สามารถเป็นพระสงฆ์ได้ แต่ก็เป็น “มารดาของพระสงฆ์” ได้เยี่ยงพระนางมารีย์พระมารดาของเรา
ดังนั้น ต่อไปนี้ไม่ควรถกเถียงกันอีกว่า ทำไมผู้หญิงบวชเป็นพระสงฆ์ไม่ได้ และจะต้องไม่เรียกร้องให้มีพระสงฆ์หญิงกันอีก หญิงนั้นมีบทบาท หน้าที่ และกระแสเรียกของตนโดยเฉพาะ มีเกียรติศักดิ์ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าชายเลย